พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่988 ไปสวนสนุก

บทที่988 ไปสวนสนุก

บทที่988 ไปสวนสนุก

“ฟีน่า คนนี้คือใคร ทำไมคุณต้องจับแขนของเขา” น้ำเสียงของวัยรุ่นเยือกเย็น

ฟีน่าจ้องไปที่วัยรุ่นคนนั้น แล้วกล่าว “ยาคอฟ คุณมาที่นี่ได้ไง?”

“ผมก็มาเป็นเพื่อนคุณไง คุณอธิบายให้ผมฟังก่อน ว่านี่คือใคร ทำไมคุณต้องลากแขนของเขาด้วย?” ยาคอฟตะคอกใส่ฟีน่า

“เขาเป็นครูของฉัน” ฟีน่ากล่าว

“ครูเชี้ยไรล่ะ แกรีบอยู่ห่างๆฟีน่าเลยนะ เธอเป็นคู่หมั้นของผม ถ้าแกยังเข้าใจเธออีก อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจนะ” ยาคอฟตะคอกใส่รพีพงษ์

ฟีน่าเห็นยาคอฟกล้าทำแบบนี้กับรพีพงษ์ ก็หน้าบึ้งขึ้นมา

“ยาคอฟ ระวังท่าทีของตัวเองหน่อยนะ คู่หมั้นนี้ตระกูลโนวันคิดเอง ฉันไม่เคยยินยอมมาก่อนเลย ถ้าคุณยังทำแบบนี้กับรพีพงษ์อีกล่ะก็ ฉันจะให้พ่อแม่ของคุณมาจัดการคุณ”

เสียงของฟีนาไม่ดัง แต่กลับมีพลังที่คนมองข้ามไม่ได้

หลังจากที่ยาคอฟได้ยินคำพูดของฟีน่าแล่ว ก็กระสับกระส่ายขึ้นมา เขาไม่กล้าทำอะไรเกินไปต่อหน้าฟีน่า

“ฟีน่า คนนี้เป็นคนจีนใช่มั้ย แว็บแรกก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีอะไร ที่เขาเข้ามาใกล้คุณจะต้องมีอะไรแอบแฝงแน่นอน ผมทำเพื่อคุณนะ” ยาคอฟท่าทีเป็นห่วง

“หุบปาก ถ้าคุณยังว่ารพีพงษ์อีกแม้แต่คำเดียว ฉันจะโทรหาพ่อคุณ” ฟีน่าไม่ฟังคำพูดของยาคอฟ

ยาคอฟได้ยินฟีน่าพูดแบบนี้ ก็ทำได้เพียงห่อเหี่ยว ไม่กล้าว่าอะไรรพีพงษ์อีก

ตระกูลโนวัน เป็นตระกูลที่มีอำนาจอย่างมากในประเทศรัสเซียเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับตระกูลอังเดรแล้ว ยังห่างกันอีกมาก

ยาคอฟคือคุณชายของตระกูลโนวัน

เพราะผู้ใหญ่ของทั้งสองตระกูลได้เคยคุยกันเรื่องหลังจากที่เด็กทั้งสองเติบโตขึ้นแล้วจะให้แต่งงานกัน ตระกูลโนวันคิดมาตลอดว่าฟีน่าจะต้องแต่งงานเข้ามาแน่นอน

แต่ตระกูลอังเดรไม่ยอมรับเรื่องนี้ คิดแค่ว่าเป็นเรื่องขำๆก็เท่านั้น

แน่นอน พวกเขาไม่ห้ามให้ยาคอฟจีบฟีน่า เพียงแค่ยาคอฟสามารถพิชิตใจของฟีน่าได้ ตระกูลอังเดรก็ไม่ถือสาเรื่องแต่งงานกับตระกูลโนวัน

ทั้งหมด เอาฟีน่าเป็นหลัก

ยาคอฟคิดว่าตัวเองในฐานะที่เป็นคุณชายของตระกูลโนวัน เป็นอัจฉริยะหนึ่งในหมื่น การฟีน่าติดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็ว

แม้ฟีน่าจะเยือกเย็นต่อเขา แต่เขาก็ไม่เคยยอมแพ้

เพราะในความคิดของเขา ฟีน่าเยือกเย็นกับคนอื่นมากกว่าอีก

ตอนนี้เห็นฟีน่าลากแขนชายคนอื่นด้วยตัวเอง แล้วยังมีท่าทีที่มีความสุขอีก ยาคอฟจึงรู้สึกถึงวิกฤต ดังนั้นจึงได้ร้อนรนขนาดนี้

ตระกูลโนวันรู้ดีถึงเรื่องสุขภาพของฟีน่า รู้ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

แต่นี่ก็ไม่ได้กระทบการที่ตระกูลโนวันจะใช้ฟีน่าใกล้ชิดกับตระกูลอังเดร

ยาคอฟก็ไม่อยากแต่งกับคนขี้โรค แต่เพื่อวงศ์ตระกูล เขายอมแต่งงานกับฟีน่า

เพราะเขายังสามารถใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาข้างนอกได้อีก สำหรับเขาแล้ว ใครเป็นภรรยาของไม่สำคัญ

“รพีพงษ์ เราไปกันเถอะ” ฟีน่าพูดกับรพีพงษ์

ประตูคฤหาสน์ของฟีน่ากำลังมีรถตู้สีดำจอดอยู่ ทั้งสองเดินไปทางนั้นพร้อมกัน

ยาคอฟกัดฟัน ชักตาไปที่หลังของรพีพงษ์ด้วยความโกรธแค้น จากนั้นก็เดินตามไป

“ฟีน่า พวกคุณจะไปทำอะไรกัน?” ยาคอฟปรับเสียงของตัวเอง พยายามทำให้ตัวเองไม่ใส่ใจมากเกินไป

“ไปสวนสนุก” ฟีน่าตอบ

“งั้นผมไปกับพวกคุณด้วยนะ สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในมอสโก ครอบครัวผมเป็นเจ้าของ ผมจะโทรหาพวกเขาให้เคลียร์สถานที่เดี๋ยวนี้” ยาคอฟกล่าว

“ไม่ต้อง เคลียร์สถานที่ก็ไม่สนุกสิ ฉันชอบความครึกครื้น” ฟีน่าตอบ

ยาคอฟทำได้เพียงยิ้มอย่างอับอาย แล้วกล่าว “‘งั้นผมไปกับพวกคุณด้วย ให้พวกคุณสะดวกขึ้น”

รพีพงษ์และฟีน่าขึ้นรถตู้สีดำ แม้ยาคอฟจะดุออกว่าฟีน่าไม่อยากให้เขาไปด้วย แต่เขาก็ยังหน้าด้านขึ้นรถอยู่ดี

ฟีน่าคำนึงถึงความสัมพันธ์ของตระกูลอังเดรและตระกูลโนวัน จึงไม่ไล่ยาคอฟลงไป

ระหว่างทางไป ฟีน่าคุยกับแค่รพีพงษ์เท่านั้น ไม่คิดจะสนใจยาคอฟเลยแม้แต่น้อย

ยาคอฟนั่งอยู่คนเดียว เขาพูดอะไรฟีน่าก็ไม่สนใจ พูดได้ว่าค่อนข้างอึดอัดเลยล่ะ

และด้วยเหตุนี้เอง ความเกลียดชังที่ยาคอฟมีต่อรพีพงษ์ยิ่งทวีขึ้นเรื่อยๆ นัยน์ตาของเขา มีความอาฆาตแค้นอยู่

เขาได้มองรพีพงษ์ว่าเป็นตัวอันตรายในการที่เขาจะได้ฟีน่ามา

คนนี้ต้องกำจัดซะ ให้อยู่บนโลกนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว

ไม่นาน ทั้งสามก็มาถึงสวนสนุก ที่ตระกูลโนวันลงทุน

หลังจากที่ฟีน่าเข้าไปในสวนสนุกแล้ว เห็นเครื่องเล่นมากมาย ก็ตื่นเต้น แล้วลากรพีพงษ์ไปเล่นรถไฟเหาะ

สำหรับรายการที่ท้าทายนั้นยาคอฟหวาดกลัวเป็นนิจอยู่แล้ว ลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ไม่กล้าไปเล่นกับรพีพงษ์และฟีน่า

รพีพงษ์ในฐานะที่กล้ากระโดดลงมาจากหน้าผาสูงร้อยเมตร สำหรับรถไฟเหาะ แทบจะไม่มีความรู้สึกใดๆเลย

หลังจากที่ทั้งสองเล่นรถไฟเหาะเสร็จ ก็ได้ไปเล่นเรือโจรสลัด เครื่องกระโดด วงเวียนใหญ่ประเภทนี้ที่ทำให้อะดรีนาลีนหลั่งออกมา

ยาคอฟกลายเป็นผู้ช่วยวิ่งแทน รับผิดชอบซื้อตั๋ว ซื้อน้ำ ให้ฟีน่าและรพีพงษ์

เล่นครบรอบ ฟีน่ารับรู้ได้ถึงความสุขที่ไม่เคยมีมาก่อน เธอไม่เคยคิดมาก่อน ว่าสวนสนุกจะสนุกขนาดนี้

บวกกับวิธีหายใจออกอย่างเร่งรัดทำให้ร่างกายของเธอเปลี่ยนไป ฟีน่ารู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับคนปกติ มีความสุขแบบนี้

“รพีพงษ์ เราไปบังจี้จั๊มพ์กันเถอะ!” ฟีน่ากำลังมองไปที่บังจี้จั๊มพ์ที่อยู่ไม่ไกล ด้วยความตื่นเต้น

“ได้” รพีพงษ์ตอบ

“เล่นอันนี้เสร็จเรากลับกันนะ” ฟีน่าพูดพลาง ก็พลางพารพีพงษ์ไปที่บังจี้จั๊มพ์

ยาคอฟเบื่อหน่าย ไม่เข้าใจว่าทำไมฟีน่าถึงชอบเล่นอะไรที่น่ากลัวด้วย

แต่ในขณะเดียวกันนี้ เขาก็ตาลุกวาวขึ้นมา เหมือนพบกับทางสว่างทันใด

ที่เขากลัวในการเล่นเครื่องเล่นที่น่ากลัวพวกนี้ เพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุ เพราะเครื่องเล่นแบบนี้ ถ้าเกิดอุบัติเหตุ ไม่มีโอกาสได้มีชีวิตอีกต่อไปแล้ว

ต่อให้เครื่องเล่นพวกนี้จะไม่เกิดปัญหา แต่เขาก็ไม่อยากเสี่ยง

ตอนนี้รพีพงษ์จะไปเล่นบังจี้จั๊มพ์ ถ้าเชือกบังจี้จั๊มพ์ขาด งั้นเขาก็ไม่มีโอกาสรอดชีวิตแล้ว?

ในความเป็นจริง เชือกของบังจี้จั๊มพ์ไม่มีทางขาดได้

แต่สวนสนุกนี้เป็นของตระกูลโนวัน อยากจะทำอะไรกับเชือก ก็ค่อนข้างง่ายดาย

เมื่อนึกถึงจุดนี้ ยาคอฟก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย จากนั้นก็รีบเดินไป

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน