พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่984 ตระกูลอังเดรฟีน่า

บทที่984 ตระกูลอังเดรฟีน่า

บทที่984 ตระกูลอังเดรฟีน่า

งานเลี้ยงมาถึงครึ่ง ทุกคนดื่มอย่างมีความสุข รพีพงษ์นานๆจะดื่มกับพวกเขาสักครั้ง เพราะเรื่องเกี่ยวกับวงการมายา เขาก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าต้องพูดเกี่ยวกับอะไร

ที่เขามาที่นี่ก็เพื่อฆ่าเวลา ฟังปิยวัฒน์พูดความลับกับด้านมืดของดารา รู้สึกว่าน่าสนใจ

ถ้าได้ยินจากปากของปิยวัฒน์ เขาคิดไม่ถึงเบื้องหลังดาราที่สวยงามแน่นอน ว่าจะมีความลับมากขนาดนี้

ผ่านไปไม่นาน ประตูของห้องรับรองถูกเปิดออก ผู้คนมองไป พบว่าเป็นสาวสวยที่ใส่ชุดโบราณยาว ผมสีบรอนด์ ถักเปียสองข้างยืนอยู่หน้าประตู

ด้านหลังหญิงสาวคนนั้นมีผู้ชายที่เป็นผู้ดูแลดูเป็นผู้ดี อีกทั้งการ์ดคนหนึ่งที่เก่งกาจที่กำลังยืนอยู่

ผู้คนมองไปยังสามคนที่กำลังยืนอยู่อย่างแปลกใจ ไม่รู้ว่าพวกเขามาทำอะไร

ปิยวัฒน์ยืนขึ้น จ้องไปที่ทั้งสาม แล้วถาม “สามท่าน มิทราบว่าพวกคุณ……”

หญิงสาวที่ผมบรอนด์มองข้ามปิยวัฒน์ไป ยกมือขึ้นมาชี้ไปหารพีพงษ์ แล้วกล่าว “เขานั่นแหละ!”

รพีพงษ์แปลกใจ เขาไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้เลย ไม่รู้ว่าทำไมหญิงคนนี้ยื่นมือมาชี้เขา

ผู้ชายท่าทางเหมือนผู้ดูแลที่ยืนอยู่หลังหญิงสาวคนนั้นก้าวมาข้างหน้า ยิ้มให้รพีพงษ์แล้วกล่าว “คุณผู้ชายท่านนี้ คุณหนูของเราอยากดื่มเหล้ากับคุณ มิทราบว่าคุณผู้ชายมีเวลาหรือไม่?”

“ขอโทษนะ ผมไม่รู้จักพวกคุณ” รพีพงษ์กล่าวออกมาโดยตรง

ในขณะเดียวกันนี้เอง ปิยวัฒน์ตาโต มองไปที่ผู้ดูแลคนนั้นแล้วกล่าว “คุณคือผู้ดูแลของตระกูลอังเดร!”

ผู้ดูแลคนนั้นหันไปหาปิยวัฒน์ จากนั้นก็ยิ้มพลางกล่าว “ที่แท้ก็คือคุณปิยวัฒน์ ไม่คิดว่าคุณก็อยู่ที่นี่ บังเอิญจริงๆ”

“คนนี้น่าจะเป็นเพื่อนของคุณใช่มั้ย คุณหนูของเราอยากจะดื่มเหล้ากับเขา รบกวนคุณปิยวัฒน์ช่วยหน่อยนะครับ”

ปิยวัฒน์มองไปรอบๆ จากนั้นก็มองไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าวเบาๆว่า “นายน้อย พวกเขาทั้งสามเป็นคนของตระกูลอังเดรประเทศรัสเซีย นั่นคือผู้ดูแลของตระกูลอังเดร และนั่นน่าจะเป็นคุณหนูของตระกูลอังเดร”

ประเทศรัสเซียตระกูลอังเดรมีอำนาจมาก คนของตระกูลพวกเขาอยู่หลายประเทศบนโลกใบนี้ และมีคนที่ตำแหน่งสูง อยู่ในภาครัฐด้วย”

“โดยเฉพาะที่มอสโก ตระกูลอังเดร เป็นเจ้าแห่งวงการของที่นี่”

“แม้พวกเราจะมีความสามารถที่นี่ แต่ถ้าเทียบกับตระกูลอังเดรแล้ว ยังห่างกันอีกมาก แน่นอน ว่าจุดศูนย์กลางของเราไม่ใช่ที่นี่ ถ้าเทียบกับอำนาจทั้งหมด ตระกูลอังเดรกับเทือกเขากิสนาห่างกันอีกเยอะ”

รพีพงษ์พยักหน้า จากนั้นก็มองไปที่หญิงสาวที่อายุน่าจะราวๆยี่สิบกว่าปี น่ารักกว่าคนในรุ่นเดียวกัน แต่รูปลักษณ์กลับดูดีกว่าหญิงคนอื่น แล้วถาม “คุณมาหาผมทำไม?”

“เมื่อกี้คุณต่อยราชามวยหมัดเดียวจอด ฉันไม่เคยเห็นคนที่เก่งกาจขนาดนี้มาก่อน ดังนั้นจึงอยากทำความรู้จักกับคุณสักหน่อย ฉันเปิดห้องไว้แล้ว คุณมากับฉัน เราต้องคุยกันนาน” ตระกูลอังเดร-ฟีน่าจ้องรพีพงษ์แล้วกล่าว

รพีพงษ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่คาดคิดว่าสาวคนนี้เพียงแค่เขาหมัดเดียวน็อคคู่ต่อสู้ จึงได้มาหาเขา

แต่เปิดห้องไว้แล้วหมายความว่ายังไง? แล้วยังคุยกันนานอีก?

สาวของประเทศรัสเซีย ปล่อยตัวขนาดนี้เลยหรอ?

“ขอโทษนะ ผมไม่โอเค” รพีพงษ์ปฏิเสธเธอไป

ฟีน่าตาโต มองรพีพงษ์อย่างไม่เข้าใจ แล้วถาม “ทำไม? พวกเขาไม่เคยปฏิเสธคำขอของฉัน ทำไมคุณต้องปฏิเสธ?”

รพีพงษ์ยักไหล่ คิดในใจว่าน่าจะต้องเป็นคุณหนูที่ถูกตามใจจนเสียนิสัยอีกอย่างแน่นอน พูดออกมาก็เหมือนสั่งคนอื่น

“เพราะผมยังมีธุระส่วนตัว บนโลกนี้คนที่เก่งกาจยังมีอีกเยอะ ด้วยความสามารถของตระกูลของพวกคุณ อยากจะหาคนที่มีความสามารถไม่ยาก คุณไปหาคนอื่นเถอะนะ” รพีพงษ์กล่าว

ผู้ดูแลคนนั้นจ้องไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “คุณผู้ชาย ตั้งแต่เล็กคุณหนูของเราชอบในการต่อสู้มาก เธอชอบศิลปะการต่อสู้ของพวกคุณประเทศจีนโดยเฉพาะ”

“ความจริงราชามวยคนนั้นของผับ เป็นคนที่คุณหนูฝึกฝน แต่เธอคิดมาตลอดว่านี่ไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่แท้จริง”

จนกระทั่งวันนี้ที่ได้พบคุณ คุณหนูก็มั่นใจ ว่าคุณคือผู้แข็งแกร่งตัวจริง เธอหลงใหลในคนแบบพวกคุณเป็นพิเศษ

“ดังนั้นหวังว่าคุณชายพอที่จะคุยกับคุณหนูของเรา ตระกูลอังเดรของเรา จะซาบซึ้งอย่างมาก”

ปิยวัฒน์ที่อยู่ข้างๆจ้องไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าวอย่างเสียงเบาๆว่า “นายน้อย ไม่งั้น……คุณไปคุยกับเธอมั้ย? คุณหนูของตระกูลอังเดรในมอสโกเป็นสาวสวยที่ขึ้นชื่อ เรื่องนี้ เราไม่เสียเปรียบแน่นอน”

รพีพงษ์หันไปชักตาใส่เขา แล้วกล่าว “อยากคุยก็ไปคุยเอง”

ปิยวัฒน์ยิ้มอย่างอับอาย ไม่กล้าตัดสินใจแทนรพีพงษ์อีก

รพีพงษ์จ้องผู้ดูแลและฟีน่า กล่าว “พวกคุณเห็นอยู่ ว่าผมกำลังดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนๆ ดังนั้นพวกคุณไปหาคนอื่นเถอะนะ”

ผู้ดูแลก็เบื่อหน่าย แม้ตระกูลอังเดรที่มอสโกจะมีอำนาจที่แข็งแกร่ง แต่พวกเราก็ล้วนได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี ไม่มีทางบังคับใครแน่นอน

“คุณหนู ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเราไปหาที่อื่นเถอะนะ บางทีโชคดีอาจจะเจอเข้ากับยอดฝีมือที่อยากพูดคุยกับคุณหนู?” ผู้ดูแลถาม

ฟีน่ามองรพีพงษ์อย่างไม่ละสายตา แล้วกล่าว “ไม่ต้อง เขาเป็นคนที่ฉันตามหา”

“ในเมื่อเขาไม่อยากไปกับฉัน งั้นฉันก็จะอยู่ที่นี่ ดื่มกับเขา”

พูดพลาง ฟีน่าก็เดินไปที่รพีพงษ์ จากนั้นก็นั่งลงข้างๆรพีพงษ์

ผู้คนรอบๆก็ขยับออก ให้ที่นั่งฟีน่ากับรพีพงษ์

รพีพงษ์มองหญิงสาวที่งดงามอย่างเบื่อหน่าย ไม่เข้าใจว่าคนที่เป็นคุณหนู ทำไมถึงได้ชอบวงการบู๊แห่งหัวเซี่ย

ฟีน่านั่งลงแล้ว ก็ยกมือขึ้น ค้ำที่คางตัวเอง แล้วจ้องรพีพงษ์อย่างขะมักเขม้น

รพีพงษ์ถูกมองจนรู้สึกอึดอัด แล้วกล่าวว่า “สิ่งที่พวกเราจะคุยเกี่ยวข้องกับประเทศจีนทั้งหมด คุณพูดอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ผมว่าคุณไปเถอะนะ”

“ฉันไม่สน” ฟีน่ากล่าวอย่างเรียบง่าย “ฉันขอทราบชื่อคุณได้มั้ย?”

รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ กล่าว “รพีพงษ์”

“รพีพงษ์” ฟีน่าพูดชื่ออยู่หลายครั้ง เหมือนกับจะจำชื่อนี้เอาไว้ในส่วนลึก

“ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อฟีน่าตระกูลอังเดร คุณเรียกฉันว่าฟีน่าก็ได้”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท