พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1168 ไอ้หมอนั่นอยู่ที่นี่

บทที่ 1168 ไอ้หมอนั่นอยู่ที่นี่

“ไอ้หมอนั่นอยู่ที่นี่ ไอ้หมอนั่นอยู่ที่นี่!”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ รพีพงษ์ขมวดคิ้วทันที เสียงนี้ไม่ใช่คนอื่นที่ไหนก็คือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนที่ขวางเขาก่อนหน้านี้ ยังไล่ตามถึงที่นี่

และซูโก๋เพิ่งจะโดนรพีพงษ์เมินเฉย เดิมทีในใจก็เต็มไปด้วยความโกรธ ไม่นึกเลยว่าตอนนี้จะเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลุ่มหนึ่งจะกล้ายืนเสียงดังอยู่ที่หน้าประตูห้องวีไอพีขนาดนี้ ก็ตะคอกทันทีว่า

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เป็นหัวหน้า เห็นซูโก๋ก็ตอบกลับอย่างนอบน้อม

“ขอโทษด้วยที่รบกวนพวกคุณ คือแบบนี้ ก่อนหน้านี้พวกเราเห็นหัวขโมยอยู่ที่ชั้นล่าง เขาบุกเข้ามาชั้นนี้ ดังนั้นพวกเรากำลังตามหาเขาอยู่ ถ้าคุณเห็นคนที่ต้องสงสัยต้องรีบแจ้งให้พวกเราโดยเร็วที่สุด นี่คือเพื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยทรัพย์สินของคุณ เดี๋ยวนะ ก็คือไอ้หมอนี่!”

หลังจากที่พูดคำนี้จบ หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นยื่นมือข้างหนึ่งชี้ไปที่รพีพงษ์

“พวกคุณรีบดูว่าพวกคุณมีของอะไรหายหรือเปล่า!”

“ฮ่าๆ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ใบหน้าของโสรญาก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยามแล้วแสยะยิ้มขึ้นมา

คาดไม่ถึงจริงๆ เด็กอย่างรพีพงษ์ไม่เพียงแต่ไม่มีความสำเร็จอันใดเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่นึกเลยว่าจะเป็นขโมย มาถึงที่นี่ยังขโมยของ สิ่งนี้ทำให้ครอบครัวของพวกเขาขายหน้ามาก!

และจารุดาที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆมาโดยตลอดก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมาทันที

“ฮ่าๆ ทั้งเกาะชายกระโปรงผู้หญิงกินทั้งเป็นขโมย อารียา เธอหาผู้ชายได้ดีจริงๆ!”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของศักดาก็กลายเป็นยิ่งแย่อย่างไร้ที่เปรียบ เดิมทีรพีพงษ์ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร แต่เพียงแค่มองไปที่บนใบหน้าของอารียาที่เต็มไปด้วยความสงสัย เขามีความกลัวว่าอารียาจะเข้าใจเขาผิด

ก็เอ่ยปากพูดกับหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่า

“ถ้าหากอยากรู้ว่าฉันเป็นขโมยหรือไม่ นายเรียกเจ้านายของพวกนายมาก็สามารถรู้แล้ว”

“อะไรนะ? แกยังต้องการเรียกเจ้านายพวกเรามาเหรอ?”

เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เป็นหัวหน้าได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ก็เบิกตากว้างทันที บนใบหน้าเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

“เด็กอย่างแกนะเหรอแกก็ไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา ดูว่าตัวเองเป็นใคร ไม่นึกเลยว่ายังอยากเจอเจ้านายของพวกเรา คนปัญญาอ่อนเพ้อฝันจริงๆ!”

ล้อเล่นอะไรกัน เจ้านายของโรงแรมพวกเขาแม้แต่พวกเขาก็เคยเจอเพียงไม่กี่ครั้ง! ในขณะนี้วิลเลียมลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน

“คือแบบนี้ เพื่อนคนนี้มาทานอาหารด้วยกันกับพวกเราจริงๆ ฉันไม่สนว่าเขาจะขโมยของหรือไม่ ฉันมีเงินอยู่การ์ดใบนี้หนึ่งล้าน เชื่อว่าเพียงพอที่จะชดใช้เงินของสิ่งของที่เขาขโมยไป”

เมื่อได้ยินคำพูดของวิลเลียม คนในครอบครัวของซูโก๋ก็เบิกตากว้างทันที พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ลูกเขยของครอบครัวตัวเองทำไมต้องช่วยเศษสวะอย่างรพีพงษ์ด้วย

คำพูดของวิลเลียมฟังดูแล้วเหมือนกำลังช่วยรพีพงษ์ แต่ว่าอันที่จริงคือเขาต้องการแสดงความใจกว้างของตัวเองออกมา ยอมรับว่ารพีพงษ์ได้ขโมยของไปแล้วโดยปริยาย และเขาก็ใจดีพอที่จะช่วยรพีพงษ์จ่ายเงินนี้เท่านั้นเอง

ด้วยรูปลักษณ์ที่สุภาพเรียบร้อยนี้ แตกต่างกันราวกับเป็นคนละคนกับวิลเลียมที่รพีพงษ์เจอก่อนหน้านี้ที่ในงานการประชุมแลกเปลี่ยน

และหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ยินคำพูดนี้ก็นิ่งอึ้ง เขาคาดไม่ถึงจริงๆว่ารพีพงษ์มาทานอาหารจริงๆ ที่สำคัญเขาก็ไม่รู้ว่ารพีพงษ์ขโมยของอะไรกันแน่

เขาเพียงแค่ฟังลูกน้องของตัวเองบอกว่า มีขโมยหนึ่งคนบุกเข้ามา ที่สำคัญไม่นึกเลยว่าเจ้านายในห้องวีไอพีจะเอ่ยปากให้พวกเขาหนึ่งล้าน ในชีวิตนี้เขาก็ไม่มีความสามารถที่จะหาเงินมากมายแบบนี้มาได้

เขาก็เข้าใจในทันที เจ้านายคนนี้ไม่ใช่ว่าเขาจะสามารถมีเรื่องได้ด้วย บนใบหน้าก็มีความกระอักกระอ่วนทันที

เขาทำได้เพียงรับการ์ดที่วิลเลียมยื่นให้ โค้งคำนับด้วยความนอบน้อม ต่อจากนั้นเอ่ยปากพูดว่า

“แขกผู้มีเกียรติท่านนี้ ขอโทษด้วยที่มารบกวนการรับประทานอาหารของคุณ ในเมื่อคุณพูดมาแบบนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็จะปล่อยเขาไป”

และในเวลานี้ มองดูเหตุการณ์ตรงหน้านี้ บนใบหน้าของรพีพงษ์เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ไม่สนใจสิ่งที่วิลเลียมเพิ่งพูดออกไป เอ่ยปากพูดอีกครั้ง

“ฉันบอกไปแล้วว่าฉันเป็นขโมยหรือเปล่า ได้ขโมยของหรือไม่ นายเรียกเจ้านายของพวกนายมาก็พอแล้ว!”

ใบหน้าของจารุดาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย

“รพีพงษ์ เด็กอย่างแกไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจริงๆ!”

หลังจากที่เธอพูดเสร็จก็จงใจเขย่าโทรศัพท์ในมือของตัวเองให้รพีพงษ์ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความหมายของการข่มขู่

และซูโก๋ก็โบกมือให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากไป ก่อนหน้านี้ที่งานการประชุมแลกเปลี่ยนเธอได้ตักเตือนรพีพงษ์ไปครั้งหนึ่ง ตัวเองมีหลักฐานที่เขาเกาะชายกระโปรงผู้หญิงกิน!

แม้ว่ารพีพงษ์อยู่ตรงหน้าเธอไม่ได้แสดงความกังวลออกมาแม้แต่น้อย แต่ในความคิดของจารุดา นั่นเป็นเพียงความดันทุรังของรพีพงษ์เท่านั้นเอง

ตอนนี้เธอก็กำลังใช้สิ่งนี้มาข่มขู่รพีพงษ์ ให้รพีพงษ์คุกเข่าขอความเมตตาต่อเธอ!

จารุดาลุกขึ้นยืนในทันที เดินไปที่ข้างกายของอารียา ตั้งใจและไม่ตั้งใจยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้อารียา และเอ่ยปากพูดว่า

“อารียา เธอช่วยฉันดูหน่อยว่ารูปหลายใบที่ฉันถ่ายหลายวันก่อนหน้านี้เป็นยังไงบ้าง?”

อารียารับโทรศัพท์มา เห็นเพียงรูปภาพในโทรศัพท์ ดูไม่ออกมาว่าคนคนนี้คือจารุดา เพราะแต่งจนรูปร่างเปลี่ยนแปลงไป

“เธอเปิดเลื่อนไปด้านหลัง ยังมีรูปสวยๆอีกมากมาย”

โสรญาที่นั่งอยู่ข้างๆได้ยินคำพูดนี้ก็ยื่นหน้ามา ในใจของเธออดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม เนื่องจากจารุดายังห่างไกลกว่าอารียามาก!

ทันใดนั้นรูปถ่ายที่รพีพงษ์เดินด้วยกันกับนลินก็เข้ามาในสายตาของพวกเธอ

ทันทีที่เห็นรูปภาพใบนี้ โสรญาก็คว้าโทรศัพท์มาจากมือของอารียา และตะคอกใส่รพีพงษ์

“รพีพงษ์แกนี่มันคาดไม่ถึงว่าลับหลังอารียาจะกล้าคบผู้หญิงคนอื่นอยู่ข้างนอก!”

และศักดาที่ได้ยินคำพูดนี้บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยความโกรธทันที เอ่ยปากถามว่า

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

จารุดาเห็นเหตุการณ์นี้ยังแกล้งทำเป็นเสียใจ เอ่ยปากพูดว่า

“โธ่ ถ่ายฉากมาได้อย่างไรเนี่ย ฉันถ่ายโดนโดยไม่ได้ตั้งใจ พวกคุณรีบเอาโทรศัพท์ของฉันคืนมาเถอะ”

เมื่อซูโก๋เห็นลูกสาวตัวเองทำเรื่องแบบนี้ ในใจก็เข้าใจดีว่าหมายถึงอะไรกันแน่ เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมในใจ ลูกสาวของตัวเองทำได้ดีมากจริงๆ!

“รพีพงษ์เด็กเวรอย่างนายยังคบหาผู้หญิงอื่นอยู่ที่ข้างนอกเหรอ ถ้าอย่างนั้นแกก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่ในบ้านของพวกเราแล้ว รีบไสหัวออกจากบ้านของพวกเราไปเดี๋ยวนี้!”

เมื่อรพีพงษ์ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็ขมวดคิ้วทันที เขาและนลินมีบางอย่างที่ยากจะอธิบายได้ เพราะเขาไม่อยากเปิดฐานะตัวตนของตัวเองต่อหน้าคนเหล่านี้

แม้แต่เขาก็คาดไม่ถึงว่าจารุดายังถ่ายรูปของเขาไว้จริงๆ

“อารียา ลูกจำเป็นต้องหย่ากับไอ้หมอนี่!”

โสรญาตะคอกขึ้นมาทันที

“คุณน้า หนูเชื่อใจรพีพงษ์”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของอารียากลับทำได้เพียงส่ายหน้า

“รพีพงษ์เป็นสามีของหนู หนูเชื่อว่าเขาไม่มีทางมีผู้หญิงคนอื่นอยู่ข้างนอก”

เมื่อได้ยินพูดของอารียา โสรญาก็รู้สึกเวียนหัวตาลายอย่างฉับพลัน โกรธจนเกือบแทบเป็นลมไป

รพีพงษ์ที่ตอนแรกยังคิดว่าเรื่องนี้ตัวเองไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยปากอย่างไร แต่คาดไม่ถึงว่าอารียาจะเชื่อใจตัวเองมากขนาดนี้ เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในใจทันที

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท