พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1525 ถ่ายทอดทั้งคู่

บทที่ 1525 ถ่ายทอดทั้งคู่

ในสำนักเทพยาเซียน อารียาก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ เธอเงยหน้าไปมองแสงสีรุ้งนั้น ในใจก็รู้สึกใจอยากจะให้กำลังใจ

“รพีพงษ์ สู้หน่อยนะ ฉันกับหนูลินเชื่อมั่นในตัวคุณ” อารียาประนมมือ แล้วก็ขอพรเงียบๆ

ในกลุ่มสิงโต ธัชธรรมก็มองแสงสีรุ้งนั้น แล้วก็ยิ้มออกมา เขารู้ดีว่า นอกจากรพีพงษ์ ไม่มีคนสามารถทำได้แบบนี้

นี่ก็แสดงว่า รพีพงษ์อาจจะบรรลุขั้นแดนบุณในตำนานได้แล้ว!

ในถ้ำของป่าหมอก

ปัณฑาก็ต้องร่นถอยออกมาหลายเมตร เนื่องจากแสงสีรุ้งที่ส่องลงมากะทันหัน โดยไม่สามารถเข้าใกล้ตัวรพีพงษ์ได้ พอเห็นว่าสีหน้าของรพีพงษ์เริ่มดีขึ้น ปัณฑาก็ได้แต่ยืนขอพรอยู่ข้างๆ ให้รพีพงษ์บรรลุขั้นได้สำเร็จ

ในโลกจิตใจของรพีพงษ์

อยู่ในช่วงที่สลบไสล รพีพงษ์ลอยอยู่กลางอากาศ ราวกับไม่มีแรงโน้มถ่วง รพีพงษ์ลอยอยู่ในความเวิ้งว้างมืดมิด

“เทพบอกไว้ว่า จะต้องมีผืนแผ่นดิน จะต้องมีจุดศูนย์รวม จะต้องมีภูเขา จะต้องมีสายน้ำ จะต้องมีแสงสว่าง……”

เสียงนี้ดังขึ้นในโลกจิตใจของรพีพงษ์โดยไม่รู้ที่มา และเมื่อทุกครั้งที่พูดถึงสิ่งใดจบแล้ว โลกจิตใจที่เวิ้งว้างมืดมิดของรพีพงษ์ก็เปลี่ยนแปลงไปทุกครั้ง ผืนแผ่นดิน จุดศูนย์รวม ภูเขา สายน้ำ แสงสว่าง ชีวิต……

ในที่สุดรพีพงษ์ก็ลอยลงมาที่พื้น ยืนอยู่บนยอดเขาทั้งหลาย เห็นทุกอย่างเล็กไปหมด ในใจรพีพงษ์ก็ซาบซึ้งใจ

“ตั้งแต่วันนี้ไป คุณก็คือทายาทผู้สืบทอดเทพเจ้าสร้างโลกรุ่นที่สอง” เสียงที่ไร้ที่มานั้นดังขึ้นอีกครั้ง

ความเวิ้งว้างตรงหน้ารพีพงษ์ เงาของเทพเจ้าก็ปรากฏขึ้น ร่างเท่าภูเขา ใบหน้าสว่างดั่งหยก ด้านหลังมีกงล้อมเทพหมุนอยู่ตลอดเวลา แต่ละคำที่พูดมาล้วนมีความหมายลึกซึ้งมาก

แค่รพีพงษ์มองเทพเจ้าก็ให้ความรู้สึกว่าตนเองนั้นเทียบกันไม่ได้เลย

เทพเจ้าสร้างโลกตอนที่รพีพงษ์กำลังงงกับคำนี้อยู่นั้น ความรู้เกี่ยวกับตระกูลเทพก็ไหลเข้ามาในหัวเขาทันที

บรรลุขั้นแดนเทพขั้นพีค หลังจากมาถึงแดนบุณแล้ว ถึงจะเริ่มเป็นเส้นทางของนักฝึกวิชาทั้งหลายที่บำเพ็ญเซียน!

และผู้ฝึกเซียนทุกคน ก็จะได้รับการถ่ายพลังของเทพเจ้าไม่เหมือนกัน

รพีพงษ์ไม่เพียงมีพรสวรรค์จนน่าตกใจ ทั้งยังโชควาสนาที่ไม่มีใครเปรียบได้!

นานมาแล้วตอนที่ตนเองอยู่ที่ระดับแดนดั่งเทพนั้น ก็ได้รับการถ่ายทอดทั้งหมดจากจอมมารชูร่า ส่วนตอนนี้ เพิ่งบรรลุขั้นแดนบุณ ก็ได้รับการถ่ายทอดจากเทพเจ้าสร้างโลก!

แต่การถ่ายทอดของเทพเจ้าสร้างโลกจะไม่ค่อยเหมือนกับการถ่ายทอดจากเทพเจ้า

การสืบทอดของตระกูลเทพอื่นๆ จะเป็นการถ่ายทอดพลังที่แข็งแกร่งหรือไม่ก็เป็นอาวุธพิเศษ แต่เทพเจ้าสร้างโลกไม่เหมือนกัน ที่รพีพงษ์ได้รับมาจากเทพเจ้าสร้างโลกนั้น กลับเป็นพลังแห่งการสร้าง!

ในสายตาของรพีพงษ์ ขอเพียงรพีพงษ์คิด ต้นไม้ใบหญ้า ก็ล้วนมีชีวิตจิตใจเหมือนกับคน กลับกัน จะทำลายก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ แน่นอนว่า ทั้งหมดนี้จะต้องตั้งอยู่ในพลังในระดับหนึ่ง

หลังจากที่ได้รับความรู้ของการถ่ายทอดของตระกูลเทพแล้ว สายตาของรพีพงษ์ก็เหมือนจะอ่อนโยนไปมาก แล้วก็มองไปยังเทพเจ้าสร้างโลกในกลางอากาศ พร้อมกับโค้งคำนับ

ใบหน้าเลือนรางของเทพเจ้าสร้างโลก เหมือนจะยิ้มออกมา มือขวาก็สะบัด พลังสายหนึ่งก็เข้ามาในตัวของรพีพงษ์

แดนดวงจิตของแดนบุณขั้นปฐมภูมิ!

พริบตา ฟ้าฝนที่ป่าหมอกก็หยุดเงียบไป ท้องฟ้ากลับมาปลอดโปร่ง แสงสีรุ้งก็ค่อยๆ หายไป

รพีพงษ์ค่อยๆ ลืมตาขึ้น แสงสีฟ้าในนัยน์ตาก็สาดออกมา

ปัณฑาก็มองรพีพงษ์ที่นั่งนิ่งอยู่ที่เดิมไม่พูดจาไม่ขยับตัว ก็เริ่มกังวล “รพีพงษ์ นี่คุณบรรลุขั้นแล้วหรือว่าเป็นอย่างไร พูดหน่อยสิ”

รพีพงษ์ได้ยินดังนั้น สายตาก็มองไปทางปัณฑา มุมปากก็ยิ้มๆ ออกมาเล็กๆ พร้อมพูดว่า “แดนบุณนี่ดีจริงๆ วันข้างหน้าถ้าเจอยอดฝีมือระดับแดนบุณ ผมจะได้สู้ไหวแล้ว”

ได้ยินดังนั้น ปัณฑาก็โล่งอก สายตาก็มองไปยังรพีพงษ์ นิ่งไปสักพักก็พูดว่า “รพีพงษ์ ถึงแม้ว่าจะไม่ควรถามแบบนี้ แต่ว่าฉันก็ยังสงสัย ว่าคุณได้รับการถ่ายทอดจากเทพเจ้าองค์ไหน?”

รพีพงษ์ได้ยินดังนั้น ก็แบมือขวาขึ้นมา ตัวอักษรที่เหมือนกับยันต์อะไรบางอย่างก็ลอยออกมา แล้วเข้าไปล้อมก้อนหินบนพื้นไว้ จากนั้น หินก้อนนั้นก็ขยับขึ้นมา กระโดดโลดเต้น ราวกับมีชีวิตชีวา

“เทพเจ้าสร้างโลก ดูเหมือนว่าจะเป็นเทพเจ้าระดับสูงใช่ไหม? ”

พอได้ยินดังนั้น ปัณฑาก็ตกใจมาก

การถ่ายทอดของเทพเจ้าก็แยกระดับเหมือนกัน และในเทวโลกนั้น การถ่ายทอดของเทพเจ้าสามารถแยกได้สามระดับ ระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูง

ปกติแล้วมนุษย์จะรับการถ่ายทอดจากเทพเจ้ามาแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น ก็คือการได้รับการถ่ายทอดในระดับต่ำ ระดับกลางนั้นก็หายากนับพันปี ส่วนระดับสูงนั้น แทบจะไม่มีสักคนในรอบหมื่นปี

แต่รพีพงษ์กลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะว่า รพีพงษ์รู้สึกว่า การรับถ่ายทอดจากเทพเจ้าของตนเองคงไม่ถึงระดับสูงหรอก เพราะว่า ตอนสุดท้ายรพีพงษ์พบว่า พลังที่เทพเจ้าสร้างโลกถ่ายทอดมาให้ตนเองนั้น ราวกับเทพเจ้าทั่วไปก็สามารถสร้างออกมาได้!

ส่วนเทพเจ้าระดับสูง ก็เป็นแค่เพียงการประเมินว่าจะได้รับถ่ายทอดก็เท่านั้นเอง

ปัณฑาก็ยังตกใจอย่างตอบสนองกลับมาไม่ได้ สายตาที่มองรพีพงษ์ตอนนี้ ก็เหมือนกับเห็นผีเสียอย่างนั้น โดยไม่รู้ว่าจะทำท่าอย่างไร

และตอนที่ทั้งสองคนคิดว่าทุกอย่างมันจะจบลงแล้วนั้น บนท้องฟ้าก็มีแสงสีแดงส่องลงเป็นเสาขนาดใหญ่ ในเสาสีแดงนั้นมีไอพิฆาตเต็มเปี่ยม ทำให้ปัณฑาเข้าใกล้ไม่ได้เลย

ในโลกจิตใจ รพีพงษ์ได้กลับเข้ามาที่นี่อีกครั้ง แล้วก็เริ่มสงสัย

แต่ที่นี่ไม่มีเสียงนกร้อง หอมกลิ่นดอกไม้เหมือนก่อนแล้ว แต่มันเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างสิ้นเชิง

ท้องฟ้าสีแดง กองกระดูกใต้ฝ่าเท้าของรพีพงษ์ กองกันเป็นภูเขาน้อยๆ

และส่วนที่สูงที่สุดของกองกระดูก ก็มีเงาของเทพเจ้าองค์หนึ่งปรากฏขึ้น

เทพเจ้านั้นเหมือนกับจอมมารลงมาเกิด แล้วนั่งลงไปที่บัลลังก์สีดำสนิท กงล้อมเทพทั้งแปดก็หมุนไม่หยุด ไอพิฆาตที่เข้มข้นทำให้รพีพงษ์รู้สึกว่าถูกกดดัน

เทพเจ้านั้นไม่ได้พูดอะไรเลย แค่มองรพีพงษ์อย่างเดียว แล้วก็สะบัดมือขวาออกมา พลังเทพก็ลงมาใส่ตัวของรพีพงษ์ รพีพงษ์ได้รับการถ่ายทอดจากชูร่าอีก!

รับการถ่ายทอดจากเทพเจ้าครั้งที่สอง!

รพีพงษ์ลืมตาขึ้นอย่างแรง เสาสีแดงก็หายไป กระบี่สยบเซียนตรงหน้าก็ไม่รู้ว่าออกจากฝักตอนไหน สั่นไหวอยู่ตลอดเวลา

รพีพงษ์มองดังนั้น ก็ปล่อยไอพิฆาตออกมา กระบี่สยบเซียนเลยสงบลงไป แล้วกลับเข้าไปในฝัก

ปัณฑาเห็นดังนั้น ก็สงสัย เลยถามว่า “เสาสีแดงเมื่อครู่นี้คืออะไร คุณได้รับการถ่ายทอดอะไรจากเทพเจ้าใช่ไหม?”

รพีพงษ์ได้ยิน ก็เอามือเกาหัว แล้วพูดว่า “ถ้าผมบอกว่าผมได้รับการถ่ายทอดจากเทพเจ้าองค์ที่สอง แถมยังเป็นการถ่ายทอดจากชูร่าระดับสูง คุณจะเชื่อไหม? …….”

ได้ยินดังนั้น ปัณฑาก็อ้าปากค้าง ได้รับการถ่ายทอดจากเทพเจ้าอีกงั้นหรือ? คนเดียวรับการถ่ายทอดสองสายเลยงั้นหรือ? เรื่องนี้ปัณฑาไม่เคยได้ยินมาก่อน เทวโลกไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

และสิ่งที่ทำให้ยากจะเชื่อก็คือ รพีพงษ์ได้รับการถ่ายทอดจากเทพเจ้านั้น ล้วนเป็นระดับสูงทั้งหมดเลย

นี่มันเป็นพรสวรรค์และโชควาสนาเพียงใดกันนี่?

รพีพงษ์ก็หัวเราะอยากทำอะไรไม่ได้ มองไปที่กระบี่สยบเซียน เมื่อครู่นี้ที่กระบี่สยบเซียนตื่นเต้นแบบนั้น เกรงว่าคงจะได้รับสัญญาณอะไรบางอย่างจากจอมมารชูร่า ก็คิดว่าจอมมารชูร่ากลับมาแล้ว ก็เลยตื่นเต้นออกมาแบบนั้น

รพีพงษ์ก็หลุดยิ้มออกมา แล้วเก็บกระบี่สยบเซียนเข้าไป พร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองดูทิศทางของตวัส

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท