พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1265 ข้าวสาร 50 กิโลกรัม

บทที่ 1265 ข้าวสาร 50 กิโลกรัม

โคบายาชิจุนอิจิยิ้มอย่างเยาะเย้ย เดิมทีเขาคิดว่ารพีพงษ์จะเป็นคู่แข่งในการจีบฝนสุดา แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่ารพีพงษ์ไม่มีอะไรเลยนอกจากกินข้าวเก่งกับหน้าด้านกว่าคนอื่น

“สุดา คุณไปรู้จักเขาที่ไหนเนี่ย” โคบายาชิจุนอิจิถามลอย ๆ แต่ความตั้งใจของเขาชัดเจนมาก

คนระดับอย่างฝนสุดาคงไม่มีทางไปคบคนแบบนี้เป็นเพื่อนหรอกนะ

“คุณจะถามทำไม แต่ที่แน่ ๆ น่ะ ฉันรู้จักเขาก่อนคุณก็แล้วกัน” ฝนสุดาตอบอย่างไม่ไว้หน้า

ในขณะนั้น พนักงานก็เข้ามา

“คุณผู้ชายคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?”

รพีพงษ์ยิ้มพูด “อาหารร้านคุณถูกปากผมมาก ตอนนี้มีคนจะซื้อข้าวสารของพวกคุณให้ผม แล้วพวกคุณขายข้าวสารให้ผมได้ไหมครับ?”

“อะไรนะคะ คุณต้องการซื้อข้าวสารเหรอคะ?”

พนักงานรู้สึกประหลาดใจมาก

“คุณก็ขายให้เขาสิ ให้เขาไปสัก 250 กิโลกรัมก่อน แล้วมาคิดเงินกับผม” โคบายาชิจุนอิจิพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“250 กิโลกรัม?”

พนักงานเสิร์ฟที่ได้ยินเช่นนี้ก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ “เรื่องนี้……หนูต้องถามเจ้าของร้านก่อนนะคะ ถ้าคุณผู้ชายต้องการซื้อจริงๆ หนูขออนุญาตไปเรียกเจ้านายมานะคะ”

จากนั้นพนักงานก็เดินออกไป

“เหอะ ก็แค่ขายข้าวสารสองร้อยกว่าโล ทำไมต้องไปเรียกเจ้าของร้านมาด้วย? โง่จริงๆ”

ชายสวมแว่นพูดขึ้น

อุเอสึงิ ฮารุกับฝนสุดาต่างก็มองหน้ากันด้วยความสงสัย

พวกเธอพอรู้แล้วว่ารพีพงษ์กำลังคิดจะทำอะไรบางอย่าง แต่ว่า เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?

จากนั้นสักพัก ชายสวมชุดจีนก็เดินเข้ามาจากประตู

“ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายท่านไหนจะซื้อข้าวสารของเรานะครับ” เจ้าของร้านเดินเข้ามาพูด

“ผมเอง”

โคบายาชิจุนอิจิตอบ “ขอข้าวสาร 250 กิโลกรัมให้พี่ชายผมคนนี้เอากลับบ้านหน่อย”

“250 กิโลกรัม?” เจ้าของร้านตอบอย่างลำบากใจ “คุณผู้ชายครับ คุณผู้ชายเอาน้อยกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ ตอนนี้สต๊อกของเราขายได้แค่ 50 กิโลกรัมเท่านั้นครับ ที่เหลือทางร้านยังต้องเก็บไว้ขายให้ลูกค้าคนอื่นๆ ครับ ไม่อย่างนั้นเราไม่มีข้าวสวยให้ลูกค้าคนอื่นๆ กินแล้วนะครับ”

“ร้านใหญ่ขนาดนี้ แค่ข้าวสาร 250 กิโลกรัมก็ไม่มี ตลกจริงๆ! ทำไม คุณคิดว่าผมไม่มีเงินจ่ายคุณน่ะเหรอ?” โคบายาชิจุนอิจิพูดด้วยความโกรธ

“ไม่เป็นไรๆ 50 โลก็ 50 โลครับ เถ้าแก่ ช่วยจัดให้ผมเร็วหน่อยนะครับ ผมยังมีธุระต่อครับ” รพีพงษ์ยิ้มพูด

“ได้ครับ เดี๋ยวเราจัดให้ครับ แล้วคิดเงินกับใครครับ?” เจ้าของร้านถามด้วยความเป็นห่วง

“ก็ผมบอกว่าผมจะจ่ายไม่ใช่เหรอ? รีบไปๆ!”

โคบายาชิจุนอิจิมองไปที่เจ้าของร้านอย่างใจร้อน

“ได้ครับ รอสักครู่นะครับ ผมจะไปเตรียมให้ครับ”

จากนั้นเขาก็หันเดินจากไป

“เหอะ ร้านนี้มันไหวมั้ย พนักงานก็แปลกๆ ยังไม่พอ เจ้าของร้านยิ่งแปลกไปใหญ่ แค่ข้าวสาร 50 กิโลกรัมยังกลัวไม่มีคนจ่าย น่าตลกจริงๆ” ชายสวมแว่นพูด

“นั่นน่ะสิ แต่เมื่อพูดถึงข้าวสารแล้ว ข้าวสารเยว่กวางของประเทศญี่ปุ่นดีที่สุดแล้วล่ะ ไม่มีใครเทียบได้อย่างแน่นอน แต่ราคามันก็แพงเอาเรื่องเลยนะ”

ชายอีกคนพูดอย่างประจบสอพลอ

โคบายาชิจุนอิจิหัวเราะแล้วพูดอย่างได้ใจ “ถ้าคุณชอบจริงๆ รอให้งานของเราสำเร็จก่อน เดี๋ยวผมจะซื้อไปฝากคุณเป็นตันเลย”

“เยี่ยมไปเลยครับ ครอบครัวผมชอบกินข้าวโคชิฮิคาริของประเทศญี่ปุ่นที่สุดเลยครับ”

ชายคนนั้นยิ้มพูด

“แค่กๆ ……”

รพีพงษ์ไออย่างเสียงดังขึ้นมา

ฝนสุดากับอุเอสึงิ ฮารุก็รีบถามอย่างเป็นห่วง “เป็นอะไรมั้ย ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

“เปล่าครับ” รพีพงษ์ส่ายหัวแล้วพูดต่อ “ผมก็แค่คลื่นไส้กับคำพูดเมื่อกี้”

“ไงนะ!”

ชายคนนั้นทุบโต๊ะแล้วหน้าแดงขึ้นมาทันที จากนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “เหอะ ผมไม่อยากถือสาคุณหรอกนะ เพราะคุณไม่รู้อะไรเลย มันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะไม่เข้าใจว่าพวกเราคุยอะไรกันอยู่”

“คำพูดเหมือนหมาเห่า ยังมีคุณหน้าไปประเมินข้าวของคนอื่นเหรอ?” รพีพงษ์พูดด้วยความโกรธ

“นาย……พูดใหม่อีกรอบสิ!” ชายคนนั้นรู้สึกโกรธมาก

“ก็เขาพูดถูกแล้วนี่นา ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอาหารหลากหลายมาตั้งแต่ยุคไหนแล้ว ข้าวสารของเขามีตั้งมากมาย แต่คุณคิดว่าของคุณดีที่สุด บอกตรงๆ นะ ฉันก็เป็นคนประเทศญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ฉันรู้สึกว่าคุณแย่มาก”

ฝนสุดาพูด

“โคบายาชิซังครับ นี่ผม……”

ชายคนนั้นถึงกับทำตัวไม่ถูก ไม่คิดเลยว่าคำพูดประจบสอพลอคำเดียวจะทำให้ทุกคนดูถูกเขาได้ขนาดนี้

“ในเมื่อคุณสุดาไม่ชอบคุณ ผมก็ไม่ชอบคุณเหมือนกัน คุณจู คุณหยุดพูดได้แล้ว”

โคบายาชิจุนอิจิยกมือห้ามเขา

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีถังไม้ขนาดใหญ่เข้ามา

“นี่คือข้าวสาร 50 กิโลที่พวกคุณสั่งครับ เป็นสต๊อกสุดท้ายของทางร้านแล้ว” เจ้าของร้านพูด

“โอเคครับ ขอบคุณมากนะครับ”

รพีพงษ์ยกถังข้าวสารมาวางไว้ข้างเขาโดยที่ไม่เกรงใจ

“พี่ชายแข็งแรงจังเลยนะครับ” เจ้าของร้านชื่นชม

โคบายาชิจุนอิจิพูดอย่างเบื่อหน่าย “พอแล้วๆ คุณออกไปเถอะ อย่ารบกวนเวลารับประทานอาหารของเรา”

“คือว่า เรารบกวนท่านช่วยเช็คบิลก่อนได้ไหมครับ เราจะได้ไม่ต้องกังวลครับ” เจ้าของร้านพูด

“บากา!”

โคบายาชิจุนอิจิทุบโต๊ะแรงๆ และพูดด้วยภาษาท้องถิ่นของเขาด้วยความโกรธ “มันก็แค่ข้าวสาร 50 กิโลกับอาหารบนโต๊ะไม่ใช่เหรอ ต่อให้คุณจะขายแพงแค่ไหน ผมก็มีเงินจ่ายคุณ เถ้าแก่ หรือว่าคุณดูถูกตระกูลโคบายาชิแห่งประเทศญี่ปุ่นของเรา?”

“เปล่า เปล่าครับ ผมแค่อยากให้คุณเช็กบิลก่อนแล้วพวกคุณจะได้ทานต่ออย่างสบายใจครับ” เจ้าของร้านยิ้มพูด จากประสบการณ์ในการทำงานมาหลายปี ความรอบคอบเป็นเรื่องที่เขาเชี่ยวชาญที่สุดแล้ว

“เอาไป การ์ดใบนี้มีอยู่สามหมื่น น่าจะพอจ่ายให้คุณแล้วนะ ส่วนที่เหลือคุณไม่ต้องทอน ผมยกให้เป็นทิป แล้วก็รีบออกไปซะ!”

โคบายาชิจุนอิจิพูด

“สามหมื่น?”

เจ้าของร้านยิ้มพูดต่อ “โคบายาชิซังครับ ถ้ามีแค่สามหมื่น ผมเกรงว่าคุณจะต้องเพิ่มเข้าไปอีกครับ”

“สามหมื่นยังไม่พอเหรอ?”

โคบายาชิจุนอิจิรู้สึกประหลาดใจมาก

“ใช่ครับ” เจ้าของร้านพยักหน้า

โคบายาชิจุนอิจิขมวดคิ้วแล้วพูดต่อ “แล้วมันเท่าไหร่กันแน่ คุณบอกมาเลย”

“เมื่อกี้ผมดูบิลมาแล้วครับ ทั้งหมดเก้าแสนครับ” เจ้าของร้านยิ้มพูด

“คุณว่าไงนะ! เก้าแสน?”

โคบายาชิจุนอิจิถึงกับอึ้ง และเพื่อนสองคนที่นั่งข้างเขาก็ลุกขึ้นมาพูดว่า “เถ้าแก่ คุณอย่ามามั่วนะ ผมเคยมากินที่นี่สองครั้งแล้ว อีกอย่างครั้งก่อนๆ เราสั่งอาหารเยอะกว่านี้ และยอดยังไม่ถึงสองหมื่นด้วยซ้ำ แล้ววันนี้คุณหมายความว่าไง?”

“นั่นน่ะสิ เถ้าแก่” ชายสวมแว่นพูดต่อ “หรือว่าร้านคุณขึ้นราคาหลังโรคระบาด?”

“ผมไม่ได้ขึ้นราคานะ ก่อนที่คุณหมอใหญ่ปุรุเมธจะไป แกได้สั่งไว้ว่าให้ผมรักษามาตรฐานราคานี้ไว้ ผมไม่ได้ขึ้นราคาเลยสักแดง” เจ้าของร้านตอบกลับ

“ยังบอกว่าไม่ได้ขึ้นราคาอีก ผมถามคุณหน่อย อาหารเจ็บถึงแปดอย่างนี้มันแพงขนาดนั้นเลยเหรอ? คุณไม่กลัวผมไปฟ้องคุณใช่ไหม!” ชายสวมแว่นชี้หน้าแล้วพูดกับเจ้าของร้าน

“อ้อ คุณหมายถึงอาหารบนโต๊ะเหรอครับ!” เจ้าของร้านเพิ่งเข้าใจและพูดต่อ “อาหารไม่แพงหรอกครับ ปกติแล้วเราเหมือนสั่งหนึ่งที่ให้กินฟรีหนึ่งที่เลย แต่ที่แพงคือข้าวสารครับ”

“ข้าวสาร?”

ชายทั้งสามและรวมไปถึงฝนสุดากับเพื่อนของเธอต่างก็รู้สึกแปลกใจมาก

“ใช่ครับ อาหารที่นี่ไม่แพงครับ ความจริงแล้วทางร้านของเราเน้นคุณภาพของข้าวสวยในการดึงดูดลูกค้ามากกว่าครับ เพราะมันคือข้าวสารจิ่งหยางนะครับ!”

“ข้าวสารจิ่งหยาง? มันคือสถานที่บ้าบออะไรที่ไหน ทำไมผมไม่เคยได้ยิน” ชายสวมแว่นพูด

“ไม่เคยได้ยินก็หุบปากไปซะ พูดมากก็ยิ่งทำให้คุณดูโง่กว่าเดิม” รพีพงษ์พูดอย่างเย้ยหยัน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน