พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่805 แลกเปลี่ยน

บทที่805 แลกเปลี่ยน

บทที่805 แลกเปลี่ยน

รพีพงษ์หยิบกระดาษนั้นเดินไปยังด้านหน้าของชายชุดดำ จ้องไปที่เขาแล้วถาม “อุเอสึงิ ฮารุคือใคร?”

ชายชุดดำไม่อยากพูด ครองภพขยับมีสั้นที่ได้ปักเข้าไปบนขาอ่อนของเขาเล็กน้อย มีดกรีดบนเนื้อ ความเจ็บแบบนี้ไม่มีใครรับได้ ชายชุดดำร้องโอดครวญขึ้นมาอีกครั้ง

“พูดแล้ว ฉันจะพูดให้หมด แกรีบเอามีดนี่ออกไปซะ!” ชายชุดดำกล่าวอย่างสิ้นหวัง

ครองภพหยุดลง แต่ไม่ได้เอามีดออก

หน้าผากของชายชุดดำเต็มไปด้วยเหงื่อ หลังจากที่จ้องไปที่รพีพงษ์ก็ได้กล่าวว่า “นี่เป็นคนของตระกูลอุเอสึงิแห่งญี่ปุ่น”

“ตระกูลอุเอสึงิ คือประเทศญี่ปุ่นที่ปกปิดเบื้องหลัง ควบคุมเศรษฐกิจและศิลปะการป้องกันตัวของประเทศญี่ปุ่นไว้ครึ่งหนึ่ง ตระกูลอุเอสึงิมีนินจาสืบทอดหกรุ่น?” รพีพงษ์ถามต่อ

ชายชุดดำพยักหน้า คนที่รู้จักตระกูลอุเอสึงึนั้นมีตำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจอะไร

ที่รพีพงษ์รู้สถานการณ์ตระกูลอุเอสึงิ เพราะกระดาษที่อาจารย์ให้นั้นมีบนแนะนำอยู่คร่าวๆ ตระกูลอุเอสึงิถือว่าเป็นบอสใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น แม้จะเป็นผู้มีอำนาจ ก็ไม่กล้าไปหาเรื่องคนของตระกูลอุเอสึงิได้

แต่หยกโยงจิต อยู่ในมือของตระกูลอุเอสึงิ ก่อนที่รพีพงษ์จะไปประเทสญี่ปุ่น ก็ต้องไปทักทายกับตระกูลอุเอสึงิเสียก่อน

เขาไม่คาดคิดว่าอุเอสึงิ ฮารุที่อยู่บนกระดาษ จะเป็นคนของตระกูลอุเอสึงิที่เขากำลังหาอยู่

“ทำไมแกถึงพกรุปของคนนี้ไว้?” รพีพงษ์สงสัย ไม่รู้ว่าทำไมสำนักเทพยาเซียนกับตระกูลอุเอสึงิถึงรวมกันได

ชายชุดดำรู้ว่าถ้าตัวเองไม่พูด จะต้องถูกทารุณกรรมอีกแน่นอน จึงได้กล่าวอย่างเบื่อหน่ายว่า “ความจริงครั้งนี้ที่ฉันออกมาจากสำนักเทพยาเซียน โดยหลักๆเลย ก็คือเจอกับอุเอสึงิ ฮารุ ที่พกรูปของเธอมา ก็เพื่อยืนยันตัวตน ที่มาเกียวโตล้างแค้นให้ชินาธิปก็เป็นแค่เรื่องรอง”

ตระกูลอุเอสึงิกับสำนักเทพยาเซียนมีข้อแลกเปลี่ยนกัน อุเอสึงิ ฮารุเป็นคนที่ตระกูลอุเอสึงิจัดมาให้เจอกับพวกเรา ภารกิจของฉันคือหลังจากที่เจอกับเธอแล้ว พาเธอไปสำนักเทพยาเซียน บรรลุข้อแลกเปลี่ยนในครั้งนี้”

“แลกเปลี่ยนอะไไร?” รพีพงษ์ถาม

“เรื่องนี้ฉันไม่รู้จริงๆ เนื้อหาในการแลกเปลี่ยนมีเพียงผู้อาวุโสเท่านั้นที่รู้ จากที่ผู้อาวุโสพูดนั้น นี่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างเขาและตระกูลอุเอสึงิ แม้เจ้าสำนักก็ไม่รู้ ตอนที่ฉันออกมาผู้อาวุโสเน้นย้ำฉันนักหนาว่าอย่าเพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้” ชายชุดดำรีบกล่าว

รพีพงษ์และครองภพสบตากัน ไม่เชื่อในคำพูดของเขา ครองภพเริ่มจะลงมืออีกครั้ง ทรมานชายชุดดำให้หนำใจอีกสักครั้ง แต่ชายชุดดำพูดตลอดว่าตัวเองไม่รู้จริงๆ ทั้งสองจึงได้เชื่อเขา

จากนั้นรพีพงษ์ได้ถามชายชุดดำอีกครั้งว่าเมื่อไหร่อุเอสึงิถึง และถามถึงตำแหน่งของสำนักเทพยาเซียน

ความจริงรพีพงษ์ไม่อยากมีปัญหากับเทพยาเซียน เพราะมีเรื่องน้อยก็ทุกข์น้อย ไม่มีใครรู้ว่าเขาจับชายชุดดำไว้ เพียงแค่เรื่องนี้ถูกปกปิดไว้ อนาคตเขาและสำนักเทพยาเซียนก็จะไม่แตกแยกกัน

แต่สำนักเทพยาเซียนกับตระกูลอุเอสึงิกลับมีความสัมพันธ์กัน นี่ทำให้รพีพงษ์ต้องไตร่ตรองถึงเรื่องระหว่างตระกูลอุเอสึงิและสำนักเทพยาเซียนว่าจะกระทบกับการเอาหยกโยงจิตจากตระกูลอุเอสึงิหรือไม่

ปลอดภัยไว้ก่อน รพีพงษ์จะต้องรู้ก่อนว่าตระกูลอุเอสึงิกับสำนักเทพยาเซียนมีการแลกเปลี่ยนอะไร ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ เขาอาจจะสามารถเอาหยดโยงจิตจากตระกูลอุเอสึงิได้เลย

หยกโยงจิตเป็นสิ่งล้ำค่าที่หาได้ยาก คนของตระกูลอุเอสึงิไม่โง่ ไม่ใช่ว่ารพีพงษ์จะเอาแล้วพวกเขาจะให้ ดังนั้นรพีพงษ์ต้องเตรียมการไว้

เขาก็คิดว่าจะผ่านอุเอสึงิ ฮารุ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับตระกูลอุเอสึงิ

และในตอนแรก รพีพงษ์จะเป็นตัวแทนของชายชุดดำไปเจอกับอุเอสึงิ ดูว่าจะสามารถล้วงความลับอะไรจากอุเอสึงิได้บ้าง ถ้าไม่ได้จริงๆ ค่อยใช้วิธีอื่น

หลังจากที่ถามเรื่องนี้อย่างละเอียดแล้ว รพีพงษ์ได้ให้ชายชุดดำดูยาสองอันและไม้ดำที่ได้จากอาจารย์โอบนิธิในตอนนั้น ถามเขาว่ารู้จักไหม

ตอนที่เห็นยาสองอันนั้น ชายชุดดำตะลึง ถามรพีพงษ์ว่ามียาที่ดีที่สุดอย่างนี้ได้ไงกัน รพีพงษ์รีบถามต่อว่าอะไรคือยาที่ดีที่สุด

ชายชุดดำอธิบายว่ามีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นยาที่วิเศษ

ยาแบบนี้จะไม่มีผลค้างเคียง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือได้ว่าดีที่สุดเลยทีเดียว

รพีพงษ์ไม่คาดคิดว่ายานี้จะเยี่ยมขนาดนี้ ถึงขั้นดีที่สุดเลยทีเดียว แสดงว่าตอนนั้นอาจารย์โอบนิธิไม่ได้หลอกเขา

วิธีปฏิบัติมันชั่งยิ่งใหญ่เสียจริงๆ แต่เมื่อใช้แล้วจะทำให้คนอ่อนแอ รพีพงษ์ได้สลบไปถึงเจ็ดวัน ข้อเสียหนักมาก และยาที่ไม่มีผลข้างเคียงแบบนี้ เป็นของล้ำค่าที่หาที่เปรียบมิได้

หลังจากที่เก็บยาไว้แล้วนั้น รพีพงษ์ได้ถามถึงไม้ดำนั้น ชายชุดดำดูอยู่นาน ก็ดูไม่ออกว่าไม้ดำเอาไว้ทำอะไร เพียงแค่รู้สึกพิเศษ บอกว่าบางทีเจ้าสำนักอาจจะรู้ว่านี่คืออะไร

รพีพงษ์เซ็ง ทำได้เพียงยอมแพ้ แม้แต่คนของสำนักเทพยาเซียนยังดูไม่ออกว่าท่อนไม้นี้ใช้ทำอะไร ก็แสดงว่าที่มาของไม้นี้ไม่ธรรมดาอย่างมาก

ถ้ามีโอกาสล่ะก็ รพีพงษ์อยากไปถามเจ้าสำนักของสำนักเทพยาเซียน

เขาไม่ใส่ใจว่าคนของสำนักเทพยาเซียนจะหาเรื่องเขา เพราะคนของสำนักเทพยาเซียนไม่รู้ว่าเขาจับชายชุดดำไว้

หลังจากจบการซักถาม รพีพงษ์ให้ครองภพขังชายชุดดำนี้เอาไว้ก่อน คนนี้ออกมาจากสำนักเซียน ต้องรู้เกี่ยวกับการทำยาอย่างแน่นอน ถ้าสามารถเรียนวิธีปรุงยาจากเขาได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่เลว

แต่เรื่องที่ชายชุดดำทำร้ายอารียา รพีพงษ์ไม่มีทางปล่อยเขาไว้แน่ ดังนั้นการที่เขาอยากจะกลับไปสำนักเทพยาเซียนนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว

ครึ่งเดือนผ่านไป

รพีพงษ์ได้มอบหมายของชลาธิปดูแลเรื่องในตระกูลลัดดาวัลย์อีกครั้ง แล้วยังเน้นย้ำให้สองพี่น้องปวัตรและปวิชให้ดูแลความปลอดภัยของอารียาสองแม่ลูกให้ดี หลังจากที่ร่ำลากับอารียาและหนูลินแล้ว ก็ออกจากเกียวโต ไปยังสถานที่ที่ชายชุดดำได้นัดอุเอสึงิ ฮารุไว้

การเดินทางในครั้งนี้ กว่าจะกลับมา ก็ต้องเป็นตอนที่หาหยกโยงจิตเจอแล้ว

เมืองเล็กๆทางตอนใต้

ที่ตีนเขามีบ้านพังๆหลังเล็กๆอยู่ รพีพงษ์กำลังนั่งอยู่บนอิฐทดสอบพลังที่แท้จริงของตัวเองอยู่ กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองได้มีพลังวิเศษเสนที่เต็มสูบได้เสียที

ถ้าเขาเดาไม่ผิด การที่จะระเบิดพลังวิเศษเสนได้นั้น ก็น่าจะเป็นการใช้พลังวิเศษเสนภายนอกแล้ว

เขามาถึงที่นี่เมื่อวาน ตามที่ชายชุดดำพูดไว้ว่า วันนี้เป็นวันที่นัดเจอกับคนของตระกูลอุเอสึงิ

ในขณะที่รพีพงษ์กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น ด้านนอกมีเสียงเดินเท้าดังขึ้น จากนั้นก็มีเงาของสองคนเดินเข้ามายังที่ๆรพีพงษ์อยู่

รพีพงษ์เงยหน้าขึ้น เห็นว่าคนที่เข้ามาคนหนึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเป็นคนแก่

เห็นเพียงสาวรูปงาม งามดั่งรูปภาพ ท่าทางงดงาม สง่างามเหลือล้น สวยงามกว่าใคร งดงามเหลือเกิน

แว็บแรก แม้รพีพงษ์ก็ต้องตะลึง

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท