พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1142 วัตถุดิบยา

บทที่ 1142 วัตถุดิบยา

ทันใดนั้นธีรวีร์จึงเรียกลูกน้องทั้งหมดของตัวเอง เหล่าลูกน้องวิ่งออกมาจากที่ซ่อนตัว

ตอนนี้รพีพงษ์สีหน้าราบเรียบ

เพราะตั้งแต่เดินมาก็ไม่มีใครสามารถขัดขวางเขาได้

เขาใช้เวลาไม่กี่นาทีมาถึงรังของธีรวีร์

“ที่นี่ไม่เลวดีนี่”

รพีพงษ์คิดพลางเดินขึ้นไปบนบันได จู่ๆ เขาก็ได้กลิ่นหอมที่ผิดปกติ

เขาตกใจและรีบก้าวเข้าไป เขาเห็นดอกไม้ที่แปลกประหลาดกำลังเบ่งบานอยู่ในซอกหิน

เขารู้ว่ายาสมุนไพรนี้เป็นยาสมุนไพรที่เขาตามหา มันสามารถชุบชีวิตของอารียาได้ ดังนั้นเขาจำไม่ผิดแน่ๆ เขาแน่ใจแล้ว และนี่คือเป้าหมายที่เขามาที่นี่ เมื่อเขากำลังจะเอื้อมมือไปหยิบสมุนไพรนี้ออกมา เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธก็ดังเข้ามาในหูของเขา

“แกเป็นใคร ถึงกล้าบุกรุกมาในถิ่นของฉัน อย่าบอกนะว่าแกมารนหาที่ตาย”

รพีพงษ์หันกลับไปมอง เขาเห็นธีรวีร์พาลูกน้องเดินเข้ามาและตวาดใส่เขา ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเศษซากกลุ่มสุดท้าย

“ฉันคือคนที่จะมาเอาชีวิตของพวกแก”

น้ำเสียงของรพีพงษ์ราบเรียบ

“ให้ตายเถอะ ไอ้กระจอกอย่างแกกล้าพูดกับฉันแบบนี้เหรอ ฉันว่าแกรนหาที่ตายจริงๆ”

เมื่อธีรวีร์ได้ยินสิ่งที่รพีพงษ์พูดก็โมโหขึ้นมาทันที ส่วนลูกน้องที่อยู่ข้างกายมีสีหน้าโกรธเคือง อีกอย่างที่นี่เป็นที่ที่พวกเขาดูแล ไม่ว่าใครที่กล้าบุกรุกเข้ามาก็ต้องตาย

แต่ทว่าเมื่อพวกเขามองไปที่รพีพงษ์ ธีรวีร์กับลูกน้องยังคงยืนอยู่ที่เดิม เพราะว่าตอนนี้รพีพงษ์ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับพวกเขา จู่ๆ ปราณทิพย์ก็แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา

“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ปราณทิพย์ออกจากร่าง แกฝึกวิชาอะไรกันแน่”

ตอนนี้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก เพราะพละกำลังที่รพีพงษ์แสดงให้เห็นทำให้พวกเขาไม่สามารถต่อต้านได้ ถึงแม้พวกเขาจะเป็นผู้ฝึกวิชา แต่ยังคงห่างชั้นกับรพีพงษ์เป็นอย่างมาก

ถ้าพละกำลังของรพีพงษ์เป็นจริง การฆ่าในวิเดียวก็ไม่ใช่แค่ความคิดแล้ว พวกเขาเห็นแบบนี้แล้วจะไม่กลัวได้อย่างไร

ผู้ที่แข็งแกร่งอยู่ที่นี่แล้ว ถึงธีรวีร์มักจะโม้ว่าตัวเองเป็นผู้มีฝีมือ แต่เมื่อเทียบกับรพีพงษ์ ธีรวีร์ก็แค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น

“ไม่ใช่อย่างนั้นลูกพี่ น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน พวกเราแค่เป็นผู้ดูแลที่นี่ พวกเราไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้คุณโกรธ”

ธีรวีร์หวาดกลัวขึ้นมา ใครเจอแบบนี้แล้วจะไม่กลัวกันล่ะ รพีพงษ์ที่มีพละกำลังแข็งแกร่งอยู่ที่นี่ ถึงแม้พละกำลังของพวกเขาจะไม่ด้อย แต่เมื่อเจอกับคนแบบรพีพงษ์พวกเขาไม่มีทางชนะแน่นอน เพราะฉะนั้นเขาจึงรู้ว่าเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ทางที่ดีควรจะรีบอ่อนน้อมกับรพีพงษ์

“ฉันมาหายาสมุนไพรที่นี่ ถ้าพวกแกมาขัดขวางฉัน ก็ตายสถานเดียว”

รพีพงษ์มองธีรวีร์ด้วยสีหน้าราบเรียบแล้วพูดกับทุกคน เมื่อได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ธีรวีร์กับลูกน้องถึงกับสะดุ้งโหยง ไม่ง่ายเลยกว่าพวกเขาจะฝึกวิชาจนมาถึงทุกวันนี้ เขาไม่อยากตายตอนนี้

ธีรวีร์รู้ดีว่าพละกำลังของรพีพงษ์ไม่ได้เป็นเรื่องเสแสร้ง เพราะทุกก้าวที่รพีพงษ์ก้าวเข้ามา เขารู้สึกถึงความกดดันที่เพิ่มขึ้น เหมือนกับภูเขาลูกใหญ่กำลังกดลงมาบนไหล่ของเขา

ถ้าพวกเขาลงไม้ลงมือกับรพีพงษ์ แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางชนะ แต่ถ้าตอนนี้เขาเลือกที่จะหนี เขากับลูกน้องหนีไปด้วยกัน จากความสามารถที่คุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดี เขาอาจจะหนีไปได้ ขอแค่เขาสามารถหนีออกไปจากที่นี่ เขาเชื่อว่าตัวเองจะรอด

และเขาได้รับค่าตอบแทนที่ดีมากตลอดหลายปีที่ดูแลแดนลับแห่งนี้ แน่นอนว่าการที่เขาตัดสินใจทำแบบนี้ ลูกน้องของเขาจะต้องตายในมือของรพีพงษ์ แล้วมันจะเป็นอะไรล่ะ ขอแค่เขาไม่ตายก็พอแล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงส่งสายตาให้เหล่าลูกน้อง จากนั้นจึงตะโกนออกมาว่า

“รีบหนี!”

เมื่อได้ยินคำพูดของพี่ใหญ่ เหล่าลูกน้องก็เข้าใจทันที พวกมันต่างพากันหนีอุตลุด แต่ทว่ารพีพงษ์กลับยิ้มอย่างเย็นชา จากความสามารถของเขา ถ้าปล่อยให้คนพวกนี้หนีไปได้ มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับเขามาก

มันเป็นเพียงการเคลื่อนไหวเล็กน้อย และในไม่ช้าพวกคนที่วิ่งหนีไปก่อนก็ล้มลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว ขาของพวกเขาหัก ส่วนคนอื่นๆ ที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของคนเหล่านี้ต่างพากันตกใจเป็นอย่างมาก และพากันนั่งยองๆ บนพื้น เพื่อขอความเมตตาจากรพีพงษ์

แต่ทว่าธีรวีร์เคลื่อนไหวรวดเร็วมาก เพราะว่าพละกำลังของพวกเขาสูงที่สุดในบรรดาคนพวกนี้ เขาเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ในขณะที่เขาคิดว่าตัวเองกำลังจะรอด

รพีพงษ์เคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับลูกธนูที่ถูกยิงออกไป เขาพุ่งไปหาธีรวีร์ที่กำลังวิ่งหนี

ไม่เกินหนึ่งวินาทีก็ได้ยินเสียงร้องโอดครวญออกมา จากนั้นเสียงอ้อนวอนขอชีวิตของธีรวีร์ก็ดังขึ้น

ขอโทษครับ ขอโทษครับ นายท่านมีพละกำลังมาก ไว้ชีวิตผมสักครั้งเถอะ แต่ทว่าตอนนี้สีหน้าของรพีพงษ์เต็มไปด้วยความเฉยชา

เมื่อเห็นท่าทางของรพีพงษ์ ธีรวีร์ถึงกับตกใจ เมื่อกี้เขาใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ในตัว ความเร็วถึงจุดสุดยอด แถมเขายังคุ้นเคยกับพื้นที่นี้เป็นอย่างดี

เขาคิดว่าจะรอดพ้นจากกรงเล็บของรพีพงษ์ได้แล้ว แต่ทว่าวินาทีต่อมากลับโดนรพีพงษ์กระชากกลับมา ตอนนี้จิตใจของเขาแหลกสลาย เขาฝึกวิชามาอย่างยาวนาน เดิมทีคิดว่าพละกำลังของตัวเองเข้าขั้นที่ดี แต่ทว่าวันนี้เหมือนเขาโดนตีหัวอย่างรุนแรง

เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีผู้ฝึกวิชาขั้นสูงมาที่แดนลับแห่งนี้

ไม่นาน ธีรวีร์กับลูกน้องก็โดนรพีพงษ์มัดเอาไว้อีกด้าน ธีรวีร์มองไปยังรพีพงษ์ เขาเห็นรพีพงษ์อยู่ในชุดแสนธรรมดา แต่ทว่าใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม จู่ๆ ก็ทำให้เขาหวาดกลัวขึ้นมา

ทันใดนั้นสีหน้าของธีรวีร์ก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่เพราะเรื่องอื่น เป็นเพราะเขาเห็นป้ายคำสั่งที่คุ้นเคยตรงเอวของรพีพงษ์ จู่ๆ เขาตกใจจนเข่าอ่อน เขาเคยเห็นป้ายคำสั่งอันนี้มาก่อน

เหตุที่เขาซ่อนตัวอยู่ในแดนลับและเป็นผู้ดูแลที่นี่ ก็เพราะคนที่เกี่ยวข้องกับป้ายคำสั่งอันนี้ เพราะป้ายคำสั่งนี้แสดงถึงบุคคลที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในทหารมังกร

และในตอนนั้นเขาเป็นเพียงผู้ฝึกวิชาที่อยู่ภายใต้ผู้บังคับบัญชา เพราะลูกพี่ใหญ่ได้รับข่าวมาว่ากลุ่มของพวกเขาโดนทหารมังกรจับตาดูอยู่ ลูกพี่ใหญ่ของพวกเขาตกใจเป็นอย่างมาก จนถึงกับไล่พวกเขาออกภายในเวลาชั่วข้ามคืน และเอาเงินที่หามาได้ตลอดหลายปีหนีไปที่ต่างประเทศ

เพราะเขาเป็นแค่ลูกน้องกระจอกๆ จึงไม่มีค่าพอที่จะให้ลูกพี่พาไปด้วย เขาต้องกลับมาที่นี่และใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าวันหนึ่งจะเจอคนที่มีป้ายคำสั่งนี้อีกครั้ง อีกทั้งคนคนนี้ยังจับเขาไว้อีกด้วย

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน