พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่888 สิ่งแวดล้อมดี

บทที่888 สิ่งแวดล้อมดี

บทที่888 สิ่งแวดล้อมดี

รพีพงษ์นั่งอยู่บนหินอยู่นาน จนรอธัชธรรมไม่ได้ จึงทำได้แค่จากไป

ขณะที่เขากำลังจะจากไปนั้น มีความรู้สึกเบาๆผ่านตัวเขาไป รพีพงษ์ที่เซ็นซิทีฟกับบรรยากาศรอบข้างก็มองไปรอบๆ แต่กลับไม่พบอะไร

เขาสงสัย เขามั่นใจว่าเมื่อกี๊เขาไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง แต่ที่นี่มีเพียงเขาแค่คนเดียว แม้แต่ลมก็ไม่มี นี่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจอย่างมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ความรู้สึกนั้นเหมือนมีอะไรบางอย่างผ่านตัวเขาไป รพีพงษ์รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนไป

“หรือในกลุ่มสิงโตมีพลังงานบางอย่างที่เล่าขานกันมาช้านานจริงๆ?” รพีพงษ์พูดกับตัวเอง

จากการที่ดูเว็บไซต์ของกลุ่มสิงโต รพีพงษ์ได้เข้าใจในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าพลังควบคุมคนได้ ดังนั้นจึงเกิดความสงสัยนี้ขึ้นมา

แต่เขาไม่ได้ใส่ใจมากนัก โดยตัวของเทือกเขาคุนหลุนเองก็เต็มไปด้วยความลี้ลับอยู่แล้ว เกิดเรื่องที่อธิบายไม่ได้สักครั้งสองครั้งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ไม่ได้คิดอะไรต่อ รพีพงษ์ก็เดินลงจากเขาไป ที่เขามาหาธัชธรรมก็เพียงแค่จะกล่าวลาเท่านั้น ไม่เจอก็ไม่เป็นไร ยังไงตอนนี้เขาก็ถือว่าเข้าร่วมกลุ่มสิงโตแล้ว วันข้างหน้าถ้าอยากเจอกับธีรธรรม ก็ยังมีโอกาสอีกเยอะ

หลังจากที่รพีพงษ์ลงจากเขาไปแล้วไม่นาน ในถ้ำ บริพันธ์ที่ได้ใช้ไม้เทพแดงฟื้นฟูพลังของตัวเองก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย

“คิดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะมีจิตวิญญาณเทพโดยกำเนิด นี่หาได้ยากนะ ฉันก็แค่ใช้จิตสัมผัสเขาเท่านั้น ก็ถูกเขาจับได้แล้ว วิญญาณของเขายังคงหลับใหลอยู่ ถ้าวิญญาณตื่นขึ้นเมื่อไหร่ เด็กคนนี้จะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดในโลก” บริพันธ์พึมพำ

ธัชธรรมได้ยินบริพันธ์พูดกับตัวเอง จึงมองเขา แล้วถาม “อาจารย์ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?”

บริพันธ์ยิ้ม ไม่ตอบอะไรธัชธรรม แต่ในกำแพงหิน ปรากฏลักษณะคล้ายคน นั่นคือรพีพงษ์

“คนนี้เป็นคนที่แกหามาเพื่อเป็นผู้สืบทอดใช่มั้ย?” บริพันธ์ถาม

ธัชธรรมพยักหน้า ถามอย่างสงสัยว่า “อาจารย์รู้ได้ยังไงว่าเป็นเขา?”

“เมื่อกี๊เขามาหาแกแล้ว แต่ไม่เจอแก จึงได้ลงเขาไป” บริพันธ์ตอบ

ธัชธรรมพยักหน้า กล่าว “แสดงว่าเขาคุ้นเคยกับกลุ่มสิงโตแล้ว ที่มาหาผมน่าจะเป็นเพราะมาบอกลา พรสวรรค์ของศิษย์คนนี้ดีเลิศ และมีความสามารถ ไม่จำเป็นต้องให้ผมแนะนำอะไร สิ่งที่ผมให้เขาได้ ก็มีเพียงการสนับสนุน แต่เขาเพียงเข้ากลุ่ม ผมไม่สามารถทำอะไรออกหน้าออกตาได้ รอให้เขาทำภารกิจสำเร็จก่อน แล้วผมค่อยให้ของพัฒนาความสามารถเขา”

“แม้พรสวรรค์ของเด็กคนนี้ใครก็เทียบไม่ได้ แต่แดนเทพก็ยากอยู่ดี ไม่รู้ว่าก่อนที่อาจารย์จะสลาย เด็กคนนี้จะเป็นแดนเทพได้หรือไม่”

พูดจบ ธัชธรรมก็ถอนหายใจ

บริพันธ์ยิ้ม แล้วกล่าว “ไว้ใจได้ เด็กคนนี้เก่งกว่าที่แกคิดไว้ เขามีสิ่งแวดล้อมที่ดี ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด อยากเป็นแดนเทพ ไม่ยากเลย”

ธัชธรรมชะงัก คิดไม่ถึงว่าอาจารย์ของตัวเองจะชมรพีพงษ์ได้ขนาดนี้ พรสวรรค์ของเขาในตอนนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับรพีพงษ์มาก ก็ยี่สิบกว่าปีเป็นแดนดั่งเทพเช่นกัน แต่เมื่อผ่านไปร้อยปี ก็ยังคงหยุดไว้ที่แดนเทพ

ไม่รู้ว่าทำไมอาจารย์ถึงได้มีความหวังกับรพีพงษ์มากขนาดนี้

บริพันธ์ยิ้มแต่ไม่ตอบ การเป็นแดนเทพถือเป็นข้อเรียกร้องหลัก ในการถอดวิญญาณ แต่รพีพงษ์มีจิตวิญญาณเทพโดยกำเนิด เพียงแค่เจอกับอุปสรรค วิญญาณจะตื่น แค่นี้ก็ได้แล้ว

ดังนั้นเขาจึงได้บอกว่ารพีพงษ์มีสิ่งแวดล้อมที่ดี

แต่เขาก็ไม่กล้าพูดเกินไป เพราะการถอดวิญญาณถือเป็นข้อเรียกร้องหลักที่จะเป็นแดนดั่งเทพ นอกจากข้อนี้ ยังต้องเจอกับอุปสรรคอีกมาก มีจิตวิญญาณเทพโดยกำเนิด ไม่ได้หมายถึงรพีพงษ์จะเป็นแดนเทพได้แน่นอน

แต่ก็ยังมีโอกาส สำหรับบริพันธ์ นี่ก็พอแล้ว

ที่เขายืนหยัดมาหลายปี จะได้ไม่เสียเปล่า

……

หลังจากที่กลับเข้าห้องแล้ว รพีพงษ์หยิบของของตัวเองขึ้นมา จากนั้นก็ออกไปที่จุดลงทะเบียนของกลุ่มสิงโต เขาต้องลงทะเบียนก่อน จึงจะออกจากที่นี่ได้

ระหว่างทางเขานึกถึงความรู้สึกตอนที่อยู่บนเขาเมื่อกี๊ ในเว็บของกลุ่มสิงโต รพีพงษ์รู้ว่ามีคนใช้พลังจิต ทำเรื่องที่คนทั่วไปคิดไม่ถึงได้ เช่น ขยับของผ่านจิต ควบคุมจิตใจเป็นต้น

คนปกติมักเรียกสิ่งนี้ว่าความสามารถเฉพาะตัว เมื่อก่อนรพีพงษ์คิดว่าเรื่องแบบนี้มีแค่ในละครเท่านั้น หลังจากที่เห็นข้อมูลพวกนี้บนเว็บไซต์ของกลุ่มสิงโต จึงได้รู้ว่ามีคนแบบนี้อยู่บนโลกนี้ด้วย

เขาคิดมาตลอดว่าจิตของเขาต่างจากคนปกติ แม้จะไม่สามารถขยับของผ่านจิตได้ แต่สมองเขาแล่นอย่างรวดเร็ว และเซ็นซิทีฟ แล้วยังความจำดี ดังนั้นเขาจึงสามารถทำอะไรที่คนทั่วไปทำไม่ได้ตั้งแต่ยังวัยรุ่น

“บางทีตัวเองก็มีความสามารถเฉพาะตัว แต่ความสามารถเฉพาะตัวนี้มันค่อนข้างธรรมดา เพียงแค่ทำให้การเรียนรู้ของเขาดีขึ้น” เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ รพีพงษ์ก็อดยิ้มไม่ได้

ผ่านไปไม่นาน รพีพงษ์เดินมาถึงจุดลงทะเบียน เคาะประตูเบาๆ แล้วเดินเข้าไปด้านใน

ตอนที่เข้าไปในห้อง รพีพงษ์ได้สบตากับคนที่อยู่ด้านใน รู้สึกอุณหภูมิห้องเริ่มลดลง

คนนั้นที่รับผิดชอบเรื่องลงทะเบียน ก็คือหงส์ที่เกือบถูกรุ่นพี่ทั้งสามบังคับให้นัดดูตัวกับรพีพงษ์

หลังจากที่หงส์เห็นรพีพงษ์แล้วนั้น ก็อึดอัด ดังนั้นตอนนี้คนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุด ก็คือรพีพงษ์

“แก……แกมาทำอะไร?” หงส์ถาม

“อ๋อ ผมจะไปจากที่นี่ ดังนั้นจึงมาลงทะเบียน” รพีพงษ์ตอบ

หงส์ถอนหายใจ ตอนแรกคิดว่าตั้งใจมาหาเธอ

“แกจะไปไหน?” หงส์ถาม

“เกียวโต”

“โอเคฉันรู้แล้ว ฉันจะลงทะเบียนให้ แกไปเถอะ” หงส์รีบกล่าว ตอนนี้ถ้าเธอไม่คุยกับรพีพงษ์ได้ ก็จะไม่คุย มิเช่นนั้นรุ่นพี่ทั้งสามของเธออาจจะพูดคุยกันเรื่องของเธอได้

รพีพงษ์เห็นหงส์มีความสุข ก็ประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร หันหลังแล้วจากไป

เห็นรพีพงษ์จากไป หงส์ก็โล่งอก

“สุดท้ายมันก็ไปเสียที ต่อไปไม่ต้องอึดอัดอีกแล้ว รุ่นพี่ทั้งสามคิดว่าฉันวัวแก่กินหญ้าอ่อน น่าเบื่อจริงๆ” หงส์พึมพำกับตัวเอง

เพิ่งพูดจบ เธอก็ได้รับข้อความหนึ่งฉบับ เป็นคำสั่งจากกลุ่มสิงโต

“ข้างๆเมืองเกียวโตปรากฏเรื่องการก่ออาชญากรรมทางจิต กรุณารีบไปเกียวโตโดยด่วน จัดการกับเรื่องนี้”

เห็น“เกียวโต”สองคำนี้ ก็ครุ่นคิดอยู่นาน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน