พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1040 งั้นก็ทำได้เพียงใช้กำลังแล้วล่ะ

บทที่1040 งั้นก็ทำได้เพียงใช้กำลังแล้วล่ะ

บทที่1040 งั้นก็ทำได้เพียงใช้กำลังแล้วล่ะ

รพีพงษ์ลากตปิยะออกมาจากห้อง มาถึงที่สวน โศภิตาเห็นดังนี้ก็รีบเอาเอกสารกู้ของตัวเองหยิบตามมา แล้วเดินตามไป

“ลูกพี่ ผมผิดไปแล้ว ปล่อยผมไปเถอะนะ ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว ผมสัญญา ผมจะไม่มาหาเรื่องโศภิตาอีกแล้ว” ตปิยะรู้ได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องที่เกิดขึ้น เริ่มอ้อนวอนรพีพงษ์

รพีพงษ์ไม่สนใจคำพูดของเขา เดิมทีเขาตัดสินใจคืนเงินแปดแสนนั้นแทนโศภิตาก็เป็นอันว่าจบ แต่ตอนนี้ตปิยะมาหาถึงที่ เงินก้อนนี้ก็เป็นเขาที่ปลอมบัตรประชาชนของโศภิตาไปกู้มา ต้องให้เขาคืนเอง

โศภิตาเดินนำหน้า นำทางรพีพงษ์ ที่ๆตปิยะกู้หนี้นอกระบบอยู่ใจกลางเคหะ ไม่ไกลจากที่นี่

รพีพงษ์จับตปิยะเหมือนจับลูกไก่อย่างไรอย่างนั้น เหมือนไม่ต้องใช้แรง แค่แรงของตปิยะ ไม่มีทางหลุดจากมือของรพีพงษ์ได้

ฟันของตปิยะหลุดออกไปครึ่งปาก เดินไปเลือดจากปากก็ไหลออกมา เลือดเต็มตัวไปหมด

คนจำนวนไม่น้อยในเคหะเห็นเหตุการณ์นี้ คิดว่ารพีพงษ์เป็นฆาตกร ตกใจจนรีบหลบไป

ไม่นาน โศภิตาพารพีพงษ์และตปิยะทั้งสองมาถึงประตูของบ้านเรือนสี่ประสาน แล้วยังบอกรพีพงษ์อีกว่าคนพวกนั้นที่ปล่อยกู้นอกระบบ อยู่ในบ้านเรือนสี่ประสานนี้

กลุ่มที่ปล่อยกู้หนี้นอกระบบนี้ผิดกฎหมาย เป็นลูกพี่ใหญ่ที่ทำกับลูกน้องของตัวเองกลุ่มหนึ่งในเคหะนี้ แม้แต่ใบประกอบการปล่อยกู้ก็ไม่มี

ระหว่างทางมา โศภิตาได้เล่าข้อมูลเกี่ยวกับลูกพี่คนนี้ให้รพีพงษ์ฟังบ้างแล้ว

คนนั้นมีฉายาว่าหมาป่า เป็นนักพรตที่อยู่ในยุทธภพมานานหลายปี แต่หน้าเนื้อใจเสือ ทำได้ทุกอย่าง ใช้เวลาไม่นาน ก็จัดการกลุ่มเล็กๆในเคหะได้จนหมด จากนั้นก็รวบรวมลูกน้องมาอยู่ด้วย

โศภิตาจ้องรพีพงษ์ ด้วยความลังเล แล้วเริ่มถาม “รพีพงษ์ พวกเราจะเข้าไปจริงๆหรอ? หมาป่าเป็นผู้มีอำนาจในเคหะเลยนะ ที่นี่ไม่มีใครกล้ายั่วโมโหเขา ถ้าพวกเราเข้าไปแบบนี้ ถึงตอนนั้นเกิดเรื่อง เกรงว่าจะหนีกันไม่ทันนะ”

ความจริงเธอกำลังบอกรพีพงษ์ ว่าหมาป่ามีลูกน้องเยอะ เข้าไปแค่สองคนไม่ปลอดภัย

เบื้องหลังรพีพงษ์ยิ่งใหญ่ จะหาใครสักคนคงไม่ยาก ดังนั้นเธออยากให้รพีพงษ์หาคนมากลุ่มหนึ่ง แล้วค่อยมาหาหมาป่าเรื่องกู้เงินนั่น

รพีพงษ์หัวเราะให้โศภิตา กล่าว “สบายใจได้ ผมคนเดียวก็พอแล้ว พวกมันทำอะไรไม่ได้หรอก”

เห็นรพีพงษ์พูดแบบนี้ โศภิตาก็ทำได้เพียงพยักหน้า สูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากที่เตรียมพร้อมแล้ว ก็เดินเข้าไปในบ้านเรือนสี่ประสาน

ผลักประตูเข้าไป คนกลุ่มหนึ่งในบ้านเรือนสี่ประสานกำลังดื่มเหล้ากินบาร์บีคิวอยู่ในสวน ค่อนข้างคึกคัก

และชายที่นั่งอยู่ตรงกลาง รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางร้ายกาจ ก็คือหมาป่า

ทุกคนกินอย่างมีความสุข เมื่อเห็นคนผลักประตูเข้ามา ก็หันไปมอง

หมาป่าจ้องไปยังสามคนที่เดินเข้ามา หลังจากที่เห็นตปิยะที่เต็มไปด้วยเลือดแล้วนั้น ก็หลับตาลง

“โศภิตา ไม่คิดว่าแกจะมาหาถึงที่? ไง รวบรวมเงินครบพร้อมคืนแล้วหรอ หรือว่าตัดสินใจ จะให้ลูกพี่ของเราสบายตัว?” ชายผมทองที่อยู่ข้างๆหมาป่าหัวเราะพลางพูดกับโศภิตา

โศภิตาหวาดกลัว เมื่อได้ยินคำพูดของผมทองแล้ว ก็รีบกล่าวว่า “วันนี้ฉันมาเพื่อพูดเรื่องหนี้นอกระบบ”

รพีพงษ์ผลักตปิยะลงบนพื้น มองไปรอบๆ กล่าว “ใครคือหมาป่า?”

ผมทองนั้นยืนขึ้น มองไปที่รพีพงษ์ที่เหมือนไม่ให้ความสำคัญพวกเขา ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ด่าไปตรงๆว่า “แม่ง มึงเป็นใคร กล้าเรียกฉายาของลูกพี่กูโดยตรง ทำไม ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ถึงได้มาหาเรื่องพกวเรา?”

พูดพลาง ก็เดินไปที่รพีพงษ์ ยื่นมือ จะผลักรพีพงษ์

รพีพงษ์ถีบไปที่ร่างของเขา ถีบจนเขาเหมือนคางคกลงไปนอนกองอยู่กับพื้น

ทุกคนเห็นรพีพงษ์ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ลงมือ หน้าถอดสีทันที แล้วรีบยืนขึ้น คนจำนวนไม่น้อยหยิบขวดเหล้าขึ้นมา จ้องไปที่รพีพงษ์ด้วยความโกรธ

ขณะนี้หมาป่ายืนขึ้น หลังจากที่จ้องไปที่รพีพงษ์แล้ว ก็กล่าว “กูคือหมาป่า มึงเป็นใคร? มาที่นี่ทำไม?”

รพีพงษ์มองไปที่หมาป่า กล่าว “กูมาจัดการเรื่องหนี้นอกระบบของเธอ”

ผมทองที่ถูกรพีพงษ์ถีบเข้าไปก็กัดฟันลุกจากพื้น แล้วตะคอก “ลูกพี่ ไอ้เชี้ยนี่มันกล้าลงมือกับผม พี่รีบให้พรรคพวกกดมันไว้ ผมจะต่อยมันหนักๆสักตั้ง!”

หมาป่าไม่สนใจคำพูดของผมทอง เขาดูออกว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นจึงไม่ได้ให้คนของตัวเองลงมือต่อรพีพงษ์

“ทำไม มึงจะคืนเงินแทนเธอ?” หมาป่าถาม

รพีพงษ์ส่ายหน้า ยื่นมือแล้วชี้ไปที่ตปิยะ กล่าว “หนี้นอกระบบของเธอทั้งหมด ไอ้นี่มันปลอมบัตรประชาชนเธอแล้วมากู้ เงินทุกบาททุกสตางค์ไอ้นี่มันเป็นคนใช้ ไม่เกี่ยวข้องกับหญิงสาวคนนี้ ต่อจากนี้ไปถ้าพวกมึงจะเอาเงิน ให้ไปเอาจากมัน อย่าทำให้สาวคนนี้ลำบากใจ”

หลังจากที่หมาป่าได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็เยาะเย้ย กล่าว “กูต้องสนด้วยหรอว่าเงินนี้ใครเป็นคนใช้? หลักฐานของพวกกูคือบัตรประชาชนของเธอ ดังนั้นเงินนี้โศภิตาต้องคืนเอง ถ้าเธอไม่มีปัญหาคืน ก็เอาตัวมาแลก”

“ถ้ามึงมีเงินจะคืนแทนเธอก็ได้นะ มึงมาที่นี่แล้วบอกให้กูเอาเงินจากไอ้เชี้ยนี่ ตลกปะ?”

โศภิตาทั้งวัยรุ่นทั้งสวย หมาป่าชอบโศภิตามานานแล้ว เขารู้ว่าเงินพวกนั้นตปิยะเป็นคนยืม แต่เพื่อจะให้ได้โศภิตามา เขาจึงบีบให้โศภิตาคืนเงิน เพียงแค่โศภิตาทนไม่ไหว ก็เข้าทางเขาแล้ว

ตอนนี้รพีพงษ์ปรากฏตัวออกมากะทันหันแล้วบอกให้ไปเอาเงินจากตปิยะ เขาไม่ทำแน่นอน

รพีพงษ์เห็นหมาป่าไม่สนใจเขา ก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ กล่าว “ตามที่มึงพูด รู้ว่าเงินนี้ไอ้นี่เป็นคนยืม ก็ยังต้องทวงเงินจากโศภิตา?”

หมาป่าหัวเราะ กล่าว “จะว่าตามนี้ก็ว่าได้ ไอ้เชี้ยบนพื้นนี่มันเป็นผีพนัน กูรู้ดีถึงตัวตนของมัน ถ้ามันมีเงิน แม่หมูก็ปีนขึ้นต้นไม้ได้แล้ว”

รพีพงษ์หลับตาลง ถาม “ดังนั้นพวกมึงยอมที่จะทำลายชีวิตหญิงสาวคนหนึ่ง แล้วบีบหนี้สินให้เธอ?”

หมาป่าหน้าบึ้ง แล้วกล่าว “เด็กน้อย อย่าคิดว่ากูเกรงใจมึงหน่อย แล้วพวกกูจะกลัวมึงนะ อย่ามึงที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านกูเห็นมาเยอะ ถ้ามึงมีเงิน ก็รีบคืนแทนเธอซะ ยังจะพูดมากอะไรตรงนี้อีก ไม่งั้นอย่าหาว่าพวกกูไม่เตือนนะ!”

รพีพงษ์หัวเราะ กล่าว “ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ทำได้เพียงใช้กำลังแล้วล่ะ ”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท