พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1596 สัตว์ประหลาดหิมะ

บทที่ 1596 สัตว์ประหลาดหิมะ

ปีศาจหิมะยิ้มเบาๆ พูดกล่าว : “คิดไม่ถึงว่าคุณจะมาที่นี่สักครั้งหนึ่ง ได้สอบถามมาอย่างชัดเจนแล้ว อายุการเจริญเติบโตของต้นคงจิตนี้นานขนาดนั้น ก็มีนั่นแหละ แต่ว่าหากคุณต้องการเอาต้นคงจิตไป ก็จะต้องพยายามสุดชีวิต”

มือของปีศาจหิมะวาดออกมา ด้านหนึ่งที่ลอยอยู่ท่ามกลางอากาศเหมือนเป็นกระจกยังไงอย่างนั้น ปีศาจหิมะที่ใหญ่ยักษ์ตัวหนึ่งอยู่ด้านใน แล้วก็มีพวกสัตว์ตัวน้อยๆ

สายตาของปีศาจหิมะจับจ้องไปยังรพีพงษ์ พูดกล่าว : “วันนี้อารมณ์ดี ไม่เช่นนั้นจะต้องกลืนกินคุณแน่ จริงสิ ถ้าหากคุณเสียใจภายหลัง ไปได้ตลอด ไม่เอาชีวิตไปแลกนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ”

แต่ว่าบางวันก็ไม่ได้ใจดีกับคนขนาดนี้นะ นี่เป็นเพราะปีศาจหิมะเห็นว่ารพีพงษ์มีความเป็นสุภาพบุรุษ เพียรพยายามอย่างหนักในฐานะของคนเป็นพ่อ เพราะงั้นถึงได้ปล่อยเขาไป

รพีพงษ์พูดกล่าว : “ความหวังดีของสาวน้อยฉันรับไว้แล้ว ถ้าหากต่อไปมีโอกาส จะต้องมาตอบแทนบุญคุณสาวน้อยแน่นอน”

พูดจบก็เดินลึกเข้าไปในภูเขาหิมะ ไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าจะลำบากมากแค่ไหน ขอเพียงแค่ไม่ยอมแพ้ก็ยังมีความหวัง รพีพงษ์จะต้องพยายามอย่างหนัก เวลาที่หนูลินจะต้องทนทุกข์ก็จะได้สั้นลงหน่อย ในเวลานี้ ปัณฑาและผลินต่างก็มาถึงแล้ว เครื่องหมายเขตแดนของภูเขาหิมะซีหลิง รู้สึกว่าเพียงแค่ข้ามเข้ามาก็เหน็บหนาวเป็นพิเศษ

ผลินสวมใส่เสื้อผ้ามาน้อยชิ้น พูดถามอย่างสั่นๆ : “ปัณฑา คุณว่ารพีพงษ์จะอยู่ในนี้ไหม?”

“จะต้องอยู่แน่นอน ตอนนี้ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น กลัวแค่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรพีพงษ์เท่านั้น ถึงตอนนั้นที่พวกเรามานี่ก็เพื่อมาเก็บศพให้เขาแล้ว” ปัณฑาพูดด้วยสีหน้าแววตาที่จริงจัง ทุกสิ่งอย่างของภูเขาหิมะซีหลิงแห่งนี้ทำให้คนที่ได้มองเห็นก็เกิดความหวาดกลัว เธอไม่ค่อยกล้าที่จะเข้าไป

สัตว์ประหลาดหิมะมีมากมาย แต่ไม่เชื่อฟังเหมือนกับพวกเสือดาวเหล่านั้น เธอสามารถจัดการได้เลย

เมื่อได้ยินปัณฑาพูดอย่างผิดหวัง ผลินรีบตบปากของปัณฑาทันทีเลย : “เปรี๊ยะๆๆ ปัณฑา คุณพูดจามั่วซั่วอะไรเนี่ย เรื่องแบบนี้ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้เลยด้วยซ้ำโอเคไหม”

ปัณฑามองไปที่เธอด้วยสายตาที่เยือกเย็น เสกเสื้อผ้าให้เธอสวมใส่ทันทีเลย บ่นพึมพำในปากว่าตัวโตขนาดนี้แล้วยังไม่รู้จักดูแลตัวเองอีก

ผลินดึงมือของปัณฑาไปทางภูเขาหิมะ พวกเขาได้ถึงที่นี่แล้ว ไม่มีเหตุผลที่ต้องมารอที่ทางเข้าของภูเขาหิมะ

ปัณฑาคิดอะไรในใจได้บางอย่าง เธอกลัวว่าตัวเองจะกลายมาเป็นภาระของรพีพงษ์ มีผลินอยู่ด้วย หากเจอสัตว์ประหลาดหิมะแม้แต่ความสามารถที่จะปกป้องตัวเองยังไม่มีเลย

ปีศาจหิมะก็ไม่ใช่คนดีอะไร เป็นผู้ดูแลที่นี่ วันๆก็มองตาปริบๆรอคอยให้คนอื่นส่งคนมาให้เธอเพื่อจะได้ยกระดับผลการฝึกตน

ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้รพีพงษ์เป็นอย่างไรบ้าง พวกเขาเดินเข้าไปในภูเขาหิมะ เมื่อปีศาจหิมะเห็นทั้งสองสาว ก็ขมวดคิ้วแล้ว

และยังสามารถสัมผัสได้ว่าผลินเป็นคนธรรมดาที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ช่างกล้าดียิ่งนัก

วันนี้คนที่มาเยอะเลยทีเดียวนะ ปีศาจหิมะจับตัวพวกเขาทั้งสองคนไว้ ปัณฑากลับว่าชอบใจแล้ว ภูติตนหนึ่ง แต่ว่าผลินไม่มีอะไรเลย เนื้อหนังเหี่ยวแห้ง ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่

ผลินและปัณฑาถูกคนจับมัดไว้อย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ถูกจับมาได้ยังไงล้วนแต่ยังเรียกสติกลับมาไม่ได้

“คุณคือปีศาจหิมะ?” ปัณฑามองไปยังผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ชื่นชมยกใหญ่ “ฉันคิดมาตลอดว่าปีศาจหิมะเหล่านั้นล้วนเป็นปีศาจเถ้าชรา คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ได้มาพบพี่สาวที่สวยขนาดนี้”

แม้ว่าจะเป็นการพูดเอาอกเอาใจคน แต่ว่านี่ก็เป็นความจริง ปีศาจหิมะมีหน้าตาที่สะสวยจริงๆ

เมื่อปีศาจหิมะได้ยินคำนี้ ยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง : “คุณชมฉัน เพราะอยากให้ฉันปล่อยคุณไปสินะ?”

ทันใดนั้นปัณฑาก็รู้สึกหมดหวังแล้ว พูดเข้าประเด็น : “พวกเราไม่ได้มีความตั้งใจอย่างอื่น ก็แค่มาตามหาคนที่นี่ พี่สาว ในภูเขาหิมะลูกนี้ยังมีคนอื่นหรือเปล่า?”

ปีศาจหิมะคิดเร็ว นึกถึงรพีพงษ์ หรือว่าจะมาหารพีพงษ์งั้นเหรอ?

ในใจของผลินไม่สบอารมณ์ ปีศาจหิมะนี่กินคนได้ รพีพงษ์จะถูกฆ่าตายแล้วหรือเปล่า?

เธอมองไปยังปีศาจหิมะอย่างหวาดกลัว ปีศาจหิมะจ้องมองเธอแวบหนึ่ง ด้วยสายตาที่มีเจตนาที่ไม่ดีต่อเธอ แสดงถึงความไม่พอใจ พูดกล่าว : “ผู้หญิงอย่างคุณนี่มองคนยังไงกัน คุณวางใจเถอะ ต่อให้ฉันต้องหิวตายก็ไม่มีวันเหลียวมองคนแบบคุณหรอกนะ ไม่มีอะไรสักอย่าง เสียเวลาฉันเปล่าๆ”

ร่ายคาถาปลดเชือกให้ผลินทันที หันหน้าไปพูดกับปัณฑาว่า : “ฉันจะบอกคุณให้ก็ได้นะ ภูติน้อย แต่ว่าคุณต้องรับปากเงื่อนไขของฉันหนึ่งข้อ”

ปีศาจหิมะมองไปยังปัณฑาเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ปัณฑารู้สึกเพียงแค่ว่าขนลุกซู่ไปทั้งตัว พูดถามอย่างอ้ำๆอึ้งๆ : “คุณมีเงื่อนไขอะไร ถ้าหากฉันรับปากคุณได้ล้วนแต่ไม่คืนคำ”

“จิตวิญญาณของคุณช่างดีจริงๆ มาเป็นอาหารค่ำของฉันได้ไหม ถ้าตอบตกลงฉันก็จะยอมบอกคุณ” ระหว่างที่ปีศาจหิมะพูดกล่าวจมูกก็ได้มาอยู่ที่คอของปัณฑาแล้ว ดมกลิ่นกายของปัณฑา

ปัณฑารีบปฏิเสธทันที ผลินที่อยู่อีกฝั่งก็พูดว่าปีศาจหิมะโรคจิต

ปีศาจหิมะรู้สึกว่าปัณฑาและผลินนั้นโง่

พละกำลังของพวกเขาทั้งสองก็ไม่เท่าไหร่ ยังอยากจะสร้างความวุ่นวายให้คนเขา สายตาของปีศาจหิมะจับจ้องไปบนตัวของผลิน ขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยถาม: “คุณเป็นคนรักของคนนั้น หรือว่าคุณกับเขาเป็นอะไรกัน?”

“ฉัน ฉันเป็นแฟนของเขา” ผลินพูดตอบอย่างอ้ำๆอึ้งๆ เธอไม่ได้มีความมั่นใจอะไร

เมื่อปีศาจหิมะได้ยินเข้า สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และมองไปยังผลินแวบหนึ่ง คนที่ธรรมดาอย่างนี้รพีพงษ์ก็ตกหลุมรักได้ วิสัยทัศน์ในการหาภรรยานี่แย่ไปหน่อยจริงๆ

เมื่อได้ยินปีศาจหิมะพูดถามเช่นนี้ ปัณฑาก็โล่งใจ อย่างน้อยรพีพงษ์ก็ยังมีชีวิตอยู่ รอรพีพงษ์อยู่ที่ปีศาจหิมะนี่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้นะ

เธอปฏิเสธเงื่อนไขของปีศาจหิมะ และความคิดของปีศาจหิมะก็เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว หากกินแบบนี้ พวกเขาก็ช่างน่าเบื่อเกินไปแล้ว อีกอย่างก็ไม่หิวด้วย

เลี้ยงให้กินดีอยู่ดี เมื่อรพีพงษ์มาถึงที่นี่แล้ว ในมือของตัวเองก็ยังมีไพ่ตายอยู่

หลายปีมานี้ ปีศาจหิมะไม่เคยเห็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาอย่างรพีพงษ์แบบนี้มาก่อนเลย ใบหน้าที่หล่อเหลาก็ถือว่าช่างเถอะ คนเขายังเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งอีกด้วย

หากมาดูแลที่นี่ให้กับตัวเองก็ไม่ถือว่าทำให้รพีพงษ์ได้รับความไม่เป็นธรรมแล้ว เธอคิดในใจ เผยรอยยิ้มออกมา

หลังจากนั้นก็สังเกตรพีพงษ์จากกระจกที่ลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ พละกำลังของรพีพงษ์เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน ก็ไม่รู้ว่าจะตายในกำมือของสัตว์ประหลาดหิมะหรือเปล่า

รพีพษ์ถึงภูเขาน้ำแข็งแห่งหนึ่ง จริงๆแล้วก็ไม่ถือว่าเป็นภูเขาน้ำแข็ง แต่จะต้องเป็นสถานที่ที่สูงที่สุดของภูเขาหิมะซีหลิง ด้านบนมีการรวมตัวของน้ำแข็ง และยังปกคลุมไปด้วยหิมะชั้นหนาๆอีกหนึ่งชั้น

พืชสีเขียวชอุ่มดึงดูดสายตาของรพีพงษ์แล้ว รพีพงษ์เพิ่งคิดอยากจะปีนขึ้นภูเขา ก็มีลมพัดมาเข้ามาแรงมาก สัตว์ประหลาดปรากฏตัวออกมา ก้าวเดียวของร่างกายสามารถทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนได้

“กล้าดียิ่งนัก ขโมยยาสมุนไพรเซียน คิดว่าฉันไม่มีอยู่จริงงั้นเหรอ?”

สัตว์ประหลาดตัวนี้สีขาวทั้งตัว มีหัวเป็นหมี บนหัวหมีจะมีเขางอกสองเขา นอกจากแขนขาและอุ้งเท้าจะเป็นสีขาวแล้ว อย่างอื่นก็เหมือนกับเสือ

ได้ยินคำพูดของเขารพีพงษ์ก็อดไม่ได้ที่ปีนป่ายขึ้นต่อ สัตว์ประหลาดตัวโตเกินไป แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวมีข้อจำกัด ขอเพียงแค่ตัวเองรวดเร็วได้มากพอก็จะคว้าต้นคงจิตมาได้แน่นอน

สัตว์ประหลาดเห็นว่ารพีพงษ์ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา พูดคำราม : “มีแบบนี้ที่ไหนกัน!”

เมื่อคำราม หิมะที่อยู่บนภูเขาน้ำแข็งก็ร่วงหล่นลงมา กลายเป็นสถานการณ์หิมะถล่มหล่นลงใส่รพีพงษ์ รพีพงษ์ปีนป่ายบนภูเขาน้ำแข็งเดิมทีก็ลื่นอยู่แล้ว ตอนนี้ยืนไม่มั่นคงก็เลยตกลงมาจากภูเขาน้ำแข็งเลย ตอนที่ตกลงมาก็มองไปยังสัตว์ประหลาดหิมะอย่างระมัดระวัง

รพีพงษ์รู้ หากไม่จัดการสัตว์ประหลาดตัวนี้ แม้ว่าตัวเองจะได้ต้นคงจิตมาแล้วก็ไปจากที่นี่ไม่ได้ ยืนอยู่ตรงหน้าของสัตว์ประหลาดหิมะ ในมือถือกระบี่สยบเซียน เขี้ยวของปีศาจหิมะงอกออกมาอย่างรวดเร็วโดยที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อ้าปากกว้างราวกับอ่างเลือดพุ่งตรงไปยังรพีพงษ์……

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท