พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 794 อาจารย์ลงสนามรบ

บทที่ 794 อาจารย์ลงสนามรบ

ตอนที่ 794 อาจารย์ลงสนามรบ

ทันทีที่บดีศวรพูดออกไป ผู้ชมทั้งหมดต่างตกตะลึงอีกครั้ง ทุกคนคิดไม่ถึงเลยว่า บดีศวรจะไร้ยางอายได้ถึงขนาดนี้ กระตุ้นให้คนของห้าตระกูลใหญ่ใช้โอกาสที่รพีพงษ์อ่อนแอรุมสังหารเขา

ในตอนนี้ทุกคนต่างก็เริ่มก่นด่าบดีศวร แต่ทว่าบดีศวรไม่สนใจเรื่องเหล่านี้อีกต่อไปแล้ว เพื่อฆ่ารพีพงษ์แล้วห้าตระกูลใหญ่ต้องสูญเสียมากมายขนาดนี้ ถ้าหากไม่บรรลุเป้าหมายนี้นั่นถึงจะเป็นความพ่ายแพ้ที่แท้จริงของห้าตระกูลใหญ่

ในเวลานี้คนของห้าตระกูลใหญ่ล้วนแต่เต็มไปด้วยแรงกระตุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนของตระกูลยศบวร และตระกูลเมฆมหัส

การตายของนายใหญ่ทำให้พวกเขาไม่สามารถรักษาสติปัญญาและเหตุผลไว้ได้ ตอนนี้พวกเขาไม่สนใจ หรอกว่าทำเช่นนี้แล้วมันจะถูกต้องตามหลักจริยธรรมหรือไม่ พวกเขาเพียงแค่ต้องการฆ่ารพีพงษ์

“ไอ้รพีพงษ์คนนี้สมควรตาย มันฆ่านายใหญ่ของพวกเรา วันนี้มันจะต้องตาย!”

สมาชิกคนหนึ่งของตระกูลยศบวรลุกขึ้น หลังจากร้องตะโกนคร่ำครวญแล้ว ก็เร่งรีบไปทางเวทีอย่างรวดเร็ว

หลายๆคนของห้าตระกูลใหญ่เห็นสถานการณ์เช่นนี้ ต่างก็เร่งรีบไปทางเวทีอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน

“ฆ่ารพีพงษ์ เพื่อแก้แค้นให้นายใหญ่!”

“ฆ่าเขาเลย ต้นตอแห่งหายนะไม่สามารถปล่อยให้อยู่บนโลกได้!”

กลุ่มคนของตระกูลลัดดาวัลย์ที่นั่งอยู่อีกด้านต่างก็ตื่นตระหนกทันทีเมื่อเห็นสถานการณ์นี้

เวทัสและดำเกิงลุกขึ้นมาในทันทีแล้วรีบวิ่งไปทางด้านเวที

ไออ้วนครองภพและคนอื่นๆก็ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ต่างห้อตะบึงตามไปบนเวทีที่เดียวกัน

“ไอ้คนกลุ่มนี้สมควรตาย นี่มันฉวยโอกาสจากคนที่กำลังลำบากชัดๆ หน้าไม่อายจริงๆ!” ไออ้วนตะโกนเสียงดัง

ทุกคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ว่าจะมีกำลังภายในหรือไม่มีก็ตาม ล้วนแต่เร่งรีบไปยังเวทีตรงด้านนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้คนของห้าตะกูลใหญ่ลงมือกับรพีพงษ์

คนทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างรวดเร็ว สถานที่เกิดเหตุมันค่อนข้างสับสนวุ่นวาย

อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของตระกูลลัดดาวัลย์ทางด้านนี้ยังคงอ่อนแอเกินไปเมื่อเทียบกับห้าตระกูลใหญ่ อาศัยเพียงครองภพและเวทัสไม่กี่คน ไม่มีทางต้านทานคนเหล่านี้ของห้าตระกูลใหญ่ได้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นในบรรดาห้าตระกูลใหญ่นอกเหนือไปจากนายใหญ่ทั้งห้าแล้ว ยังมีปรมาจารย์ระดับยอดฝีมือคนอื่นๆอีก เมื่อปรมาจารย์ระดับยอดฝีมือได้ลงมือแล้ว ไม่มีทางที่เป็นไปได้ที่ตระกูลลัดดาวัลย์จะต้านทานเอาไว้ได้ไม่ว่าด้วยวิธีใดๆก็ตาม

สีหน้าของทุกคนล้วนกังวลใจ ไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับคนของห้าตระกูลใหญ่อย่างไรดี ถ้าหากเป็นอย่างต่อไป ท้ายที่สุดแล้วรพีพงษ์จะต้องถูกคนของห้าตระกูลใหญ่ฆ่าตายอย่างแน่นอน

ในตอนนี้รพีพงษ์ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นนั่งบนพื้น เขานอนเหยียดอยู่บนเวที เสียงการต่อสู้ดังเข้ามาที่ข้างหูแต่กลับไม่มีความสามารถที่จะทำอะไรได้

เขาได้ยินคำพูดเมื่อสักครู่นี้ของบดีศวรแล้ว ถึงแม้จะรู้สึกว่าบดีศวรไร้ยางอาย แต่ภายใต้สภาพเช่นนี้ เขาทำอะไรไม่ได้เลย

ตามที่ในคัมภีร์กลยุทธ์กล่าวไว้หลังจากที่เขาเข้าสู่สภาวะอ่อนแรงจำเป็นจะต้องพักฟื้นหลายวันถึงจะกลับมาหายดี ตอนนี้แค่คิดจะปีนขึ้นมาจากพื้นยังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

หรือว่าวันนี้จะต้องตายด้วยน้ำมือของคนห้าตระกูลใหญ่เหล่านี้จริงๆเหรอ?

คำถามดังกล่าวปรากฏขึ้นในใจของรพีพงษ์ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าสถานการณ์อยู่เหนือการควบคุมของเขา แต่ในใจของเขายังคงไม่เต็มใจยอมรับ

ในความเข้าใจของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะตายก็ไม่สามารถตายด้วยน้ำมือของคนที่ต่ำช้าไร้ยางอายอย่างพวกห้าตระกูลใหญ่เหล่านี้ได้

คนของห้าตระกูลใหญ่ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาหลายปี ท่ามกลางความแข็งแกร่งจำนวนมากนี้ ครองภพและคนอื่นๆก็จะต้านทานต่อไปไม่ไหวในอีกม่นานนี้แล้ว

“ทำยังไงดี เป็นอย่างนี้ต่อไปพวกเราต้านทานคนเหล่านี้ไม่ไหวอย่างแน่นอน” ครองภพตะโกน

ดำเกิงที่อารมณ์ร้อนตะโกนด้วยความโมโหว่า : “ให้ตายเถอะ ถึงแม้วันนี้ฉันจะต้องสู้สุดชีวิตก็จะไม่ยอมให้พวกเขาแตะต้องขนรุ่นพี่แม้แต่เส้นเดียวอย่างแน่นอน!”

“เหอะๆ ได้รู้ว่าสู้สุดชีวิตเพื่อรุ่นพี่ ไม่เลวเลยนะ มีความก้าวหน้า” ในตอนที่ทุกคนล้วนแต่มีสีหน้าสิ้นหวัง เสียงหนึ่งได้ดังขึ้นที่ด้านหลังของพวกเขา

ดำเกิงผงะไปชั่วขณะ ใบหน้าของเวทัสที่อยู่ด้านข้างก็ปรากฏร่องรอยของความประหลาดใจ จากนั้นใบหน้าของสองคนก็แสดงความดีใจอย่างท่วมท้นออกมา

พวกเขาทั้งหมดหันกลับไป เมื่อมองไปทางด้านหลังของตนเองก็เห็นชายชราที่ไม่รู้ว่ามาปรากฏตัวที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งหมดต่างร้องอุทานออกมา : “อาจารย์!”

วฤนท์ธมมองพวกเขาสองคนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ยังไม่ได้ลงมือช่วยพวกเขาสกัดคนของห้าตระกูลใหญ่

เพราะว่าในตอนนี้ได้มีเงาสองร่างพุ่งเข้าไปในกลุ่มคนของห้าตระกูลใหญ่และจัดการพวกเขาอย่างรวดเร็วในคราวเดียว

เวทัสมองที่ไปร่างของทั้งสอง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความยินดีแล้วพูดว่า : “คิดไม่ถึงเลยว่าเป็นรุ่นพี่ปวัตรและปวิชทั้งสอง ดูเหมือนว่าวิกฤตในวันนี้จะได้รับการคลี่คลายแล้ว”

ทุกคนล้วนแต่ไม่คิดว่าสถานการณ์ที่สนามในเวลานี้จะสามารถเปลี่ยนไปได้เช่นนี้ ในใจเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“รุ่นพี่ปวัตรและปวิชทั้งสอง? ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นมาก่อน?” ดำเกิงที่อยู่ด้านข้างเอ่ยปากถาม

“แน่นอนว่านายย่อมไม่เคยเห็นอยู่แล้ว รุ่นพี่ทั้งสองท่านนี้เป็นสองคนในไม่กี่คนแรกที่ติดตามอาจารย์ ตอนนี้ความแข็งแกร่งของพวกเขาน่าจะบรรลุถึงระดับปรมาจารย์แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นตามการคาดเดาของฉันน่าจะอยู่ในระดับนายใหญ่ของตระกูลใหญ่แล้วและเป็นที่น่าสังเกตคือพวกเขาทั้งสองคนยังเป็นฝาแฝดกันอีกด้วย ในตอนที่ร่วมมือกันต่อสู้จึงทำได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด พลังการต่อสู้ค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียว” เวทัสอธิบาย

ดำเกิงเบิกตากว้างทันทีคิดไม่ถึงเลยว่าภายใต้ชื่อของอาจารย์จะมีศิษย์ผู้ติดตามที่เก่งกาจขนาดนี้ สิ่งนี้ทำให้เขาที่เป็นศิษย์ที่อาจารย์ภาคภูมิใจที่สุดค่อนข้างที่จะเกิดความละอายใจ

แต่ว่าหลังจากที่ได้ยินเวทัสอธิบาย ใจของดำเกิงที่เดิมทีแขวนอยู่ในตอนแรกก็ปล่อยวางลง หลังจากที่รู้ว่าอาจารย์มากับศิษย์ทั้งสอง ก็จะไม่มีปัญหาใดๆต่อความปลอดภัยของรพีพงษ์อย่างแน่นอน

ความเร็วของปวัตรและปวิชนั้นรวดเร็วมาก ภายในชั่วพริบตาก็แก้ไขปัญหาการเร่งรีบเข้ามาของกลุ่มคนห้าตระกูลใหญ่ได้เรียบร้อยแล้ว

แม้แต่ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ของห้าตระกูลใหญ่ล้วนแต่ไม่สามารถรอดพ้นไปได้

หลังจากที่คนที่เหลืออยู่ของห้าตระกูลได้รับรู้ถึงความเก่งกาจของปวัตรและปวิช ทันใดนั้นก็เกิดความคิดที่จะถอนตัว ไม่มีใครกล้าพุ่งไปข้างหน้าเพื่อเอาชีวิตรพีพงษ์อีก

ในตอนที่รพีพงษ์ได้ยินเสียงเวทัสและดำเกิงทั้งสองคนตะโกนเรียกอาจารย์ ในใจก็รู้สึกมั่นคง ถึงแม้ว่าการมาของอาจารย์จะทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย แต่ทว่าในใจของเขาก็รู้แน่ชัดว่า มีอาจารย์อยู่ ตนเองจะไม่เกิดสถานการณ์อะไรอีก ดังนั้นเขาจึงหลับตาลงอย่างสบายใจและหลับสนิทไปเลย

บดีศวรมองดูสถานการณ์ที่ตอนแรกวุ่นวายสับสนแล้วทันทีที่คนทั้งสามปรากฏตัวขึ้นก็สงบลงในชั่วพริบตา ความโกรธก็พุ่งขึ้นในใของเขาอีกครั้ง

เดิมทีเขาคิดว่ารพีพงษ์จักต้องตายภายใต้ความโกลาหลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ใครจะคิดว่าเจ้าหนูนี่จะโชคดีขนาดนี้ ในช่วงวเลาวิกฤต กำลังเสริมที่รอก็มาจริงๆ

สายตาของเขาจับจ้องอยู่บนตัวของวฤนท์ธม เขากัดฟันกรอด สาเหตุส่วนใหญ่ที่ห้าตระกูลใหญ่จะจัดการกับรพีพงษ์ก็เป็นเพราะชายชราที่ยืนตรงหน้าเขา

“วฤนท์ธม แกมันแก่แล้ว โผล่มาอย่างคาดไม่ถึงจริงๆ แกจะทำตัวเป็นเต่าหดหัวไปชั่วชีวิตเลยก็ได้!” บดีศวรตะโกนใส่

วฤนท์ธมปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของบดีศวรในชั่วพริบตา โดยไม่มีใครเห็นเลยจริงๆว่าเขาทำได้อย่างไร

“ทำไมล่ะ แล้วจะให้ฉันมองดูพวกแกรังแกลูกศิษย์ของฉันหรือไง?

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท