พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1465 ทำให้ฉันเสียชื่อเสียง

บทที่ 1465 ทำให้ฉันเสียชื่อเสียง

“รพีพงษ์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” อารียาเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่

“คุณพาหนูลินไปอยู่ในนี้ ผมจะขึ้นไปถามดู” รพีพงษ์พูดกล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆ

หลังจากนั้น เขาก็มาถึงตรงหน้าของผู้ชายที่คาบไม้จิ้มฟันคนนี้

“ทำไม ที่นี่……ถึงเข้าไปไม่ได้?” รพีพงษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดกล่าวกับเขา

“ให้เข้าได้ แต่ก่อนเข้าไป จะต้องซื้อตั๋วก่อน”

ชายไม้จิ้มฟันมองไปที่รพีพงษ์พร้อมพูดกล่าวด้วยแววตาที่เอ้อระเหยลอยชาย

“ซื้อตั๋ว?”

รพีพงษ์ลูบๆที่จมูก เอ่ยถามทันทีว่า : “ที่นี่จะต้องซื้อตั๋วเข้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่อง?”

“เยสเข้ เรื่องที่นายไม่รู้มีเยอะแยะไป กลับไปอ่านหนังสือเถอะไป” ชายคาบไม้จิ้มฟันมีแววตาที่ทะนงตัวมาก: “ดูท่าทางของพวกคุณอย่างนี้ ก็คงเป็นลูกค้าที่มาจากที่อื่นสินะ อยากเข้าไปก็ซื้อตั๋ว ไม่อย่างงั้น ก็ใส่หัวไปซะ อย่ามาทำให้ธุรกิจของกูล่าช้า

ในตอนนี้ดูเหมือนว่ารพีพงษ์จะเข้าใจแล้ว

ดูเหมือนว่าหลังจากที่ตัวเองไปจากเมืองริเวอร์ ปราสาทคริสตัลแห่งนี้ก็ถูกปิดไม่ได้ใช้งานแล้ว

และคนเหล่านี้ก็เห็นแก่ตัวขายตั๋วที่หน้าประตู เพื่อให้ผู้อื่นเยี่ยมชม ถือวิสาสะเอาปราสาทคริสตัลเป็นของตัวเอง

“ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ ที่นี่เป็นของรพีพงษ์ ตอนที่เขาไปจากเมืองริเวอร์ ก็ไม่เคยพูดว่าที่นี่จะต้องเก็บค่าตั๋ว แกทำเรื่องแบบนี้ที่นี่ ได้บอกเขาหรือเปล่า?ใครเป็นคนอนุญาตให้พวกแกทำ!” รพีพงษ์พูดกล่าวอย่างเย็นชา

“โอ้โห ไอ้หมอนี้สำรวจมาละเอียดยิบเลยทีเดียวนะ”

ใบหน้าของชายคาบไม้จิ้มฟันยิ้มเจ้าเล่ห์: “ทำไม ถึงยังไงปราสาทคริสตัลก็ถูกปิดไม่ให้ใช้งานแล้ว มาเก็บค่าเข้าชมหน่อยจะทำไมเหรอ ไม่เพียงแค่นี้ ฉันยังมีบริการฉลองงานแต่งงานอีกนะ คนนอกพื้นที่ก็ดี หรือว่าจะเป็นคนในท้องถิ่นก็ดี ต่างก็อยากจะมาจัดงานแต่งงานที่นี่ทั้งนั้น ก็ยังคงยืนยันคำเดิม ถ้าแกอยากจะเข้าไป ก็ต้องซื้อตั๋วก่อน ”

รพีพงษ์เหล่ตามองไปยังอีกฝ่าย ในตอนนั้น งานแต่งงานที่สุดโรแมนติกระหว่างเขากับอารียาก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งเมือง

หนุ่มสาวจำนวนมากต่างก็อยากจะทำเหมือนกับรพีพงษ์พวกเขา เข้ามาจัดงานในปราสาทคริสตัลของตัวเอง

นี่ก็ไม่มีอะไรพอที่จะเป็นความผิดพอที่จะวิจารณ์ได้ รพีพงษ์ก็ไม่ใช่คนที่ขี้เหนียว ปราสาทคริสตัลแห่งนี้เปิดให้เข้าชมแบบฟรีๆมาโดยตลอด เพียงแค่ ตอนที่จัดงานแต่งงาน จำเป็นจะต้องทำการนัดหมายกับปารินทร์นักออกแบบชุดแต่งงานให้กับอารียาล่วงหน้าสักหน่อยก็เท่านั้น

“พวกแกทำอย่างนี้ ปารินทร์เป็นคนอนุญาตเหรอ?” รพีพงษ์พูดถาม

“เยสเข้ แม้แต่ชื่อของคุณปารินทร์แกก็ยังรู้ พ่อหนุ่ม รู้จักคนเยอะเลยทีเดียวนะ!” ชายคาบไม้จิ้มฟันยิ้มเบาๆพร้อมพูดว่า : “ตอนนี้คุณปารินทร์เขายุ่งมาก ในหนึ่งปีส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่เมืองนอก เขาสามารถดูแลได้มากขนาดนี้ซะที่ไหนกันล่ะ.

“โอ๋ ในเมื่อพูดมาแบบนี้ นี่ก็เป็นพฤติกรรมส่วนตัวของพวกแกนะสิ” รพีพงษ์เข้าใจแล้ว

“พอแล้ว หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว ไม่อยากซื้อตั๋วก็ไสหัวออกไปซะ กูไม่ได้มีเวลาว่างมากหรอกนะ”

พูดแล้ว ชายคาบไม้จิ้มฟันก็เตรียมตัวที่จะเดินจากไป

“เดี๋ยวก่อน”

รพีพงษ์ดึงอีกฝ่ายไว้แล้ว ชายคาบไม้จิ้มฟันโมโหพยายามที่จะสลัดออก แต่กลับพบว่าพละกำลังของชายหนุ่มที่เผชิญอยู่นั้นแข็งแกร่งอย่างมาก ตัวเองไม่สามารถสลัดให้หลุดออกไปได้เลย!

“แกจะทำอะไร?หาเรื่องเหรอ?” ชายคาบไม้จิ้มฟันพูดกล่าวอย่างโมโห

“ฉันขอถามแกหน่อย ถ้าหากรพีพงษ์มาเองล่ะก็ พวกแกก็จะทำแบบนี้?นี่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของเขานะ!”

“รพีพงษ์เหรอ?เหอะๆ” รพีพงษ์หัวเราะเสียงดังพร้อมกล่าวว่า: “เขาจะกลับมาได้ยังไง ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ที่เกียวโต หรือไม่ก็เที่ยวรอบโลกอยู่ เมืองริเวอร์เล็กๆนี้ เขาไม่มีทางกลับมาแน่”

“ใครบอกว่าเขาไม่มีทางกลัมาล่ะ?” รพีพงษ์มองไปยังอีกฝ่าย

“ใครจะยอมปล่อยเกียวโตที่เจริญรุ่งเรืองไปได้ กลับมาที่เมืองริเวอร์เล็กๆแห่งนี้ อีกอย่างนะ เมืองริเวอร์สำหรับรพีพงษ์แล้ว ก็ถือว่าเป็นเมืองแห่งความเศร้า ตอนนั้นมีใครบ้างล่ะที่ไม่รู้ว่าเขาก็เป็นเศษสวะคนหนึ่งเท่านั้น แต่ว่า ต่อมาจู่ๆก็ทำให้ชีวิตของไอ้หมอนี่ผกผันแล้ว กลับว่าคิดไม่ถึงเลย” ชายคาบไม้จิ้มฟันพูดกล่าว

“ฉันก็คือรพีพงษ์” จู่ๆรพีพงษ์ก็พูดออมา นัยน์ตาเป็นประกาย

เขาคิดไม่ถึงว่า หลังจากที่ตัวเองออกจากเมืองริเวอร์ไป จู่ๆจะมีคนเอาปราสาทคริสตัลไปครอบครองเป็นของตัวเอง

พฤติกรรมอย่างนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถอดทนได้ ถึงอย่างไร ทำแบบนี้ คนที่ไม่รู้ก็ยังคงคิดว่าเป็นตัวเองที่บอก และอนุญาตให้คนเหล่านี้มาทำ สำหรับชื่อเสียงของตัวเอง และชื่อเสียงของตระกูลลัดดาวัลย์ ล้วนเป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายอย่างมากที่สุด

“แกคือรพีพงษ์?”

ชายคนนั้นแสดงสีหน้าที่แปลกประหลาด สังเกตรพีพงษ์อยู่นาน สุดท้ายก็หัวเราะดังฮ่าฮ่าฮ่าออกมา : “ช่างมันเถอะ แกปลอมตัวเป็นใครไม่ได้ ก็เลยปลอมตัวเป็นรพีพงษ์ ?ถ้าแกเป็นรพีพงษ์จริงๆ ฉันก็คือพ่อของรพีพงษ์!”

ป้าง!

รพีพงษ์พุ่งหมัดออกไปเลย ต่อยจมูกของอีกฝ่ายจนมีเลือดไหลออกมาแล้ว

“ไอ้พวกคนชาติหมา ในปากมีแต่เรื่องเพ้อเจ้อ!” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน

แต่ว่า ที่อีกฝ่ายไม่รู้จักตัวเองกลับทำให้เขาคิดไม่ถึงเลย พอๆคิดแล้วก็คือ ตัวเองฝึกตนเป็นเวลานาน อาจจะทำให้รูปร่างและใบหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว

แล้วอีกอย่าง ตอนนี้รพีพงษ์คนทั้งคนก็มีบุคลิกลักษณะและความมีออร่าที่แข็งแกร่งมากกว่าเมื่อก่อนแล้ว อีกฝ่ายมีตาหามีแววไม่ ซึ่งพอให้อภัยได้

“ดีเลย คนที่มาจากที่อื่นเพียงลำพัง จู่ๆก็กล้ามาหาเรื่องที่เมืองริเวอร์ของเรา”

ชายหนุ่มโมโหอย่างมาก พูดสโลแกนเสียงดังกังวาน ข้างๆปราสาทคริสตัล ในบ้านที่สร้างขึ้นมาชั่วคราว ทันใดนั้นก็มีคนห้าคนออกมาแล้ว

คนเหล่านี้ต่างก็ดุร้ายและน่ากลัว ในมือถือพวกแท่งเหล็กแท่งไม้

“แม่คะ เหมือนว่าพ่อจะทะเลาะกับคนเขานะคะ?หนูลินชี้ไปยังตำแหน่งของรพีพงษ์”

อารียามองไปทางนั้น กลับว่าไม่มีแววตาที่เป็นกังวลสักนิด เธอทำเพียงแค่จับมือน้อยๆของหนูลินไว้ พูดเสียงเบาๆ : “ไม่มีอะไรนะ หนูลิน ในนั้นยังมีการแสดงแสงสีเสียงด้วย ไปกัน แม่จะพาหนูไปดูก่อนนะ”

หนูลินพยักหน้าแล้ว เดินตามอารียาออกไปไกล

สายตาของรพีพงษ์เห็นภาพฉากนี้แล้ว ในใจของเขาก็รู้ดีอย่างมาก อารียาไม่อยากให้หนูลินที่อายุน้อยต้องมาเห็นตัวเองลงไม้ลงมือจัดการ เพราะว่า ภาพฉากนั้นค่อนข้างที่จะโหดร้าย

เมื่อเห็นว่าหนูลินเดินออกไปไกล รพีพงษ์ก็ไม่ได้เป็นกังวลอะไรอีกแล้ว

เขามองไปยังทั้งหกคนอย่างเยือกเย็น : “ดูเหมือนว่า คนที่เก็บค่าตั๋ว ก็คือพวกแกนี่แหละ?”

“เยสเข้ ไอสารเลว ทำกูได้รับบาดเจ็บ วันนี้กูจะต้องสั่งสอนมึงสักหน่อยแล้ว!พรรคพวก เข้าไปจัดการ!”

ชายคาบไม้จิ้มฟันระเบิดเสียงดัง ลูกน้องทั้งห้าคนวิ่งกรูเข้าไปยังรพีพงษ์เลย ปกติคนพวกนี้ก็วางอำนาจบาตรใหญ่กันจนชินแล้ว เห็นว่ารพีพงษ์ตัวคนเดียว ก็ยิ่งจะไม่เกรงกลัวเลย

แท่งไม้และแท่งเหล็กในมือพุ่งเข้าไปยังตัวของรพีพงษ์เลย

รพีพงษ์กลับว่าไม่มีการเคลื่อนไหวเลย เพียงแต่สายตาจ้องมองไปยังชายคาบไม้จิ้มฟันอย่างมาก

ชายไม้จิ้มฟันมองไปยังรพีพงษ์อย่างดูถูกดูแคลน ลืมเรื่องที่เลือดออกจากทางจมูกไปแล้ว

“พ่อหนุ่ม ดูเหมือนว่าก็แค่พลังเยอะหน่อย ตอนนี้ก็เห็นได้ชัดว่าตกใจจนอึ้งไปแล้ว”

พูดแล้ว เขาก็พูดตะโกนอย่างมีความสุขว่า : “ตีให้หนักๆเลย ตีจนให้เขาต้องร้องขอความเมตตา!”

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทั้งห้าคนนี้เอาอาวุธทำร้ายคนมาโจมตีรพีพงษ์ กลับว่าเหมือนทุบลงบนกำแพงยังไงยอย่างนั้น

รพีพงษ์ได้ฝึกตนกังฟูเสนครึ่งหลังแล้ว สามารถรวบรวมพลังเพื่อป้องกันได้ทุกส่วนของร่างกาย

การป้องกันแบบนี้ ล้วนแต่สามารถต่อสู้กับพลังจิตวิญญาณของฉันท์ชนกได้ ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแท่งไม้และแท่งเหล็กเหล่านี้เลย

ทันใดนั้น อาวุธที่อยู่ในมือของทั้งห้าคนก็ถูกหักสะบั้นทั้งหมด

คนเหล่านี้มองไปยังรพีพงษ์อย่างไม่พูดไม่จา ทำท่าอย่างกับเห็นผีแล้วยังไงอย่างนั้น

“นี่จะเป็นไปได้ยังไง?”

“พ่อหนุ่มคนนี้ แข็งแกร่งมากจนไม่มีทางทำอะไรได้เลยงั้นเหรอ?”

“เยสเข้ เจอผีแล้ว!”

รพีพงษ์มองไปยังพวกเขาอย่างเยือกเย็น ระหว่างหายใจ ในอากาศก็ปรากฏเงาที่โหดเหี้ยมแล้ว รพีพงษ์ก็มาถึงตรงหน้าของชายคาบไม้จิ้มฟันแล้ว

ชายคาบไม้จิ้มฟันเกิดอาการหวาดกลัวอย่างมาก เขาไม่เห็นเลยว่าอีกฝ่ายมีการเคลื่อนไหวอย่างไร ก็มาถึงตรงหน้าของตัวเองแล้ว

“คุณ……คุณอย่าลงไม้ลงมือนะ ผม……ผมกลัวคุณแล้ว?” ชายไม้จิ้มฟันพูดกล่าว

รพีพงษ์หันหลังกลับไปมองอีกห้าคนที่อยู่ข้างหลังอย่างเยือกเย็นแวบหนึ่ง แอบปล่อยพลังจิตวิญญาณ!

เพียงแวบเดียว ทั้งห้าคนก็ราวกับว่าได้รับการโจมตียังไงอย่างนั้น ล้มลงไปกับพื้นเลย

ชายคาบไม้จิ้มฟันคนนี้ที่อยู่ในกำมือของรพีพงษ์คุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังตึง มีกระแสน้ำอุ่นไหลทะลักออกมาระหว่างขาทั้งสองขา

“ฉันถามแกว่า ใครอนุญาตให้แกทำแบบนี้” รพีพงษ์พูดถามอย่างเยือกเย็น

“พี่ใหญ่ของฉันก็คือ……คือทิทยุ” ชายคาบไม้จิ้มฟันพูดกล่าวอย่างตัวสั่น

“ทิทยุ?” รพีพงษ์พูดในลำคอ ไม่เคยได้ยินชื่อๆนี้มาก่อนเลย

เมืองริเวอร์ยังมีคนที่สุดยอดอย่างนี้อยู่อีกเหรอ?

“และก็พูดได้อีกว่า ที่พวกแกแอบทำการขายตั๋วเป็นการส่วนตัว ก็เพราะทิทยุคนนี้สั่งให้พวกแกทำแบบนี้เหรอ?” รพีพงษ์พูดถาม

“ใช่ ใช่ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะมีความกล้าหาญที่จะทำอย่างนี้ได้ยังไงกันละครับ” ชายคาบไม้จิ้มฟันพูดกล่าว

“ได้ แกโทรศัพท์หาทิทยุเดี๋ยวนี้เลย ให้เขามาที่นี่!” รพีพงษ์พูดกล่าว

“ห่ะ?โทรหาตอนนี้?” ชาบคาบไม้จิ้มฟันเอ่ยถาม

“ถูกต้อง ฉันจะรอเขาอยู่ที่นี่” รพีพงษ์พูดจาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พี่ชาย ผมขอแนะนำคุณนะ เอารัดเอาเปรียบกันแล้วก็รีบไปเถอะ ในเมืองริเวอร์นี่ เฮียทิทไม่ใช่คนที่คุณจะสามารถล่วงเกินได้นะ”

“เหรอ?” รพีพงษ์มองไปยังอีกฝ่ายอย่างสัพยอก

“คุณไม่รู้หรอกนะว่า เบื้องหลังของฮียทิท นั่นก็เป็นถึงราชาใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์ของพวกเรา ธฤตญาณ” ชายคาบไม้จิ้มฟันพูดกับรพีพงษ์

“ธฤตญาณ?” นัยน์ตาของรพีพงษ์สาดส่องรอยยิ้มที่สัพยอกออกมา พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า : “งั้นฉัน……ก็ยิ่งจะต้องพบเขาแล้ว”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท