พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1059 ตื่นรู้

บทที่1059 ตื่นรู้

ทที่1059 ตื่นรู้

แม้ว่าในใจจะหวาดกลัว แต่นฤชัยก็ไม่ได้ลังเลมากนัก ในการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือ ทุกๆความลังเลจะนำไปสู่ความล้มเหลว

เขากัดฟันสลัดหลุดพ้นจากมือของรพีพงษ์ จากนั้นปลดปล่อยพลังในร่างกายของตัวเองออกมา กลายเป็นขวานขนาดใหญ่ ฟันไปที่บนร่างกายของรพีพงษ์

หลังจากที่รู้ว่าความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ไม่ได้ธรรมดาเหมือนอย่างที่เขาคิด นฤชัยตั้งใจที่จะไม่ออมมืออีกต่อไป ไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่มีโอกาสใดๆที่จะชนะรพีพงษ์

พลังปรากฏออกมาจากบนฝ่ามือของรพีพงษ์ กลายเป็นดาบต้านทานขวานนั้นไว้ทันที

พลังของขวานและดาบปะทะกัน พลังกระเพื่อมกระจายไปรอบๆ พื้นดินสั่นสะเทือนเพราะเหตุนี้

ไม่ว่ายังไง รพีพงษ์เป็นยอดฝีมือแดนดั่งเทพชั้นยอด ต่อให้นฤชัยจะใช้พลังทั้งหมดออกมา ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะต้านทานพลังของรพีพงษ์ไว้ได้

ยิ่งไปกว่านั้นที่รพีพงษ์ได้ฝึกฝนกังฟูเสน พลังในร่างกายนั้นแข็งแกร่งกว่าเน่ยจิ้งไปหนึ่งระดับ

หลังจากการปะทะ นฤชัยก็บินออกไปด้านหลังอีกครั้ง กระแทกล้มลงบนพื้นทันที

เพราะแค่การประลอง ดังนั้นรพีพงษ์ไม่ได้ใช้พลังที่แข็งแกร่งมากออกมา แค่พอเป็นพิธี ดังนั้นนฤชัยจึงเพียงแค่กระแทกล้มอยู่บนพื้น ไม่อย่างนั้น ตอนนี้นฤชัยคงจะเสียชีวิตไปแล้ว

เขาล้มลงอยู่บนพื้นเป็นเวลานานโดยที่ไม่สามารถตอบสนองกลับมาได้ คาดไม่ถึงว่าตัวเองจะพ่ายแพ้ให้รพีพงษ์แบบนี้

เป็นเวลาพักหนึ่ง อารมณ์ที่ซับซ้อนประเภทต่างๆก็เพิ่มขึ้นในหัวใจของนฤชัย ทำให้ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก

ที่แท้สาเหตุที่รพีพงษ์ไม่ยอมประลองกับเขา เป็นเพราะเขาคงจะสามารถชนะตัวเองได้อย่างแน่นอน เขาปฏิเสธเพื่อไม่ให้ตัวเองอับอายขายหน้า แต่ตัวเองยังยืนกรานที่จะประลองกับรพีพงษ์ มาพิสูจน์ตัวเอง

เมื่อคิดถึงตอนนี้ ความคิดแบบนั้นของเขา ช่างไร้สาระเกินไปจริงๆ

ที่สำคัญจนถึงตอนนี้ เขาจึงเข้าใจว่าทำไมอาจารย์ถึงได้ชื่นชมรพีพงษ์มากขนาดนั้น

ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแค่เป็นคนมีความสามารถเท่านั้น เขายังเป็นปีศาจ เขาอายุแค่ยี่สิบปีกว่า ก็บรรลุถึงระดับแดนดั่งเทพชั้นยอดแบบนี้ได้

ความสำเร็จแบบนี้ คือเป็นไปไม่ได้ที่ชาตินี้นฤชัยจะสามารถบรรลุถึง

แม้ว่าที่ผ่านมาเขาก็ถือได้ว่าเป็นคนมีความสามารถ ที่สำคัญบรรลุถึงระดับที่ค่อนข้างสูงจริงๆ แต่ว่าปีนี้เขาอายุสามสิบแล้ว ความแข็งแกร่งยังเป็นแดนดั่งเทพขั้นกลางอยู่ ที่สำคัญก้าวหน้ายังอีกยาวไกล เขาต้องการจะบรรลุถึงแดนดั่งเทพชั้นยอด คงจะต้องใช้เพิ่มยี่สิบปี และแม้กระทั่งเวลาสามสิบปี

และตอนนี้รพีพงษ์บรรลุถึงระดับนี้แล้ว

สิ่งนี้ทำให้ความเย่อหยิ่งในใจของเขาสลายไปทันที ที่แท้เมื่อเทียบกับรพีพงษ์ ตัวเองก็ถือได้ว่าไม่มีอะไร

ก็ไม่แปลกใจที่นิศมาเพียงแค่รู้จักเขาหนึ่งวัน ก็มีท่าทีที่มีต่อเขาไม่เหมือนกับที่มีต่อคนอื่น

รพีพงษ์มีพรสวรรค์ที่คนธรรมดาไม่มีทางมีได้ ต่อให้เขาไม่พูด ความพิเศษบนตัวของเขาเอง ก็จะดึงดูดผู้คนที่เข้ามาสัมผัสกับเขา

รพีพงษ์เดินไปทางนฤชัย จากนั้นก้มลงมองไปที่เขาแวบหนึ่ง เอ่ยปากถามว่า: “ศิษย์พี่ พี่ยังจะสู้ต่อไปมั้ย?”

นฤชัยดึงสติกลับมา รีบส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า: “ไม่ต้องแล้ว ฉันยอมแพ้”

เมื่อเห็นว่านฤชัยยอมแพ้อย่างรวดเร็วฉับไว รพีพงษ์ก็มีความประหลาดใจบ้าง เขายังคิดว่านฤชัยถึงตายก็ไม่ยอมแพ้ ต้องการต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายกับตัวเอง

นฤชัยลุกขึ้นมาจากบนพื้น มองไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตาที่ซับซ้อนแวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “นายแข็งแกร่งมาก นายคือในบรรดาของคนอัจฉริยะ ที่แข็งแกร่งที่สุด อาจารย์ชื่นชมนาย ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล”

รพีพงษ์ยิ้มให้กับนฤชัยเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “ศิษย์พี่ชมเกินไปแล้ว”

นฤชัยหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า: “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตำแหน่งศิษย์พี่ใหญ่นี้ ก็มีนายมาเป็น”

รพีพงษ์เอ่ยปากพูดว่า: “อันที่จริงสิ่งนี้ไม่มีความจำเป็น อาจารย์ทำแบบนี้ เพียงเพื่อให้ฉันฝึกฝนพี่ จากนี้ไปตำแหน่งศิษย์พี่ใหญ่นี้ ยังมีพี่มาเป็นเถอะ”

นฤชัยยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “คนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ จะจัดอันดับผู้อาวุโสตามความแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งของนายสมควรจะได้เป็นตำแหน่งนี้ ก็อย่าได้หลบหลีก”

เมื่อนฤชัยพูดแบบนี้ รพีพงษ์ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป

นฤชัยเป็นคนฉลาด ความแข็งแกร่งของเขาสามารถบรรลุถึงแดนดั่งเทพขั้นกลาง ก็ไม่ได้อาศัยโชค

เป็นเพียงเพราะความสามารถและความแข็งแกร่งของเขาโดดเด่นมากเกินไป ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้สักครั้ง ดังนั้นในใจเขาถึงได้มีความเย่อหยิ่งที่มองข้ามทุกอย่างเพิ่มมา

วิสัยทัศน์แบบนี้เป็นอันตรายต่อนฤชัยเป็นอย่างมาก มีความเป็นไปได้มากตอนที่ก้าวหน้าในอนาคต จะกลายเป็นปมในใจของเขา ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้

ที่สำคัญถ้าต้องการทำลายวิสัยทัศน์แบบนี้ ก็ทำได้เพียงหาคนที่มีความแข็งแกร่งและความสามารถที่แข็งแกร่งกว่าเขา ทำให้เขารู้ว่าเหนือคนยังมีคน

ในช่วงเวลาที่พ่ายแพ้ให้กับรพีพงษ์ นฤชัยก็เข้าใจจุดประสงค์ที่อาจารย์ทำแบบนี้ ในเวลาเดียวกันก็ตระหนักถึงข้อบกพร่องของตัวเอง

เขาไม่ได้เป็นคนใจแคบ ครั้งนี้เขายังต้องขอบคุณรพีพงษ์พี่ช่วยให้เขาตระหนักถึงปัญหานี้ และไม่เกิดความเกลียดชังอะไรต่อรพีพงษ์เป็นธรรมดา

เมื่อทุกคนเห็นว่านฤชัยยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยความสมัครใจ คาดไม่ถึงนฤชัยที่แข็งแกร่งที่สุดในใจของพวกเขา ก็มีเวลาที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ให้กับผู้อื่น

“ที่แท้ศิษย์น้องรพีพงษ์แข็งแกร่งขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ฉันยังคิดว่าเขาเป็นไอ้โง่ ดูเหมือนว่าตัวฉันเองมีตาหามีแววไม่”

“ใครบ้างที่ไม่ใช่ ใครที่ไหนจะไปคิดว่าศิษย์น้องรพีพงษ์ที่อายุยังน้อย จะบรรลุถึงแดนดั่งเทพชั้นยอดแล้ว ก่อนหน้าฉันยังคิดว่าเขายังบรรลุไม่ถึงแดนปรมาจารย์ชั้นยอด”

“โธ่เอ๊ย น่าละอายจริงๆ คำนวณลงมาแล้วฉันอายุมากกว่ารพีพงษ์หลายปี ปรากฏว่าฉันแม้แต่แดนปรมาจารย์ชั้นยอดก็บรรลุไม่ถึง ศิษย์น้องรพีพงษ์บรรลุถึงแดนดั่งเทพชั้นยอดแล้ว ฉันอยากหาที่มุดดินหนีเข้าไปจริงๆ”

……

นิศมาและบาวันทั้งสองคนเดินทางรพีพงษ์ ในสายตาที่มองไปที่รพีพงษ์มีสีสันที่แตกต่างกันปรากฏออกมาเล็กน้อย

“ศิษย์พี่ พี่ค้นพบว่ารพีพงษ์ไม่ธรรมดาตั้งนานแล้วใช่มั้ย ดังนั้นถึงได้ดีกับเขาขนาดนี้เหรอ?”บาวันเอ่ยปากถาม

นิศมามองไปที่บาวันแวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “อย่าพูดจาเหลวไหล ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้ว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้”

บาวันครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วพูดว่า: “ถ้าอย่างนั้นศิษย์พี่รังเกียจมั้ยที่ฉันจะแข่งขันแย่งรพีพงษ์กับพี่?”

ใบหน้าของนิศมาเต็มไปด้วยความเซ็ง แล้วพูดว่า: “ฉันบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าฉันสนใจรพีพงษ์ ผีถึงจะแข่งขันแย่งกับเธอ”

“แฮะๆ ในเมื่อศิษย์พูดแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะไม่เกรงใจแล้ว ฉันจัดการเขาให้อยู่ในกำมือได้พี่อย่าเสียใจภายหลัง”บาวันยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูด

นิศมาอยากจะพูดอะไรบางอย่างทันที แต่หลังจากที่ลังเลสักพัก ก็ปิดปากเงียบลง

รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของพวกเขาสองคน หลังจากเห็นทั้งสองคนเดินมาทางตัวเอง เขาก็รีบวิ่งไปทางอาจารย์

“อาจารย์ พวกเรารีบไปที่ห้องของท่านกันเถอะ ผมมีอะไรจะปรึกษาอาจารย์”รพีพงษ์เอ่ยปากพูด

จากนั้นก็ดึงวฤนท์ธมเดินไปทางที่บ้านตรงนั้น

ถึงในบ้าน หลังจากที่แน่ใจว่านิศมาและบาวันทั้งสองคนไม่ได้ไล่ตามมา รพีพงษ์ถึงได้โล่งอก

วฤนท์ธมยิ้มแล้วมองรพีพงษ์แวบหนึ่ง แล้วพูดว่า: “ทำไม นายถึงได้กลัวพวกเธอสองคนมากขนาดนี้ กลับเอาฉันเป็นเกราะป้องกัน”

รพีพงษ์ยิ้มให้วฤนท์ธมอย่างกระอักกระอ่วน ความจริงเขาไม่ได้เพื่อที่จะหลบบาวันและนิศมาอย่างเดียว

ตอนนี้หยกโยงจิตก็นำมาแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เขาจะถามถึงหายนะของอาจารย์ ตกลงว่าคืออะไรกันแน่

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท