พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่878 พวกคุณเชิญผมมาเองนะ

บทที่878 พวกคุณเชิญผมมาเองนะ

บทที่878 พวกคุณเชิญผมมาเองนะ

“เด็กน้อย แกรู้หรือเปล่าว่าแกกำลังพูดกับใครอยู่? แล้วฉันไปเป็นสิทธิ์พิเศษตั้งแต่เมื่อไหร่? แกมีสิทธิ์พูดแบบนี้กับฉันหรอ?” หงส์ตะคอกใส่รพีพงษ์

รพีพงษ์บึนปาก แล้วกล่าว “ทำไม ผมพูดไม่ถูกหรือไง? ผมไม่เช็ดรองเท้าให้คุณ คุณก็ไม่ให้ผมเข้ากลุ่มสิงโต คุณใช้อำนาจในมือมาตอบสนองความต้องการของตัวเอง ยังไม่ถือเป็นสิทธิ์พิเศษอีกหรอ?”

หงส์ได้ยินแล้วโมโหสุดๆ เธอเพียงแค่อยากลองใจรพีพงษ์เท่านั้น ไม่คาดคิดว่าจะถูกรพีพงษ์ว่ากล่าวรุนแรงขนาดนี้ โมโหจนเธอต้องกำหมัดขึ้น

“แกไอ้งั่ง ฉันแค่……ชิ ไม่คิดว่าแกจะเล่นลิ้นได้ขนาดนี้ ฉันมองข้ามแกไปจริงๆ” ความจริงหงส์อยากพูดความคิดของตัวเอง แต่ไม่นานก็เปลี่ยนคำพูด

“ผมไม่ได้เล่นลิ้น ก็แค่พูดเรื่องจริง” รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ

พรดรัลและหลายๆคนนมองรพีพงษ์อย่างตะลึง รู้สึกว่าที่รพีพงษ์กล้าพูดกับหงส์แบบนี้ รนหาที่ตายชัดๆ

หงส์ดูแคลน แล้วกล่าว “งั้นฉันถามแกหน่อยนะ แกเอาป้ายแรกเข้าของกลุ่มสิงโตมาได้ไง? ผ่านการทดสอบอะไรมา?”

รพีพงษ์ได้ยินคำถามนี้ของหงส์ ก็ชะงัก ป้ายแรกเข้าธัชธรรมเป็นคนให้เขามา ถ้าเป็นการทดสอบล่ะก็ ไม่มีการทดสอบจริง เพราะธัชธรรมเป็นคนให้เขาเข้าร่วมกลุ่มสิงโตเอง

“ไม่มีการทดสอบ ผู้อาวุโสให้ผมมา” รพีพงษ์ตอบ

หฃส์เหมือนจับไต๋ของรพีพงษ์ได้ ก็ดูแคลนออกมา แล้วกล่าว “ไม่คาดคิดว่าฉันจะเดาถูก ฉันว่าแล้วว่าแกดูไม่มีอะไรโดดเด่นจะเข้าร่วมกลุ่มสิงโตได้ไงกัน แกใช้เส้นสายเข้ากลุ่มยังกล้าพูดว่าฉันมีสิทธิ์พิเศษอีก? เมื่อกี๊ฉันก็แค่ลองใจแกก็เท่านั้น”

“ไม่คิดว่าแกไม่ใช่แค่ใช้เส้นสาย แต่ยังสำคัญตัวผิดอีกด้วย ตลกชะมัด! วันนี้ฉันอยู่ที่นี่ ไม่ว่าแกจะมีเส้นสายกับท่านใดในกลุ่มสิงโต ฉันก็ไม่มีทางให้แกเข้าร่วมกลุ่มสิงโตแน่นอน!”

รพีพงษ์มองไปที่หงส์อย่างเบื่อหน่าย ไม่คิดว่าเธอจะนึกว่าตนใช้เส้นสายเข้ามา

“พวกคุณกลุ่มสิงโตให้ผมมา แล้วผมจะใช้เส้นสายได้ไงกัน?” รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ

หลังจากที่หงส์ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ก็เหยียดหยามขึ้นมา แล้วกล่าว “ฝีมือกลุ่มสิงโตของฉันแกไม่เคยได้ยินมาก่อนหรอ? ทำไมเราต้องเชิญคนธรรมดาอย่างแกเข้าร่วมกลุ่มสิงโตด้วย แม้จะเป็นคำโกหก แต่ก็ช่วยใช้สมองหน่อยได้ไหม”

พรดรัลและคนอื่นก็ชะงักกับคำพูดของรพีพงษ์เช่นกัน ที่พวกเขามากลุ่มสิงโตนี้ได้ แม้จะพูดว่าเป็นคำเชิญของกลุ่มสิงโต แต่ก็ต้องผ่านบททดสอบอย่างหนักหน่วงมาเช่นกัน ถึงจะมีสิทธิ์มาที่นี่ได้ ถ้าพูดว่ากลุ่มสิงโตเชิญคนอื่นเข้ามาร่วมกลุ่ม นี่มันก็ตลกไป

“น้องชาย คุณถูกหงส์หลอกเข้าให้แล้วล่ะ รีบขอโทษเถอะ ทำแบบนี้ไม่มีอะไรดีต่อตัวเองหรอกนะ” พรดรัลดูรพีพงษ์แล้วกล่าว

รพีพงษ์ดูแคลน แล้วกล่าว “ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ไปถามเจ้าสำนักได้นะ ผมไม่ได้น่าเบื่อถึงขนาดที่เอาเรื่องนี้มาเล่นตลกกับคุณ”

หงส์ไม่เชื่อ แล้วไอ้นี่ยังให้เธอไปถามเจ้าสำนักอีก ไร้สาระสิ้นดี เจ้าสำนักบุคคลระดับนั้น ไม่ใช่อยากเจอแล้วจะเจอได้

“ฉันไม่สนว่าแกจะล้อเล่นหรือไม่ ในเมื่อแกมั่นใจว่าตัวเองถูกเชิญมา งั้นฉันจะดูว่าแกจะอดทนได้มากขนาดไหน กล้าพูดแบบนี้ เดี๋ยวแกกล้าขึ้นเวทีประลองกับฉันสักยกไหม?”

รพีพงษ์บึนปาก กล่าว “ทำไมจะไม่กล้า”

คนของกลุ่มสิงโตคนนี้กล้าดูถูกตน ถ้าไม่ใช่เพราะยังไม่ได้หยกโยงจิต รพีพงษ์ออกไปตั้งนานแล้ว

แต่ในเมื่อหงส์บอกว่าให้ขึ้นเวทีต่อสู้กับเขา รพีพงษ์ก็ไม่ถือสา ถึงเวลานั้นหงส์ก็จะได้รู้ว่าตนเองไม่ได้พึ่งเส้นสายเข้ามา

เห็นรพีพงษ์ตอบตกลง หงส์ก็กระตือรือร้นที่จะลอง เธอไม่ชอบพวกที่ความจริงไม่มีความสามารถ แต่กลับอวดเก่ง ในเมื่อรพีพงษ์ตอบตกลงจะขึ้นสู้กับเธอ งั้นเธอก็จะจัดการรพีพงษ์ให้สาสม

พรดรัลและคนอื่นๆเห็นรพีพงษ์ตกลงรับคำท้ายของหงส์ ชั่งไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจริงๆ

“ไอ้เด็กนี่นี่มันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ แม้ฝีมือของหงส์ฉันอาจจะไม่ชนะ เขาเด็กธรรมดาคนหนึ่ง แล้วจจะมีสิทธิ์ต่อกรกับหงษ์ได้ยังไง นี่มันหารนหาที่ตายชัดๆ” พรดรัลพึมพำ

ผ่านไปไม่นาน คนนั้นที่อยู่บนเวทีผ่านการทดสอบ ลงมาจากเวที

หงส์เดินขึ้นเวที แล้วเหลือบมองรพีพงษ์

รพีพงษ์ไม่ลังเล เดินตามเวทีขึ้นไป

พรดรัลมองทั้งสองบนเวที ในปากก็ส่งเสียงเหยียดหยาม แล้วกล่าว “คิดไม่ถึงว่าความกล้าของเด็กคนนี้มันเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ยังกล้ายั่วโมโหหงส์อีก วันนี้เขาโชคร้ายแล้วล่ะ”

“ท่านพรดรัล หงส์ผู้ยิ่งใหญ่คือใครกัน ผมรับรู้ได้ถึงพลังที่เก่งกาจในตัวของเธอ แล้วยังเป็นหญิงสาวอีก ทำให้รู้สึกไม่ธรรมดาเลยทีเดียว” คนข้างๆถามขึ้นมา

“ข่าวลือมาว่ากลุ่มสิงโตมีมังกรพยัคฆ์เต่าหงส์ยอดฝีมือสี่คน ฝีมือของทั้งสี่ ไปถึงขั้นที่คนทั่วไปคิดไม่ถึงแล้ว และหงส์ เป็นหนึ่งในสี่ที่ฝีมือด้อยและอายุน้อยที่สุด”

“อย่ามองว่าหนึ่งในสี่คนฝีมือเธอด้อยสุด แต่อายุของเธออายุยังไม่ถึงสามสิบนะ คนที่เก่งกาจอันดับต้นๆของกลุ่มสิงโต ฝีมือเขาในตอนนี้ น่าจะเป็นแดนปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้ว ห่างจากแดนด้านบน อีกนิดเดียวเท่านั้น”

“แม้จะพูดว่าฉันเป็นแดนปรมาจารย์ขั้นสูงสุด แต่ถ้าให้ฉันประลองกับหงส์ เปอร์เซ็นต์ที่จะชนะเธอ ไม่ถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์”

พรดรัลเล่าให้กับทุกคนฟังถึงเรื่องที่ตัวเองได้ยินมาเกี่ยวกับยอดฝีมือทั้งสี่ของกลุ่มสิงโต

หลังจากที่ทั้งสามได้ยินคำพูดของพรดรัลแล้ว ก็ตะลึง คิดไม่ถึงว่าหญิงสาววัยละอ่อนอยู่ที่ต่อหน้าพวกเขาจะเก่งกาจขนาดนี้

“ดูๆไป เด็กนี่โชคร้ายแล้วล่ะ” หลายๆคนมองรพีพงษ์อย่างมีความสุข

บนเวทีประลอง รพีพงษ์และหงส์อยู่ตรงข้ามกัน หงส์ไม่ใส่ใจรพีพงษ์ คิดว่าตัวเองใช้ไม่กี่ท่าก็ทำให้รพีพงษ์ล้มลงกับพื้นได้แล้ว

แน่นอน ว่าตอนนี้รพีพงษ์ก็คิดเหมือนกับหงส์ เขาก็สามารถทำให้หงส์ล้มลงกับพื้นได้ภายในไม่กี่ท่า

“เด็กน้อย ถ้าวันนี้แกสามารถทนกับท่าฉันได้สิบท่า ฉันจะกลืนน้ำลายตัวเองให้แกเข้าร่วมกลุ่มสิงโต แต่ถ้ายืนหยัดไม่ได้ แกก็ไสหัวไปซะ!” หงส์ดูแคลน

รพีพงษ์ยืนมือหนึ่งไปให้หงส์ แล้วชูสามนิ้ว

“สามท่า ถ้าคุณยังยืนอยู่บนเวทีได้ ผมจะไปเอง”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท