พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่715 พลังมหัศจรรย์

บทที่715 พลังมหัศจรรย์

“หนังสือกลยุทธ์เล่มนี้บรรยายกระบวนท่วงท่าได้ชัดเจนมาก ฉันอ่านแวบเดียวก็สามารถเข้าใจได้ แต่ว่าวรยุทธนี้อย่างเดียว ก็ยากจะเข้าใจซะเหลือเกิน แม้บางครั้งในบทความจะไม่ค่อยชัดเจน ทำให้คนจับต้นชนปลายไม่ถูก”

“ตอนนี้ลองคิดดู อาจเป็นที่คนเขียนหนังสือกลยุทธ์เล่มนี้ เพื่อจะป้องกันไม่ให้หนังสือกลยุทธ์ตกไปอยู่ในมือของคนนอก จงใจสร้างความยากบางอย่าง เพื่อให้ผู้ที่ได้รับหนังสือกลยุทธ์ของเขาไม่มีทางเรียนรู้วรยุทธได้ อย่างนั้นต่อให้กระบวนท่วงท่าถูกเรียนรู้ไปแล้ว ไม่มีทางที่จะใช้พลังที่ควรจะมีออกมาได้”

“และจากผลการค้นคว้าของฉันทั้งคืน วรยุทธนี้ ถ้าหากฝึกฝนกลับกัน ดูเหมือนว่าจะราบรื่นไม่มีสิ่งกีดขวางเหรอ?”

หลังจากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รพีพงษ์รีบหยิบหนังสือกลยุทธ์ เปิดหน้าที่บรรยายวรยุทธไว้ ลองทำตามสิ่งที่บรรยายไว้ข้างต้น เคลื่อนที่หมุนเวียนไปทิศทางตรงข้ามอีกครั้ง พบว่าไม่มีสิ่งกีดขวางแม้แต่น้อย

สิ่งนี้ทำให้รพีพงษ์ประหลาดใจ ในเวลาสองเดือน ในที่สุดเขาก็พบวิธีการบางอย่างของหนังสือกลยุทธ์เล่มนี้

ตามหนังสือกลยุทธ์บรรยายไว้ รพีพงษ์เคลื่อนที่หมุนเวียนให้เสร็จสมบูรณ์อีกครั้ง พบว่าบริเวณจุดตันเถียน(ท้องน้อย)ของตัวเอง มีความร้อนจางๆ ดูเหมือนว่ามีพลังที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้นในจุดตันเถียน(ท้องน้อย)ของเขา แม้ว่ามันจะอ่อนแอมาก แต่ว่ารพีพงษ์ก็ยังรู้สึกออกมาได้

วรยุทธที่บรรยายไว้ในหนังสือกลยุทธ์เล่มนี้มีความคล้ายคลึงกันกับวิชาหายใจออก แต่มีความซับซ้อนกว่าวิชาหายใจออกมาก หลังจากที่เข้าใจวรยุทธนี้แล้ว รพีพงษ์รู้สึกว่าวิชาหายใจออกของเน่ยจิ้ง กลายเป็นง่ายๆหยาบๆ

หรือว่าวรยุทธนี้ จะเป็นขั้นสูงของวิชาหายใจออกเหรอ?

ตามวิธีการพลังที่ได้รับฝึกฝนมาโดยวรยุทธนี้ มันเป็นระดับที่สูงกว่าเน่ยจิ้งเหรอ?

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ รพีพงษ์ก็ตกใจมาก ถ้าหากวรยุทธนี้เป็นขั้นสูงของเน่ยจิ้งจริงๆ งั้นหลังจากที่รอให้เขาบ่มเพาะสำเร็จ จะมีความแข็งแกร่งระดับไหนกัน?

ความตื่นเต้นที่อธิบายไม่ได้ปีนเข้ามาในหัวใจ รพีพงษ์มีลางสังหรณ์ ถ้าหากว่าตัวเองมีความสามารถเพียงพอฝึกฝนวรยุทธนี้ได้สำเร็จ รวมกับกลยุทธ์ที่บรรยายไว้ในหนังสือกลยุทธ์ บวกกับความแข็งแกร่งของเน่ยจิ้งในร่างกาย ในตอนนั้นแม้แต่กับปรมาจารย์ ก็สามารถต่อสู้ได้

รพีพงษ์จ้องไปที่หนังสือกลยุทธ์อีกครั้ง ที่ด้านบนของหนังสือกลยุทธ์มีสัญลักษณ์แปลกๆ สองอัน เขาไม่เคยเข้าใจว่ามันคืออะไร ตอนนี้เขาย้อนหนังสือกลยุทธ์กลับโดยตรง และพบว่าทั้งสองนี้ไม่ใช่สัญลักษณ์

แต่คำสองเป็นตัวหนังสือที่สะท้อนกลับด้านของ:พลังมหัศจรรย์

……

ในตอนเย็น บนเขาอารี มีกองเปลวไฟลุกขึ้น ด้านข้างของกองไฟ ไออ้วนและคนกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ด้วยกันรอบๆ ในมือของทุกคนถือแท่งไม้อยู่ บนแท่งไม้ คือมันฝรั่งที่พวกเขาขุดออกมาในวันนี้

ในเวลานี้พวกเขากำลังปิ้งย่างมันฝรั่งเพื่อกิน

อาหารกล่องที่คุกที่ห้าทำให้พวกเขาสามารถพูดได้ว่าไม่อร่อยแค่ไหนก็กินยากแค่นั้น และจะมีเพียงรสชาติเดียวเสมอ พวกเขาไม่ได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารอื่นมานานแล้ว

ตอนนี้ได้กินมันฝรั่งย่างที่แสนหอมอร่อย มีคนไม่น้อยที่ร้องไห้

รพีพงษ์ให้พวกเขาเหลือมันฝรั่งไว้หนึ่งในสามไว้เป็นเมล็ดพืช ถึงตอนนั้นจะหว่านเพาะปลูกพื้นที่ขนาดใหญ่ ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะมีอาหารไม่ขาดอย่างต่อเนื่องในอนาคต

“แน่นอนติดตามลูกพี่เป็นเรื่องที่ดี ตอนนี้คนอื่นๆในที่นี้คงจะพยายามเอาอาหารกล่องที่ไม่อร่อยที่สุดอย่างแน่นอน พวกเราได้กินมันฝรั่งย่างแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ฉันไม่เคยกล้าคิดมาก่อนเลย”

“ชิ มันฝรั่งนี้พวกเราก็เป็นคนปลูกมันออกมา วันๆหนึ่งเขาก็ถือหนังสือที่พังแล้วเอาแต่อ่าน ถ้าไม่ใช่ว่าเอาชนะเขาไม่ได้ ฉันยึดครองภูเขานี้เป็นของตัวเองไปนานแล้ว”มีคนคนหนึ่งพูดอย่างเหยียดหยาม

แม้ว่าเน่ยจิ้งจะถูกกำจัดแล้ว แต่ในฐานะผู้มีความสามารถในอดีต คนเหล่านี้มีหลายคนก็ยังไม่พอใจมาก

แน่นอนว่า พวกเขากล้าที่จะพูดคุยเป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต่อหน้ารพีพงษ์ไม่กล้าอย่างแน่นอน

ไออ้วนเขม็งตาใส่คนคนนั้นแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า: “กินของก็ไม่สามารถหยุดปากนายไว้ได้เลย ถ้าหากยังกล้าพูดจาเหลวไหลอีกคำเดียว ตอนนี้นายก็รีบไสหัวไปให้พ้นๆหน้าฉันซะ”

คนคนนั้นก็ขี้ขลาดตาขาวขึ้นมาทันที ไม่กล้าพูดอะไรอีก

ในเวลานี้ไออ้วนหันหน้ามองไปที่ไม่ไกลนัก ในเวลานี้รพีพงษ์กำลังยืนอยู่หน้าต้นไม้ใหญ่ ฝึกฝนกระบวนท่วงท่าที่ได้เรียนรู้จากกลยุทธ์

“ลูกพี่ มากินมันฝรั่งเถอะ ไม่ต้องฝึกฝนมวยแล้ว”ไออ้วนเอ่ยปากตะโกน

รพีพงษ์ไม่ได้สนใจเขา ร่างกายเคลื่อนไหวไปตามสายลม เคลื่อนไหวออกมาทีละท่วงท่า การเคลื่อนไหวไหลลื่น ทำให้คนรู้สึกราบรื่นอย่างหากที่เทียบไม่ได้

ทุกคนหันหน้ามองไปที่รพีพงษ์ เดิมทีพวกเขาที่กำลังทานมันฝรั่งมองเห็นการเคลื่อนไหวของรพีพงษ์ ทันใดนั้นต่างก็หยุดการกระทำทุกสิ่งทุกอย่างลง

คนเหล่านี้ล้วนมีความแข็งแกร่งของเน่ยจิ้งชั้นต้น มีความเข้าใจในศิลปะการต่อสู้เป็นของตัวเอง แม้ว่าฉากรายล้อมทานมันฝรั่งจะเหมือนกลุ่มคนงานที่ทำสวนทำไร่เสร็จแล้วพูดคุยกัน แต่พวกเขาต่างก็เป็นยอดฝีมือที่แท้จริง

ดังนั้นพวกเขาทุกคนต่างก็สามารถมองออกว่าในตอนนี้รพีพงษ์กำลังแสดงความยอดเยี่ยมที่แฝงอยู่ในกระบวนท่วงท่า ระดับที่ไหลลื่นคล่องแคล่วของรพีพงษ์ ทำให้พวกเขาทั้งหมดดูตกตะลึงเล็กน้อย

“นี่…..นี่คือกระบวนท่วงท่าอะไร ทำไมฉันไม่เคยเห็นมาก่อน?”

“นี่มันก็ไหลลื่นคล่องแคล่วเกินไปแล้ว ราวกับว่าทั้งคนและธรรมชาติหลอมรวมเข้าด้วยกัน นี่มันแดนไหนถึงจะสามารถบรรลุถึงขั้นนี้ได้ล่ะ?”

“พอล่ะ ก็แค่ชกมวยเอง มีอะไรน่าดู ถึงยังไง เขาก็เป็นเพียงแค่เน่ยจิ้งขั้นกลางเท่านั้นเอง ไม่ว่าหมัดจะทรงพลังเพียงใด ความแข็งแกร่งของเขาไม่มีทางเพิ่มขึ้นมากในช่วงเวลาสั้นๆ พวกนายไม่เห็นเหรอว่าเขาชกต้นไม้ต้นนั้นมาหลายวันแล้ว แต่นั่นเป็นต้นไม้ใหญ่มีความหนาหนึ่งเมตรเลยนะ หรือว่าเขาจะคิดว่าเขาสามารถโค่นต้นไม้ให้หักด้วยฝ่ามือเดียวเหรอ?”คนที่ดูถูกเหยียดหยามรพีพงษ์ตอนนั้นก็พูดอีกแล้ว

ในตอนนี้รพีพงษ์เคลื่อนไหวท่วงท่าเสร็จหนึ่งชุด ต่อจากนั้น ก็ฟาดฝ่ามือไปที่ลำต้นของต้นไม้ตรงหน้านั้นอย่างรวดเร็ว

กำลังอันทรงพลังได้ปะทุขึ้นบนฝ่ามือของรพีพงษ์ และคลื่นอากาศที่มองไม่เห็นก็กระจายไปรอบๆ ได้ยินเสียงเพียงแค่แกร๊กดังมา รอยแตกก็ปรากฏขึ้นบนต้นไม้ใหญ่ด้านหน้ารพีพงษ์อย่างรวดเร็ว จากนั้นรอยแตกก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ต้นไม้ทั้งต้นเสียความสมดุลเพราะรอยแตกนี้ ล้มตรงไปยังอีกฝั่ง

เมื่อเห็นฉากนี้ คนที่เพิ่งพูดก็ปิดปากเงียบทันที ในแววตามีความกระอักกระอ่วนอยู่ และความกลัวอย่างสุดซึ้ง

รพีพงษ์มองไปที่ต้นไม้ใหญ่ตรงหน้าที่ถูกตัวเองฟาดด้วยฝ่ามือ รอยยิ้มพึงพอใจปรากฏบนใบหน้า ฝ่ามือเมื่อกี้นี้ มันเป็นพลังที่เขาได้การปะทุออกมาจากการหลอมรวมของเน่ยจิ้งและพลังที่ฝึกฝนออกมาจากวรยุทธที่บันทึกไว้ในหนังสือกลยุทธ์

ตอนแรกนี่เป็นเพียงการทดลองของเขา กลับคาดไม่ถึงว่าจะมีกำลังที่ทรงพลังขนาดนี้

ต้องทราบว่านี่เป็นเพียงวันแรกที่เขาเริ่มฝึกฝนวรยุทธนั้น เพียงสะสมความแข็งแกร่งเล็กน้อย ในอนาคตหากฝึกฝนวรยุทธนี้จนประสบความสำเร็จ เมื่อหลอมรวมกับเน่ยจิ้งแล้ว ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ จะบรรลุไปถึงจุดที่น่ากลัวทีเดียว

วรยุทธนี้ที่เรียกว่าพลังมหัศจรรย์ และพลังที่ได้รับจากการฝนฝึกออกมาเรียกว่าพลังวิเศษเสน รพีพงษ์หลอมรวมพลังวิเศษเสนและเน่ยจิ้งเข้าด้วยกัน สามารถระเบิดพลังที่ไม่อาจจินตนาการได้ออกมา

สำหรับความแตกต่างระหว่างพลังวิเศษเสนนี้และเน่ยจิ้ง รพีพงษ์ไม่รู้ บางทีอาจารย์อาจจะรู้ เขาทำได้เพียงแค่วันหลังหาทางออกจากคุกที่ห้า แล้วค่อยไปถามอาจารย์

บ่ายวันนี้ รพีพงษ์กำลังฝึกฝนวรยุทธ ในเวลานี้มีร่างหนึ่งปรากฏที่บนเขาอารี ด้วยท่าทางที่ดุร้าย

“ใครคือรพีพงษ์ ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้ พวกแกเอามันฝรั่งที่เพาะปลูกออกผลเอาออกมาให้ฉันทั้งหมด ไม่อย่างนั้น จะต้องตายทั้งหมด!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท