พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1310 บ่อน้ำมังกร

บทที่ 1310 บ่อน้ำมังกร

ทั้งสามคนยืนอยู่หน้าบ่อน้ำมังกร ชายหญิงคู่นั้นมองดูผืนน้ำอันมืดมิดด้วยความงุนงง

“พี่ แดนลับต้องอยู่ด้านล่างของบ่อน้ำมังกรนี้แน่นอน พวกเราลงไปกันเถอะ”

หญิงสาวกล่าว

“ไม่!”

ชายหนุ่มมองไปที่รพีพงษ์ แล้วกระซิบข้างหูของหญิงสาวว่า “ใครจะรู้ว่าบ่อน้ำมังกรจะมีอะไรแปลก ๆอยู่หรือเปล่า ปล่อยให้ไอ้หมอนี้ลงไปก่อน หากมีอันตรายเขาจะกั้นไว้ก่อน แล้วพวกเราค่อยตามหลังไป”

หญิงสาวพยักหน้า วิธีนี้ค่อนข้างดี

ดังนั้น เธอจึงหันไปมองรพีพงษ์และกล่าวว่า “เฮ้ คุณอยากจะเข้าไปในแดนลับไม่ใช่หรือ? ลงไปสิ!”

ทำไมรพีพงษ์จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ตนเองลงไปก่อนแล้วยังไง หลังจากที่เขาได้ยินอีกฝ่ายพูดก่อนหน้านั้นว่า ผลเทพสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งโดยตรง รพีพงษ์ก็ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า จะเอาผลเทพมาให้ได้

“ทำไมคุณไม่ลงไป หรือว่าคุณไม่กล้า” หญิงสาวกล่าวเยาะเย้ย

“หรือคุณจะลงไปก่อน?”

รพีพงษ์กล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น แล้วก็หลีกทางให้

“พวกเราแค่ถ่อมตนกับคุณเท่านั้น”

“ใช่ เห็นว่าคุณรีบมาก ก็เลยให้คุณลงไปก่อน”

สองคนนั้นเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

รพีพงษ์ฮึ่มประโยคหนึ่งอย่างเย็นชา “ในเมื่อไม่กล้าเข้าไปก่อน ก็หุบปากเหม็นของพวกคุณซะ!”

กล่าวจบ รพีพงษ์ไม่ลังเลอีกต่อไป จากนั้นก็กระโดดลงไปที่บ่อน้ำมังกรทันที

ที่ริมบ่อ ชายหญิงคู่นั้นมองดูบ่อน้ำที่สงบนิ่ง บ่อนั้นลึกมาก และพวกเขาไม่รู้ว่าข้างใต้เกิดอะไรขึ้น

“พี่ ฉันคิดว่าพวกเราลงไปกันเถอะ มิเช่นนั้นจะถูกผู้ชายคนนั้นดูถูก” หญิงสาวกล่าว

“ไม่ รอดูอีกที” ชายหนุ่มกล่าว

ประมาณหนึ่งนาทีต่อมา ทรายสีเหลืองรอบ ๆ ก็เริ่มเลื่อนลงไปในบ่อ และพื้นที่ของบ่อก็เล็กลงเรื่อย ๆ

“พี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

“แย่แล้ว!” สีหน้าชายหนุ่มจริงจัง “เวลาที่เปิดเข้าไปสู่แดนลับมีจำกัด พวกเราต้องกระโดดลงไปแล้ว มิเช่นนั้น ถ้าบ่อน้ำหายไป พวกเราจะเข้าไปไม่ได้อีก”

พูดจบ จะไม่เข้าไปในบ่อน้ำก็ไม่ได้แล้ว ทั้งสองคนจึงกระโดดลงไปในช่วงนาทีสุดท้าย

รอบ ๆมืดมิด และร่างของรพีพงษ์ที่กลั้นลมหายใจก็จมลงอย่างรวดเร็ว

พลังจิตของเขาครอบคลุมทั่วบ่อ ประมาณห้านาทีต่อมา เขาก็มาถึงก้นบ่อน้ำมังกร และข้างหน้าของเขานั้นเป็นถ้ำ

รพีพงษ์เดินไปข้างหน้าสองก้าวอย่างช้า ๆ จากนั้นมีมังกรยักษ์ยาวประมาณสามสิบเมตร ที่บนหัวมีเขากับเกล็ดมังกร ก็พุ่งออกมาจากถ้ำทันใด

รพีพงษ์ตกตะลึง จากนั้นเขาก็คิดว่า ที่นี่คือบ่อน้ำมังกร ก็ไม่แปลกใจถ้ามีมังกรอยู่ในน้ำ

หลังจากมังกรยักษ์ยาวสีดำเห็นรพีพงษ์ ก็เข้ามากัดทันทีโดยไม่รีรอ

กระแสน้ำอันทรงพลังผลักรพีพงษ์ออกไปไกลหลายสิบเมตร

รพีพงษ์รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ที่พลังของมังกรยักษ์ตัวนี้แข็งแกร่งจนไปถึงระดับแดนเทพขั้นกลาง

หรือว่า นี่เป็นการทดสอบด่านแรกของแดนลับ?

รพีพงษ์คิดถึงกระดูกที่อยู่ภายนอก ดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นจะตายด้วยน้ำมือของมังกรยักษ์ตัวนี้

ด้วยกระบี่สยบเซียนในมือ รพีพงษ์ที่อยู่กลางน้ำพุ่งเข้าไปแทงที่อีกฝ่ายโดยตรง

แต่ว่า กระแสน้ำกีดขวางและชะลอการโจมตีของรพีพงษ์ และมังกรยักษ์ตัวนี้อยู่ในน้ำเหมือนปลาในน้ำ หลบการโจมตีของรพีพงษ์ได้อย่างรวดเร็ว

สมควรตาย!

หัวใจของรพีพงษ์กระตุก และในขณะนี้เอง ด้านบน ชายหญิงคู่นั้นก็บังเอิญจมลงมาอยู่ที่นี่

ในฐานะยอดฝีมือแดนดั่งเทพ คนสองคนนี้สามารถกลั้นหายใจอยู่ใต้น้ำได้เป็นเวลานานเช่นกัน

หลังจากเห็นมังกรยักษ์สีดำ ทั้งสองคนตกใจ และรีบว่ายไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยไปหลบซ่อนอยู่ด้านหลังของรพีพงษ์

ดวงตาของรพีพงษ์แน่วแน่ เขาเข้าใจว่าอีกฝ่ายพยายามใช้ตัวเองเป็นเกราะป้องกัน ให้มังกรต่อสู้กับตนเอง แล้วพวกเขาก็รอเวลาตักตวงผลประโยชน์

มังกรยักษ์อ้าปากกว้างแล้วพุ่งเข้าหารพีพงษ์ทันที

รพีพงษ์ถือกระบี่สยบเซียนอยู่ในมือ จากนั้นร่างของเขาก็กระโดดลงไปในน้ำ และขึ้นไปอยู่บนตัวมังกร

มังกรกำลังจะหันหลังกลับ แต่ถูกรพีพงษ์ขี่อยู่บนตัว และกระบี่สยบเซียนก็แทงตรงไปที่ร่างของอีกฝ่าย แต่ทว่า การแทงคราวนี้ ไม่ได้ทำให้มังกรยักษ์ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด?

นี่มันอะไรกัน?

รพีพงษ์รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก? หรือว่ากระบี่สยบเซียนในมือของเขาไม่มีผลต่อมังกรยักษ์?

หารู้ไม่ว่า มังกรยักษ์ตัวนี้บำเพ็ญใต้บ่อมานับพันปีแล้ว เกล็ดบนตัวของมันคือเกราะที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แม้ว่าจะเป็นอาวุธเวทมนตร์ ก็ไม่มีทางทำร้ายมันได้

มังกรไม่พอใจที่ถูกรพีพงษ์ขี่อยู่ ดังนั้นมันจึงบิดตัวไปมาอย่างรุนแรง พยายามที่จะเหวี่ยงรพีพงษ์ออกจากตัว

แต่ทว่า รพีพงษ์ใช้ข้างมือหนึ่งจับเกล็ดมังกรไว้แน่น ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายจะรุนแรงแค่ไหน เขาจะไม่มีวันปล่อยมือ

ทันใดนั้น น้ำในบ่อก็ถูกกวนด้วยกระแสน้ำวนขนาดต่าง ๆ นับไม่ถ้วน ชายหญิงคู่นั้นเฝ้าดูการต่อสู้ข้างหน้าด้วยความสยอง พวกเขาเสกโซ่ไปผูกติดกับหินที่ด้านล่างของบ่อ จึงทำให้ไม่ถูกน้ำวนพัดไป!

หลังจากผ่านไปประมาณห้านาที มังกรเห็นความอุตสาหะของรพีพงษ์ที่เหนียวแน่น ดังนั้นมันจึงหันไปจู่โจมชายหญิงคู่นั้นแทน

เมื่อหญิงสาวเห็นเช่นนี้ รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และปฏิกิริยาแรกของเธอคือการว่ายไปตามกระแสน้ำ

อย่างไรก็ตาม ความเร็วของเธอจะเร็วกว่ามังกรยักษ์ตัวนี้ได้อย่างไร จากนั้นเธอก็ถูกมังกรไล่ทัน

หญิงสาวหันกลับมามอง เห็นมังกรยักษ์กำลังอ้าปากใหญ่ และฟันของมังกรยักษ์ในปากที่มีไอเย็น ที่สามารถกลืนสิ่งต่าง ๆมันเข้าไปได้โดยตรง

หญิงสาวอยากจะตะโกน แต่ตอนนี้อยู่ในน้ำ เธอจะตะโกนออกมาได้อย่างไร

เธอเสกกระบี่ออกมา แล้วก็ฟันไปที่มังกรยักษ์ทันที

มังกรยักษ์ไม่สนใจ เพราะแม้แต่กระบี่สยบเซียนก็ทำอะไรมันไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับกระบี่เล่มนี้

มังกรยักษ์กำลังจะกินอีกฝ่าย ขณะที่ชายหนุ่มไล่ตามมังกรอยู่ด้านล่าง ไม่คิดว่า ด่านแรกของแดนลับนี้เป็นมังกรยักษ์ที่โหดเหี้ยม

เขาใช้กระบี่ใหญ่ฟันมังกรยักษ์ไม่หยุด ใช้แรงจนหมด แต่ก็ไร้ประโยชน์

หญิงสาวมองดูการนองเลือดที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ อย่างสิ้นหวัง ขณะนี้เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ตนเองบุกเข้ามาในบ่อน้ำมังกรแห่งนี้

เวลานี้ รพีพงษ์พลิกตัวกลับ ใช้พลังวิเศษเสนเสกหอกยาวห้าเมตรออกมา แล้วนำหอกใส่เข้าไปในปากของมังกรยักษ์ทันที

มังกรยักษ์โกรธจัด ใช้แรงกัด ทำให้หอกหักนั้นทันที!

แต่คราวนี้ มันทำให้หญิงสาวมีโอกาสรอดพ้นจากความตาย รพีพงษ์จับมือหญิงสาวไว้ และพาเธอหลบไปอยู่ด้านข้างทันที

หญิงสาวแอบคิดอยู่ในใจ หรือว่าไอ้หมอนี้พึงพอใจความงามของตนเอง และชอบตนเองอยู่หรือเปล่า?

หารู้ไม่ว่า รพีพงษ์ไม่สนใจความงามที่น่าสงสารของเธอ เพียงแค่ใช้สัญชาตญาณในการช่วยชีวิตผู้คนเท่านั้น

ชายหนุ่มที่อยู่ใต้มังกรไม่รู้สถานการณ์ด้านบน ได้แต่แค่ก้มศีรษะและใช้มีดขนาดใหญ่ฟันไปเรื่อย ๆ

มังกรยักษ์รู้สึกโมโห จึงหันกลับมาจู่โจมชายหนุ่มแทน

หญิงสาวแสดงสีหน้าตกใจ ดิ้นรนจนหลุดจากมือของรพีพงษ์ แล้วว่ายไปตามกระแสน้ำ

ขณะนี้ ชายหนุ่มรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อเห็นน้องสาวว่ายน้ำมาหาตนเอง จากนั้นเขาก็รู้สึกถึงพลังอันมหาศาลของมังกรยักษ์

มังกรยักษ์กางกรงเล็บออก กรงเล็บของมันกว้างใหญ่มหึมา

หญิงสาวมาถึงข้างพี่ชาย มองดูการจู่โจมที่เร็วเหมือนสายฟ้า จากนั้นทั้งสองก็เสกกระบี่ออกมาทันที

เมื่อกระบี่กระทบกัน ทั้งสองก็หลอมรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว และความแข็งแกร่งของอาวุธในมือของพวกเขาก็แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

มังกรยักษ์ยื่นกรงเล็บมา และทั้งสองก็แทงกรงเล็บมังกรด้วยอาวุธที่อยู่ในมือ!

รพีพงษ์ที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าที่เคร่งขรึม การโจมตีของทั้งสองคนในครั้งนี้ พลังได้ไปถึงระดับแดนเทพแล้ว!

เทคนิคลับแบบนี้ที่ชายหญิงฝึกด้วยกันนั้นมันน่าทึ่งจริง ๆ

กระบี่แทงเข้าที่กรงเล็บของมังกรโดยตรง ทำให้มังกรคำรามเป็นเวลานาน และมังกรรู้สึกเจ็บปวด จากนั้นร่างกายของมันก็บิดเบี้ยวขึ้นมา

ชายหญิงคู่นั้นต่างมองหน้ากัน ด้วยสีหน้าแสดงถึงความพอใจเล็กน้อย

แต่ไม่นานนัก อาวุธในมือก็ถูกมังกรยักษ์ที่โกรธบดขยี้ทันที

รพีพงษ์รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก พลังความแข็งแกร่งเช่นนี้ เกรงว่าตนเองก็ไม่สามารถทำได้

การแสดงออกของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และมองดูมังกรยักษ์ด้วยความหวาดกลัว

มังกรยักษ์ยื่นกรงเล็บไปที่สองคนนั้นอีกครั้ง ชั่วขณะหนึ่ง ลมหายใจแห่งความตายล้อมรอบพวกเขา ภายใต้กรงเล็บยักษ์ที่มีความกว้างถึงแปดเมตร ทำให้ทั้งสองไม่มีทางหนีรอดได้!

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังสิ้นหวัง ทันใดนั้น แสงสีทองก็ส่องมาจากด้านข้าง ทั้งสองชำเลืองมอง ทำให้พวกเขาตกใจเป็นอย่างมาก!

มังกรทองยักษ์ถูกเรียกโดยรพีพงษ์

ท่าหลิงอิ๋น!

มังกรทองยักษ์คำรามเสียงดัง และน้ำในบ่อก็ม้วนตัวขึ้นอย่างรุนแรง แล้วโจมตีมังกรยักษ์สีดำตัวนั้นทันที

ขณะที่มังกรยักษ์สีดำชำเลืองมอง จากนั้นก็ถูกคลื่นขนาดใหญ่กระแทกจนพุ่งออกไปหลายสิบเมตร

ทั้งสองได้รับการช่วยเหลือ จึงรีบหลบมังกรยักษ์สีดำอย่างรวดเร็ว และไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าอีก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท