พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่864 ให้ฉันดูโทรศัพท์ของพี่

บทที่864 ให้ฉันดูโทรศัพท์ของพี่

บทที่864 ให้ฉันดูโทรศัพท์ของพี่

“อยู่ที่นี่”ธัชธรรมยิ้มให้หญิงสาวเล็กน้อย

“อาจารย์ของฉันให้ฉันมารับท่าน ตามฉันมาเถอะ”หญิงสาวพูดกับธัชธรรม

ธัชธรรมพยักหน้า และเดินไปหาหญิงสาว

เมื่อรพีพงษ์เห็น ก็เดินตามไป

หญิงสาวจ้องมองไปที่รพีพงศ์อย่างสงสัย เอ่ยปากถามว่า: “ผู้ชายคนนี้ เป็นลูกศิษย์ของท่านเหรอ?”

ธัชธรรมมองไปรพีพงษ์ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา จึงเอ่ยปากว่า: “ถือว่าใช่”

รพีพงษ์ก็ไม่อยากเสียเวลาไปอธิบาย จึงไม่ได้พูดอะไร

หญิงสาวเดินไปทางรพีพงษ์ แล้วเอ่ยปากกับธัชธรรมว่า: “ท่านเดินไปด้านหน้าก่อนเถอะ ก็คือภูเขาด้านหน้านั่น เดี๋ยวจะเห็นถนนเล็กๆ เดินไปตามถนนสายเล็กๆ ฉันจะถามเรื่องบางอย่างเขาอยู่ที่ด้านหลัง”

ธัชธรรมไม่ได้สนใจ และยังคงเดินไปด้านหน้า

รพีพงษ์มองไปที่หญิงสาวอย่างสงสัย ไม่รู้ว่าหล่อนต้องการจะถามเรื่องอะไรกับตัวเอง

ในขณะที่เดินไป หญิงสาวใช้น้ำเสียงกระซิบกระซาบ โน้นตัวไปที่ข้างหูรพีพงษ์ แล้วถาม: “ศิษย์พี่ พี่มีโทรศัพท์มือถือมั้ย?”

รพีพงษ์พยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้นพี่เอาโทรศัพท์ออกมาให้ฉันยืมดูได้มั้ย”หญิงสาวเอ่ยปาก

รพีพงษ์ก็ไม่รู้ว่าหล่อนต้องการจะทำอะไร เมื่อคิดว่าปกติแล้วตัวเองก็ใช้โทรศัพท์มือถือในการโทรศัพท์ ด้านในก็ไม่มีของอะไรที่ไม่สามารถให้คนอื่นดูได้ จึงหยิบโทรศัพท์ออกมา ยื่นให้หญิงสาว

หลังจากที่หญิงสาวรับมา ก็เริ่มเปิดดูโทรศัพท์ของรพีพงษ์ขึ้นมาทันที ผ่านไปครึ่งวัน คืนโทรศัพท์ให้รพีพงษ์ด้วยความหดหู่

“น่าแปลกจริงๆ โทรศัพท์ของพี่สะอาดขนาดนี้ ศิษย์พี่ไหนว่าโทรศัพท์มือถือของผู้ชายอย่างพวกพี่จะมีของแบบนั้นอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมในโทรศัพท์ของพี่ถึงไม่มีล่ะ?”หญิงสาวเหมือนกำลังถามรพีพงษ์ เอ่ยปากพูด

รพีพงษ์เต็มไปด้วยความสงสัย เอ่ยปากถาม: “ของอะไร?”

หญิงสาวจ้องมองไปที่ธัชธรรมที่เดินอยู่ด้านหน้าแวบหนึ่ง จากนั้นก็กระซิบบอกรพีพงษ์ว่า: “ก็คือวิดีโอแบบนั้น”

“วิดีโอแบบไหน?”ผู้ชายที่ตรงไปตรงมาอย่างรพีพงษ์ฟังความหมายในน้ำเสียงของหญิงสาวไม่เข้าใจ

เมื่อหญิงสาวเห็นรพีพงษ์ไม่เข้าใจความหมายแอบแฝง ก็พูดอย่างหมดคำพูดว่า: “ก็คือวิดีโอแบบที่ทั้งสองคนถอดเสื้อออกหมดแล้วต่อสู้กัน”

ความสงสัยบนใบหน้าของรพีพงษ์ยิ่งมากเข้าไปใหญ่ เอ่ยปากถามว่า: “ทำไมต่อสู้กันต้องถอดเสื้อผ้าออกหมดด้วย? แบบนี้ยังต่อสู้กันได้ลงคออีกเหรอ?”

เมื่อหญิงสาวได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ แทบจะระเบิดอารมณ์ในทันที ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้างแล้วกลอกตาไปมา มองไปที่รพีพงษ์ก็เหมือนกับมองสัตว์ประหลาด

ผู้ชายคนนี้ กลับฟังไม่เข้าใจในสิ่งที่หล่อนพูดคืออะไร

เดิมทีหล่อนคิดว่าหล่อนใช้ชีวิตอยู่บนภูเขา ไม่มีอินเทอร์เน็ต ใช้ชีวิตตัดขาดจากโลกภายนอก ก็ล้าสมัยมากพอแล้ว คาดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้จะล้าสมัยมากกว่าเขา แม้แต่คำพูดที่ชัดเจนตรงไปตรงมายังฟังไม่เข้าใจ

ใบหน้าของธัชธรรมที่เดินอยู่ด้านหน้าก็แสดงรอยยิ้มที่อธิบายไม่ได้ เห็นได้ชัดว่า คำพูดของทั้งสองคนเขาได้ยินทั้งหมด

ในฐานะชายชราอายุหนึ่งร้อยห้าสิบปีกว่า ธัชธรรมก็ยังก้าวทันตามยุคสมัย เขาเข้าใจคำพูดของหญิงสาว คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์กลับฟังไม่เข้าใจ

“พี่ไม่รู้จริงๆหรือแกล้งไม่รู้กันแน่ พี่แกล้งโง่ใส่ฉันหรือเปล่า?”หญิงสาวจ้องมองไปที่รพีพงษ์แล้ว

รพีพงษ์เพียงแค่รู้สึกแปลกๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงได้กลายเป็นแกล้งโง่ไปได้

“ช่างเถอะช่างเถอะ พี่เป็นคนที่น่าเบื่อจริงๆ คิดว่าผู้ชายที่มาจะเข้าใจรู้งาน คาดไม่ถึงกลับเป็นคนโง่ ดูเหมือนยังต้องไปหาศิษย์พี่ ยืมแท็บเล็ตของเขามาดู”หญิงสาวพึมพำ

หลังจากนั้นหล่อนก็รีบเดินไปด้านหน้า โดยที่ไม่สนใจรพีพงษ์อีก

หญิงสาวมีชื่อว่าณีรนุช เป็นลูกศิษย์ของเพื่อนเก่าที่ธัชธรรมต้องการจะพบ เพราะอุปนิสัยเป็นเหตุ ณีรนุชอยู่ในบรรดาผู้หญิง ถือได้ว่า“เสรีอิสระ”มากกว่า

แต่ถูกจำกัดเพียงความคิด หล่อนหมกมุ่นอยู่กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องระหว่างชายหญิง และมีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับร่างกายของเพศตรงข้ามเป็นอย่างมาก แต่ยังคงรักษาร่างกายที่บริสุทธิ์มานานกว่ายี่สิบปี เรียกได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์

เนื่องจากได้ยินมาจากศิษย์พี่ว่าในโทรศัพท์ของผู้ชายจะมีวิดีโอที่ดูแล้วจะทำให้คนหน้าแดง ดังนั้นตอนที่หล่อนเห็นรพีพงษ์ จึงอยากดูโทรศัพท์ของเขา ดูว่ามีวิดีโอแบบนั้นมั้ย

เพราะตอนนั้นบังเอิญเห็นภาพที่ไม่สามารถพรรณนาได้บนแท็บเล็ตของศิษย์พี่ ณีรนุชยังคงมีร่องรอยของการโหยหาภาพแบบนั้น แต่ในเวลานั้นเพราะดูไปแวบเดียวหน้าก็แดง การเต้นของหัวใจเร็วขึ้น ต่อมาไม่กล้าดูอีก ดังนั้นหล่อนก็มีความรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง

ต่อมาหล่อนอยากจะหาศิษย์พี่เพื่อขอแท็บเล็ตไปดู แต่ศิษย์กังวลว่าหล่อนจะทำเรื่องอะไรไม่ดีกับแท็บเล็ต จึงไม่ยอมให้หล่อนดูมาโดยตลอด

ดังนั้นณีรนุชมีความอยากรู้อยากเห็นกับวิดีโอแบบนี้มาก และเมื่อเจอกับรพีพงษ์ จึงได้ขอโทรศัพท์มือถือกับเขา

รพีพงษ์ก็ใช้เวลาสักพัก ถึงได้เข้าใจว่าวิดีโอที่ณีรนุชบอกมาถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้วต่อสู้กันคืออะไร บนใบหน้าก็ปรากฏความกระอักกระอ่วนขึ้นมาในทันที

ในเวลานั้นความสนใจของเขามุ่งเน้นไปที่การต่อสู้ ดังนั้นจึงไม่เข้าใจว่าทำไม่ทุกคนยังต้องถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด ตอนนี้ถึงได้รู้วิดีโอแบบนั้นที่ณีรนุชบอก

สิ่งเดียวที่ทำให้เขาไม่เข้าใจคือ หญิงสาวคนหนึ่งเพิ่งเจอกับคนอื่นเป็นครั้งแรก ก็อยากจะดูว่าโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายมีวิดีโอแบบนั้นมั้ย สิ่งนี้ทำให้รู้สึกน่าเหลือเชื่อจริงๆ

ทางที่ณีรนุชนำพาทั้งสองคนเดินไป ไม่ใช่ภูเขาลูกนั้นในจุดชมวิว แต่เป็นภูเขาอีกลูกที่อยู่ริมจุดชมวิวที่มีความสูงเท่ากัน แต่ยังเป็นภูเขาที่ไม่ได้รับการพัฒนา

ภูเขาลูกนี้มีเพียงถนนสายเล็กๆ ทั้งสามคนก็เดินตามถนนสายเล็กๆ ณีรนุชหันหน้ามองไปที่รพีพงษ์เป็นครั้งเป็นคราว ในแววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความโกรธ

รพีพงษ์ถึงกับงง คาดไม่ถึงในโทรศัพท์ของตัวเองไม่มีวิดีโอแบบนั้น ก็สามารถสร้างความโกรธให้กับคนอื่นได้

ในขณะเดียวกันในใจของเขาก็ทอดถอนหายใจ โลกใหญ่ไพศาลเรื่องที่คาดไม่ถึงก็มีมากมายจริงๆ จิตใจของหญิงสาวก็แตกต่างกันเป็นพิเศษ ถ้าตอนนั้นรพีพงศ์เจออุเอสึงิ ฮารุก็ให้หล่อนดูวิดีโอในโทรศัพท์ของตัวเอง อุเอสึงิ ฮารุคงจะถือว่าเขาเป็นคนจิตรวิปริต

แต่ณีรนุชรู้สึกว่าในโทรศัพท์ของเขาไม่มีวิดีโอแบบนี้ ถึงจะเป็นคนจิตวิปริต

หลังจากนั้นไม่นาน ถนนใต้เท้าของทั้งสามคนก็กลายเป็นกว้างขึ้นมาก รพีพงษ์มองเห็นตำแหน่งไหล่เขาอยู่ไม่ไกล ปรากฏวิลล่าหนึ่งเขา หลังคาทรงจีนเรียงรายมากมาย อยู่บนภูเขาที่รกร้าง กลับกลายเป็นทิวทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร

คาดไม่ถึงว่าเพื่อนเก่าคนนั้นของธัชธรรมกลับสร้างวิลล่าอยู่บนภูเขาแห่งนี้จริงๆ ความสบายใจแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถเพลิดเพลินได้

ในไม่ช้า ทั้งสามคนก็มาถึงประตูวิลล่า ณีรนุชเดินเข้าไป เคาะประตู ไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู แม้ว่าจะเป็นภูเขาที่รกร้าง แต่คนรับใช้ในวิลล่าก็พร้อมใช้งานทั้งหมด

หลังจากที่เข้าไปในวิลล่า รพีพงษ์อยากจะเข้าห้องน้ำ จึงเอ่ยปากถามว่า: “ห้องน้ำอยู่ที่ไหน?”

ดวงตาของณีรนุชเปล่งประกาย หลังจากที่จ้องมองรพีพงษ์ไปแวบหนึ่ง บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วถาม: “พี่อยากเข้าห้องน้ำเหรอ? ฉันพาพี่ไปเอง”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท