พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่800 ข่มขู่

บทที่800 ข่มขู่

บทที่800 ข่มขู่

ช่วงบ่าย อารียานัดจารุณีไปซื้อของเรียบร้อย เธอไปดูรพีพงษ์ในห้อง เห็นรพีพงษ์กำลังเปลี่ยนผ้าอ้อมให้กับขวัญนลินอย่างทุลักทุเล ก็หัวเราะออกมาทันใด

รพีพงษ์ได้ยินเสียงหัวเราะของอารียา ก็หันหน้าไปมองเธอ แล้วกล่าว “เมีย รีบมาช่วยผมเร็ว เด็กนี่มันดื้อ ผมคุมเธอไว้ไม่อยู่”

อารียาหัวเราะ กล่าว “ฉันได้นัดจารุณีไปเดินซื้อของเรียบร้อยแล้ว ใกล้ถึงเวลาแล้วล่ะ ฉันต้องไปแล้ว คุณคิดหาวิธีเอาก็แล้วกันนะ เชื่อมั่นในตัวเอง คุณทำได้!”

พูดจบ อารียาก็ออกจากห้องไป

รพีพงษ์เซ็ง รอหลังจากที่อารียาจากไปแล้วนั้น ก็แอบเรียกพี่สามา ให้พี่สาช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้

หลังจากที่อารียาออกไปจากประตูของคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์แล้วนั้น ก็ไปสถานที่ที่ได้นัดกับจารุณีไว้

เพราะคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์อยู่ใจกลางเมืองเกียวโต อยู่ใกล้จากห้างเหล่านั้นอย่างมาก ดังนั้นอารียาแค่เดิน แป๊ปเดียวก็จะถึงห้างแล้ว

ในตอนที่อารียาออกจากประตู เธอไม่ได้ทันสังเกต มุมของคฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์ มียาวสวมชุดดำยาวหลบอยู่

ในคฤหาสน์ รพีพงษ์กำลังเดินเล่นในสวนอยู่กับขวัญนลิน ในขณะเดียวกันนี้มือถือของเขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เห็นว่าเป็นจารุณีโทรเข้ามา

หลังจากที่รับสายแล้ว ก็มีเสียงของจารุณีดังมาจากปลายทาง

“พี่ชาย พี่สะใภ้ยังไม่ออกมาอีกหรอ ฉันรอที่นี่นานแล้วนะ ทำไมเธอยังมาไม่ถึงอีก ฉันโทรหาเธอก็ไม่รับ”

รพีพงษ์ชะงัก กล่าว “พี่สะใภ้เธอออกไปตั้งแต่เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วแล้ว ความจริง น่าจะเดินถึงแล้วนะ”

“แต่ฉันไม่เห็นนะ ฉันโทรเข้ามือถือก็ไม่ติด ไม่งั้นพี่ลองโทรหาเธอดูไหม” จารุณีกล่าว

รพีพงษ์ตกลง จากนั้นก็รีบโทรเข้ามือถือของอารียา แต่ผ่านไปสักพัก ก็ไม่มีคนรับสาย

รพีพงษ์เริ่มรู้สึกไม่ดี เขารีบเรียกพี่สามา ให้ดูแลขวัญนลิน แล้วเขารีบไปหาครองภพ ถามเขาว่ารอบๆคฤหาสน์ตระกูลใหญ่ลัดดาวัลย์มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า

ครองภพแสดงท่าทีว่าไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆจากลูกน้อง จากนั้นก็กล่าว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ

รพีพงษ์ร้อนใจ ได้โทรไปหาอารียาอีกหลายครั้ง แต่ก็ยังคงไม่มีคนรับสาย จากนั้นก็บอกเขาโดยตรง ว่าอารียาจะต้องเกิดเหตุแล้วเป็นแน่ และคนที่จ้องอารียาอยู่นั้น อย่างน้อยต้องเป็นยอดฝีมือของแดนปรมาจารย์แน่นอน มิเช่นนั้นไม่มีทางผ่านสายตาคนของลอบสังหารไปได้

เพราะเรื่องของตระกูลใหญ่ทั้งห้าเพิ่งจะจบลงไป รพีพงษ์คิดว่าแม้คนของพวกมันอยากจะล้างแค้น ก็ไม่มีทางเป็นช่วงนี้ ดังนั้นการเฝ้าระวังของตระกูลลัดดาวัลย์จึงผ่อนลงในช่วงนี้ ปวัตรและปวิชสองพี่น้องก็อยู่ที่ตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่ได้ออกไปกับอารียา

รพีพงษ์ให้ครองภพจัดคนของลอบสังหารตรวจสอบรอบๆบริเวณรอบนอกของคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ อารียาเพิ่งออกไปได้ไม่ถึงสามสิบนาที แม้จะถูกคนจับไปจริงๆ ก็ไปได้ไม่ไกล

ในขณะที่รพีพงษ์กำลังร้อนรนอยู่นั้น มือถือเขาก็ดังขึ้น หยิบขึ้นมาดู อารียาโทรมา

เขารีบรับสาย แต่เสียงที่ดังมาจากทางนั้นไม่ใช่เสียงของอารียา แต่เป็นเสียงโทนต่ำของชายคนหนึ่ง

“รพีพงษ์ ติดต่อเมียมึงไม่ได้ น่าจะร้อนรอสินะ?”

“มึงเป็นใคร? ตอนนี้เมียกูอยู่ที่ไหน?” รพีพงษ์ถามอย่างเยือกเย็น

“มึงไม่ต้องรู้ว่ากูเป็นใคร แต่เมียมึงอยู่ในมือของกูจริง ถ้ามึงยังอยากได้ชีวิตของเมียมึงอยู่ รีบมาที่ชานเมืองเกียวโตภายในสามสิบนาที กูจะส่งโลเคชั่นให้ จำไว้ มาคนเดียว ถ้ามีมากกว่าหนึ่ง ก็จะแทงเมียมึง พูดจริงทำจริง” ชายเสียงโทนต่ำพูดขึ้นอีกครั้ง

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว แม้ไม่รู้ว่าอีกฝั่งเป็นใคร แต่เพื่อความปลอดภัยของอารียา เขาจึงได้ตอบตกลงคนนั้นไป

ไปคนเดียวก็ไม่เป็นไร รพีพงษ์ในตอนนี้ สามารถต่อกรกับคนเป็นพันได้อย่างง่ายดาย

หลังจากวางสายไม่นาน รพีพงษ์ได้รับโลเคชั่น รพีพงษ์ดู เป็นพื้นที่ว่างเปล่าชานเมืองเกียวโต พูดได้ว่าอีกพริบตาเดียวก็สามารถมองเห็นบ้านหลายหลังได้ในเวลาเดียวกัน

ที่คนนั้นนัดเจอในที่ไกลๆ น่าจะเพื่อกันรพีพงษ์เตรียมการให้คนซุ่มดูรอบๆ

รพีพงษ์ไม่ลังเล หลังจากที่รู้สถานที่ชัดเจนแล้ว ก็ไปที่โรงรถ แล้วขับรถอย่างเร็วไปที่ชานเมือง

หลังจากสามสิบนาทีผ่านไป รพีพงษได้มาถึงโลเคชั่นที่ปรากฏอยู่ ที่ไกลๆ รพีพงษ์ได้เห็นในหญ้า มีเงาของสองคน หนึ่งในนั้น คืออารียา อีกคนสวมชุดดำยาว มองไม่ออกว่าเป็นใคร

รพีพงษ์ขับรถไป ในขณะที่ห่างจากพวกเขาประมาณกี่ร้อยเมตร ก็ได้หยุดรถลง จากนั้นก็ลงจากรถ เดินไปยังที่ๆทั้งสองคนอยู่

เมื่อถึงเดินหน้าของทั้งคู่แล้ว รพีพงษ์เห็นอารียายืนอยู่กับที่ บนเรือนร่างไม่ได้ถูกมัดเชือกไว้ แต่ดูออกว่าเธอกลัวอย่างมาก ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว

ถ้าลงมือเลยล่ะก็ รพีพงษ์เชื่อมั่นว่าก่อนที่ชายชุดดำยาวจะรู้สึกตัวนั้น เขาได้แย่งอารียามาได้แล้ว

แต่อีกฝั่งต้องรู้ถึงฝีมือของรพีพงษ์อย่างแน่นอน แบบนี้เขายังกล้าทำ นั่นแสดงว่าต้องมีแบ็คอย่างแน่นอน

ดังนั้นตอนนี้เขาไม่กล้าวู่วาม

หลังจากที่ชายชุดดำยาวเห็นรพีพงษ์เดินมาถึงด้านหน้าของตัวเองแล้วนั้น ก็ได้หัวเราะออกมา แล้วกล่าว “ไม่คาดคิดว่าแกจะมาถึงเร็วขนาดนี้ รู้เลยว่าเมียแกสำคัญกับแกขนาดไหน ไม่ใช่สำคัญธรรมดานะเนี่ย”

รพีพงษ์ดูแคลน กล่าว “ไม่ว่าเป้าหมายมึงคืออะไร กูขอให้มึงปล่อยมึงกูโดยเร็ว มิเช่นนั้น กูจะให้มึงตายอย่างอนาจ”

ชายชุดดำยาวไม่ใส่ใจกับคำพูดของรพีพงษ์ ยิ้มพลางกล่าว “หยุดใช้คำพูดแบบนี้ขู่กูได้ล่ะ จะบอกให้นะ ตอนนี้เมียมึงได้กินยาพิษที่กูทำไว้แล้ว วิธีแก็มีแค่กูเท่านั้นที่รู้ กูรู้ว่ามึงเก่ง แม้ตอนนี้มึงจะลงมือกับกู ก็ต้านทานไม่ได้ แต่ถ้ามึงลงมือล่ะก็ ยาพิษที่เมียมึงกินไป ไม่มีใครแก็ได้แน่นอน”

รพีพงษ์โกรธแค้น ไม่แปลกที่ชายชุดดำยาวจะไม่เกรงกลัวใดๆ ที่แท้ก็ให้อารียากินยาพิษแล้ว

“มึงเป็นใครกันแน่? กูไม่เคยมีความแค้นกับมึง ทำไมมึงต้องทำเมียกู? มึงจับเมียกู เพื่อหวังจะได้อะไรจากกูงั้นหรอ?”

ชายชุดดำหัวเราะขึ้นมา จากนั้นก็มองไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “ถูก กูอยากได้ของบางอย่างจากมึง”

“อะไร?” รพีพงษ์ถาม

“ชีวิตมึง!” ชายชุดดำยาวกล่าวอย่างไม่ลังเล

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน