พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1281 ศัครูมาแล้ว

บทที่ 1281 ศัครูมาแล้ว

ถ้าต้นเอาเดาไม่ผิด งั้นที่นีย์มาสำนักเทพยาเซียนในครั้งนี้ คงจะต้องเข้าไปที่ป่าหมอกอย่างแน่นอน!

ที่นั่น มีพลังทิพย์ที่ทวีปโอชวินจับจ้องมานาน แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นแหล่งพลังทิพย์แห่งสุดท้ายบนโลกใบนี้แล้ว

ถ้าหากถูกนีย์พบเข้า แล้วส่งข่าวให้กับทวีปโอชวินล่ะก็ แทบไม่อยากจะคิดถึงผลลัพธ์ที่ได้เลย

รพีพงษ์ก็ไม่รอช้า ยังคงมุ่งหน้าต่อไป

“เจ้าจิรภัทรครับ พวกคุณรีบไปกลับไปบอกข่าวให้กับพวกจิลลาเถอะครับ ไม่งั้นล่ะก็ พวกเธอคงต้องรออย่างกังวลใจ” รพีพงษ์กล่าว

“แต่ว่า นีย์ก็มีพลังถึงขั้นแดนดั่งเทพชั้นยอดแล้วนะ ถ้าเป็นปกติเหมือนเมื่อก่อนนี้ คุณจะไปผมก็ไม่รังไว้หรอก แต่ตอนนี้คุณเป็นแบบนี้ จะไปรับมือกับเธอไหวหรือ?”

จิรภัทรพูดอย่างกังวล

รพีพงษ์ยิ้มมุมปากเบาๆ จริงๆ แล้วนั้น หลังจากที่คืนนี้ได้ต่อสู้กับจิรพนธ์และทำยาเม็ดออกมา จิตวิญญาณเทพของตนเองได้ถูกใช้งานไปจนหมดสิ้นแล้ว

ความรู้สึกที่ร่างกายอ่อนล้า จนแทบจะทำให้เขาไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นยืน

แต่ทว่า มีหน้าที่สำคัญที่ต้องจัดการ รพีพงษ์จะหลบหนีไปไหนไม่ได้

“คุณวางใจเถอะ ขอเพียงแค่เธอกล้าเข้าไปในป่าหมอก ผมจะต้องทำให้เธอชดใช้ให้ได้!”

พูดจบ รพีพงษ์ก็ส่งสายตาให้ทั้งสองคนเกิดความมั่นใจ แล้วก็ค่อยๆ เดินมุ่งหน้าไปยังป่าหมอก

ที่เขามีความมั่นใจแบบนี้ นั่นก็เพราะว่า ในตอนนี้ ป่าหมอกได้เป็นสถานที่ของรพีพงษ์ไปทั้งหมดแล้ว

“ไปเถอะ ไอจิรภัทร พวกเราไปหาจิลลาเถอะ” ปยุตกล่าว

“อืม”

เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว จิรภัทรก็ได้แต่ตอบรับไป

คืนนี้ คนแก่ทั้งสองคนนี้ก็ได้เห็นเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ไปสองเรื่อง

และคนที่ทำให้เกิดเรื่องน่าอัศจรรย์ทั้งสองเรื่องนี้ ก็คือรพีพงษ์ คุณชายที่ถูกประคบประหงมมาอย่างดี

สามารถเอายาชั้นเลิศหลอมรวมเป็นยาเม็ดระดับเทพเซียนในตำนานออกมาได้ ในขณะเดียวกัน ก็ยังลงมือฆ่ายอดฝีมือที่มีวิชาลับแถมมีระดับเกือบจะก้าวเข้าสู่แดนเทพขั้นพีค

เรื่องแบบนี้ ได้กลายเป็นตำนานไปแล้ว!

ปยุตและจิรภัทรก็ชื่นชม ตระกูลลัดดาวัลย์ให้กำเนิดมังกร และรพีพงษ์ ก็เป็นหัวมังกร!

ด้านบริเวณรอบนอกของป่าหมอก แสงจันทราได้สาดส่องลงมายังหน้าผากเล็กๆ สวยๆ ของนีย์

“พลังทิพย์ในที่นี้มีมากกว่าในสำนักเทพยาเซียนเสียอีก หรือว่า สถานที่ที่พวกอาวุโสทั้งหลายตามหาอย่างยากลำบาก จะอยู่ที่นี่จริงๆ งั้นหรือ?”

นีย์ก็คิดในใจ แต่ทว่า พอเธอเห็นความมืดมิดตรงหน้า เริ่มจะเป็นป่าลึกเข้าเรื่อยๆ ในใจก็มีกลัวๆ บ้างเล็กน้อย

“จิรพนธ์มัวทำอะไรอยู่นะ ทำไมยังไม่รีบมารวมตัวกับฉันอีกนะ?”

นีย์ด่าออกมาเบาๆ

เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ รอไปประมาณ30นาที นีย์ก็รอต่อไปไม่ไหวแล้ว

“เพื่อทวีปโอชวิน ก็จะเข้าไปดูเสียหน่อย ถ้าเป็นอย่างที่ตนเองเดาไว้ล่ะก็ ก็จะได้รีบไปรายงานกับพวกผู้อาวุโส”

พอตัดสินใจแล้ว นีย์ก็มีสีหน้าตั้งมั่น แล้วก็ก้าวเท้าแรกเพื่อเข้าไปในป่าหมอก………..

แต่ที่เธอไม่รู้ก็คือ เนื่องจากที่หยุดรอไป30นาที ทำให้รพีพงษ์มีโอกาสตามเธอมาได้ทันท่วงที

ตอนที่เธอก้าวเข้าสู่ป่าหมอกนั้น รพีพงษ์ก็อยู่ห่างจากเธอไม่มากแล้ว

พอเข้าไปในป่าแล้ว ในนี้ก็มีหมอกหนาปกคลุมไปทั่ว แถมตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เสียงร้องของสิงสาราสัตว์ในป่า ทำให้ได้ยินแล้วชวนขนลุก

โชคดีที่นีย์เตรียมตัวไว้แล้ว พอเปิดไฟฉายออกมา ภายใต้แสงสว่าง หมอกหนาๆ ก็ค่อยๆ สลายไป รู้สึกเหมือนจะแดนเทพแดนสวรรค์อย่างไรอย่างนั้นเลย

“ที่นี่มันน่าอัศจรรย์มากเลย!”

นีย์พูดอย่างตื่นเต้น

เหมือนกับตอนที่รพีพงษ์เข้ามาในป่าหมอกในครั้งแรก เธอพบว่า เพียงแค่บริเวณรอบนอกของป่า พวกสมุนไพรที่เติบโตขึ้นมา ก็ล้วนมีค่าหายากกว่าภายนอกมากนัก

“ดูเหมือนว่าจะเดาไม่ผิด ที่นี่ต้องเป็นแหล่งพลังทิพย์แห่งสุดท้ายบนโลกใบนี้แน่ๆ !”

นีย์พูดอย่างตื่นเต้น ความอยากรู้เป็นตัวกระตุ้นให้เธอเดินหน้าเข้าไปสำรวจต่อ

ในตอนนี้ บริเวณไม่ไกลจากศูนย์กลางของป่าหมอก ในถ้ำภายในหุบเขาหลิงซี ภายใต้ความมืด แรดโบราณที่หลับใหลอยู่ ก็ได้ลืมตาขึ้นมา

มีคนของทวีปโอชวินมาแล้ว!

พริบตา เสียงคำรามก็ดังสนั่นไปทั้งป่า ทันใดนั้น ทุกมุมของป่าผืนนี้ สัตว์เซียนต่างๆ ก็ฟื้นตื่นขึ้นมาพร้อมกัน สีหน้าก็เคร่งขรึมไปกันหมด!

ในฐานะที่เป็นสัตว์ขี่ของจอมมารชูร่าในตอนนั้น แรดโบราณมีความตอบสนองต่อกลิ่นไอพลังของคนในทวีปโอชวินเป็นอย่างดี

ถึงแม้จะผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว แต่ตอนที่นีย์ก้าวเข้ามานั้น กลิ่นอายพลังที่รอคอยมานาน ได้เพรียกหาให้แรดโบราณได้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล

จะฆ่าคนของทวีปโอชวินให้หมดสิ้น ในตอนนั้นจอมมารชูร่าทำแบบนี้ แรดโบราณก็จะทำแบบนี้เช่นกันเพื่อปกป้องแหล่งพลังทิพย์ไว้

แต่ทว่า เสียงคำรามเมื่อครู่ไม่ได้ทำให้นีย์เกิดความสงสัยอะไร เธอรู้สึกว่า ในเมื่อที่นี่เป็นป่าลึก ต่อให้เป็นยามค่ำคืน ก็คงจะมีสัตว์ร้ายเป็นธรรมดา

พอด้านมุ่งหน้าต่อไป ในไม่นานนั้น ก็มาถึงยังแอ่งน้ำพุ ที่ที่รพีพงษ์เคยมาก่อนหน้านี้

นีย์ในตอนนี้ ก็ได้ถูกพลังทิพย์โดยรอบดึงดูดเข้ามา ในใจของเธอก็ยิ่งตั้งมั่น

“ถ้าได้แหล่งพลังทิพย์สุดท้ายนี้มาล่ะก็ ทวีปโอชวินของพวกเราก็จะได้เอาชนะทั้งโลกนี้อีกครั้ง!”

เธอพูดอย่างตั้งมั่น แล้วเดินหน้าต่อไป

ในตอนนี้เอง ด้านหลังของเธอ ก็มีเสียงชี่ๆ ดังเข้ามา

งูหลามยักษ์ตัวหนึ่งก็กำลังแลบลิ้น แล้วตามหลังเธอมา

ตอนที่งูหลามยักษ์ห่างจากตัวนีย์ไม่กี่เมตรนั้นเอง นีย์ก็หันหลังกลับไปดู “ใครกัน!”

งูหลามยักษ์ก็ไม่รอรี ชูคอขึ้นจากพื้น แล้วอ้าปากกว้างคำรามใส่ต่อหน้าของนีย์

“ให้ตายเถอะ ที่แท้ก็เป็นงูหลามตัวนึงนี่เอง!”

นีย์เห็นงูหลามที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ ก็ไม่ได้ตกใจอะไร

โซ่สีดำเส้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมา จากนั้นก็พันรอบตัวของงูหลามยักษ์ไว้

“ไม่คิดเลยว่า ที่นี่จะมีสัตว์อสูรอยู่ด้วย ดูเหมือนว่า!ครั้งนี้จะเข้ามาได้จังหวะจริงๆ !”

นีย์ยิ้มพูด

สัตว์เซียนบนโลกใบนี้ ที่ทวีปโอชวินเรียกมันว่าสัตว์อสูร

ส่วนที่นีย์เห็นงูหลามยักษ์แล้วไม่ตกใจอะไรเลยนั้น ก็เพราะว่า ในทวีปโอชวินที่รับเอาพลังทิพย์ทั้ง4ที่ของโลกนี้ไว้ มีพลังทิพย์เต็มไปหมด และสัตว์เลี้ยงต่างๆ ก็ได้รับพลังทิพย์เข้าไปด้วย ลักษณะก็ไม่ต่างกับงูหลามยักษ์ตัวนี้มากนัก

ดังนั้น นีย์ก็เลยเห็นของแปลกจนไม่ตกใจกลัวแล้ว

เพราะถึงอย่างไรก็มีพลังถึงระดับแดนดั่งเทพชั้นยอด พอนีย์รัดโซ่แน่นขึ้น งูหลามยักษ์ก็เหมือนจะหายใจไม่ค่อยออกแล้ว

“เหอะ อย่างแกน่ะหรืออยากจะลอบโจมตีฉัน? ฝันไปเถอะ”

นีย์ยิ้มเย็น จากนั้น ด้านหลังก็มีเงาดำเข้ามา

นีย์ก็ก้มหัวหลบหลีกโดยสัญชาตญาณ ของเหลวสีดำก็พุ่งไปหลอมละลายต้นไม้ด้านหน้า

คางคกยักษ์ก็กำลังจ้องมองมาทางนีย์ พอได้รับคำสั่งของแรดโบราณ สัตว์เซียนพวกนี้ก็มุ่งหน้ามายังตำแหน่งของนีย์จากทั่วสารทิศ

“คางคกตัวนี้น่าเกลียดมากเลย!”

นีย์พูดออกไปอย่างนั้น แต่ก็ไม่รอรี

คางคกกระโดดขึ้นบนอากาศ กรงเล็บและฟันที่แหลมคม มีพลังทำลายล้างสูง ในขณะเดียวกัน น้ำลายพิษที่มันพ่นออกมาก็เหมือนกับน้ำฝน

นีย์ก็เคลื่อนไหวรวดเร็วมาก โซ่ในมือก็ได้หายไป แล้วหลบหลีกการโจมตีของน้ำลายพิษอย่างรวดเร็ว

“สัตว์อสูร2ตัวแล้วไงล่ะ ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันหรอก!”

ขณะพูดนั้น นีย์ก็ฮึกเหิมมากขึ้น ส่วนทางบนฟ้า ก็มีเงาดำพุ่งลงมาที่พื้นอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าลูกกระสุน

นีย์เงยหน้าขึ้นไปมอง สกายอินทรีก็กำลังจับจ้องมาทางเธอ

กรงเล็บของอินทรียักษ์มันแข็งแกร่งราวกับคีมเหล็ก

“วันนี้มันอะไรกันเนี่ย หรือว่า ฉันได้เข้ามาในรังของสัตว์อสูรพวกนี้งั้นหรือ?”

นีย์คิดในใจ

ตอนนี้ สัตว์เซียน3ตัวเข้ามาโจมตีนีย์พร้อมกัน ทำให้นีย์รู้สึกว่าตนเองจะเป็นรอง

ด้วยท่าทางที่น่าทุเรศที่สุด นีย์ได้หมุนตัวไปด้านข้างสองรอบ เพื่อหลบหลีกการโจมตีของสกายอินทรี

กรงเล็บขนาดใหญ่ของอินทรียักษ์ก็ได้ตะครุบเข้าไปที่ก้อนหินใหญ่เข้าให้ พริบตาก้อนหินใหญ่ก็แหลกละเอียด!

คลื่นลูกใหญ่ซัดกระหน่ำ!

นีย์ตะโกนออกมาเสียงดัง

ทันใดนั้น แอ่งน้ำพุก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ราวกับกำลังฟังคำสั่งของนีย์อยู่ น้ำลอยขึ้นมาเป็นรูปเสา แล้วแยกออกไปโจมตีสัตว์เซียนทั้งสามตัว

สกายอินทรีก็บินขึ้นไปบนฟ้า หลบไปได้อย่างง่ายดาย ส่วนคางคกยักษ์ก็กระโดดหลบไปในป่าทึบด้านข้าง

ส่วนงูหลามยักษ์ก็ไม่เกรงกลัว เดิมทีก็ใช้ชีวิตอยู่ในน้ำอยู่แล้ว มันเลยไม่กลัวน้ำ

พอโจมตีไม่โดน นีย์ก็กำหมัดแน่น

การโจมตีของสัตว์เซียนทั้งสามตัว เธอเองก็รับมือไม่ได้

“ถึงอย่างไรฉันก็ได้สำรวจมาพอสมควรแล้ว งั้นก็ออกไปเลยแล้วกัน เดี๋ยวพอกลับไป จะรายงานผู้อาวุโสให้มาจัดการพวกแก!”

นีย์ก็ตัดสินใจอยู่ในใจ แล้วก็หันหลังเตรียมจะกลับออกไป

นีย์ที่มีรูปร่างเล็กผอมบาง ท่าทางก็เลยเร็วมาก

มีเพียงนกอินทรีบนฟ้าถึงจะตามเธอทัน

แต่ทว่า อาศัยเพียงสัตว์เซียนเพียงตัวเดียว จะเป็นคู่ต่อสู้ของนีย์ได้อย่างไรกัน

โซ่สีดำถูกปล่อยออกมายาวยืด จากนั้นก็สะบัดไปบนฟ้า

อินทรียักษ์เห็นดังนั้น ถ้าถูกโจมตีขึ้นมา ก็เกรงว่าคงจะต้องสิ้นชีพแน่นอน

จากนั้นมันก็ไม่รอช้า บินขึ้นสูงไปอีกหลายร้อยเมตร ขนปีกก็สะบัดหลุดออกมา เลยโชคดีที่รอดมาได้

แต่ทว่า กลับทำให้นีย์ได้มีโอกาสได้ออกไปจากป่าหมอกแห่งนี้ได้

เธอก็มีใบหน้าสะใจเล็กๆ ในใจก็คิดว่า เดี๋ยวครั้งหน้าจะพาพวกอาวุโสมาด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างของที่นี่จะต้องเป็นของทวีปโอชวิน!

ทันใดนั้น ด้านหลังของเธอ ก็มีเงาดำยืนอยู่

เงาดำนั้นไม่ขยับตัว แต่ยืนมองนีย์อยู่อย่างเยือกเย็น

นีย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ภายใต้ม่านหมอก เธอก็มองไม่ชัดเหมือนกันว่าเป็นใคร

“เป็นคนรึผีกันแน่ รีบหลบไปเดี๋ยวนี้นะ!”

ใครจะรู้ล่ะว่า ฝั่งตรงข้ามนั้นก็ไม่ขยับตัวเลย แต่กลับเดินนิ่งๆ มาทางตนเอง

นีย์ก็หยิบไฟฉายขึ้นมาอีกครั้ง แล้วก็เปิดไฟออกมา สายตาของเธอก็ยิ่งกังวลขึ้นมา

“รพีพงษ์งั้นหรือ? ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท