บทที่840 พ่ายแพ้
“ร……รพีพงษ์! ทำไมเขาอยู่ที่นี่ได้? หรือเขามาเพื่อฆ่าล้างบางตระกูลวัชรชัยของฉัน ดังนั้นจึงตั้งใจมาที่นี่? ตระกูลวัชรชัยตกอยู่ในสภาพแบบนี้ยังไม่พออีกหรือไง? เหี้ย ประเทศญี่ปุ่นก็อยู่ไม่ได้แล้ว มิเช่นนั้น รพีพงษ์คนเดียวก็ฆ่าคนของตระกูลวัชรชัยหมดแล้ว”
แวบเดียว ในสมองของบดีศวรผุดความคิดขึ้นมามากมาย ไม่หนีทันที ก็ถือว่ากล้ามากแล้ว
เหงื่อไหลออกมาตามหน้าผากของบดีศวร ในสมองว้าวุ่น กำลังครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
ถ้าจะต่อสู้กับรพีพงษ์นั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอน ไอ้เด็กนี่คือปีศาจที่ฆ่านายใหญ่ทั้งสี่ตระกูลได้ ตอนนี้เขาพาศิษย์หลายคนของตระกูลวัชรชัยมา ต่อสู้กับรพีพงษ์นั้นเป็นเรื่องที่ตลกมาก
แต่ถ้าเขาหนีไปแบบนี้ล่ะก็ เรื่องที่ร่วมมือทางการค้ากับตระกูลฮารุฮิ ก็พังลง
ขณะนี้รพีพงษ์สังเกตเห็นฮารุฮิ กันตะ เมื่อเขาเห็นบดีศวรยืนข้างๆฮารุฮิ กันตะ ก็ชะงัก ยังไงก็คิดไม่ถึง ว่าปรมาจารย์ที่ฮารุฮิ กันตะเรียกมานั้น คือคนที่เคยๆกันนี่เอง
ฝนสุดาและอุเอสึงิ ฮารุหันไปมองบดีศวร เห็นผู้เฒ่าผมขาว เหมือนกับจะเป็นยอดฝีมือ
“นี่เป็นปรมาจารย์ที่พี่ชายหามาหรอ? ดูๆไปก็เก่งกาจอยู่นะ แต่ทำไมสังเกตสายตาที่เขามองมาหาพวกเรา เต็มไปด้วยความกลัวล่ะ?” ฝนสุดากล่าวอย่างสงสัย
“เพราะ……คนนี้เคยแพ้ให้กับผม” รพีพงษ์ยิ้มพลางกล่าว
ฝนสุดาและอุเอสึงิ ฮารุมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความตะลึง ไม่คิดว่าผู้เฒ่าคนนั้น เคยแพ้รพีพงษ์มาก่อน
“นี่มันบังเอิญไปหรือเปล่าเนี่ย? งั้นคนนี้จนฉวยโอกาสนี้ สู้กับคุณชายอีกหรือเปล่า เพื่อพิสูจน์ฝีมือของตัวเอง?”
“สบายใจได้ เขาไม่กล้าขนาดนั้น ครั้งที่แล้วที่ผมชนะเขา พวกเขาให้สี่ปรมาจารย์มาพร้อมกัน ตอนนี้เขาแค่คนเดียว ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ เขากำลังคิดว่าจะหนียังไง” รพีพงษ์ยิ้มออกมาแล้วกล่าว
ฝนสุดาและอุเอสึงิ ฮารุตาโตอีกครั้ง มองไปที่รพีพงษ์อย่างคาดไม่ถึง ไม่เข้าใจว่าทำไมรพีพงษ์มักจะพูดให้คนตะลึงเสมอ
ฮารุฮิ กันตะเห็นบดีศวรยืนชะงักอยู่กับที่ ความสงสัยในใจได้ถึงขีดสุด เขาไม่เข้าใจไอ้ผู้ชายที่อยากเลียขาน้องสาวของเขา มันมีพลังอะไร แค่มอง ก็ทำให้คนหยุดอยู่กับที่ได้
“ปรมาจารย์บดีศวร คุณเป็นอะไร? มันแค่คนเดียวเองนะ ที่เหลือก็เป็นผู้หญิงสองคน คุณต่อสู้กับมันแค่คนเดียวก็พอแล้ว มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” ฮารุฮิ กันตะถามอย่างอดทน
บดีศวรตื่นเพราะคำพูดของ เพราะเมื่อกี้เขากลัวเกินไป จนเหม่อลอย
หลังจากที่หายจากอาการเหม่อลอยแล้ว บดีศวรก็กลืนน้ำลาย จากนั้นก็มองไปที่ฮาริฮุ กันตะ แล้วกล่าว “คุณชายฮารุฮิ กันตะต้องขอโทษจริงๆ พวกเราแก้ปัญหานี้ให้คุณไม่ได้จริงๆ เงินที่เราตกลงกันไว้พวกคุณก็ไม่ต้องให้แล้ว การร่วมมือของเราจบลงเท่านี้ก็แล้วกันคุณชายฮารุฮิ กันตะ ดูแลตัวเองดีๆ ถ้าหนีได้ ก็รีบหนีเถอะ”
พูดจบ บดีศวรก็รีบหันหลังหนีออกไปจากผับอย่างรวดเร็ว
หนีไปได้ครึ่งทาง เห็นศิษย์เหล่านั้นของตระกูลวัชรชัยยังยืนอยู่กับที่ บดีศวรก็รีบตะโกนว่า “พวกแกยังยืนบื้อทำไรอยู่ รีบวิ่งสิ!”
เหล่าลูกศิษย์ตระกูลวัชรชัย้เพิ่งจะรู้สึกตัว รีบวิ่งออกไปทางประตูผับอย่างเร็ว ไม่นาน บดีศวรและเหล่าลูกศิษย์ของตระกูลวัชรชัยก็หายไปจากผับ
ฮารุฮิ กันตะอ้างปากค้างดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้านหน้า ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลยแม้แต่น้อย ทำไมปรมาจารย์บดีศวรยังไม่ลงมือ ก็พาคนหนีแล้ว?
ไม่นาน ฮารุฮิ กันตะกัดฟัน แล้วด่า “ไอ้พวกสวะเอ้ย แบบนี้ยังมีหน้าเรียกตัวเองว่าปรมาจารย์อีก กูแม่งตาบอด เชื่อคำพูดหมาๆของพวกมึง!”
รพีพงษ์ยืนขึ้น เดินไปที่ฮารุฮะ กันตะ ยิ้มพลางกล่าว “ปรมาจารย์ที่แกเชิญมาล่ะ? อย่าบอกนะว่าเป็นคนที่เห็นฉันแว็บเดียวแล้วก็รีบหนีไปนั้น”
ฮารุฮิ กันตะอับอาย แต่ในฐานะที่เป็นคุณชายของตระกูลฮารุฮิ แม้สถานการณ์แบบนี้ เขาก็อ่อนแอไม่ได้ เขาบากหน้ามองรพีพงษ์ กล่าว “ดีใจให้น้อยๆหน่อย แกเอาน้องสาวฉันไป ตระกูลฮารุฮิของฉันไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่ แล้วน้องสาวฉันจะแต่งงานกับคนของตตระกูลอุเอสึงิแล้วด้วย ถ้าคนของตระกูลอุเอสึงิรู้เรื่องนี้ล่ะก็ ไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่ เตรียมตัวตายได้เลย!”
พูดจบ ฮารุฮิ กันตะวิ่งไปที่ประตูผับอย่างผวา กลัวว่ารพีพงษ์จะถีบเขาอีกครั้ง
ฝนสุดาและอุเอสึงิ ฮารุทั้งสองมองไปยังฮารุฮิ กันตะที่กระเซอะกระเซิง ก็อดหัวเราะไม่ได้
รพีพงษ์ยักไหล่ให้ หันหลังเดินกลับไปยังที่นั่ง แล้วนั่งลง
ฝนสุดาตื่นเต้น จนอยากที่จะเข้าไปกอดแทนคำขอบคุณ รพีพงษ์ยื่นมือออกมา แล้วขวางฝนสุดาไว้
ฝนสุดาเห็นรพีพงษ์ไม่เอาด้วย จึงเสียใจ แล้วพึมพำว่า “ไม่รู้จักฉวยโอกาสจริงๆ เค้าก็แค่อยากขอบคุณเท่านั้นเอง ขี้งก”
รพีพงษ์ไม่สนใจคำพูดของฝนสุดา นานมาแล้วที่ใช้ชีวิตด้วยกันกับฝนสุดา เขารู้นิสัยของฝนสุดาดี ถ้าเขาไม่ขวางไว้ หญิงคนนี้ที่อยู่ต่อหน้าเขา คงจะเหลิงไปตั้งนานแล้วล่ะ
“แต่ไม่ว่าจะยังไง เห็นพี่ชายฉันยอมแพ้ ฉันก็ดีใจสุดๆเลย ฉลองกันหน่อย หมดแก้ว”
ฝนสุดาพูดไป ก็เทเหล้าให้รพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุไป เป็นเหล้าพิเศษของผับนี้ แก้วเดียวฟุบ
รพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุต่างหยิบแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นมา ชนกับฝนสุดา จากนั้นก็หมดแก้วอย่างรวดเร็ว
เห็นพวกเขาทั้งสองดื่มเหล้าจนหมด ฝนสุดา ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมา
……
ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง
ที่อยู่ปัจจุบันของตระกูลวัชรชัย
หลังจากที่บดีศวรพาลูกศิษย์เหล่านั้นหนีมาที่นี่แล้วนั้น ก็รีบหายใจอย่างเร็ว แต่พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหยุดพัก รีบวิ่งเข้าไปในโรงแรม เรียกคนของตระกูลวัชรชัยออกมาทั้งหมด
ผู้คนของตระกูลวัชรชัยต่างมองบดีศวรอย่างไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องเรียกทุกคนออกมาดึกๆดื่นๆขนาดนี้
“รพีพงษ์ตามพวกเรามาประเทศญี่ปุ่นแล้ว แม้ไม่รู้ว่ามันมาด้วยเหตุผลอะไร ไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีแต่ต่อตระกูลวัชรชัยของเราแน่นอน พวกเราอยู่ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้อีกแล้ว ทุกคนรีบเก็บของ เราจะไปกันเดี๋ยวนี้” บดีศวรตะโกนออกมา
ทุกคนได้ยินรพีพงษ์ชื่อนี้ ก็ผวาขึ้นมา จากนั้นก็รีบไปที่ห้องเก็บข้าวเก็บของ
“พระเจ้า รพีพงษ์จะฆ่าล้างบางพวกเราจริงๆนะเนี่ย เพิ่งจะอยู่ประเทศญี่ปุ่นเอง ต้องหนีเอาตัวรอดอีกแล้วหรอเนี่ย นี่มันบ้าอะไรเนี่ย”