พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1112 ร่างเทพชูรา

บทที่ 1112 ร่างเทพชูรา

หลังจากที่พยักหน้าให้ชยนต์และตมิสา รพีพงษ์หันหน้ามองไปที่ในห้องโถงแวบหนึ่ง แววตาจับจ้องไปที่บนบัลลังก์ในห้องโถง

ในการสืบทอดที่บวรทัตให้กับรพีพงษ์ รวมทั้งความทรงจำบางอย่างก่อนหน้าที่เขายังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นรพีพงษ์จึงเข้าใจบวรทัตเป็นอย่างมาก

ประสบการณ์ตลอดชีวิตของคนคนนี้ แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่รพีพงษ์ไม่เคยกล้าคิดมาก่อน เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า คนคนหนึ่งจะสามารถมีประสบกับการล้มลุกคลุกคลานขนาดนี้

ที่สำคัญในเวลานั้นโลกเต็มไปด้วยปราณทิพย์ ประสบการณ์ของบวรทัตอยู่ในใจของรพีพงษ์ก็เหมือนกับการถ่ายทำภาพยนตร์เทพนิยาย ทำให้คนนับชื่นชม

โดยเฉพาะเมื่อบวรทัตได้รับการขนานนามว่าชูราเทพเจ้าแห่งสงคราม เพื่อให้ทรัพยากรบนโลกเท่าเทียมกัน ฉากที่ทำสงครามกับกลุ่มเซียน รพีพงษ์ชื่นชมด้วยความเลื่อมใสภาพเหล่านั้นโดยสมบูรณ์

ตอนนี้เมื่อนึกถึงว่าบวรทัตได้หายไปจากโลกอย่างสมบูรณ์แล้ว บนโลกใบนี้ ตั้งแต่นี้เป็นไปก็ไม่มีบวรทัตคนนี้แล้ว และมีคนน้อยมากที่จะรู้จักชื่อนี้ ความจริงก็คือชื่อที่แท้จริงของชูราเทพเจ้าแห่งสงคราม ในใจของรพีพงษ์ก็ทอดถอนหายใจอย่างฉับพลัน

แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่อารมณ์เปราะบาง เพียงแค่ทอดถอนหายใจครั้งหนึ่ง ก็ได้แสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อบวรทัตออกมาแล้ว

การสืบทอดหลักๆที่บวรทัตทิ้งไว้ให้รพีพงษ์ เป็นกลยุทธ์การฝึกฝนร่างกายที่เรียกว่าร่างเทพชูรา

ปีนั้นบวรทัตก็อาศัยร่างเทพชูรานี้ ได้รับการขนานนามว่าจอมมารชูรา ทำถึงขั้นใช้พลังของตัวเอง ต่อสู้กับระดับกลุ่มเซียน

ร่างเทพชูรามีทั้งหมดเก้าขั้นตอน แต่ละขั้นตอน ก็จะทำให้ร่างกายของผู้ฝึกฝน ได้รับความแข็งแกร่งที่คนธรรมดายากที่จะจินตนาการได้ ถ้ารพีพงษ์สามารถฝึกฝนร่างเทพชูราถึงขั้นตอนที่สูงสุดได้ และเปลี่ยนกลับบรรลุถึงระดับอมตะ

ปีนั้นบวรทัตได้บรรลุถึงแค่ระดับที่แปดของร่างเทพชูรา ก็มีคุณสมบัติที่จะต่อสู้กับกลุ่มเซียน เพียงพอที่จะเห็นความน่ากลัวของร่างเทพชูรา

ที่สำคัญในกลยุทธ์ฝึกฝนของร่างเทพชูรา แต่ละระดับ ก็จะมาพร้อมกับตำราวิชาบู๊ ช่วยให้ผู้ฝึกฝนใช้พลังอานุภาพของร่างเทพชูราออกมาได้ดีขึ้น

วิชาบู๊ คือกลยุทธ์สำคัญที่ผู้ฝึกฝนจะแสดงประสิทธิภาพการต่อสู้ออกมา ยอดฝีมือระดับเดียวกัน ใช้วิชาบู๊และไม่ใช่วิชาบู๊ มีระยะความต่างระหว่างฟ้าและดิน

วิชาบู๊สามารถแสดงความสามารถของพลังขีดจำกัดสูงสุดของร่างกายมนุษย์ที่ฝึกฝนออกมาได้ คนคนหนึ่งเพียงฝึกฝนวรยุทธ แต่กลับไม่มีวิชาบู๊ ก็เทียบเท่ากับว่าคนคนหนึ่งที่หาเงินมาได้มากมายแต่กลับใช้จ่ายไม่เป็น

ดังนั้นวิชาบู๊สำหรับผู้ฝึกฝนแล้ว จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

ก็เหมือนกับความแข็งแกร่งของผู้คนมีการแบ่งออกเป็นระดับ วิชาบู๊ก็แบ่งออกเป็นแข็งแกร่งและอ่อนแอเหมือนกัน

วิชาบู๊ปกติ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็นสามระดับมีสวรรค์ดินและมนุษย์

ด้วยระดับสวรรค์แข็งแกร่งที่สุด ระดับดินคือรองลงมา และระดับมนุษย์อ่อนแอที่สุด

แต่ละระดับ ยังจะแบ่งออกเป็นสามระดับคือสูงกลางและต่ำ ระดับยิ่งสูง พลังอานุภาพที่แสดงออกมาก็จะยิ่งแข็งแกร่ง

แม้ว่าระดับมนุษย์จะเป็นระดับที่อ่อนแอที่สุดในวิชาบู๊ แต่ว่าเกิดสามารถถูกกำหนดเป็นวิชาบู๊ ก็หมายความว่ามันยิ่งใหญ่แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว

เหมือนฝ่ามือดาวฟ้าที่รพีพงษ์ชำนาญก่อนหน้านี้ เชิญพระจันทร์ และฝ่ามือธันเดอร์ พลังอานุภาพถือได้ว่าไม่ธรรมดาแล้ว แต่ว่าระยะทางของพวกมันกับวิชาบู๊ที่แท้จริงยังมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก

ต่อให้เป็นระดับมนุษย์ที่ต่ำที่สุดของระดับต่ำในวิชาบู๊ ก็ยังยิ่งใหญ่แข็งแกร่งกว่ากลยุทธ์ทั้งหมดที่รพีพงษ์ชำนาญก่อนหน้านี้

ดังนั้นในโลกและทวีปโอชวินที่ผ่านมา แต่ไหนแต่ไรมาวิชาบู๊เป็นทรัพยากรที่ผู้ฝึกฝนแย่งกันจนหัวร้างข้างแตก

วิชาบู๊ระดับมนุษย์หนึ่งตำรา ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้แข็งแกร่งหวั่นไหว วิชาบู๊ระดับดินก็สามารถทำให้โลกฝึกฝนทั้งหมดก่อให้เกิดความรู้สึกตื่นตระหนกตกใจได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวิชาบู๊ระดับสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุด

วิชาบู๊ระดับสวรรค์ แม้จะเป็นเพียงระดับต่ำ เกิดออกมาสักครั้ง คงจะนองเลือดแน่ๆ ซากศพกลาดเกลื่อนหลายหมื่นลี้

และในร่างเทพชูราที่บวรทัตทิ้งไว้ให้รพีพงษ์ แม้ว่าจะเป็นเพียงระดับแรก สอดแทรกด้วยวิชาบู๊ ก็เป็นระดับสูงของระดับมนุษย์ ไม่รู้ว่าหลังจากที่รพีพงษ์ฝึกฝนร่างเทพชูรา ถึงระดับสูงสุด จะได้รับวิชาบู๊ระดับไหน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท