พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1322 วรันธรและแม่

บทที่ 1322 วรันธรและแม่

ทางฝั่งนี้ รพีพงษ์ก็เดินไปพร้อมกับวรันธร

ยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกว่า ทางเส้นนี้มันไม่ใช่เส้นทางที่ไปยังตึกของวรันธร

หรือว่า ผลทิพย์จะซ่อนอยู่ที่อื่น?

รพีพงษ์ฉงนใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เดินไปประมาณ8นาที วรันธรก็หยุดเดิน

“ผลทิพย์อยู่ที่นี่งั้นหรือครับ?”

รพีพงษ์ถาม แล้วก็มองไป ที่นี่มันเห็นได้ชัดว่าเป็นสุสาน

วรันธรพยักหน้า แล้วพูดเบาๆ ว่า “แม่ของฉันถูกฝังอยู่ที่นี่ ส่วนผลทิพย์ที่คุณต้องการนั้น ก่อนหน้านี้แม่ของฉันเป็นคนดูแลมันอยู่ ดังนั้นวันที่แม่สิ้นลมไป ผลทิพย์ก็ถูกบูชาอยู่หน้าป้ายวิญญาณมาโดยตลอด”

รพีพงษ์ก็แสดงทีท่าเข้าใจความหมาย เอาสิ่งของที่ผู้ตายชอบฝังไปด้วยพร้อมกัน นี่มันเป็นวัฒนธรรมจีนโบราณที่สืบทอดต่อกันมา

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมก็ไม่เอาผลทิพย์แล้วล่ะ เพราะถึงอย่างไรต้องให้เกียรติผู้เสียชีวิต ในเมื่อแม่ของคุณรักผลทิพย์นั้นมาก ผมก็ไม่ควรไปแย่งของรักของใคร” รพีพงษ์กล่าว

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ คุณรพี”

วรันธรยิ้มเบาๆ “ก่อนแม่ฉันตายเคยบอกไว้ว่า ผลทิพย์นั้นแทบจะไม่มีประโยชน์กับพวกเราที่นี่เลย แต่มันมีค่ากับพวกนักฝึกวิชาในโลกภายนอกมาก ก่อตายแม่บอกไว้ว่า ผลทิพย์นี้จะต้องให้แก่คนที่มีวาสนาด้วยเท่านั้น และคนคนนั้นจะต้องมาจากโลกภายนอกเท่านั้น ตอนนี้ดูเหมือนว่า หลายปีมานี้คุณก็คือคนที่แม่ของฉันรอคอย”

รพีพงษ์ยิ้มเบาๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ตนเองก็จะปฏิเสธไม่ได้แล้ว

เขาเดินมาทางหน้าป้ายวิญญาณของวรันธร แล้วทำความเคารพ3ครั้ง

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ขอบคุณคุณวาวมากหัวไหล่ครับ” รพีพงษ์พูดไป จากนั้นก็มองไปยังผลทิพย์ที่ถูกกล่องคริสทัลใส่ไว้ยังด้านหน้าป้ายวิญญาณ

พอเห็นแวบแรก รพีพงษ์ก็รับรู้ได้ถึงความไม่ธรรมดาของผลทิพย์

รูปร่างคล้ายๆแอปเปิล แต่มันมีสีทองเปล่งออกมา และรอบๆ ของผลทิพย์ก็มีควันหมุนปกคลุมอยู่

ควันพวกนี้ ก่อนหน้านี้รพีพงษ์เคยเห็นบนยาเม็ดมาก่อน

หรือว่า ผลทิพย์นี้จะคล้ายๆ กับยาชั้นเลิศ?

รพีพงษ์คิดในใจ แต่ว่ายาเม็ดมันเล็กมาก ส่วนผลทิพย์นี้มันมีขนาดใหญ่

พอคิดถึงสรรพคุณที่สามารถให้นักฝึกวิชาได้เพิ่มพลังให้ตนเองได้ รพีพงษ์ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก

ตอนที่รพีพงษ์จะเข้าไปหยิบผลทิพย์นั้น ก็เห็นว่า วรันธรน้ำตาคลอเบ้า และกำลังจ้องมองป้ายวิญญาณของแม่ตนเองอย่างลึกซึ้ง

รพีพงษ์รู้ว่า วันนี้วรันธรเจอเรื่องแย่ๆ ในใจคงอึดอัดไม่น้อย พอได้เข้ามาในสุสานของแม่ตนเอง ก็เลยใจไม่ดีมากกว่าเดิม

“คุณวาว คุณมีสภาพแบบนี้ แม่ของคุณเห็นเข้าก็จะเสียใจไปด้วยนะครับ” รพีพงษ์เอามือตบไหล่พูดปลอบใจอยู่ข้างๆ

วรันธรพูดเบาๆ ว่า “ตั้งแต่เด็กแม่ก็ดีกับฉันมาก ตอนที่ฉันอายุ5ขวบ แม่ก็จากไป และหลังจากที่แม่เสียไปแล้วนั้น นิสัยของพ่อฉันก็เปลี่ยนไปมาก กลายเป็นคนใช้อารมณ์ไร้เหตุผล ก่อนหน้านี้ไม่ใช่คนแบบนี้”

“แม่คุณเสียตอนคุณอายุ5ขวบหรือครับ? ไม่ทราบว่าป่วยหนักด้วยอาการอะไรหรือเปล่า?” รพีพงษ์ถาม

วรันธรส่ายหัว “ตอนนั้นฉันยังเด็ก เหตุการณ์ตอนนั้นก็จำได้รางๆ แต่ฉันรู้ว่า แม่ของฉันไม่ได้เสียเพราะโรคร้าย แต่เป็นเพราะ…….”

“เพราะอะไรครับ?” รพีพงษ์ถาม แต่พอเห็นเธอสีหน้าเศร้าโศก ก็รู้สึกว่าตนเองสอดรู้มากเกินไป จนไปพูดเรื่องเสียดแทงทางอารมณ์ของคนอื่นเข้า

“จะว่าไปแล้วก็น่าขำ แม่ของฉันนั้น ถูกฟ้าผ่าใส่จนตาย ตายคาที่เลย” วรันธรเล่า

ถูกฟ้าผ่างั้นหรือ?

รพีพงษ์คิ้วขมวด สถิติการเกิดเหตุการณ์แบบนี้ มันไม่ต่างอะไรกับถูกหวยเลยนะ

“นี่……นี่มันค่อนข้างเกินธรรมชาติไปหน่อยนะครับเนี่ย” รพีพงษ์กล่าว

“ตอนนั้นฉันอยู่ข้างหน้านั้น ถ้าไม่เห็นกับตาตนเอง ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ วันนั้นท้องฟ้าเปลี่ยนสี เมฆดำปลิวหมุน ตอนนั้นพ่อกับแม่ก็กังวลกันมาก ตอนนั้นฉันยังเล็ก แต่ว่าฉันสามารถรับรู้ได้ว่า แม่ของฉันมีลางสังหรณ์อะไรสักอย่าง ว่าวันนี้มันจะมาถึง” วรันธรกล่าว

รพีพงษ์ก้มหน้าครุ่นคิด เขารู้ว่า ถ้าคนคนหนึ่งที่เจ็บป่วยมานาน ก็มักจะมีลางสังหรณ์ของวันสุดท้ายในชีวิตตนเอง แต่ถ้าเป็นคนธรรมดา ก็จะไม่รู้เลยว่าตนเองจะมีวันที่ถูกผ่าตายด้วย

นอกเสียจาก………

ทัณฑ์สวรรค์!

ในหัวของรพีพงษ์ก็นึกถึงภาพตอนที่ตนเองกลั่นยาเม็ดระดับเทพเซียนในสำนักเทพยาเซียน

วันนั้น ตอนที่ยาเม็ดระดับเทพเซียนกำลังจะถูกหลอมรวมสำเร็จนั้น ท้องฟ้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ฟ้าร้องอึกทึก

หรือว่า แม่ของวรันธรจะเป็นนักกลั่นยา?

“แม่ของคุณ สามารถกลั่นยาได้ไหม?” รพีพงษ์ถาม

“ยาเม็ดงั้นหรือคะ?” วรันธรได้แล้วก็ส่ายหัวอย่างอึ้งๆ “แม่กลั่นยาไม่เป็นหรอก และฉันก็ไม่เคยได้ยินแม่พูดถึงด้วย เพียงแต่ ก่อนหน้านี้ฉันเคยไปกวนให้พ่อฉันเล่าเรื่องของแม่ฉันให้ฟัง พ่อฉันบอกไว้อย่างเดียว”

“บอกว่าอะไรครับ?” รพีพงษ์ถาม

“ฟ้าได้กำหนทุกอย่างไว้แล้ว” วรันธรพูดออกมาเบาๆ “นี่เป็นคำที่พ่อพูดอยู่หลายครั้ง จากนั้นก็ไม่ได้เล่าอะไรอีกเลย”

พอพูดจบ วรันธรก็หันตัวไปยังป้ายวิญญาณของแม่ตน แล้วพูดออกมาว่า “ถ้าแม่ยังอยู่บนโลกใบนี้ล่ะก็ แม่ก็คงจะไปเกลี้ยกล่อมให้พ่อยอมให้ฉันตัดสินใจงานแต่งของตนเองในครั้งนี้”

รพีพงษ์ยืนอยู่ข้าง ในใจก็มีความเห็นใจ

ถึงแม้แม่ของวรันธรจะอยู่กับเธอมาเพียงแค่5ปี แต่เมื่อเทียบกับตนเองแล้ว วรันธรถือว่ามีบุญวาสนามากแล้ว

แม่ของตนเองได้ร้ายกับตนเองมาก เพื่อที่จะให้น้องชายของเธอได้ขึ้นตำแหน่ง ถึงกับยอมหลอกลวงตระกูลลัดดาวัลย์ และคิดแผนทำร้ายตนเอง

มันแน่นอนอยู่แล้ว คนสองคนเมื่อเทียบกัน ก็มักจะมีอะไรหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน

“คุณรพี น่าอายไปหน่อยนะคะ ส่วนผลทิพย์นี้คุณก็เอาไปเถอะค่ะ”

วรันธรกล่าว

“ขอบคุณมากครับ” รพีพงษ์พูด แล้วก็ยื่นมือไปหยิบผลทิพย์ “ถ้าคุณเชื่อใจผมล่ะก็ คุณกับณรงค์ยังมีโอกาสอยู่นะครับ”

“อ๋า?” วรันธรอึ้งไป ไม่คิดเลยว่าในตอนนี้ รพีพงษ์จะพูดออกมาแบบนี้

“แต่ถึงจะพูดแบบนี้ จุดสำคัญก็ยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทั้งสองคน”

รพีพงษ์ก็พูดเสริมว่า “ขอเพียงคุณกล้าหน่อย พรุ่งนี้เช้าก็ออกไปจากแดนลับพร้อมกับผม!”

“ออกไปจากแดนลับ…..พร้อมกับคุณงั้นหรือ?” วรันธรก็งงๆ เธอไม่คิดเลยว่า รพีพงษ์จะคิดแผนแบบนี้ออกมาได้

“ถูกต้อง แดนลับจะถูกเปิดขึ้นอีกครั้งก็อีก10ปีข้างหน้า เวลานับสิบปี ผมคิดว่าพ่อของคุณคงจะคิดอะไรได้บ้างแล้ว” รพีพงษ์กล่าว

“คุณพูดถูก แต่ว่า……..” วรันธรก็ยังตัดสินใจในทันทีเลยไม่ได้

“ถ้าคุณคิดได้แล้ว คืนวันนี้ผมก็จะไปหาคุณที่ใต้ตึกเหมือนเดิม พอถึงตอนนั้นเราค่อยวางแผนกันก็ได้” รพีพงษ์กล่าว

“ได้ ถ้างั้นก็ทำตามที่คุณว่าเลยก็แล้วกัน” วรันธรกล่าว

ตอนที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันนั้น นรียาก็แอบย่องเงียบเข้ามาในสุสานด้วย

ถ้าอยู่โลกภายนอก พลังจิตวิญญาณของรพีพงษ์ก็คงจะสามารถรับรู้ฝีเท้าของนรียาได้ แต่ทว่า ในแดนลับแห่งนี้ พลังจิตวิญญาณของตเนองไม่มีทางใช้การได้ บวกกับได้รู้จักกับนรียาอยู่แล้ว รพีพงษ์ก็เลยไม่ได้กังวลว่าด้านหลังจะมีใครตามมา และคิดว่าตอนนี้นรียาคงจะกำลังดูแลอาการของพชรมากกว่า

ในตอนนั้นเอง ลมแรงก็พัดผ่าน กริชของนรียาก็ปลิวออกมา พุ่งมายังรพีพงษ์

ดีที่รพีพงษ์ตอบสนองเร็ว รับรู้ได้ว่าด้านหลังมีลมพัด ก็เลยหลบออกไป กระโดดไปด้านข้าง

และในตอนนี้ นรียาก็ได้มายืนตรงหน้าของวรันธรแล้ว วรันธรไม่เป็นวิชาต่อสู้ ต่อหน้านรียา เธอก็ทำอะไรไม่ได้

“อย่าเข้ามานะ!”

นรียาก็พูดกับรพีพงษ์ที่กำลังพุ่งมาโจมตีเธอ ในตอนนี้ มือข้างหนึ่งของเธอได้บีบคอของวรันธรไว้แล้ว สายตาก็อำมหิต พร้อมพูดว่า “ส่งผลทิพย์มานี่!”

สายตาของรพีพงษ์เผยรังสีการฆ่า “คุณปล่อยเธอเสีย ผมจะให้คุณได้เป็นศพครบ32!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท