พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่916 น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

บทที่916 น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

บทที่916 น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

“รพีพงษ์ นายเป็นอะไร? ทำไมไม่มีการตอบสนอง?”

เสียงของหงส์ดังขึ้นในหูของรพีพงษ์ รพีพงษ์ลืมตาของตัวเองขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ มองไปที่หงส์ที่กำลังยืนอยู่ข้างโต๊ะ ใช้แรงเขย่าร่างกายของตัวเอง

เขาลุกขึ้นมาจากบนโต๊ะ เพราะฟุบลงนานเกินไป แขนเริ่มชา หลังจากนั้นไม่นาน รพีพงษ์ถึงได้สติกลับคืนมา นึกย้อนถึงตัวเองถูกกระบี่หยกดูดซับพลังจิต ดังนั้นหลับไปอย่างสนิท

“ฉันนอนไปนานแค่ไหนแล้ว? ประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์เริ่มหรือยัง?”รพีพงษ์มองไปที่หงส์แล้วถาม

เมื่อหงส์เห็นรพีพงษ์ตื่นขึ้นมา ถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก เอ่ยปากพูดว่า: “ประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ใครจะไปรู้ว่านายหลับไปนานแค่ไหน ฉันมาหานายสองรอบ เคาะประตูแล้วนายก็ไม่ตอบฉัน ฉันคิดว่ามีธุระ ดังนั้นก็ไม่ได้รบกวนนาย แต่บ่ายวันนี้ฉันรู้สึกว่ามีบางผิดปกติ แล้วตะโกนเรียกนายหลายรอบ ยังไม่มีการตอบสนอง ดังนั้นฉันจึงพังประตูเข้ามา”

“เมื่อกี้นี้เห็นนายฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ ฉันยังคิดว่านายตายไปแล้ว ตกลงว่านายกำลังทำอะไร หรือว่านายจะก้มฟุบหลับอยู่ที่บนโต๊ะโดยตลอดเหรอ?”

รพีพงษ์พยักหน้า ถ้าหากระหว่างช่วงกลางนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าอย่างนั้นก็เขาฟุบหลับอยู่บนโต๊ะโดยตลอดจริงๆ

ประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ก็หมายความว่ารพีพงษ์นอนหลับไปแล้วสองวัน มองดูท้องฟ้าข้างนอก ก็กลางคืนแล้ว ตัวเขาเองยังคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะนอนไปนานขนาดนี้

หลังจากพูดจบ เขาเริ่มค้นหากระบี่หยกที่ทำให้เขาหลับสนิท แต่ไม่มีร่องรอยของกระบี่หยกบนโต๊ะหรือบนพื้นเลย

“เธอเห็นกระบี่หยกที่ฉันซื้อจากงานนิทรรศการโบราณมั้ย?”รพีพงษ์จ้องมองไปที่หงส์แล้วถาม

หงส์ส่ายหัว แล้วพูดว่า: “ไม่มีนะ ฉันเพิ่งเข้ามา เห็นนายฟุบอยู่บนโต๊ะ ก็มาเรียกนาย และไม่เห็นกระบี่หยกเล่มนั้น”

บนใบหน้าของรพีพงษ์เผยให้เห็นถึงความสงสัย ตามหลักแล้วก่อนที่ตัวเองจะหลับไปก็ได้วางกระบี่หยกลงบนโต๊ะถึงจะถูก หรือว่าระหว่างช่วงกลางนั้นมีโจรเข้ามาในห้อง ขโมยกระบี่หยกเล่มนั้นไปเหรอ?

ในขณะที่รพีพงษ์ตั้งใจจะลุกขึ้นค้นหากระบี่หยก รูม่านตาของเขาก็หดลงทันที จากนั้นนั่งลงที่โต๊ะแล้วก็ไม่เคลื่อนไหวใดๆ เหมือนราวกับคนทั้งจะถูกแช่แข็ง มึนไปเลย

สาเหตุที่เขากลายเป็นเช่นนี้ ก็เป็นเพราะพบว่าด้านบนของจิตวิญญาณนั้นในสมองของตัวเอง กลับปรากฏกระบี่เล่มเล็กๆเปล่งแสงสีทอง รูปร่างเหมือนกับกระบี่หยกที่รพีพงษ์ซื้อกลับมา บนร่างกระบี่ ก็มีช่องว่างอยู่

ในเวลานี้ช่องว่างของกระบี่เล็กๆสีทองนี้กำลังดูดซับพลังจิตของรพีพงษ์ เหมือนราวกับกำลังช่วยบำรุงช่องว่างของตัวเอง

รพีพงษ์รู้สึกถึงความเชื่อมโยงที่โดดเด่นเฉพาะตัวระหว่างตัวเองกับกระบี่เล็กสีทอง แม้ว่ารพีพงษ์จะเห็นว่ากระบี่เล็กนี้กำลังดูดซับพลังจิตของตัวเอง แต่รพีพงษ์ก็รู้ว่ามันไม่ได้เป็นอันตราย แต่กลับอาศัยพลังจิตของรพีพงษ์ซ่อมแซมช่องว่างของตัวเอง

และรพีพงษ์ก็แน่ใจเป็นอย่างมาก กระบี่เล็กเล่มนี้ก็คือกระบี่หยกที่เขาซื้อกลับมา ส่วนมันทำไมถึงปรากฏขึ้นในหัวสองของตัวเอง รพีพงษ์ก็ไม่รู้อย่างแน่นอน

เพียงแต่รพีพงษ์รู้สึกว่าสภาพของกระบี่เล่มนี้ในตอนนี้อ่อนแอเป็นอย่างมาก สาเหตุที่มันต้องดูดซับพลังจิตของรพีพงษ์ ก็เป็นทางเลือกสุดท้าย ตอนนี้มันอาศัยพลังจิตของรพีพงษ์ ก็สามารถดำรงอยู่ในหัวสมองของรพีพงษ์ได้

หลังจากนั้นมันจำเป็นต้องดูดซับพลังจิตของรพีพงษ์วันทุกเพียงเล็กน้อยเพื่อมาซ่อมแซมตัวเอง แม้ว่ากระบวนการจะใช้เวลานานมาก แต่ไม่ช้าก็เร็วมันก็จะกลับสู่สภาวะชั้นสูงสุด

ดูเหมือนว่าเพื่อที่ขอบคุณพลังจิตของรพีพงษ์ กระบี่เล่มนี้ได้ยอมรับว่ารพีพงษ์เป็นเจ้านาย รพีพงษ์รู้สึกว่าตัวเองสามารถควบคุมกระบี่เล่มนี้ได้ เพียงแต่กระบี่นี้ได้รับความเสียหายมาก รพีพงษ์ไม่สามารถรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากข้างต้นได้

แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอน คือถ้ากระบี่เล่มนี้กลับสู่สภาวะชั้นสูงสุด คงจะไม่มีความสามารถทำลายล้างโลกอย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะเหมือนกับสยบเซียนชื่อของมัน แต่ก็ไม่อาจจะเป็นไปไม่ได้

เมื่อหงส์เห็นว่ารพีพงษ์แข็งทื่ออยู่ที่เดิม ก็คิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับรพีพงษ์ รีบเอ่ยปากถามทันที: “นายเป็นอะไร ตกลงว่าสองวันนี้นายเป็นอะไรกันแน่ วิชาสะกดจิตของจิรัสย์พวกเขาทั้งสามคนทำให้สมองของเขามีปัญหาเหรอ?”

รพีพงษ์กลับมามีสติ ยิ้มให้กับหงส์ ในหัวสมองของเขาเกิดปัญหาขึ้นจริงๆ จู่ๆก็มีกระบี่เล่มหนึ่งปรากฏออกมา ปัญหานี้ใหญ่มาก เพียงแต่ในใจรพีพงษ์รู้ดี กระบี่เล่มนี้ไม่มีทางที่จะทำร้ายเขา ตรงกันข้ามกัน อาจเป็นทรัพยากรขนาดใหญ่สำหรับรพีพงษ์

“ฉันไม่เป็นไร จู่ๆก็คิดถึงเรื่องอะไรบางอย่างเท่านั้นเอง ในเมื่อพรุ่งนี้ก็คือประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้อาจมีปัญหามากมาย ถึงเวลานั้นเธอดูแลตัวเองให้ดีก็พอ ฉันจะจัดการส่วนที่เหลือเอง”รพีพงษ์เอ่ยปาก

“นายแน่ใจว่าตัวเองเป็นคู่ต่อสู้ของผู้นำตระกูลกิติมหาคุณเหรอ? ฉันได้ยินมาว่ากระบี่บินของเขามีพลังมากทีเดียว สามารถฟันหัวคนได้ในกลางอากาศ ความเร็วรวดเร็วมาก จนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ต่อให้เป็นยอดฝีมือแดนดั่งเทพ เกรงว่ายังคงต้องหลบหลีกเลี่ยง”หงส์ตักเตือนรพีพงษ์

“ก่อนหน้านี้ฉันยังไม่ค่อยแน่ใจ แต่ตอนนี้ น่าจะไม่มีปัญหาใหญ่อะไร”

บนใบหน้าของรพีพงษ์ปรากฏรอยยิ้มมั่นใจ

วันรุ่งขึ้น ที่สวนลานบ้านใหญ่ตระกูลกิติมหาคุณ

เช้าตรู่ ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันที่นี่ ตระกูลกิติมหาคุณเปลี่ยนที่นี่ให้กลายเป็นสถานที่สำหรับประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ โดยมีการติดตั้งเสากั้นทางเดินรอบๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ เพียงแค่มีบัตรเชิญ จึงสามารถเข้าไปในสถานที่จัดงานได้

รพีพงษ์และหงส์ทั้งสองคนมาถึงที่นี่ในตอนเช้าตรู่ ปะปนอยู่กับกลุ่มฝูงชน อาศัยบัตรเชิญจากปรินทรและทัดธน เข้าไปยังสถานที่จัดงาน

เนื่องจากมีคนเข้าร่วมการประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์มากมาย ดังนั้นคนของตระกูลกิติมหาคุณที่รับผิดชอบในการตรวจสอบเพียงแค่มองหน้าปกของบัตรเชิญแวบเดียวเท่านั้น หลังจากยืนยันว่าเป็นบัตรเชิญจริงๆ ก็จะปล่อยให้คนเข้าไป โดยที่ไม่ได้เนื้อหาด้านใน

รพีพงษ์สังเกตผู้คนรอบๆอย่างละเอียด พบว่ามีจำนวนคนเหล่านี้ไม่น้อยที่แต่งกายแปลกประหลาด มีบางคนใส่ในชุดเต๋า มีบางคนใส่ชุดหลวงจีน หลากหลายรูปแบบ ไม่มีที่ใดจะสะท้านให้เห็นถึงความแตกต่างโดดเด่นของพวกเขา

คนเหล่านี้แท้จริงแล้วเป็นคนที่มีการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับวิชาเวทย์ไม่มากก็น้อย เพียงแต่วิชาเวทย์ที่แท้จริงนั้นหายไปนานหลายพันปีแล้ว ตระกูลกิติมหาคุณอาศัยเพียงแค่กระบี่บินเล่มเดียวก็สามารถกลายเป็นลูกพี่ใหญ่ในแวดวงวิชาเวทย์ เพียงพอที่จะเห็นระดับของแวดวงวิชาเวทย์ในตอนนี้ได้

คนในงาน ส่วนใหญ่ก็เหมือนประเภทเดียวกับจิรัสย์พวกเขาสามพี่น้องหรือว่าทัดธน ชำนาญกลยุทธ์ที่คนธรรมดาไม่สามารถจินตนาการได้ แต่ก็ไม่ใช่คนที่มีพลังมากเกินไป

ขณะที่รพีพงษ์กำลังมองตรวจสอบไปรอบๆ ชายชราคนหนึ่งก็พาหญิงสาวที่สวยหยาดเยิ้มเข้ามาในงาน

สองคนนี้คือชายชราและหญิงสาวที่รพีพงษ์พบเจอที่บนเครื่องบิน ตอนนั้นรพีพงษ์ใช้พลังจิตพบว่ามีความผันผวนประหลาดบนร่างกายของชายชรา

แวบเดียวรพีพงษ์ก็สังเกตเห็นทั้งสองอย่างรวดเร็ว ชายชราและหญิงสาวก็สังเกตเห็นรพีพงษ์

พวกเขาสบตากันแวบหนึ่ง จากนั้นชายชราก็พาหญิงสาวเดินมาทางรพีพงษ์

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท