พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่902 ผมดูเหมือนไม่น่าเชื่อถือหรอ

บทที่902 ผมดูเหมือนไม่น่าเชื่อถือหรอ

บทที่902 ผมดูเหมือนไม่น่าเชื่อถือหรอ

ฟังหงส์พูดถึงจุดนี้ รพีพงษ์ก็มองหงส์อย่างแปลกใจ จากคำพูดของหงส์ ทัดธนนี้ได้ใช้การควบคุมจิตใจข่มขืนหญิงสาว ความสวยของหงส์ก็เข้าขั้น ถ้าทัดธนสามารถควบคุมหงส์ได้ ทำอะไร ไม่ต้องพูดก็คงจะรู้ได้

“ดังนั้นคุณเสียตัวแล้ว?” รพีพงษ์ถาม

หงส์ได้ยินคำถามของรพีพงษ์ ก็หน้าซีด หันไปมองรพีพงษ์ กัดฟันแล้วกล่าว “คุณพูดให้มันดีๆหน่อยได้มั้ย ไม่ว่าจะยังไงฉันก็เป็นแดนปรมาจารย์ขั้นสูงสุดนะ? แม้ทัดธนจะสะกดจิตฉัน แต่สะกดไม่ได้นาน มันก็รู้ ว่าถ้ามันจะทำอะไรฉัน เกรงว่ามันยังไม่ถอดกางเกง ฉันก็จะทำให้มันเป็นขันทีไปแล้วล่ะ”

อารียาก็มองไปหารพีพงษ์อย่างประหลาดใจ รู้สึกว่าคำถามนี้ของรพีพงษ์ถามได้ตรงเกินไป แม้เมื่อกี้เธอได้ยินหงส์พูดถึงทัดธน ก็รู็สึกว่าน่าจะเกิดเรื่องอะไรไม่ได้ขึ้น แต่ก็ไม่มีทางพูดออกมาอย่างรพีพงษ์

“ขอโทษนะ ฉันคิดมากไปเอง”รพีพงษ์มองหงส์ด้วยความรู้สึกผิด เพราะตอนที่อยู่ที่กลุ่มสิงโตต่างคนก็ต่างโมโหใส่กัน ดังนั้นจึงพูดไปตามธรรมชาติ

หงส์ไม่ได้สนใจรพีพงษ์ แล้วพูดต่อว่า “ทัดธนรู้ถึงตัวตนที่พิเศษของฉัน แม้เขาจะสะกดจิตฉันระยะสั้น ก็ไม่กล้าทำอะไรฉัน แต่เขาฉวยโอกาสเวลานั้นเอาของบนตัวฉันไปจนหมด ไม่เหลือเงินไว้ให้ฉันแม้แต่น้อย พอฉันได้สติกลับคืนมา พบว่าตัวเองได้อยู่ด้านหน้าของตระกูลปิยศักดิ์แล้ว”

“ตอนแรกฉันคิดว่าจะกลับเข้าไปฆ่า แต่พลังจิตของทัดธนชั่งน่าแปลกประหลาดยิ่งนัก ฉันรับมือไม่อยู่ แม้จะกลับไปฆ่า ก็จะต้องตกหลุมพรางของเขาอีก แล้วเขาก็รู้กลุ่มสิงโต แต่ไม่รู้ถึงความน่ากลัวของกลุ่มสิงโต ครั้งแรกเขาเห็นแก่กลุ่มสิงโตจึงปล่อยฉันมา แต่ถ้าครั้งที่สองก็ไม่มั่นใจ”

“ดังนั้นฉันจึงต้องอดกลั้นความวู่วาม สงบสติอารมณ์ ไตร่ตรองให้แน่ชัดก่อนว่าจะต่อกรกับมันยังไง”

“แต่ฉันหมดตัว แม้แต่เงินกินนอนยังไม่มี คนที่มาทำภารกิจที่เกียวโตของกลุ่มสิงโตก็มีจำนวนน้อย ฉันไม่มีมือถือ ติดต่ออะไรไม่ได้ ต่อมายืมมือถือคนอื่นโทรหาศิษย์พี่หลายๆคน ช่วงนี้พวกเขาไม่สามารถมาช่วยฉันได้ พวกเขาบอกว่าคุณอยู่เกียวโต ให้ฉันมาหาคุณ”

“ฉันหิวมาสองวัน นอนที่หลุมของสะพาน ไม่มีทางออกจริงๆ จึงได้ถามที่อยู่ของตระกูลลัดดาวัลย์ แล้วมาหาคุณ”

พูดจนจบ หงส์ก็รู้สึกเสียเปรียบ คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายเธอก็หนีไม่พ้นความช่วยเหลือของรพีพงษ์ นี่ทำให้เธอรู้สึกเสียหน้า เพราะตอนนั้นท่าทีของเธอที่มีต่อรพีพงษ์ค่อนข้างแข็งกระด้าง

“งั้นทำไมคุณไม่มาหาผมตั้งแต่แรก ต้องหิวสองวันก่อน?” รพีพงษ์ถามอย่างสงสัย

หงสักตาอย่างโมโหไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “เพราะศักดิ์ศรี พอใจหรือยัง ฉันในตอนนี้ ก็เสียหน้ามากพอแล้ว คุณยังจะถามคำถามนี้อีก ฉันว่าคุณตั้งใจแล้วล่ะ”

อารียารีบปลอบประโลมหงส์ ว่ารพีพงษ์ที่พูดจาไม่เข้าหู ให้หงส์อย่าถือสาเขา

รพีพงษ์ไม่คิดแบบนี้ เพียงแค่มีความสงสัยเกิดขึ้นจริงๆ ไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้น ตอนนี้เห็นปฏิกิริยาของหงส์ จึงรีบขอโทษ

คิดไม่ถึงว่าแม่เสือสาวจะมีช่วงที่อ่อนแอแบบนี้เหมือนกัน นี่ทำให้รพีพงษ์รู้จักหงส์มากขึ้น

หลังจากที่อารมณ์ของหงส์เย็นลงแล้ว รพีพงษ์ก็เริ่มปรึกษากับหงส์ในเรื่องที่จะต่อกรกับทัดธนนี้ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็เข้าร่วมกลุ่มสิงโตแล้ว ตอนนี้“เพื่อนร่วมงาน”ประสบปัญหา เขาต้องช่วยเหลือ

รพีพงษ์ก็รู้จักตระกูลปิยศักดิ์ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ในความรงจำของเขา สิบปีก่อน ตระกูลปิยศักดิ์เป็นตระกูลชั้นสองของเกียวโต อยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้ ในระหว่างนั้นได้สร้างความเดือดร้อนในเกียวโตหลายครั้ง แต่ตระกูลปิยศักดิ์ก็ไม่ถูกทลาย ตอนนี้ดูๆแล้ว ไม่ใช่เพราะตระกูลปิยศักดิ์โชคดี แต่เป็นเพราะตระกูลปิยศักดิ์ซ่อนยอดฝีมือที่มีพลังจิตแดนปรมาจารย์ไว้

ถ้าไม่ใช่เพราะหงส์มา รพีพงษ์ก็ไม่รู้ว่าเกียวโตจะมาบุคคลแบบนี้อยู่ด้วย

“พลังจิตของทัดธนเป็นปัญหาที่ทำให้คนปวดหัวเป็นอย่างมาก แม้ฝีมือจะเป็นระดับแดนครึ่งดั่งเทพ ก็ไม่แน่ว่าจะต่อกรกับพลังจิตของเขาได้ เพราะนี้เป็นพลังอีกแบบหนึ่งไปแล้ว ผู้ที่ไม่เข้าใจในเรื่องนี้ก็จะไม่มีวิธีจัดการ” หงส์กล่าวอย่างหนักแน่น

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว ไม่แน่หรอก ผมมองว่า ทัดธนนี้จัดการง่ายหรอก”

หงส์เหลือบไปมองรพีพงษ์ แล้วกล่าว “ฉันรู้ว่าคุณเชื่อมั่นใจตัวเอง แต่ผู้ที่มีพลังจิตนั้นมันพิเศษกว่าคนอื่นนะ รอให้คุณเจอกับเขาเดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง”

รพีพงษ์รู้อยู่แล้วว่าคนที่มีพลังจิตนั้นจะพิเศษกว่าคนอื่น แต่ตอนนี้เขาก็ถือว่ามีพลังจิตเช่นเดียวกัน ไม่แย่ไปกว่าทัดธน และเขาก็มีหยกโยงจิต สามารถทนต่อพลังจิตแบบนี้ได้

“คุณสบายใจได้ ผมจะช่วยคุณจัดการทัดธนนี่เอง มันทำเลวมาเยอะ ผมไม่มีทางให้มันอยู่เกียวโตแน่นอน คุณไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน พักผ่อน คืนนี้ พวกเราจะไปที่ตระกูลปิยศักดิ์ ไปเจอทัดธนสักหน่อย” รพีพงษ์ยิ้มพลางกล่าว

หงส์ตาโต แล้วกล่าว “คุณแน่ใจ? จะไปต่อกรกับมันแบบนี้เนี่ยนะ? ไม่ต้องเตรียมการอะไรเลย?”

รพีพงษ์พยักหน้าอย่างตั้งใจ

หงส์ไม่กล้าเชื่อ ว่าเธอพูดความเก่งกาจของทัดธนขนาดนี้แล้ว รพีพงษ์ยังไม่สนใจใดๆ เหมือนกับทัดธนไม่อยู่ในสายตาเขาเลยเสียด้วยซ้ำ

อารียาเห็นท่าทีของหงส์ ก็ยิ้มให้เธอพลางกล่าว “รพีพงษ์ไม่มีทางทำเรื่องทั้งที่ไม่ได้เตรียมตัวหรอก ในเมื่อเขาพูดแบบนี้ แสดงว่าต้องมีวิธีต่อกรกับทัดธนนี้แล้วแน่นอน คุณเชื่อเขาเถอะ ฉันพาคุณไปอาบน้ำ เก็บของ”

พูดจบ อารียาก็ลากมือของหงส์เดินไปด้านนอก

พลบค่ำ รพีพงษ์และหงส์เดินบนฟุตบาท คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ห่างจากตระกูลปิยศักดิ์ไม่มาก เดินไปก็ถึง

ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าตระกูลปิยศักดิ์มีตัวอันตรายแบบนี้อยู่ รพีพงษ์จะต้องจัดการกับตระกูลปิยศักดิ์ไปนานแล้ว

สีหน้าของหงส์ดูเป็นกังวล หันไปมองรพีพงษ์ แล้วถาม “คุณแน่ใจว่าคุณมีวิธีต่อกรกับทัดธน? พวกเราไป ถ้าต่อสู้กับมันไม่ไหว จะเอาชีวิตไปทิ้งโดยเปล่าๆเลยนะ?”

รพีพงษ์หันหน้ามองหงส์ แล้วกล่าว “ผมดูไม่น่าเชื่อถือหรอ? ยังไงผมก็เป็นคนที่เจ้าสำนักกลุ่มสิงโตเชิญเข้ากลุ่มนะ ไม่ธรรมดาอย่างที่คุณคิด”

ได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ หงส์ก็ไม่ได้เตือนอะไรรพีพงษ์อีก แล้วบ่นกับตัวเองว่า “ชิ งั้นฟังคุณก็แล้วกัน ถึงเวลานั้นถ้าเกิดปัญหา พี่ชายทั้งสามของฉันไม่มีทางปล่อยคุณไว้แน่”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท