พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1466 ชีวิตไม่ยืนยาวพอ

บทที่ 1466 ชีวิตไม่ยืนยาวพอ

“คุณแน่ใจเหรอ?” ชายไม้จิ้มฟันมองรพีพงษ์ ลักษณะท่าทางของเขาสงสัยเล็กน้อย

ไม่รู้และไม่กลัวอะไร ดูเหมือนว่าคนที่มาจากเมืองอื่นคนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าธฤตญาณคือใคร!

“ดี คุณรอนะ ผมจะโทรหาเฮียทิทเดี๋ยวนี้”

ชายไม้จิ้มฟันกล่าว หยิบโทรศัพท์ออกมา

“ฮัลโหล เฮีย มีคนมาท้าทายที่นี่ คุณรีบมาดูเถอะ” ชายไม้จิ้มฟันกล่าวปนเสียงร้องไห้

รพีพงษ์กลับไม่สนใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ในใจเขากำลังคิดถึงปัญหาหนึ่งอยู่

ธฤตญาณคนนี้ ตามหลักแล้วทำเรื่องอะไรก็เชื่อถือได้ ในเมื่อได้ปกครองโลกใต้ดินเมืองริเวอร์ ทำไมถึงยอมให้ลูกน้องทำเรื่องแบบนี้ได้ล่ะ?

พอดี หลังจากแยกทางกันที่เกียวโตแล้ว ธฤตญาณได้จากเมืองเกียวโตไปแล้ว คำนวณเวลา ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ที่เมืองริเวอร์แล้ว

รพีพงษ์นำโทรศัพท์ออกมา ส่งข้อความไปให้ธฤตญาณข้อความหนึ่ง: ปราสาทคริสตัล มาเร็ว!

วิลล่าหนึ่งหลังในเมืองริเวอร์ ธฤตญาณกำลังจัดประชุมที่สำคัญเป็นพิเศษ

เนื้อหาการประชุมก็คือ ตัวเองเพิ่งเข้ายึดดินแดนและอำนาจของมกรธวัชในเกียวโต จำเป็นต้องเลือกบางคนจากเมืองริเวอร์เข้าไปแทรกแซงในเกียวโต

ในตอนนี้ เพิ่งเรียกประชุม โทรศัพท์ของธฤตญาณก็ดังขึ้น

หลังจากดูข้อความในโทรศัพท์แล้ว ธฤตญาณไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็ออกจากวิลล่าไป……

ภายนอกปราสาทคริสตัล ไม่นานก็มีชายสูง 190 เซนติเมตร ลงจากรถ BMW X6 สีดำ

เขาพูดทักทายว่า: “โธ่เอ๋ย ใครกัน ใครกล้ายุ่งวุ่นวายกับอาณาเขตของฉัน!”

รพีพงษ์มองคนนี้อย่างเย็นชา และไม่พูดอะไร

เมื่อเห็นลูกน้องสองสามคนนอนกองอยู่บนพื้น รวมถึงอาวุธเหล่านั้นที่หักอยู่บนพื้น ชายสูง 190 เซนติเมตรคนนี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดกับชายไม้จิ้มฟันว่า: “ใครกันที่ไม่ดูตาม้าตาเรือให้ดี กล้ามาก่อเรื่องที่นี่?”

“เขานั่นแหละ!”

ชายไม้จิ้มฟันชี้มือไปหารพีพงษ์

ชายร่างสูงมองดูชายหนุ่มตรงหน้า และเห็นใบหน้าของเขา เขาดูคุ้นเคย แต่อาจเป็นเพราะตอนเย็นเขาดื่มไปสองสามแก้ว จึงนึกไม่ออก

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ได้กลิ่นแอลกอฮอล์แรงมาก จากอีกฝ่ายได้ในระยะสี่หรือห้าเมตร

เมาแล้วขับ เจ้าคนนี้เอาชีวิตคนอื่นมาล้อเล่นจริงๆ!

ลูกน้องของธฤตญาณ ทำไมถึงมีคนแบบนี้ได้?

รพีพงษ์คิดในใจเงียบๆ และพูดกับเขาว่า: “คุณคือทิทยุเหรอ?”

“ใช่ ข้าคือทิทยุ!”

ปัง!

ฝ่ามือใหญ่ตบไปที่ใบหน้าของทิทยุ ตบจนขาข้างซ้ายอยู่ตรงจุดศูนย์กลาง ขาขวาเซวาดเป็นวงกลม!

ทิทยุสับสนเล็กน้อยกับการตบนี้ เขาไม่เคยคิด ว่าอีกฝ่ายจะตบก็ตบเลย ไม่มีการป้องกันใดๆเลย

เขาสัมผัสแก้มร้อนๆของตน แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

โดนคนอื่นเหยียดหยามต่อหน้าลูกน้องแบบนี้ อีกอย่างคนนี้ดูแล้วไม่มีอะไร ดูออกว่าแต่งตัวเป็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ทำให้ทิทยุรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอาย

“โธ่เอ๊ย ไอ้สารเลว แกรนหาที่ตาย!”

ทิทยุม้วนแขนเสื้อขึ้น สองมือกำหมัดใหญ่ไว้แน่น

“พี่ใหญ่ คุณระวังไว้ ไอ้เด็กคนนี้เก่งมากนะ” ชายไม้จิ้มฟันที่อยู่ข้างๆกล่าวเตือน

หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ทิทยุก็ผลักชายไม้จิ้มฟันออกไป

“เขาเก่งเหรอ? เมื่อกี้ข้ายังไม่ทันได้ตั้งรับ ตอนนี้ให้เขาได้เห็นความสุดยอดของข้า!”

ขณะที่กล่าว ทิทยุก็พุ่งตรงไป

รพีพงษ์ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน

ผู้ชายคนนี้ดื่มเหล้าเมา แต่ตัดสินจากรูปร่างแล้ว ดูเหมือนว่าเป็นผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้

การเตะที่สวยงาม ปะทะไปที่น่องของรพีพงษ์

แต่ว่า ทิทยุกลับพบว่า น่องของฝ่ายตรงข้ามเป็นแผ่นเหล็ก กระดูกหน้าแข้งของเขากำลังจะหัก แต่ชายคนนี้ดูไม่มีปฏิกิริยาใดๆเลยแม้แต่น้อย

“สู้ๆนะ พี่ใหญ่ คุณคือแชมป์Sandaในเมืองริเวอร์ของเรา!” ด้านข้าง ชายไม้จิ้มฟันกับลูกน้องหลายคนตะโกนเชียร์

“แชมป์Sandaเหรอ?” รพีพงษ์ยิ้มอย่างดูถูก มันยิ่งทำให้ความโกรธในหัวใจของทิทยุเดือดดาลมากยิ่งขึ้น

“ไอ้สารเลว เมื่อกี้อ่อนข้อให้แก ตอนนี้ เอาจริงกับแกแล้ว!”

ขณะที่พูด เขาใช้หน้าแข็งที่เจ็บ ปะทะไปอีกครั้ง

ขณะนี้ การโจมตีแบบผสมผสานที่เขาใช้ ย่างก้าวกลับมีความยืดหยุ่นอย่างมาก และเป็นหมัดที่เร็วมากด้วย

นี่เป็นสิ่งที่ทิทยุภูมิใจมาก ตอนนั้น เขาก็ใช้มวยผสมผสานนี้ ในการน็อคคู่ต่อสู้และคว้าแชมป์มาได้ ในตอนนี้ เขายิ่งมีความมั่นใจมาก ว่าจะสามารถโจมตีชายหนุ่มตรงหน้าเขาได้!

รพีพงษ์เหล่ตามองฝ่ายตรงข้าม ความเร็วในการปล่อยหมัดของผู้ชายคนนี้ค่อนข้างเร็ว กลับเป็นการใช้หมัดที่ดี

แต่ว่า สำหรับตนเองนั้น ระดับของทิทยุยังต่ำเกินไปหน่อย

“ความไวของคุณช้าเกินไปแล้ว”

รพีพงษ์กล่าวเบาๆ ทิทยุตะลึง กล่าวด้วยความโมโหว่า: “เหอะ อีกเดี๋ยวแกอย่ามาคุกเข่าขอความเมตตาก็แล้วกัน!”

ขณะที่พูด ก็ปล่อยหมัดโจมตีไป

อย่างไรก็ตาม รพีพงษ์หลบไปด้านข้างเล็กน้อย

ทิทยุตกตะลึง จากนั้น ปล่อยหมัดที่สองไป ในระหว่างการคาบเกี่ยวต่อเนื่องที่ไวมาก

อย่างไรก็ตาม รพีพงษ์ลงมือราวกับสายฟ้า มือข้างหนึ่งข้างหลัง ยื่นมืออีกข้างออกมา บีบกำปั้นของคู่ต่อสู้ไว้ในมือข้างหนึ่ง

“โอ๊ยๆ เจ็บมากเลย ปล่อยเดี๋ยว!”

ทิทยุมีสีหน้าเจ็บปวด ดูดีได้ไม่เกิน 3 วินาที ตอนนี้คนที่ร้องขอความเมตตาเป็นตัวเองซะแล้ว

รพีพงษ์มองคู่ต่อสู้ มือซ้ายใช้แรงเล็กน้อย ได้ยินเสียงแกร่กๆจากกระดูกของคู่ต่อสู้

สีหน้าทิทยุฉีดเซียว ทั้งร่างกายของเขาคุกเข่าลงกับพื้นโดยไม่เต็มใจ

“แก……แกคือใครกันแน่?” ทิทยุกล่าวด้วยความเจ็บปวด ดวงตาจ้องไปยังรพีพงษ์

รพีพงษ์กล่าวอย่างดูถูก: “แกไม่สมควรรู้จักชื่อฉันด้วยซ้ำ”

จากนั้น เพียงมือเดียวพลิกชายสูง 190 เซนติเมตรลงกับพื้นโดยตรง

“เฮีย ไม่เป็นไรใช่ไหม” ชายไม้จิ้มฟันพาลูกน้องล้อมเข้ามา และถามทิทยุ

“พูดจาไร้สาระ แกเห็นฉันแบบนี้เหมือนคนไม่เป็นอะไรงั้นเหรอ?” ทิทยุกล่าวด้วยความโมโห

มีแววตาอาฆาตอยู่ในดวงตาของเขา

“เฮีย ช่างเถอะ ผู้ชายคนนี้มีทักษะที่ยอดเยี่ยมและร่างกายของเขาเป็นเหมือนกำแพงเหล็ก พวกเราปล่อยไปเถอะ” ชายไม้จิ้มฟันกล่าว

“ปล่อยงั้นเหรอ?”

ทิทยุโกรธมาก: “ข้าถูกตีจนเป็นแบบนี้ แกจะให้ฉันปล่อยงั้นเหรอ?”

“แต่ว่า……”

ทิทยุใช้มือของเขาผลักไป และลุกขึ้นยืนอย่างตัวสั่น

ต้องบอกเลยว่า สมรรถภาพทางร่างกายของผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ไม่เลว หากเป็นคนธรรมดา เกรงว่าตอนนี้คงจะยืนไม่ไหวแล้วล่ะ

ทิทยุมองไปที่รพีพงษ์อย่างเย็นชา: “ข้าเป็นผู้ชนะไม่มีใครเทียบได้ในเมืองริเวอร์ วันนี้กลับถูกแกเจ้าหนุ่มพลิกตัวล้มกับพื้น แค้นนี้ต้องชำระ!”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย: “ฉันไม่รังเกียจหากจะสั่งสอนแกอีกสักครั้ง”

“คนอย่างแก กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว” ทิทยุกำหมัดแน่น สายตาอาฆาตของเขามีมากขึ้นเรื่อยๆ!

ทันใดนั้น เขาแตะหน้าอกด้วยมือขวา หยิบของบางสิ่งดำๆออกมา

“ปืน?”

ชายไม้จิ้มฟันข้างๆและพวกเขาขวัญหนีดีฝ่อ รีบไปโน้มน้าวว่า: “เฮีย ไม่เอา ต่อสู้ได้ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะฆ่าใคร แม้แต่เฮียธฤตก็ปกป้องคุณไม่ได้!”

“พวกแกหลีกไป!”

ทิทยุตะโกนเสียงดัง และชี้ปืนพกไปที่รพีพงษ์

“ไอ้สารเลว ตอนนี้แกกลัวหรือยัง แต่ว่า มันสายไปแล้ว วันนี้ฉันจะฆ่าแก!” ทิทยุกล่าวด้วยความโกรธเคือง

แรงกระตุ้นของแอลกอฮอล์ แล้วยังเสียหน้าต่อหน้าลูกน้องของตัวเองอีก นี่ทำให้ทิทยุเสียสติไปอย่างสิ้นเชิง ต้องการฆ่ารพีพงษ์

“ถือปืนกลางถนน พ่อหนุ่ม แกรู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตที่ยืนยาวเกินไปรนหาที่ตายแล้วสินะ” รพีพงษ์ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม: “แกคิดว่า ฉันกลัวปืนในมือแกงั้นเหรอ?”

“เหอะ จนถึงตอนนี้แล้วยังมาเสแสร้งอีก เจ้าหนุ่ม แกนี่มันโง่จริงๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน”

ขณะที่พูด ทิทยุปลดล็อกปืน นิ้วชี้อยู่ที่ไกปืน

“ไปตายซะเถอะ!”

ขณะที่พูดอยู่ จู่ ๆ เขาพบว่ามีเงาร่างแวบผ่านสายตา

ทันใดนั้น รพีพงษ์ก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาราวกับผี

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท