พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่960 คนเก่งในฝูงชน

บทที่960 คนเก่งในฝูงชน

บทที่960 คนเก่งในฝูงชน

ทันนตารีบเข้าไปหารพีพงษ์ แล้วสังเกตบนร่างของรพีพงษ์อย่างละเอียด จากนั้นก็ถามอย่างเป็นห่วงว่า “คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย? คุณบาดเจ็บจากการประลองเมื่อกี้ไหม?”

รพีพงษ์ส่ายหน้า แล้วกล่าว “ผมไม่เจ็บใดๆ แต่ตอนผมฆ่าฐานยินได้ใช้พลังที่มีผลข้างเคียง ตอนนี้ผมต้องการห้องเงียบๆ ผมอาจจะต้องสลบไปสามวัน ผมหวังว่าในช่วงสามวันนี้จะไม่มีใครมารบกวนผม”

ทัตดาพยักหน้า แล้วกล่าว “สบายใจได้ ฉันจะไม่มีทางให้ใครไปรบกวนคุณได้”

“คุณยังพอจะยืนหยัดไหวอีกสักแป๊ปมั้ย? คฤหาสน์นี้อยู่ไม่ได้แล้วแน่นอน พวกเรายังมีบ้านหลังอื่นในเมืองโตกี้อีก ฉันจะพาไปหลังที่ปลอดภัยที่สุด”

รพีพงษ์พยักหน้า ถึงแม้ได้ใช้วิธีลับ แต่ตอนนี้เขายังไม่เป็นขั้นสูงสุด ดังนั้นยังยืนหยัดได้อีกสักระยะ

ทัตดาพูดคุยกับเมธชนันสักพัก ขอกุญแจรถมาคันหนึ่ง จากนั้นก็พารพีพงษ์เดินออกไปด้านนอก

ขณะนี้พรภวิษย์พาปรวีร์มาอยู่ต่อหน้ารพีพงษ์ ทั้งสองคำนับรพีพงษ์

“รพีพงษ์น้องชาย วันนี้โชคดีที่มีคุณ ฐานยินคนจิตวิปริตจึงพ่ายแพ้ คุณช่วยคนที่อยู่ในงานไว้ ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยชีวิตผู้เฒ่าอย่างฉัน คุณคือผู้มีพระคุณของตระกูลธนาพัชร์กุลของเรา บุญคุณนี้ พวกเราตระกูลธนาพัชร์กุลทุกรุ่นไม่มีทางลืม พวกเราจะพยายามทุกทาง ที่จะตอบแทนบุญคุณนี้ของน้องชายรพีพงษ์” พรภวิษย์กล่าวอย่างจริงจัง

ปรวีร์ยกมือเคารพรพีพงษ์ แล้วกล่าว “รพีพงษ์ คุณเป็นผู้ที่มีจิตใจกล้าหาญ ก่อนหน้านี้เพราะทัตดา ผมจึงเป็นปรปักษ์กับคุณ ตอนนี้ดูๆแล้ว ผมคือตัวตลกตั้งแต่หัวจรดเท้า ”

“ผมขอโทาคุณอย่างเป็นทางการ และรับประกันว่าอนาคตจะไม่มีทางคิดเลยเถิดกับทัตดาอีก ขอให้พวกคุณถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร ”

ทัตดาได้ยินคำพูดของปรีวีร์ ก็หน้าแดง ไม่รู้ว่าทำไม เธอรู้สึกดีใจขึ้นมานิดนึง

รพีพงษ์รู้สึกเซ็ง อยากจะอธิบายให้ปรวีร์ฟัง แต่ตอนนี้ทัตดาแย่งเขาพูด “ไอ้หยา คำพูดแบบนี้ต่อไปอย่างพูดอีกนะ ตอนนี้รพีพงษ์ต้องการพักผ่อน ฉันจะต้องพาเขาไปที่ที่ปลอดภัย ขอตัวก่อนแล้วกันนะ”

พรภวิษย์และปรวีร์ทั้งสองรีบพยักหน้า พรภวิษย์กล่าว “ถูกถูกถูก รีบพารพีพงษ์น้องชายไปพักผ่อนเถอะนะ”

“รพีพงษ์คุณสบายใจได้ ทัตดาเป็นคนดี เธอจะต้องดูแลคุณอย่างดีแน่นอน” ปรวีร์กล่าว

ทัตดาดีใจ ไม่ให้โอกาสรพีพงษ์ได้พูดแต่อย่างใด แล้วก็ลากเขาเดินออกไปด้านนอก

รอให้รพีพงษ์และทัตดาออกไป พรภวิษย์และปรวีร์เดินตามเมธชนันและทุกคนของตระกูลจันวราสกุลไปที่สนามประลองเมื่อกี้

พวกเขาค่อนข้างแปลกใจ การประลองที่เสียงดังสนั่นหวั่นไหว จะเกิดพลังทำลายล้างสักเท่าไหร่เชียว

ตอนที่พวกเขาเห็นพวกนั้นถูกตัดออกเป็นสองท่อน และไม้ที่ถูกระเบิดเป็นเศษนั้น ก็อ้าปากค้างกัน

ในพื้นที่ มีหลุมที่เกิดจากการพลังทำลายล้างของทั้งสองมากมาย ในป่าละเมาะ ไม่เหลืออะไรที่สมบูรณ์แบบเลย

โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาเห็นฐานยินที่หัวขาด ก็ตกใจขึ้นมา ทุกคนไม่คิด ว่ายอดฝีมือที่เป็นระดับแดนดั่งเทพขั้นกลาง จะเสียชีวิตแบบนี้

“ชั่ฃน่าตกใจจริงๆ ผมไม่เคยคิดมาก่อน คนๆหนึ่ง จะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ การทำลายล้างแบบนี้ เหมือนกับการทำลายล้างของกองทัพแล้ว”

“นั่นคือยอดฝีมือแดนดั่งเทพขั้นกลางนะ บุคคลที่เป็นระดับนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็เรียกฝนเรียกลมได้ และตอนนี้เขาตายที่นี่ ถ้าไม่ได้เห็นกับตา ผมไม่มีทางเชื่อแน่”

“รพีพงษ์เป็นคนเก่งในฝูงชน บุคคลแบบนี้ อนาคตจะต้องเป็นขั้นสูงสุดของวงการบู๊ประเทศจีนแน่นอน”

……

หมู่บ้านที่มีระดับของเมืองโตกี้

ทัตดาขับรถเข้าไปในหมู่บ้าน มาหยุดที่ทาวน์เฮาส์ห้าชั้นที่มีสวนดอกไม้

ทาวน์เฮ้าส์ทั้งหลังนี้ เป็นของตระกูลจันวราสกุล

หลังจากที่จอดรถแล้ว ทัตดาก็รีบลงจากรถ ช่วยรพีพงษ์เปิดประตู จากนั้นก็ยืนมาไปพยุงรพีพงษ์

รพีพงษ์มองเธอ แล้วกล่าว “ผมยังขยับได้”

ทัตดาแลบลิ้นใส่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “เค้าก็แค่เป็นห่วงคุณป้ะ”

รพีพงษ์ลงมาจากรถ แล้วเดินเข้าไปในทาวน์เฮ้าส์พร้อมกับทัตดา แล้วถาม “เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรอว่าสุดท้ายคุณจะอธิบายความสัมพันธ์ของเราให้ทุกคนฟัง? ทำไมคุณไม่อธิบาย?”

ทัตดารู้สึกผิด แล้วกล่าว “ไอ้หยา ก็เวลามันบีบไม่ใช่หรอ ฉันก็แค่อยากให้คุณรีบพัก ดังนั้นจึงทำไม่ทัน”

รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างเซ็ง เขารู้ว่าเมื่อกี้ทัตดามีเวลาอธิบายให้ทุกคนฟัง แต่เพราะเหตุผลอื่น ทัตดาจึงไม่อยากพูดเรื่องที่พวกเขาปลอมเป็นแฟนกันออกมาให้พวกเขารู้

“ผมไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ แต่ผมจะบอกคุณหน่อยนะ ผมเป็นคนที่แต่งงานแล้ว และผมรักภรรยาของผมมาก ชาตินี้ผมรักเธอเพียงคนเดียว”

“เหตุการณ์นี้คุณอาจจจะซาบซึ้งใจ แต่ที่ผมฆ่าฐานยิน เป็นเพราะเหตุผลส่วนบุคคล และผมรับภาระกิจส่วนตัวมาด้วย หวังว่าคุณจะไม่เกิดรู้สึกใดๆกับผมเพราะเรื่องนี้”

หลังจากที่ทัตดาได้ยินคำพูดของรพีพงษ์แล้วก็น้อยใจ จากนั้นก็ตะโกนใส่รพีพงษ์ว่า “นี่ ทำไมคุณเป็นแบบนี้ ใครจะคิดอะไรกับคุณได้ หลงตัวเองจริงๆ!”

“แบบนั้นแหละดีที่สุด” รพีพงษ์ไม่สนใจปฏิกิริยาของทัตดา หลังจากที่กล่าวอย่างสงบแล้ว ก็เดินเข้าไปในทาวน์เฮ้าส์

ทัตดากัดฟันมองหลังรพีพงษ์ แล้วพึมพำ “ไอ้งั่ง ฉันไม่ควรพาคุณมาที่นี่เลย อยู่คนเดียวไปเลยนะ ฉันล่ะเบื่อที่จะสนคุณล่ะ”

พูดจบ ทัตดายืนอยู่กับที่สามวินาที สุดท้ายก็ยังคงวิ่งเข้าไปหารพีพงษ์ด้านใน เปิดประตู แล้วกล่าวอย่างรำคาญว่า “ธรณีประตูที่นนี่ค่อนช้างสูง คุณระวังหน่อยล่ะกัน”

ขณะนี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองทำเองเจ็บเอง รู้อยู่แล้วว่าคำพูดของเขายั่วโมโหคน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงเขา

แม้แต่เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้เปลี่ยนไปเป็นแบบนี้

ทัตดาไปจัดการห้องให้รพีพงษ์ จัดเตรียมทุกอย่างให้รพีพงษ์

รพีพงษ์นอนลงไปบนเตียงโดยตรง ขณะนี้เขากำลังจะถึงขีดสุดแล้ว เริ่มสนใจอย่างอื่นไม่ไหว

ทัตดาจ้องรพีพงษ์ ลังเลสักพัก แล้วกล่าว “ฉันยอมรับว่าฉันรู้สึกดีกับคุณ แต่ไม่เห็นคุณต้องพูดแรงขนาดนี้เลยหนิ คุณรู้หรอว่าฉันไม่มีวิธีที่จะแย่งคุณมาจากภรรยาคุณได้”

รพีพงษ์ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทัตดารู้สึกอาย สักพัก เธอก็สังเกตรพีพงษ์ ตอนนี้เพิ่งจะรู้ว่า ความจริงแล้วรพีพงษ์ได้หลับไปแล้ว

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท