พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1100 หุ่นเชิด

บทที่1100 หุ่นเชิด

รพีพงษ์ก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่า ร่างมืดที่ปรากฏตัวที่นี่ จะกลายเป็นคนที่ดูไปแล้วปกติมาก !

ในเวลาเดียวกันก็มีความสยดสยองอยู่ในใจของเขา เมื่อกี้นี้คนคนนี้เพียงใช้มือคว้าดาบที่เขาใช้พลังแปลงออกมาไว้ได้อย่างง่ายดาย

ที่สำคัญใช้พลังเพียงเล็กน้อย ดาบเล่มนั้นของรพีพงษ์ก็สลายไปทันที

สิ่งนี้ทำให้รพีพงษ์รู้สึกว่าตัวเองและเขาไม่ใช่คนที่ความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเดียวกันเลย

เมื่อกี้นี้ทั้งๆที่เขาไม่รู้สึกถึงคลื่นพลังใดๆปรากฏบนร่างกายของชายวัยกลางคนคนนี้ ก็เหมือนราวกับว่าวัยกลางคนคนนี้จะอาศัยพลังทางร่างกายทั้งหมดคลี่คลายการโจมตีของเขา

แล้วร่างกายของชายวัยกลางคนคนนี้แข็งแกร่งถึงระดับไหน ถึงสามารถรับดาบของรพีพงษ์ไว้ได้ด้วยมือเปล่า?

ความคิดเหล่านี้แวบขึ้นมาอยู่ในหัวของรพีพงษ์ จากนั้นเขาก็รีบถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว

คนคนหนึ่งที่น่ากลัวขนาดนี้ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ถ้าหากอีกฝ่ายอยากจะฆ่าตัวเอง เกรงว่าจะไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก

“ผู้อาวุโส ขอโทษด้วยจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะบุกรุก ถ้าหากผู้อาวุโสไม่ให้ผ่านไป ผมก็จะถอยกลับไปเดี๋ยวนี้”รพีพงษ์สองมือประสานทำความเคารพให้กับชายวัยกลางคนคนนั้นที่อยู่ตรงหน้า

ชายวัยกลางคนยืนอยู่ที่เดิม และไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ ก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ในเวลานี้รพีพงษ์ถึงมีความคิดจ้องมองตรวจสอบชายคนกลางคนคนนี้อย่างละเอียดสักพัก

เขาค้นพบว่าชายวัยกลางคนคนนี้ดูไปแล้วเหมือนกับคนปกติทั่วไป แต่กลับให้ความรู้สึกที่ขัดคำสั่งไม่ได้กับคน ในดวงตาทั้งสองของเขาไม่มีชีวิตชีวาแม้แต่น้อย เหมือนราวกับว่าขาดจิตวิญญาณ เหม่อลอยแล้วไม่มีความรู้สึก

แต่ความเร็วเมื่อกี้นี้ของชายวัยกลางคนนี้ทำให้รพีพงษ์เข้าใจ เขาไม่ได้ไม่มีความรู้สึก เพียงแค่ดูไปแล้วเหม่อลอยเท่านั้นเอง

เมื่อเห็นว่าชายวัยกลางคนไม่ตอบสนอง รพีพงษ์ก็ถามอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ: “ผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าที่นี่คือที่ไหน ช่วยบอกผมได้มั้ย?”

ชายวัยกลางคนคนนั้นยังคงไม่ตอบสนอง

ทันใดนั้นรพีพงษ์ก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมา ว่ากันตามเหตุผลชายวัยกลางคนนี้ไม่ต้องการสนใจตัวเอง ก็ควรจะมีการตอบสนองเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ว่าเหมือนรูปปั้นสลักหิน ยืนนิ่งไม่ขยับอยู่อย่างนั้น

ในขณะนี้ ในหัวของรพีพงษ์ปรากฏขึ้นมาคำหนึ่ง ทำให้เขาหาสาเหตุที่ชายวัยกลางคนคนนี้ยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ที่นี่ได้

หุ่นเชิด!

แม้ว่าชายวัยกลางคนคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าจะดูไม่มีอะไรแตกต่างจากคนปกติทั่วไป แต่ว่าในดวงตาทั้งสองของเขาก็ไม่มีชีวิตชีวาแม้แต่น้อย เหมือนราวกับว่าไม่มีวิญญาณ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าชายวัยกลางคนคนนี้ยังคงมีระยะห่างความต่างกับกับคนปกติทั่วไปอยู่

ไม่อย่างนั้นต่อให้เป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางยืนอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่งนานขนาดนี้โดยที่ไม่มีการกระทำหรือปฏิกิริยาอื่นใดเลย

ชายวัยกลางคนคนนี้น่าจะเป็นหุ่นเชิดทรงพลังที่ทำมาจากวัสดุพิเศษบางอย่าง ดังนั้นตอนนั้นที่เขารับท่วงท่านั้นของรพีพงษ์ได้ ไม่มีคลื่นพลังใดๆ อาศัยพลังของร่างกายเพียงอย่างเดียว

คงจะมีเพียงหุ่นเชิดเท่านั้นที่สามารถใช้พลังกายได้ถึงระดับแบบนี้

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ในใจของรพีพงษ์ก็พอจะเดาได้ว่า ทำไมตัวเองถามเขา เขากลับมีปฏิกิริยาใดแม้แต่น้อย

หุ่นเชิดนี้น่าจะปฏิบัติตามคำสั่งการกระทำบางอย่างที่ง่ายๆ ถ้าหากรพีพงษ์ไม่กระตุ้นเงื่อนไขบางอย่าง หุ่นเชิดเหล่านี้ก็น่าจะปฏิกิริยาใดๆ

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ รพีพงษ์ก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ต้องการดูว่าหุ่นเชิดนี้จะเกิดการตอบสนองหรือไม่

แน่นอนว่า ทันทีที่เขาก้าวออกไปได้สองก้าว หุ่นเชิดนั้นก็ยกมือขึ้น และขวางรพีพงษ์ไว้

ที่สำคัญในลำคอของเขาก็ส่งเสียงแหบออกมา

“ต้องการจะผ่านไป ต้องได้รับการทดสอบ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย คุณยังจะไปต่อมั้ย?”

เมื่อรพีพงษ์ได้ยินคำพูดที่หุ่นเชิดพูดออกมา นิ่งอึ้งไปทันที คาดไม่ถึงว่านี่จะเป็นหุ่นเชิดจริงๆด้วย เพียงแค่ตัวเองแสดงท่าทางที่จะเดินผ่านไป เขาถึงจะเกิดการตอบสนอง

ที่สำคัญการทดสอบที่หุ่นเชิดพูดถึงดึงดูดความสนใจของรพีพงษ์ เขาคิดดูแล้ว เอ่ยปากพูดว่า: “การทดสอบอะไร?”

เดิมทีรพีพงษ์คิดว่าจะไม่ได้รับคำตอบใดๆ เขาก็เพียงแค่ถามไปตามน้ำ กลับคาดไม่ถึงว่าได้รับคำตอบจากหุ่นเชิดจริงๆ

“ห้องโถงด้านหน้าเรียกว่าห้องโถงจิตตานุภาพ เป็นสิ่งที่เจ้านายเก็บไว้ตอนมีชีวิตอยู่ หน้าที่ของมันคือใช้มาทดสอบจิตตานุภาพของคน คนที่เข้าสู่ในห้องโถง จะรู้สึกถึงแรงโน้มถ่วง ยิ่งเข้าไปด้านใน แรงโน้มถ่วงก็จะยิ่งแข็งแกร่ง และแรงโน้มถ่วงนี้ไม่สามารถใช้เครื่องมือศักดิ์สิทธิ์มาหลบเลี่ยงได้ ทำได้เพียงอาศัยจิตตานุภาพของตนเองมาค้ำจุน คนที่พลังจิตตานุภาพยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งสามารถทนต่อแรงโน้มถ่วงได้มากขึ้น”

“ถ้าจิตตานุภาพไม่เพียงพอ ก็จะถูกบดขยี้ด้วยแรงโน้มถ่วง นอกจากความแข็งแกร่งเหนือกว่าเจ้านาย กลยุทธ์ทะลวงฟ้าก็ไม่มีทางคลี่คลายแรงโน้มถ่วงนี้ได้ มีชีวิตรอดเดินออกมาจากห้องโถงจิตตานุภาพ ก็ถือได้ว่าผ่านการทดสอบ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่หุ่นเชิดพูด ในใจรพีพงษ์ก็รู้สึกอัศจรรย์ คาดไม่ถึงว่ายังมีวิธีการแบบนี้มาทดสอบคน

ตามที่หุ่นเชิดบอก ห้องโถงจิตตานุภาพนี้ไม่สนใจความแข็งแกร่งของผู้คน ต้องการที่จะผ่านไป ก็ทำได้เพียงแค่อาศัยจิตตานุภาพของตัวเองเท่านั้น เว้นแต่ความแข็งแกร่งจะเหนือกว่าเจ้านายที่ในปากของหุ่นเชิดพูดถึง ไม่อย่างนั้นไม่มีทางคลี่คลายแรงโน้มถ่วงนี้ได้

แค่หุ่นเชิดตัวนี้ ก็ทำให้รพีพงษ์รู้สึกหวาดกลัวแล้ว เจ้านายของมันทรงพลังขนาดไหนแค่คิดก็รู้แล้ว

อย่างไรก็ตามรพีพงษ์คงจะเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะอาศัยความแข็งแกร่งมาคลี่คลายแรงโน้มถ่วงแบบนี้

ที่สำคัญนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่าแรงโน้มถ่วงสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามพลังของจิตตานุภาพของคน ซึ่งก็เพียงพอที่จะอธิบายกลยุทธ์ความน่ากลัวของคนที่สร้างห้องโถงจิตตานุภาพนี้ได้

เจ้านายที่หุ่นเชิดตัวนี้พูดถึง มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นปรมาจารย์ท่านหนึ่งที่อยู่บนโลกมาเมื่อห้าพันปีก่อน

เมื่อมาถึงจุดนี้ โดยพื้นฐานรพีพงษ์ก็แน่ใจได้ว่า ที่นี่ไม่ใช่ดินแดนลึกลับอะไร แต่น่าจะเป็นสุสานของปรมาจารย์ท่านนี้ หรือเป็นพวกโบราณสถาน

นอกจากนี้ยังหมายความว่า ต่อให้ยังคงเดินหน้าต่อไป ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหาเครื่องยาสมุนไพรยาที่ต้องการพบได้

ดังนั้นรพีพงษ์เกิดความลังเลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าตัวเองจะไปต่อหรือไม่

หลังจากคิดเรื่องนี้มานาน รพีพงษ์เหลือบมองไปที่ห้องโถงจิตตานุภาพแวบหนึ่ง เดาได้ว่าเจ้านายคนนี้ทิ้งการทดสอบแบบนี้ไว้ คงจะมีต้องมีจุดประสงค์อย่างแน่นอน

ถ้าหากตัวเองยังคงเดินหน้าต่อไป ไม่แน่อาจมีผลประโยชน์อะไรที่คาดไม่ถึง เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครทดสอบอยู่ที่นี่ เพียงเพื่อจะล้อคนรุ่นหลังเล่น

เจ้านายคนนี้คงต้องทิ้งสิ่งล้ำค่าอะไรไว้ที่นี่อย่างแน่นอน

แม้ว่าเป้าหมายของรพีพงษ์จะเป็นเครื่องยาสมุนไพร แต่ว่าตอนนี้เขาต้องพัฒนาเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองโดยเร็วที่สุด เนื่องจากดินแดนลึกลับที่จีรภัทรบอกยังคงลำบากและอันตราย ด้วยความแข็งแกร่งตอนนี้ของเขา เข้าไปก็มีเพียงตายทางเดียว

และการทดสอบที่นี่เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการความแข็งแกร่งมากเกินไป ก็มีโอกาสที่จะผ่าน

ในแง่ของจิตตานุภาพ รพีพงษ์ยังคงมีความมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก ถ้าหากจิตตานุภาพของเขาอ่อนแอ จะก้าวไปสู่วันนี้ทีละก้าวได้อย่างไร

หลังจากหายใจเข้าลึกๆ รพีพงษ์ก็ตัดสินใจออกมาในที่สุด

เดินหน้าต่อไป!

ต่อให้จะมีการทดสอบอื่นๆหลังจากห้องโถงจิตตานุภาพนี้ รพีพงษ์ก็ยังสามารถถอนตัวออกมาได้อีก ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องกลัว

เขามองไปที่หุ่นเชิดตัวนั้นแวบหนึ่ง เอ่ยพูดว่า: “ผมยอมรับการทดสอบ”

หุ่นเชิดเหมือนราวกับว่าเข้าใจคำพูดของรพีพงษ์ ก็หันไปด้านข้าง และทำท่าทางเชิญให้กับรพีพงษ์

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท