พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1283 ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว

บทที่ 1283 ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว

รพีพงษ์ได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย บวกกับเห็นสีหน้าที่คุ้นเคย ใบหน้าที่เคยเห็นก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา

เขาก็ตกใจ กระบี่สยบเซียนในมือก็เกือบจะร่วงหล่นลงพื้น

“คุณ…..คุณคือโจซี่งั้นหรือ?” รพีพงษ์หลุดพูดเสียงดังออกมา

นีย์ที่มีรูปร่างเป็นสาวน้อยอยู่ตรงหน้า จะมองอย่างไรก็ไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับโจซี่ที่มีอายุเกิน50นะ!

“ฮ่าๆ ไอ้เด็กนี่ เห็นฉันแล้ว จะไม่เรียกแม่เสียหน่อยหรือไง?”

นีย์ยิ้มพูดออกไป เห็นได้ชัดว่า การตอบสนองของรพีพงษ์แบบนี้ เป็นสิ่งที่เธอรอคอยมานาน

“ทำไม…….คุณถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ แล้วใบหน้าแบบไหนถึงจะเป็นใบหน้าที่จริงของคุณละ?” รพีพงษ์ถาม

นีย์ยิ้มมุมปาก “ทำไมล่ะ นายคงจะไม่ชอบใบหน้าที่มีอายุ50หรอกมั้งนะ ใบหน้าของฉันแบบนี้ นายไม่ชอบรึไง?”

“ปีศาจสาวแบบคุณ อย่ามาพูดให้มันมากเลย!”

รพีพงษ์หมุนข้อมือ กระบี่สยบเซียนก็ชี้ไปยังลำคอของฝั่งตรงข้าม

ถึงแม้ก่อนหน้านี้รพีพงษ์จะเดาถูก ว่านีย์และโจซี่จะต้องเกี่ยวข้องอะไรกันสักอย่าง แต่ไม่คิดเลยว่า เธอจะเป็นคนคนเดียวกัน

นี่ก็แสดงว่า หลายเดือนก่อนหน้านี้ นีย์ของทวีปโอชวินก็ได้จับตาตนเองไว้นานแล้ว แล้วก็ตั้งใจมาเข้าใกล้ตนเอง

“งั้นก็แสดงว่า ที่คุณแต่งงานกับศักดาก็เพื่อที่จะเข้าใกล้ผมงั้นหรือ? ใช่ไหม?” รพีพงษ์ถาม

นีย์ยิ้มเย็น “ศักดามันเป็นตัวอะไรกันล่ะ ก็แค่หุ่นเชิดเท่านั้นเอง ส่วนนายนั้นฉันค่อนข้างจะสนใจมากกว่า!”

สายตาของรพีพงษ์มีรังสีการฆ่า ไม่คิดเลยว่า จิตใจของผู้หญิงคนนี้จะร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้

เพื่อที่จะเข้าใกล้ตนเอง ถึงกับต้องยอมลดตัวไปแต่งงาน แถมยังปกปิดตัวตนตั้งหลายเดือน

พอเห็นรพีพงษ์นิ่งเงียบไป นีย์ก็พูดต่อไปว่า “รพีพงษ์ นายก็มีชื่อเสียงไม่เบา ตอนที่อยู่ในทวีปโอชวิน ฉันเคยได้ยินคนพูดถึงนาย ส่วนครั้งนี้ที่มาที่นี่ จุดประสงค์ของฉันนั้นชัดเจน นั่นก็คือค้นหาแหล่งพลังทิพย์ให้พบ”

“พอหลังจากที่ฉันมาถึงที่นี่ก็พบว่า พลังของนายน่ากลัวกว่าที่คิดไว้มาก ดังนั้น เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้นายทำลายแผนการเคลื่อนไหวของฉัน ฉันก็เลยเลือกที่จะเข้าหานายเองเลย หนึ่งก็เพื่อลองใจ สองก็เพื่อยื้อนายไว้ ทำให้นายไม่อาจจะค้นหาแหล่งพลังทิพย์ได้”

พูดถึงจุดนี้ สายตาของนีย์ก็นิ่งมาก “แต่ว่า ฉันมองนายต่ำไป สุดท้ายนายก็รู้เรื่องราวทั้งหมด แต่ก็ไม่เป็นไร แหล่งพลังทิพย์ฉันก็ได้หามันจนเจอแล้ว โลกของพวกนายซ่อนมันไว้ไม่ได้อีกแล้ว”

พูดจบ สายตาของนีย์ก็แฝงรอยยิ้ม

นี่คือแหล่งพลังทิพย์แห่งสุดท้ายบนโลกใบนี้ และก็ได้ถูกค้นพบแล้ว ขอเพียงเอาพลังทิพย์นี้ออกไปจนหมด เช่นนั้นพลังของทวีปโอชวินกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!

“นี่พวกคุณกำลังจะขโมยมัน!”

รพีพงษ์ตะโกนออกมาอย่างโมโห แล้วมือก็กระดิก กระบี่สยบเซียนก็พุ่งเข้าไปบาดลำคอของฝ่ายตรงข้ามจนบาดเจ็บ

“ไอ้เด็กนี่ แกกล้าทำแบบนี้กับฉันงั้นหรือ!” นีย์ตาลุกเป็นไฟแล้วพูดกับรพีพงษ์

“สำหรับคนที่หน้าไม่อายแบบพวกคุณ จะทำอย่างไรก็ไม่เกินไปหรอก!”

รพีพงษ์พูดเสียงดัง กระบี่สยบเซียนก็หมุน พร้อมพุ่งไปฝั่งตรงข้าม

“วันนี้ ก็คือวันตายของคุณ!”

รพีพงษ์กล่าว

ในใจเขารู้ดีว่า วันนี้จะต้องฆ่าเธอให้ได้ ก่อนที่เธอจะเอาเรื่องแหล่งพลังทิพย์กลับไปบอกให้กับทวีปโอชวิน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ถ้าข่าวของแหล่งพลังทิพย์หลุดออกไป ทุกอย่างก็จะสายไปแล้ว

“ผมไม่สนว่าคุณจะเป็นโจซี่หรือว่านีย์ คุณจะต้องชดใช้กับสิ่งที่คุณทำลงไปทั้งหมด!”

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว พลังจิตวิญญาณเทพที่เหลือก็ออกมาครอบคลุมไว้ที่บนกระบี่สยบเซียน

“รพีพงษ์!”

นีย์ตะโกนออกมาเสียงดัง “ฉันทำทั้งหมดก็เพื่อทวีปโอชวิน ฉันผิดตรงไหน!”

“คุณผิดก็ผิดตรงที่ไม่ควรมายังที่นี่ของพวกเรา!”

พูดจบ แสงสีทองของกระบี่สยบเซียนก็พุ่งผ่านไป รพีพงษ์แทงเข้าไปที่ลำคอของฝ่ายตรงข้าม

ทุกอย่างมันได้จบลงแล้ว…..

ตอนที่รพีพงษ์คิดว่าแทงโดนแล้วนั้น ทันใดนั้นเอง เขาก็เห็นมุมปากของนีย์ยิ้มเยาะ

นี่มัน!

รพีพงษ์ตกใจมาก ในขณะที่กระบี่สยบเซียนของตนเองกำลังขยับออกไปนั้น อยู่ดีๆ นีย์ก็กระโดดขึ้นจากพื้น ในขณะเดียวกัน โล่สีดำก็ปรากฏออกมาป้องกันตัวเธอไว้ทั้งตัว

กระบี่สยบเซียนไม่ได้แทงไปยังโล่นั้น แต่กลับกัน รพีพงษ์ที่กำลังมีจิตวิญญาณเทพที่อ่อนล้า ก็อ่อนแรงลงเนื่องจากเอาพลังจิตวิญญาณเทพสุดท้ายออกมาใช้

ในตอนนี้ มนุษย์ทองคำตัวน้อยในหัวของรพีพงษ์ก็ได้หลับใหลไป จะเรียกอย่างไรก็ไม่ฟื้นตื่นขึ้นมาแล้ว

แต่ที่ยิ่งประจวบเหมาะก็คือ ในมือของนีย์ก็บันดาลมีดสั้นออกมา แล้วก็พุ่งไปด้านหลังของรพีพงษ์อย่างรวดเร็ว มีสั้นในมือก็มาจี้เข้าที่ลำคอของรพีพงษ์เข้าให้เสียแล้ว

สัตว์เซียนที่อยู่รอบๆ พอเห็นสถานการณ์เปลี่ยนไปแบบนี้ ก็รีบพุ่งเข้าไปด้านหน้า

“ไอ้พวกเดรัจฉาน หยุดเดี๋ยวนี้นะ ถ้ายังไม่ฟัง ฉันจะฆ่าเขาเดี๋ยวนี้เลย!”

สัตว์เซียนก็ฟัง แล้วหยุดฝีเท้าลง

“ยัยปีศาจ ชั่วช้าสิ้นดี” รพีพงษ์พูดเสียงขรึม

“เหอะๆ จะว่าไปแล้วก็เป็นเพราะว่านายประมาทเลินเล่อเอง ถ้านายฆ่าฉันเร็วกว่านี้ก็คงดี แต่ว่าฉันก็รู้ นายคงเห็นฉันสวยขนาดนี้ ก็เลยฆ่าฉันไม่ลงล่ะสิ ใช่ไหมล่ะ?”

“ไสหัวไป!”

รพีพงษ์พูดอย่างโมโห

นีย์ก็ไม่ได้โกรธอะไร “จะว่าไปแล้ว ฉันกับเมียของนาย นายคิดว่าใครสวยกว่ากันล่ะ? ถ้านายอยู่ที่ทวีปโอชวินล่ะก็ บางทีด้วยพลังและพรสวรรค์ของนาย บางทีอาจจะได้รับการโปรดปรานจากฉันก็ได้นะ”

“ฝันไปเถอะ!”

รพีพงษ์พูดอย่างโมโหว่า “คุณมีค่าที่เหมาะจะเปรียบเทียบกับแคลร์งั้นหรือ? เมื่อคุณเทียบกับเธอแล้ว ก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว แล้วอีกอย่าง คุณอย่าลืมไปนะว่าพิษในร่างของแคลร์ ก็เกิดขึ้นเพราะคุณ บัญชีนี้ ผมจะคิดกับคุณอย่างแน่นอน!”

“หน็อยแน่ะรพีพงษ์ ช่างเก่งจริงเลย!”

สายตาของนีย์ก็นิ่งเย็นขึ้นมา “ตอนนี้ก็ฟังคำสั่งฉัน ให้พวกเดรัจฉานนี่ออกไปให้หมด ฉันจะออกไปจากที่นี่!”

“ฝันไปเถอะ!”

รพีพงษ์รู้ดีว่า ถ้าวันนี้ปล่อยนีย์ไป หลังจากนี้ก็คงจะไม่สงบสุขอีกต่อไปแล้ว

“ได้ ดูเหมือนคงจะต้องสั่งสอนนายสักหน่อยแล้วล่ะ!”

ขณะพูดนั้น มือของนีย์ก็ออกแรงมากขึ้น ปลายมีดสั้นก็ได้แทงเข้าผิวหนังลำคอของรพีพงษ์ไปครึ่งนิ้ว

“ยังไม่รีบให้พวกมันหลบไปอีก!” นีย์พูดเสียงเย็น

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ผู้หญิงคนนี้จิตใจละเอียดลออ ทำงานอะไรก็ไม่ลังเล อีกอย่างที่สำคัญก็คือ เธอทำงานให้กับทวีปโอชวิน โดยไม่สนใจเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น

มีคนแบบนี้อยู่ มันก็เป็นเหมือนกับเนื้อร้ายของโลกใบนี้!

“สัตว์เซียนทุกตัวจงฟัง!”

รพีพงษ์พูดเสียงขรึม

นีย์เห็นรพีพงษ์พูดขึ้นมา มุมปากก็ชี้ขึ้น “นึกว่านายจะเป็นคนหัวแข็ง ตอนนี้ดูเหมือนว่าก็ไม่เท่าไรนี่นา”

รพีพงษ์ก็ไม่ได้สนใจอะไร สายตาที่เฉียบคมก็กวาดมองไปยังสัตว์เซียนตรงหน้า

“สัตว์เซียนทุกตัว ไม่ต้องมาสนใจผม จะต้องฆ่าผู้หญิงคนนี้ให้ได้!”

พอนีย์ได้ยินดังนั้น สายตาก็หวาดกลัวขึ้นมา

“ไอ้หมอนี่ บ้าไปแล้วหรืองไ? นายไม่กลัวตายอยู่ที่นี่หรือไง?”

“ฮ่าๆ เมื่อเทียบกับแหล่งพลังทิพย์แล้ว ชีวิตของผมมันจะไปเทียบอะไรได้!”

รพีพงษ์พูดดูถูก แล้วตะโกนออกมาว่า “สัตว์เซียนทั้งหลาย เริ่มโจมตีได้เลย!”

“นี่นาย……”

นีย์กัดฟัน เธอไม่อยากจะเชื่อว่า ในโลกใบนี้จะยังมีสิ่งที่สำคัญกว่าชีวิตเหลืออยู่อีก สิ่งนั้น มันเรียกว่า ความเชื่อ!

อีกอย่าง นีย์ก็รู้ดี ต่อให้ตนเองฆ่ารพีพงษ์ไป สัตว์เซียนพวกนี้ก็คงไม่ปล่อยเธอไปแน่

แต่ทว่า พอนึกถึงสวรรค์เหนือใครของรพีพงษ์ นีย์ก็เกิดความคิดชั่วขึ้นมา

“ได้ ไอ้หมอนี่ ในเมื่อเรื่องมันมาถึงทางตันแบบนี้ ฉันก็จะไม่ให้นายไปสบายหรอก!”

ขณะพูด พลังของเธอก็มารวมไว้ที่มือ

“ฉันจะทำให้นายได้รู้ ว่าสิ่งที่นายทำได้ ฉันในฐานะองค์หญิงน้อยของทวีปโอชวินก็สามารถทำได้ อย่างมากพวกเราก็แค่ตายด้วยกันในวันนี้!”

พูดไป เธอก็ชูมีดสั้นสูงขึ้น

ทันใดนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าดังสนั่นมาแต่ไกล ราวกับพื้นดินกำลังสั่นสะเทือน

ในตอนนี้ แรดโบราณก็กำลังวิ่งมุ่งหน้ามาทางนี้อย่างกับกำลังบ้าคลั่ง

“รพีพงษ์ ไม่ต้องกลัว ข้าจะมาช่วยเจ้าเอง!”

แรดโบราณกล่าว

นีย์เห็นดังนั้น ก็ตกใจมาก “นี่มัน…..สัตว์อสูรตัวนี้ ทำไมถึงพูดได้ล่ะ?”

ในตอนที่กำลังสงสัยอยู่นั้นเอง แรดโบราณก็มายังตรงหน้าของรพีพงษ์และนีย์

พุ่งชนอย่างโหดเหี้ยม!

รพีพงษ์และแรดโบราณมองหน้ากัน แล้วก็เข้าใจสิ่งที่ฝั่งตรงข้ามคิด

“อย่าเข้ามานะ!”

นีย์ตะโกนอย่างตกใจ ถ้าพุ่งชนโดนไม่สนใจอะไรแบบนี้ ต่อให้มีรพีพงษ์บดบังอยู่ด้านหน้าตนเอง เธอก็รับแรงนั่นไว้ไม่ไหว

แต่ว่า แรดโบราณก็มีสายตามั่นใจเหมือนไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น

ในฐานะผู้นำของเหล่าสัตว์เซียน แรดโบราณตัวนี้ตัดสินใจเด็ดขาด ไม่มีทางชักช้าลังเล

“รพีพงษ์ ขอโทษด้วยนะ!” แรดโบราณพูดเสียงขรึม

“ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ฟ้าลิขิต!”

รพีพงษ์พูดเสียงเย็น ในใจก็ได้เตรียมตัวไว้พร้อมแล้ว

เสียงดังสนั่นหวั่นไหว

แรดโบราณตัวใหญ่ตัวนี้ ก็ได้เอาหัวพุ่งชนทั้งสองคนจนกระเด็น

ในหัวของรพีพงษ์ก็ขาวโพลน จากนั้นใบหน้ายิ้มแย้มของหนูลินและอารียาก็ผุดขึ้นในหัว

ร่างของทั้งสองคนก็กระเด็นลอยไปข้างหลัง ด้านหลังของพวกเขานั้นก็เป็นหุบเหวลึกหลายสิบเมตร

เหล่าสัตว์เซียนก็มามองดูหุบเหวพร้อมกัน แต่ว่ามีเมฆหมอกหนาบดบัง มองไม่เห็นอะไรเลย

แรดโบราณหยุดฝีเท้าลง มันเองก็ไม่รู้ ว่าที่ตนเองทำลงไปนั้น มันถูกหรือผิดกันแน่………

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท