พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่726 ต่อสู้กับชินาธิป

บทที่726 ต่อสู้กับชินาธิป

ทที่726 ต่อสู้กับชินาธิป

“แค่เน่ยจิ้งขั้นกลางเท่านั้นเอง เพียงแค่ดีดนิ้วก็หายสาบสูญ”

ชินาธิปนั่งอยู่บนหินไม่ขยับ เพียงแค่ดีดนิ้วของตัวเบาๆ ก้อนหินเล็กๆพุ่งมาด้วยความเร็วที่ประเมินด้วยสายตาไม่ได้ บินพุ่งไปที่ตำแหน่งคิ้วของรพีพงษ์

เสียงระเบิดดังขึ้น และทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ตกตะลึง ต่างก็คาดไม่ถึงว่าชินาธิปจะตรงไปตรงมาขนาดนี้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ลงมือฆ่ารพีพงษ์เลย

ปรมาจารย์ ยอดฝีมือเน่ยจิ้งเสร็จสมบูรณ์ ดีดนิ้วก็ฆ่าคนได้ ใบไม้บินก็ฆ่าคนได้

ก้อนหินเล็กที่ชินาธิปดีดออกมา อานุภาพไม่อ่อนไปกว่ากระสุนมากนัก

รพีพงษ์หรี่ตาลง รู้สึกถึงพลังของหินก้อนนั้น ในเวลาเดียวกันเน่ยจิ้งพลังวิเศษเสนก็เคลื่อนที่หมุนเวียน จากนั้นยกมือขึ้นอย่างรุนแรง หมุนแขนเสื้อ เปลี่ยนทิศทางของหินด้วยทักษะ ยิงพุ่งตรงบนเสาหินของอาคารใหญ่ในคุก

มีรูขนาดเท่านิ้วปรากฏขึ้นบนเสาหินทันที และรอยแตกคล้ายใยแมงมุมก็แพร่กระจายไปรอบๆอย่างรวดเร็ว

ทุกคนต่างก็รู้สึกวิตกกังวลแทนรพีพงษ์ ถ้าหากหินเมื่อกี้นี้ยิงไปบนตัวรพีพงษ์ ตอนนี้รพีพงษ์คงจะกลายเป็นศพไปแล้ว

ในขณะเดียวกันพวกเขาก็นับถือความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ เมื่อต้องเผชิญกับวิธีการของปรมาจารย์ รพีพงษ์สามารถจัดการกับมันได้อย่างใจเย็น ถ้าเปลี่ยนเป็นพวกเขา ก่อนที่จะตอบสนองกลับมา ก็ตายไปแล้ว

ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชินาธิป ก้อนหินที่เขาเพิ่งดีดออกไปก้อนนั้น มันมากเกินพอที่จะฆ่ายอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางได้ ต้องการต้านทาน อย่างน้อยก็ต้องมีความแข็งแกร่งของแดนเครึ่งปรมาจารย์ แต่รพีพงษ์สามารถคลี่คลายท่วงท่านี้ของเขาได้ สิ่งนี้ทำให้เขาแทบอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อรพีพงษ์

“ดูเหมือนว่าแกจะสุดยอดกว่าที่ฉันคิดไว้นะ เมื่อเทียบกับอนันยชแล้ว ความสามารถของนายทำให้คนประหลาดใจยิ่งกว่า แต่ทว่าน่าเสียดาย ลูกศิษย์ของฉันคืออนันยชไม่ใช่แก ดังนั้นวันนี้แก ต้องตาย!”

ชินาธิปลุกยืนขึ้นจากหินก้อนใหญ่

รพีพงษ์หรี่ตาลง ไม่มีความประหม่าแม้แต่น้อย เอ่ยปากว่า: “งั้นก็ให้ฉันประลองดูว่า พลังของปรมาจารย์ จะแข็งแกร่งแค่ไหน!”

ทุกคนในคุกจำที่ห้ามองไปรพีพงษ์ด้วยความเสียดาย แม้ว่าเขาเพิ่งจะคลี่คลายกระบวนท่วงท่าของชินาธิปได้อย่างง่ายดาย แต่ความแข็งแกร่งของปรมาจารย์ ไม่ธรรมดาเพียงแค่ดีดก้อนหิน รพีพงษ์อยากจะมีชีวิตรอดจากเงื้อมมือของชินาธิป ยังคงเป็นความหวังลมๆแล้งๆ

“ความสามารถของรพีพงษ์ไม่มีใครเทียบได้เลยจริงๆ ได้ในบรรดาคนที่มีความสามารถที่ฉันเคยพบเห็นมาหลายปี ไม่มีใครสามารถเหนือกว่าเขาได้เลย อย่างไรก็ตามสวรรค์อิจฉาวีรบุรุษ ทำให้เขามีเรื่องกับยอดฝีมือปรมาจารย์ น่าเสียดายจริงๆ”

“ลองนึกถึงสี่เดือนที่ผ่านมานี้ รพีพงษ์ได้สร้างความสนุกให้พวกเรามากมาย ตอนนี้ฉันยังมีความอาลัยอยู่เลย ถ้าฉันมีความแข็งแกร่งของแดนปรมาจารย์ คงจะขึ้นไปช่วยเขาอย่างแน่นอน”

“เฮ้ อยากจะมีชีวิตรอดจากเงื้อมมือของปรมาจารย์ ง่ายที่ไหนกันล่ะ อย่างพวกเราแบบนี้ ขึ้นไปก็คือตาย รพีพงษ์สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ ก็แข็งแกร่งมากมายอยู่แล้ว”

……

ชินาธิปใช้แรงใต้เท้า หินก้อนใหญ่ที่อยู่ใต้ตัวเขาก็แตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยจำนวนนับไม่ถ้วน ต่อจากนั้น เขาก็เตะเศษหินเหล่านั้นไปทางรพีพงษ์

รพีพงษ์กระโดดอย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงเศษซากหินส่วนใหญ่ จากนั้นเตะไปทางชินาธิปไม่กี่ก้อน

ชินาธิปทำให้เศษหินเหล่านั้นให้กลายเป็นผงได้อย่างง่ายดาย ในตอนนี้รพีพงษ์ได้พุ่งไปที่ตรงหน้าชินาธิปแล้ว ไม่ลังเลแม้แต่น้อย หลอมรวมเน่ยจิ้งกับพลังวิเศษเสนไว้ที่ฝ่ามือ ฟาดไปที่ตรงใบหน้าของชินาธิป

“ฝ่ามือดาวฟ้า!”

รพีพงษ์ผู้ที่รู้ถึงความแข็งแกร่งของอาจารย์อย่างลึกซึ้ง รู้ดีว่าท่วงท่าธรรมดาไม่สามารถก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บกับชินาธิปได้ ดังนั้นเริ่มแรกก็ใช้ฝ่ามือฟ้าดาวหนึ่งในสามของกลยุทธ์

ชินาธิปรู้สึกได้ถึงพลังที่ถ่ายทอดมาจากฝ่ามือของรพีพงษ์ ขมวดคิ้ว ตอนแรกเขาคิดว่าวินาทีที่รพีพงษ์เข้าใกล้เขา จะสามารถฆ่ารพีพงษ์ด้วยหมัดอย่างง่ายๆในทันที

แต่ทว่าท่วงท่าของรพีพงษ์ตอนนี้บีบบังคับให้เขาต้องรับมือกับมันอย่างจริงจัง ถ้าเขาไม่สนใจท่วงท่านี้ของรพีพงษ์ เขาที่เป็นปรมาจารย์ อาจจะได้รับบาดเจ็บด้วยเงื้อมมือของรพีพงษ์แล้ว

“ท่วงท่านี้ของแก ทำไมถึงแตกต่างจากศิลปะการต่อสู้โบราณแบบดั้งเดิมมากขนาดนี้? พลังนั้นทรงพลังมาก? แกไปเรียนมาจากที่ใด?”หลังจากที่ชินาธิปต้านทานกับฝ่ามือของรพีพงษ์ได้ ขมวดคิ้วแล้วถามเขา

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “ทำไมฉันจะต้องบอกคุณด้วยล่ะ?”

สีหน้าของชินาธิปเคร่งขรึม แล้วไม่ชักช้าแม้แต่น้อย เขารู้ดี แม้ว่าคนตรงหน้าอายุจะแค่ยี่สิบปีกว่า แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขารับมืออย่างจริงจัง

ทุกคนของฝ่ายบริหารของเรือนจำเบิกตากว้างด้วยความตกใจเพราะความแข็งแกร่งที่แสดงออกมาในตอนนี้ ตอนแรกพวกเขาคิดว่ารพีพงษ์จะยืนหยัดในเงื้อมมือของชินาธิปได้ไม่กี่ท่วงท่า แต่กลับคาดไม่ถึงว่าทั้งสองคนต่อสู้กัน รพีพงษ์ก็ไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่าง ซึ่งเหนือจินตนาการของพวกเขา

“ระ….รพีพงษ์สามารถสู้เท่าเทียมกับระดับปรมาจารย์ได้ พระเจ้าช่วย หรือว่าเด็กคนนี้จะบรรลุถึงแดนเครึ่งปรมาจารย์แล้วเหรอ?”

“โอ้พระเจ้าช่วยกล้วยทอด จนถึงตอนนี้ เรายังประเมินเด็กคนนี้ต่ำไป เขาซ่อนตัวอยู่ลึกแค่ไหน หรือว่าเขาจะเริ่มเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ดังนั้นถึงได้มีความแข็งแกร่งในตอนนี้เหรอ?”

……

รพีพงษ์และชินาธิปต่อสู้กันหลายสิบกระบวนท่า ไม่เสียเปรียบเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าเขาเข้าใจดี สาเหตุที่เขาสามารถทำเช่นนี้ได้ มันเป็นผลมาจากการที่เน่ยจิ้งกับพลังวิเศษเสนสามารถออกแรงถึงขีดสูงสุด

เวลาที่เขาสามารถรักษาสถานะนี้ได้นั้นสั้นมาก เมื่อพลังวิเศษเสนและเน่ยจิ้งในร่างกายหมดฤทธิ์ลง งั้นก็เขาจะกลายเป็นลูกแกะที่ถูกเชือด ถึงเวลานั้นจบเห่จริงๆ ดังนั้นเขาต้องใช้วิธีการที่รวดเร็วฉับไว

ชินาธิปก็เป็นเพราะสิบกว่าท่วงท่าของตัวเองก็ไม่สามารถกำจัดรพีพงษ์ได้ และเริ่มกลายเป็นใจร้อนขึ้นมา ที่สำคัญเขามักจะรู้สึกว่าพลังของรพีพงษ์แปลกๆ เหมือนกับเน่ยจิ้ง แต่ก็มีความแตกต่างมาก สิ่งนี้ทำให้เขาเกิดความคาดเดาบางอย่างในใจ

ในฐานะยอดฝีมือปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียง ความรู้ของชินาธิป ก็ไม่ใช่ว่าคนธรรมดาจะสามารถเทียบได้

“เด็กน้อย แกบอกฉันว่าท่วงท่าที่แกใช้อยู่ไปเรียนมาจากที่ไหนกันแน่ ฉันสามารถพิจารณาที่จะไว้ชีวิตแกได้”ชินาธิปจ้องมองไปที่รพีพงษ์แล้วเอ่ยปาก

“ฝันไปเถอะ!”รพีพงษ์ตะโกนใส่ชินาธิป จากนั้นฟาดฝ่ามือไปที่เขา

“เชิญพระจันทร์!”

ท่าที่สองของในสามกลยุทธ์ ฟาดตรงไปที่หน้าอกของชินาธิป ดวงตาของชินาธิปแน่วแน่ ไม่กล้าที่ชักช้าแม้แต่น้อย ใช้กำลังทั้งหมดอย่างเต็มที่ ต้านทานท่วงท่าของรพีพงษ์ในทันที

ปรมาจารย์ระเบิดพลังอย่างสุดกำลังทั้งหมด รพีพงษ์รู้สึกว่าแน่นหน้าอกทันที ร่างกายก็บินถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว มีเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก

ชินาธิปก็ก้าวถอยหลังไปหลายเมตรเนื่องจากพลังที่เชิญพระจันทร์ระเบิดออกมา เขามีความรู้สึกเสียวชาที่ฝ่ามืออย่างฉับพลัน แค่เน่ยจิ้งขั้นกลางคนหนึ่ง สามารถบีบบังคับให้เขามาถึงจุดนี้ได้ มันก็น่าตกใจมากพอแล้ว

รพีพงษ์หายใจเข้าลึกๆ ทรงตัวให้อยู่ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่ผลกระทบก็ไม่มากเกินไป เขายังคงมีพลังที่จะต่อสู้ต่อไป

ดวงตาทั้งสองข้างของชินาธิปจ้องมองไปที่รพีพงษ์ จากนั้นราวกับว่าเขาคิดอะไรบางอย่างออก คนทั้งคนก็เปลี่ยนเป็นบ้าบิ่นขึ้นมา เขาบินพุ่งไปหน้ารพีพงษ์ และถามว่า:

“พลังวิเศษเสน! แกใช้พลังวิเศษเสน ใช่มั้ย!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท