พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่983 คนที่ควรใส่หัวไปน่ะคือคุณ

บทที่983 คนที่ควรใส่หัวไปน่ะคือคุณ

บทที่983 คนที่ควรใส่หัวไปน่ะคือคุณ

ผู้คนหันไปมองที่ประตู จันทร์ปรียาคิดว่าคนสำคัญผู้นั้นที่ปิยวัฒน์พูดถึงได้มาถึงแล้ว จึงรีบเอามาจัดทรงผมตัวเอง แล้วนั่งหลังตรง

แต่หลังจากที่เธอเห็นว่าคนที่เข้ามาเป็นรพีพงษ์ ก็ชะงัก

ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ ก็คือรพีพงษ์มาหาเรื่องเธอ

เธอไม่มีทางคิดว่ารพีพงษ์คือคนที่ปิยวัฒน์บอกว่าเป็นบุคคลสำคัญอะไรนั่นอย่างแน่นอน

งานเลี้ยงครั้งนี้สำคัญสำหรับเธอ ห้ามเกิดข้อผิดพลาดใดๆทั้งนั้น ตอนแรกเธอคิดว่ารพีพงษ์ต้องถูกราชามวยนั่นต่อยจนลุกขึ้นไม่ไหวแน่ๆ ไม่คิดว่าเขาจะตามมาได้เร็วขนาดนี้

ดังนั้นเธอต้องรีบจัดการปัญหานี้เสีย ไม่งั้นจะกระทบกับงานเลี้ยงได้ อย่าว่าแต่นางเอกที่เธอจะไม่ได้จากหนังใหม่ของปิยวัฒน์เลย อนาคตจะต้องกระทบต่องานการแสดงอย่างแน่นอน

เธอรีบยืนขึ้น ขมวดคิ้วจ้องรพีพงษ์ กัดฟันแล้วกล่าว “ไม่จบไม่สิ้นใช่มั้ย? คิดไม่ถึงว่าจะตามฉันมาถึงที่นี่”

“ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะมาสนใจแกหรอกนะ เรื่องของคุณฉันจะบอกเอง ตอนนี้ฉันเรื่องสำคัญ แกไปรอข้างนอกก่อน รอให้ฉันทำธุระเสร็จแล้วจะไปหาแกเอง”

พูดจบ จันทร์ปรียาก็ผลักรพีพงษ์ออกไปข้างนอก

รพีพงษ์งง เขาไม่คาดคิดว่าจันทร์ปรียาจะปรากฏตัวอยู่ที่นี่ ตอนนั้นเขาคิดจะพูดคุยกับจันทร์ปรียาจริงๆ แต่หลังจากที่ต่อสู้กับราชามวยแล้ว เขาก็รู้สึกว่าไม่ควรจะหาจันทร์ปรียาแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้เก็บเรื่องนี้ไว้รกสมอง

คาดไม่ถึงว่าเขาจะเจอจันทร์รปรียาในห้องรับรองที่ปิยวัฒน์จองไว้ แล้วจันทร์ปรียาเห็นเขาแว็บแรกก็ผลักเขาออกไป ทำเอาเขามึนงงไปหมด

เมื่อกี้ปิยวัฒน์เห็นรพีพงษ์เข้ามา เดิมทีจะแนะนำให้ทุกคนรู้จัก แต่เขายังไม่ทันพูด จันทร์ปรียาก็ยืนขึ้นมาก่อนแล้ว

แล้วยังจะไล่รพีพงษ์ออกไปอีก ทำเอาเขาสงสัยเข้าไปใหญ่

เขารีบยืนขึ้น เดินไปข้างๆของจันทร์ปรียา แล้วถาม “คุณคิดจะทำอะไร?”

จันทร์ปรียาหันไปมองปิยวัฒน์ แล้วกล่าวด้วยความรู้สึกผิดว่า “ผู้กำกับปิยวัฒน์ คนนี้มาหาเรื่องฉัน ก่อนหน้านี้ฉันมีเรื่องกับเขา ฉันไม่คิดว่าเขาจะมาหาถึงที่ ดังนั้นฉันจะไล่เขาไปเดี๋ยวนี้”

“คนแบบนี้จะฉวยโอกาสตอนที่ฉันมีธุระสำคัญ แล้วแบล็กเมล์ฉัน แต่ฉันไม่มีทางถูกเขาข่มขู่ได้แน่นอน ฉันจะจัดการเอง ”

รพีพงษ์ค่อนข้างเซ็ง แล้วกล่าว “ผมไม่ได้อยากจะแบล็กเมล์คุณเลยนะ”

จันทร์ปรียาชักตาใส่เขา แล้วกล่าว “หุบปากไปซะ หยุดเสแสร้งได้แล้ว แกคิดอะไรอยู่คิดว่าฉันไม่รู้หรือไง จะบอกให้นะ คนที่นั่งอยู่ที่นี่เป็นบุคคลที่มีหน้ามีตาทั้งนั้น แกแตะต้องไม่ได้หรอกนะ รีบไสหัวไปซะ”

ปิยวัฒน์หน้าถอดสี จันทร์ปรียานี่แม้แต่นายน้อยเทือกเขากิสนายังไล่ไป มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว

แล้วเขาก็ไม่เชื่อว่ารพีพงษ์จะหลอกอะไรดาราสาวได้ เพราะรพีพงษ์ มีอะไรบ้างที่จะหาไม่ได้?

เขาไม่มีทางทำเรื่องอะไรที่ลดตัวแบบนี้แน่นอน

“คุณให้ใครใสหัวไป? คนที่ควรจะไสหัวไปน่ะคือคุณต่างหาก!” ปิยวัฒน์ตะคอกใส่จันทร์ปรียา

จันทร์ปรียาชะงักกะทันหัน ไม่คิดว่าปิยวัฒน์จะใส่อารมณ์กับเธอ

“ผู้กำกับปิยวัฒน์ เขา……” เสียงของจันทร์ปรียาอ่อนข้อลงมา

“เขาอะไร? เขาคือบุคคลสำคัญที่ผมพูดเมื่อกี้ คุณกล้าไล่เขาไป ผมว่าคุณถ่ายซีรี่ย์บ้าๆนั่นแค่ไม่กี่เรื่อง ก็ทำผิดกับใครก็ได้งั้นหรอ!” ปิยวัฒน์ส่งเสียงเกรี้ยวกราด

จันทร์ปรียางงทันใด มองไปที่รพีพงษ์อย่างคาดไม่ถึง ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะเป็นบุคคลสำคัญคนนั้นที่ปิยวัฒน์พูดถึง

ที่แท้เค้าไม่ได้มาหาเรื่องตัวเอง แต่มาร่วมงานเลี้ยง เธอคิดมากไปเอง

หลังจากที่เข้าใจเรื่องราวแล้ว จันทร์ปรียาก็อับอายขึ้นมา คิดในใจว่าจบเห่แล้ว

เธอจะคิดได้ไง ว่าไอ้คนจนที่เจอบนเครื่องบิน จะเป็นบุคคลสำคัญที่ปิยวัฒน์ให้ความเคารพ

ตอนนี้เธออยากเป็นนางเอกของหนังเรื่องใหม่ของปิยวัฒน์ ก็หมดหวังแล้วล่ะ

ปิยวัฒน์มองไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าวอย่างรู้สึกผิดว่า “นายน้อย ขอโทษจริงๆครับ ผมไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผมจะจัดการเอง คุณนั่งลงก่อนนะครับ”

รพีพงษ์พยักหน้า เดินไปที่โซฟา

จันทร์ปรียาเห็นดังนี้ ก็รีบเข้าไปขอร้องรพีพงษ์ “คุณผู้ชาย ขอโทษค่ะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันคิดไปเอง ขอคุณเมตตา ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”

ปิยวัฒน์ชักตาไปที่เธอ กล่าวอย่างดูแคลนว่า “คุณไม่ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงวันนี้แล้ว รีบออกไปซะ”

จันทร์ปรียาสิ้นหวัง เดิมทีเธอมีความมั่นใจมากว่าจะเป็นนางเอกหนังของปิยวัฒน์ได้ แต่ยังไงก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้

ถ้ารู้ว่ารพีพงษ์มีตัวตนแบบนี้ตั้งแต่แรก ยังไงเธอก็ไม่มีทางหาเรื่องรพีพงษ์ที่สนามบินและบนเครื่องบินแน่นอน

“ผู้กำกับปิยวัฒน์ ให้โอกาสฉันอีกครั้งเถอะนะ วันนี้ฉันมาคุยเรื่องนางเอกหนังเรื่องใหม่ของคุณ ฉันเตรียมตัวมาเพื่อเป็นนางเอกในครั้งนี้มาอย่างมาก ขอผู้กำกับปิยวัฒน์ให้โอกาสฉันอีกครั้งเถอะนะ” จันทร์ปรียาขอร้อง

ปิยวัฒน์มองไปที่จันทร์ปรียาอย่างดูแคลน เดิมทีเขาก็คิดว่าจะให้จันทร์ปรียาเป็นนางเอกของเรื่องนี้ แต่จันทร์ปรียาหาเรื่องรพีพงษ์ แม้เธอจะเหมาะสมขนาดไหน เขาก็ไม่มีทางให้จันทร์ปรียาเป็นนางเอกแน่นอน

“คุณออกไปก่อน เรื่องตัวละคร รอให้พวกเราตัดสินใจเสร็จแล้วจะแจ้งไป” ปิยวัฒน์กล่าว

จันทร์ปรียาสิ้นหวัง แม้ปิยวัฒน์ไม่ได้ปฏิเสธเธอโดยตรง แต่ดูออก ว่าครั้งนี้บทนางเอก เธอไม่มีสิทธิ์แล้ว

เธอก็ไม่กล้าวุ่นวายอีกต่อไป แบบนี้ยิ่งทำให้ปิยวัฒน์ยิ่งไม่พอใจมากขึ้น

“โอเค งั้นฉันไปก่อนล่ะกัน” จันทร์ปรียากล่าว จากนั้นก็เหลือบมองรพีพงษ์ที่นั่งอยู่บนโซฟา ก้มหน้าแล้วเดินออกจากห้องไป

หลังจากที่จันทร์ปรียาออกไปแล้ว ผู้คนได้มองหน้ากัน รู้ว่าถ้าวันนี้ทำให้รพีพงษ์สบายใจ ต่อการร่วมมือกันของพวกเขาและปิยวัฒน์ก็จะง่ายขึ้น เริ่มจากการทักทายรพีพงษ์อย่างครึกครื้น

ไม่มีใคร คิดถึงจันทร์ปรียาว่าเป็นเพราะเรื่องนี้แล้วพบกับจุดจบแบบไหน

ปิยวัฒน์นั่งข้างๆรพีพงษ์ หลังจากที่แสดงการขอโทษต่อรพีพงษ์แล้ว ได้ถามว่าจันทร์ปรียาทำอะไรไว้กันแน่

รพีพงษ์ได้เล่าเรื่องระหว่างเขาที่เกิดขึ้นที่สนามบินและบนเครื่องให้ฟัง

หลังจากที่ผู้คนได้ยินแล้ว ก็เริ่มด่าเธอ ว่าเธอต่างๆนานา

ปิยวัฒน์ก็พยักหน้า แล้วกล่าว “ไม่คาดคิดจริงๆว่าจันทร์ปรียาจะเป็นคนแบบนี้ ดีที่ครั้งนี้ไม่เลือกเธอเป็นนางเอก มิเช่นนั้นชื่อเสียงของผมจะต้องโดนไปด้วยแน่ ครั้งนี้ต้องขอบคุณนายน้อยจริงๆ ดื่มให้นายน้อย!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท