พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่740 คุณอย่าเพิ่งกลับมา

บทที่740 คุณอย่าเพิ่งกลับมา

บทที่740 คุณอย่าเพิ่งกลับมา

อเมริกา บนรถบัสคันหนึ่งที่กำลังไปสนามบิน

รพีพงษ์นั่งที่ข้างๆหน้าต่าง ในมือถือถุงหอม ถุงหอมนี้ชาลิสาได้ให้ไว้ตอนร่ำลากัน และเมื่อสี่เดือนที่แล้ว เทียบกับถุงหอมครั้งแรกที่ชาลิสาได้ให้รพีพงษ์ไว้ การทำและการออกแบบของถุงหอมนี้อยู่ในระดับชั้นนำ ดูออกว่าชาลิสาทุ่มเทกับมันมาก

แม้จะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกพิเศษที่ชาลิสามีต่อเขา แต่รพีพงษ์ในฐานะที่ได้แต่งงานแล้ว ไม่สามารถชมเชยได้

ประสบการณ์ของจารุณีและฝนสุดาได้บอกเขา สาวพวกนี้ ต่อไปนี้เขาไม่เจอจะดีกว่า ไม่งั้นอาจมีปัญหาตามมาได้

ตอนกลับโศศุจอยากให้รพีพงษ์พาชาลิสาไปด้วย อยู่ในประเทศสักกี่ปี เมื่อรพีพงษ์ได้ยินก็ปฏิเสธทันใด แม้ชาลิสามีความคิดแบบนี้ แต่รพีพงษ์ไม่กล้าพาผู้หญิงกลับไปอย่างง่ายดาย

หากเธออยากลงหลักปักฐานในประเทศ ตัวเองกลับไปเองจะดีกว่า

ขณะนี้ไอ้อ้วนและครองภพได้นั่งอยู่ด้านหลังของรพีพงษ์ ครองภพนอนอยู่ข้างหน้าต่าง ไอ้อ้วนจ้องไปด้านนอกอย่างประหลาดใจ อยู่ในคุกที่ห้ามีหลายปี ไม่ว่าเห็นอะไรก็ถือว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่ไปหมด

ความจริงหลังจากที่รพีพงษ์ออกมาจากคุกที่ห้าแล้วนั้น ให้ไอ้อ้วนใช้ชีวิตด้วยตัวเอง แต่ไอ้อ้วนรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในคุกที่ห้ามานานหลายปี ไม่คุ้นเคยกับสังคม ออกไปแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร สู้อยู่กับรพีพงษ์ดีกว่า

ระยะที่ผ่านมานี้เขาได้รู้แล้วว่ารพีพงษ์มีแบล็คกราวน์ที่ไม่ธรรมดา ไม่พูดเรื่องอื่น ยังไงอยู่กับรพีพงษ์ก็ไม่อดตาย

หลังจากที่รพีพงษ์ได้ป้ายบัญชาการลอบสังหารแล้ว ครองภพก็ตัดสินใจอยู่กับรพีพงษ์ รพีพงษ์ไปไหนเขาไปด้วย ลอบสังหารทุกคนก็ได้ถูกสั่งการอย่างลับๆให้ไปที่ประเทศจีนแล้ว เพียงแค่รพีพงษ์ต้องการคนของลอบสังหาร คนของลอบสังหารก็จะไปรับใช้ในทันที

ผ่านไปไม่นาน รพีพงษ์ได้เก็บถุงหอม หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา กะว่าจะวิดีโอคอลกับอารียา

ตอนที่อยู่ในคุกที่ห้า รพีพงษ์จะวิดีโอคอลกับอารียาเป็นระยะ ให่อารียารู้ว่าตัวเองไม่เป็นไร และไม่มีอะไรทำอีกด้วย

เขาขอบคุณพาวเวอร์แบงค์พลังงานแสงอาทิตย์ ไม่งั้น มือถือนี้ของเขาอยู่ไม่ถึงสี่เดือนแน่

แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน พาวเวอร์แบงค์พลังงานแสงอาทิตย์พังลง ดีที่รพีพงษ์ออกมาจากคุกที่ห้าแล้ว ดังนั้นจึงไม่เป็นกังวลว่าจะไม่มีที่ชาร์ตแบต

เพราะช่วงนี้ปัญหาเยอะ รพีพงษ์ไม่ได้วิดีโอกับอารียามาครึ่งเดือนแล้ว ทุกครั้งทำได้แค่ส่งข้อความว่าตัวเองสบายดี

ไม่นาน มีคนรับวิดีโอ หลังจากที่เห็นแม่ลูกทั้งคู่แล้ว รพีพงษ์ก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน

ตอนนี้อารียากำลังปวดหัวกับยอดฝีมือที่อยู่นอกคฤหาสน์ ดังนั้นใจจึงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“เมียจ๋า ผมจะกลับจีนแล้ว ทำไมคุณใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หรือคุณไม่ดีใจที่ผมกลับไปหรอ?” รพีพงษ์เห็นท่าทีของอารียา แล้วถาม

อารียาลังเล ไม่นาน กล่าว “รพีพงษ์ คุณอย่าเพิ่งกลับมาก่อนจะดีกว่า”

รพีพงษ์ชะงัก รีบถาม “ทำไม?”

ขณะนี้ รพีพงษ์คิดมากมาย ดูจากซีรีย์ที่เขาเคยดูมาก่อนนั้น ถ้าผู้หญิงพูดแบบนี้ ปกติจะเป็นเพราะ……อยู่กับชายคนอื่น

รพีพงษ์ร้อนรน กล่าว “อารี คุณหมายความว่าไง เป็นเพราะผมไม่ได้กลับไปนาน และคุณรู้สึกว่าผมไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุณได้ ดังนั้นคุณจึง…….”

อารียาได้ยินคำพูดนี้ของรพีพงษ์ ก็พูดไม่ออก กล่าว “คุณคิดอะไรอยู่ ฉันจะเป็นคนอย่างนั้นได้ไงกัน”

“งั้น……งั้นทำไมคุณถึงไม่อยากให้ผมกลับไป?” รพีพงษ์ยังไม่ค่อยเข้าใจ ถึงขั้นน้อยใจ

อารียาเห็นท่าทางน้อยใจของรพีพงษ์ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา พูดกับขวัญนลินที่อยู่ในอ้อมกอดว่า “หนูลิน ดูพ่อของหนูสิ ราวกับเป็นเมียน้อย ยังน้อยใจอีก”

“ผมเอาจริง” รพีพงษ์พูดอย่างจริงจัง

อารียาไม่ล้อเล่น รู้ว่าเรื่องนี้รพีพงษ์มีสิทธิ์ที่จะรับรู้ จึงได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง

“ตอนนี้ด้านนอกของคฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์มีสามคนแดนครึ่งปรมาจารย์อีกคนเป็นปรมาจารย์ แม้ฉันจะไม่เข้าใจว่าหมายความว่าไง แต่เมื่อฟังก็เหมือนจะร้ายแรง ดังนั้นตอนนี้คุณอย่าเพิ่งกลับมา มิเช่นนั้นพวกเขาจะโยนความผิดทุกอย่างให้คุณ” อารียากล่าว

หลังจากที่รพีพงษ์ได้ยินแล้วนั้น ก็ตะลึง ไม่คาดคิดว่าอาจารย์ของตัวเอง จะมีศัตรูมากมายขนาดนี้ เพียงแค่ชื่อเดียว ก็ดึงดูดหนึ่งปรมาจารย์และสามแดนครึ่งปรมาจารย์

“ความจริงฉันคิดว่าเรื่องนี้น่าจะให้อาจารย์ของคุณมาจัดการ เพราะคนพวกนี้มาหาเขา พวกเขาต่อกรกับคนพวกนี้ไม่ไหว ตอนนี้อาหารของที่บ้านก็ใกล้จะหมดแล้ว ถึงเวลานั้นถ้ายังจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ เกรงว่าหนูลินก็จะพลอยหิวไปด้วย” อารียาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ด้วยความเป็นแม่ เธอจึงต้อง คิดถึงลูกให้มากๆ

รพีพงษ์ไตร่ตร่องสักพัก ยิ้มพลางกล่าว “ไม่จำเป็น เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้เอง ผมกลับพรุ่งนี้ ถึงเวลานั้นผมจะจัดการปัญหานี้เอฃจะให้หนูลินของเราหิว ไม่มีทาง”

อารียาตาโต แล้วกล่าว “รพีพงษ์ นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ นั่นคือปรมาจารย์ บวกกับแดนครึ่งปรมาจารย์อีกสามคนนะ ฉันได้ยินดำเกิงพูดว่า ตอนที่เธอไป ก็เป็นแค่เน่ยจิ้งขั้นกลาง ไม่ใช่คู่ต่อกรของพวกมันเลยนะ”

รพีพงษ์ยิ้มอย่างมีเลศนัย กล่าว “เมีย คุณคิดว่าผมอยู่ด้านนอกเป็นเพียงมันฝรั่งหรอ สบายใจได้ ในเมื่อผมกล้าพูดแบบนี้ ก็ไม่มีทางมีปัญหาได้”

อารียาลังเล แต่ในความรู้สึกเธอ รพีพงษ์ไม่เคยประมาท จนกระทั่งปัจจุบันนี้ เธอทำได้เพียงเชื่อมั่นเขาเท่านั้น

หลังจากที่วางสายวิดีโอคอลแล้วนั้น รพีพงษ์ก็บึ้งตึง พลังวิเศษเสนชั้นต้น เขาสามารถทำให้ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์บาดเจ็บได้ วันนี้พลังวิเศษเสนชั้นสูง แม้จะเป็นปรมาจารย์หนึ่งและแดนครึ่งปรมาจารย์อีกสาม ในสายตารพีพงษ์ ก็ไม่มีปัญหาอะไร

คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ อารียาเรียกทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องรับแขก ประกาศว่า “คนด้านนอกพวกนั้น ไม่ต้องกังวล พรุ่งนี้รพีพงษ์กลับมา เขาจะจัดการปัญหาพวกนี้เอง”

เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของอารียา ก็ล้วนตกใจ

“อย่าให้รพีพงษ์กลับมาเลย นั่นมันหนึ่งปรมาจารย์กับอีกสามแดนครึ่งปรมาจารย์เลยนะ รพีพงษ์กลับมา ก็เข้าทางพวกมันพอดี” เวทัสกล่าวอย่างอึดอัด

“รพีพงษ์บอกพวกเขาจัดการเอง พวกเรารอพวกเขากลับมาก็พอ” อารียาเน้นย้ำอีกครั้ง

ทุกคนถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย แม้รพีพงษ์จะมั่นใจ พวกเขาก็ยังคงหวั่นอยู่ดี เพราะปรมาจารย์ เป็นขั้นสูงสุดของศิลปะการต่อสู้ พรสวรรค์ของรพีพงษ์ทำให้คนตะลึงก็จริงอยู่ แต่ให้คนตะลึงยังไง เขายี่สิบกว่าปี จะสู้กับปรมาจารย์ได้อย่างไรกัน?

ปัจจุบันนี้พวกเขาทำได้เพียงอ้อนวอน ให้พวกโกมุทเห็นอกเห็นใจบ้าง

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท