พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่785 ชายชุดคลุมดำ

บทที่785 ชายชุดคลุมดำ

บทที่785 ชายชุดคลุมดำ

บดีศวรหันหน้าไปทางประตู หลังจากที่เห็นชายชุดคลุมดำ แววตาก็แสดงความเคลือบแคลง

“แกเป็นใคร”บดีศวรจ้องชายคนนั้นถามขึ้นคำหนึ่ง

ชายชุดคลุมดำหันไปทางนั้น เอ่ยปากขึ้น“ผมเป็นใครไม่สำคัญ สำคัญคือ ผมช่วยคุณกำจัดรพีพงษ์ได้”

“อ้อ ทำไมฉันต้องเชื่อแก แล้วแกทำไมต้องช่วยพวกเรา”บดีศวรเอ่ยปากถาม

“สาเหตุนั้นง่ายมาก ฉันเองก็อยากกำจัดรพีพงษ์ เหตุผลแค่นี้คงพอนะ และก็มากพอที่เราจะร่วมมือกัน”ชายชุดคลุมดำเอ่ยอย่างไม่ช้าไม่เร็ว

“พวกเราห้าตระกูลใหญ่รวมตัวกัน ยังเอาเจ้าเด็กนี่ไม่ลง แค่แกคนเดียว พวกเราจะเชื่อได้ไงว่าแกจะช่วยกำจัดรพีพงษ์ให้ได้”บดีศวรถามคำหนึ่ง

ชายชุดคลุมดำยิ้ม จากนั้นจึงหยิบขวดๆหนึ่งออกมาจากเสื้อ เอ่ยปากพูด“ผมคนเดียวกำจัดรพีพงษ์ไม่ได้ จึงต้องมาขอความร่วมมือจากทุกคน”

“สิ่งที่ใส่อยู่ในขวด เป็นยาลูกกลอนเพิ่มพลัง ยาเสริมพลังจิตทุกคนเคยได้ยินนะ ยาในมือผม ประสิทธิภาพเหมือนยาเสริมพลังจิต และไม่มีผลกระทบเหมือนยาเสริมพลังจิต”

สายตาของพวกบดีศวรทั้งห้าคนตกอยู่ที่ขวดในมือชายชุดดำผู้นี้

ชื่อเสียงของยาเสริมพลังจิตพวกเขารู้จักดี มีประสิทธิภาพเหมือนยาเสริมพลังจิตแต่ไม่มีผลกระทบเหมือนยาเสริมพลังจิต ยาแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ใครๆก็ต้องแย่งกันซื้อ

ในตระกูลโบราณทั้งหก มีเพียงตระกูลภูธนเท่านั้นที่จะมีของแบบนี้ได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นยาวิเศษหา

ยาก

“ผมให้ยานี้แก่ทุกคนคนละเม็ดได้ แบบนี้เวลาที่ทุกคนต้องการฆ่ารพีพงษ์ ก็คงง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ”ชายชุดคลุมดำกล่าวต่อ

พวกบดีศวรทั้งห้าเบิ่งตาโพลงโต ยาแบบนี้หายากอยู่แล้ว ตอนนี้ชายชุดคลุมดำจะมาให้พวกเขาคนละเม็ดอีก ทำให้พวกเขาประหลาดใจเหลือประมาณ

“อย่ามาล้อกันเล่นหน่อยเลย ยาพวกนี้ที่แกบอกน่ะ เดิมทีก็เป็นของหายากอยู่แล้ว กว่าจะหาได้เม็ดนึงก็ยากแสนยาก แกกลับจะมาแจกให้พวกเราคนละเม็ด แกคิดว่ายานี่เป็นลูกกวาดหรือไง ฉันว่าแกคงเป็นคนที่รพีพงษ์ส่งมาล้อพวกเราเล่นมากกว่า”ทัดเทพจ้องมองชายผู้นั้นแล้วกล่าว

“นั่นสินะ ยาแบบนี้หายากจะตาย จะเชื่อได้ไงว่ายานี่เป็นของจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นยาพิษล่ะ พวกเราไม่ต้องตกหลุมพรางกันหมดเหรอ”นิรภาพพูดออกมาคำหนึ่ง

ชายชุดคลุมดำไม่ร้อนรน ยิ้มสองที เปิดปากพูด“ยาแบบนี้ สำหรับพวกคุณแล้ว อาจจะเป็นของมีค่าหายาก แต่สำหรับผมแล้ว มันหาง่ายราวกับลูกกวาดก็ไม่ปาน”

“แกล้อใครเล่นน่ะ ทำไมเราต้องเชื่อแกด้วย”ทัดเทพเอ่ยปากอีกครั้ง

“ผม เป็นคนของสำนักเทพยาเซียน”

ชายชุดคลุมดำพูดพลาง ยิ้มแผ่นป้ายไม้ออกมาจากเสื้อตัวเอง เห็นข้างบนมีตัวอักษร“ยา” ส่วนบนแผ่นป้ายมีกลิ่นของยาสมุนไพรครุกรุ่น

บดีศวรได้ยินคำพูดของชายชุดคลุมดำ เห็นป้ายบนมือเขา จึงเบิ่งตาโพลงขึ้นมาทันที

……

ในผับแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต มีชื่อว่าผับPromise

รพีพงษ์กำลังนั่งดื่มเหล้ากับไตรทศ

หลังจากผ่านไปสี่การประลอง รพีพงษ์จึงรู้สึกอ่อนเพลียไปทั้งตัว จึงมาดื่มเหล้าที่ผับ เพื่อผ่อนคลาย

ไตรทศมองไปยังหนุ่มสาวที่กำลังเต้น สีหน้าเต็มไปด้วยความปล่อยวาง

“คิดถึงตอนนั้นที่เป็นแค่คนทำโรตีไข่ คิดไม่ถึงว่าพริบตาเดียว กลับค่อยๆเริ่มรับโลกใต้ดินของเมืองเกียวโตทั้งเมือง”ธฤตญาณพูดด้วยสีหน้าปล่อยวาง

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน โลกใต้ดินมีอยู่ไม่น้อย ธฤตญาณตามรพีพงษ์มาเกียวโต ก็ค่อยๆทำสาขาอาชีพเดิม

ก่อนหน้าธฤตญาณเป็นราชาใต้ดินของเมืองริเวอร์ ตอนนี้รพีพงษ์จะช่วยเหลือให้เขาเป็นราชาใต้ดินของเมืองเกียวโต สำหรับประมุขตระกูลลัดดาวัลย์อย่างรพีพงษ์แล้ว ไม่ใช่เรื่องยาก

“ไม่งั้นก็ นายจัดลูกน้องนายมา เปิดร้านโรตี เชื่อว่าความสามารถแบบนาย ภายในปีเดียวจะต้องมีแฟรนไชส์ทั่วประเทศ น่าจะไม่เป็นปัญหาใหญ่อะไร คนที่ตามนายมาก็ให้ไปขายโรตีให้หมด ดีกว่าฆ่าๆฟันๆเหมือนตอนนี้”รพีพงษ์พูดหัวเราะ

ธฤตญาณได้ฟังรพีพงษ์พูดจึงหัวเราะร่วน พูดขึ้น“ที่จริงฉันเองก็เคยคิดแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่าต่อให้ฉันไม่ฆ่าๆฟันๆ ก็ต้องมีคนทำอยู่ดี โลกนี้มันคงไม่เปลี่ยนแปลงเพราะฉันไปขายโรตีหรอกนะ และเรื่องที่ฉันทำตอนนี้ก็ช่วยนายได้ไม่น้อยเลย ถ้าฉันไปขายโรตี ก็เท่ากับมาเป็นคู่แข่งกับนายแล้วสิ ฉันจำร้านอาหารของเครือตระกูลลัดดาวัลย์ได้ อาหารจานเด็ดคือโรตี ทำธุรกิจ ฉันสู้ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ได้หรอก”

รพีพงษ์ยิ้มในใจ แม้ว่าเขาแค่ล้อเล่นกับธฤตญาณ แต่ว่าระหว่างทั้งคู่มีการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยจริงๆ ทำให้อดทอดถอนใจไม่ได้

รพีพงษ์ดื่มเหล้าตัวเองจนหมดแก้ว เปิดปากพูด“ไปเถอะ เมียฉันกับหนูลินคอยอยู่ ถ้าดึกไป เดี๋ยวโดนบ่น”

ธฤตญาณหัวเราะเสียงดังฮ่าๆ พูดขึ้น“ใครจะไปคิด คนที่ไม่กลัวแม้ห้าตระกูลใหญ่อย่างรพีพงษ์ กลับกลัวเมีย”

รพีพงษ์ถลึงตาแล้วพูดขึ้น เปิดปากพูด“นายจะไปเข้าใจอะไร เขาเรียกว่ารักเมียโว้ย”

พูดจบ ก็เดินออกไปด้านนอก

ธฤตญาณรีบตามไป แล้วยังไม่ได้จ่ายเงินค่าเหล้า เพราะบาร์Promiseแห่งนี้ เป็นบาร์ของตระกูลลัดดาวัลย์ พวกเขามาดื่มเหล้าที่นี่ ไม่มีใครกล้าคิดเงินกับพวกเขา

เมื่อมาถึงด้านนอกบาร์ รพีพงษ์หมุนตัวไปทางบ้านลัดดาวัลย์

ธฤตญาณเดินตามหลัง จุดบุหรี่

รพีพงษ์รีบเอ่ยปาก“ไปห่างๆฉันหน่อย หนูลินตัวนิดเดียว ดมกลิ่นบุหรี่ไม่ได้ อย่าเอากลิ่นบุหรี่มาติด”

ธฤตญาณได้ยินคำพูดรพีพงษ์จึงยิ้มขึ้น เอามือดับบุหรี่

ในตอนที่ทั้งคู่เดินเข้าไปในตรอกแห่งหนึ่ง จู่ๆธฤตญาณก็หยุดลง

รพีพงษ์รู้สึกประหลาดใจ หันไป ถามขึ้น“มีอะไร”

“นายได้ยินมั้ย เหมือนด้านในมีเสียงตะโกน”ธฤตญาณเอ่ยปากถาม

รพีพงษ์มองเข้าไปในตรอก ฟังชัดๆ ได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกจริงๆ

ทั้งคู่สบตากัน จากนั้นเดินเข้าไปในซอย

พอเลี้ยวมุมตรอก ทั้งสองคนก็ตันอยู่ในตรอก ผู้ชายตัวสูงกำยำหลายคน ดันหญิงสาวเข้ามุม

ผู้ชายไม่กี่คนนั้นดูเหมือนเมาเหล้า กลิ่นเหล้าหึ่งไปทั้งตัว แววตาเลื่อนลอย

ส่วนสาวน้อยสีหน้าหวาดกลัว ในมือถือขวดเหล้า กวัดแกว่งไปทางชายเหล่านั้น

พอรพีพงษ์กับธฤตญาณเห็นสาวน้อยคนนั้น ต่างก็ตกใจ เพราะว่าเด็กสาวที่ถูกต้อนเข้ามุม คือหลาน

สาวของบดีศวร ฉายสุดา

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท