พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1600 มีคุณธรรมและอ่อนโยน

บทที่ 1600 มีคุณธรรมและอ่อนโยน

ทหารของนรเทพได้มาถึงเมืองแฟรี่แล้ว มีคนมาล้อมตระกูลภูสรีดาวตลอดเวลา

เมื่อรพีพงษ์มาถึงเมืองแฟรี่ก็พบว่ามีเหตุร้าย ก็คิดถึงตระกูลภูสรีดาวแล้ว แต่เมื่อถึงตระกูลภูสรีดาวก็ไม่ได้ยินพวกเขาพูดว่าอะไร ก็รู้สึกว่าไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น

เทวเทพถอนหายใจพร้อมพูดกล่าวว่า : “ตอนนี้คุณกลับมาแล้ว ตระกูลภูสรีดาวอยู่ท่ามกลางการเฝ้ามองของคนอื่น รอเพียงคุณกลับมา ล้วนแต่พุ่งเป้าไปยังคุณและบวรวิทย์ ”

บวรวิทย์จนใจ รพีพงษ์มองไปยังบวรวิทย์พร้อมพูดถาม : “เกิดอะไรขึ้น?”

“รู้ว่านรเทพอยู่ที่บ้านของพวกเรา กลัวว่าจะลงไม้ลงมือกับนรเทพตามอำเภอใจ ตอนนี้ยังไม่เกิดเรื่องอะไร วันนี้คุณกลับมา พวกเขาน่าจะไตร่ตรองที่จะลงมือไว้ล่วงหน้าแล้ว”

รพีพงษ์ยิ้มอย่างไม่แยแส พูดกล่าว : “นรเทพไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเรา พวกเขาก็ยิ่งจะไม่ใช่เลย ถ้าหากลงมือจริงๆ จำเป็นต้องไปเชิญปริตรมา แม้ว่าพวกเขาจะเก่งมาก แต่พวกเรารวมเป็นหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมมือกันจัดการก็มีโอกาสที่จะชนะ”

แม้ว่ารพีพงษ์จะสุดยอด แต่คำพูดของเขากลับว่าไม่ทำให้คนเขาเชื่อถือโดยสิ้นเชิง ตอนนี้ไม่ใช่นรเทพเพียงคนเดียว

แน่นอน ตอนนี้คนของนรเทพยังไม่เคยลงมือ สิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องทำมีเพียงแค่การป้องกัน รอจนลงมือมาจริงๆค่อยคิดหาวิธี

ยัยหิมะและผลินอยู่ด้วยกัน เธอขยุกขยิกนั่งต่อไปไม่ไหว

ไปหารพีพงษ์เลย รพีพงษ์เห็นยัยหิมะ เธอเป็นผู้ช่วยคนหนึ่งของตัวเอง ตอนอยู่ที่ภูเขาหิมะสามารถมองออกได้ว่า ตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยัยหิมะเลย

ได้ยินแค่ที่พวกปัณฑาพูดกัน นรเทพตกอยู่ในกำมือของตัวเองและบวรวิทย์แล้ว

รพีพงษ์มองไปยังยัยหิมะ ยิ้มพร้อมพูดว่า : “นี่มันเกิดอะไรขึ้น ไม่รออยู่ให้มันดีๆ พักผ่อนสักหน่อย ฉันจะพาคุณไปพบคนที่คุณอยากเจอมาโดยตลอด”

เมื่อพูดคำพูดนี้ ยัยหิมะยิ้มเบาๆพร้อมพูดว่า : “คำพูดนี้ที่คุณพูดฉันชอบฟัง ฉันโดนนรเทพควบคุมมากว่าหลายปีแล้ว สิ่งอื่นๆไม่ต้องการทั้งนั้น เพียงแค่อยากจะเห็นสภาพที่น่าเวทนาของเขาเท่านั้น ภายนอก เขาเป็นเจ้านายของฉัน แต่คนที่รู้สถานการณ์ที่แท้จริงต่างก็รู้ดี ฉันถูกนรเทพจับไว้เป็นเชลย ที่อยู่บนภูเขาหิมะนั่นก็เพราะว่าฉันมีข้อตกลงกับเขา”

ตอนนี้เขาไม่มีพละกำลังที่จะควบคุมฉันได้แล้ว ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

รพีพงษ์ไม่รู้ว่าระหว่างยัยหิมะและนรเทพเกิดอะไรขึ้น แต่สามารถมองออกได้ว่า ยัยหิมะเกลียดนรเทพมาก

เขาพูดถามยัยหิมะ: “คุณไปที่นั่นเพื่ออยากไปดูเขาอย่างเดียวงั้นเหรอ?”

ยัยหิมะขมวดคิ้ว ค่อยๆยิ้มพร้อมพูดกล่าว : “คุณคิดว่า ฉันจะไปช่วยเหลือเขางั้นเหรอ?”

“คงไม่หรอกน่า” รพีพงษ์รู้ ถ้าหากเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนรเทพ งั้นก็คงไม่ช่วยตัวเองเอาต้นคงจิตหรอก

ไม่มียัยหิมะ เขาไม่สามารถเอาต้นคงจิตมาได้ นำเอาวิญญาณของหนูลินออกมาจากในร่างกายของนรเทพ งั้นยัยหิมะก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของหนูลิน ต้องขอบคุณเธอมากๆถึงจะถูก

ยัยหิมะที่อยู่ข้างกายรพีพงษ์ พูดถาม : “นรเทพถูกขังไว้ที่ไหน ฉันไม่ได้เจอคนเขามานานกว่าหลายปีแล้ว ฉันอยากจะไปดูเขาหน่อย ไม่อยากรอแล้ว”

รพีพงษ์กลับว่าไม่พูดอะไร ถึงอย่างไรก็จะพาเธอไปพออยู่แล้ว ไปตอนนี้ก็ไม่ได้มีอะไร

พายัยหิมะไปดูนรเทพ นรเทพอยู่ที่ตำหนักอ๋อง ในใจก็ยิ่งตื่นเต้น คนของเขามาแล้ว คนเหล่านั้นล้วนเป็นทหารไร้ชีพที่เขาได้บ่มเพาะเลี้ยงไว้ จิตใจที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดี ไม่มีทางปล่อยเขาไปโดยที่ไม่ที่ไม่สนใจไยดี

เพราะงั้นตอนนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเป็นกังวลมากมาย ตระกูลภูสรีดาวใกล้จะทนไว้ไม่ไหวแล้ว

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอก เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองออกไปข้างนอก ตอนที่เห็นรพีพงษ์ ค่อนข้างตกใจจริงๆ

เขาได้สิ่งของนั่นมาแล้วงั้นเหรอ?

เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน นอกจากคนของตัวเอง ไม่มีใครเอามาได้ทั้งนั้น

รพีพงษ์เดินเข้ามา และตามมาด้วยยัยหิมะ

เมื่อนรเทพเห็นยัยหิมะ เบิกตามองกว้าง แต่ว่าก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ยัยหิมะทรยศเขาก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

ถึงอย่างไร พวกเขาก็ไม่ได้เป็นมิตรกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้ตัวเองตกอับแล้ว เธอก็ต้องมาซ้ำเติมแน่นอน

“เดิมทีฉันก็คิดว่ารพีพงษ์ไม่มีปัญญาแน่ แต่เมื่อเห็นแกฉันก็รู้ว่าแกเป็นคนทำ จริงๆในใจของฉันก็ไม่เข้าใจอย่างมาก ไอ้สารเลวมีความสามารถอะไรกัน?ยินยอมที่จะทรยศฉันแล้วไปอยู่กับเขา?”

ยัยหิมะมองไปยังนรเทพพร้อมหัวเราะเยาะ ถามเขาว่าความกล้าหาญที่ยิ่งผยองในตอนนั้นไปอยู่ไหนแล้ว ต่อให้เขาจะเก่งกาจมากแค่ไหน วันนี้ก็กลายเป็นเชลยแล้ว แถมยังโดนเด็กหนุ่มจับกุมตัวด้วย

ตอนที่ในคำพูดของยัยหิมะกล่าวถึงรพีพงษ์ นรเทพมีสีหน้าที่ดูถูกและสบประหม่าอย่างมาก รพีพงษ์เป็นสิ่งมีชิวิตระดับล่างในโลก ไม่สามารถจับตัวเองได้อย่างแน่นอน

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคุณงามความดีของไอ้หมอนั่นที่แซ่เยอซอ ในใจของนรเทพมีความปรารถนาอย่างมากที่จะเจอปริตร ตอนนั้นเคยได้ยินพวกลูกสมุนของตัวเองเอ่ยถึงมาก่อน แต่ไม่เคยเจอกันเลย

เมื่อได้ยินนรเทพพูดจาแบบนี้ ยัยหิมะไม่เชื่อว่าคนที่เขาพูดถึงนั่นจะเก่งกาจมาก ตอนนี้แพ้แล้ว นี่ถึงจะเป็นเรื่องจริง

ยัยหิมะหันหน้าไปมองรพีพงษ์ พูดกล่าว : “คุณให้โอกาสฉันสักครั้ง ให้ฉันฆ่าเขาด้วยมือของตัวเองได้ไหม?”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วแล้ว ระหว่างเขาทั้งสองมีความแค้นมากแค่ไหนกันเชียว?

“ฉันรับปากคุณได้ แต่ว่าทำตอนนี้ไม่ได้ วิญญาณของลูกสาวฉันยังอยู่ในร่างกายของเขา ฉันจะต้องเอาวิญญาณออกมา ที่เหลืออยากจะทำยังไง คุณก็ทำตามเห็นสมควรแล้วกัน”

ได้ยินพวกเขาพูดคุยกันทุกประโยค รู้สึกว่าพวกเขาคิดเพ้อฝัน ถ้าหากเริ่มแรกทหารยังมาไม่ถึงก็พอเป็นไปได้ แต่ว่าตอนนี้คนของตัวเองมาถึงแล้ว ยังกลัวว่าพวกเขาจะทำอะไร?

“รพีพงษ์ ฉันรู้ว่าแกอยากจะฆ่าฉันมาก แต่ว่าแกต้องคิดให้ดีนะ ขอเพียงแกฆ่าฉัน พวกทหารเหล่านั้นของฉันก็จะฆ่าทั้งตระกูลภูสรีดาว แล้วก็แกด้วย ต่อให้หนีไปไกลสุดขอบฟ้า แกก็ไม่มีทางหนีรอดเงื้อมมือของพวกเขาไปได้”

คำพูดของนรเทพก็มีความน่าเชื่อถือมาก ตำแหน่งของเขาในสวรรค์ไม่สั่นคลอนมานับหมื่นๆปีแล้ว ชื่อเสียงของเขาไม่ได้จอมปลอมแต่มีพละกำลังจริงๆ

เห็นความจงรักภักดีที่สัตว์ประหลาดหิมะมีต่อเขาก็รู้แล้ว สัตว์ประหลาดหิมะนับถือเขาจริงๆ

แต่บางครั้งเขาก็ประเมินค่าความสามารถของตัวเองสูงเกินไปแล้ว ขอเพียงแค่ตาย คนเหล่านั้นที่สนับสนุนเขาก่อนหน้านี้ ก็เหมือนสูญเสียผู้นำไปแล้ว ตกตะลึงพรึงเพริด

ในระหว่างนี้ก็จะมีหัวหน้าคนใหม่ปรากฏออกมา อย่างมากเขาก็กลายเป็นประวัติศาสตร์ของสวรรค์ และรพีพงษ์ในฐานะที่เป็นตัวเอกของเรื่องนี้ และในประวัติศาสตร์ก็จะวาดภาพไว้อย่างเข้มๆ

“เรื่องพวกนี้แกไม่จำเป็นต้องกังวลเลย บางทีอาจจะพูดได้ว่าแกไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นแล้ว”

รพีพงษ์ไม่มีเวลามาเสวนาอะไรมากมายกับเขาที่นี่ เขายังต้องไปภูเขาสองกระบี่อีก ต้องบีบเอาวิญญาณออกมา หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากนราธิป ไม่มีทางทำได้เลย

ประเด็นก็คือรพีพงษ์เองก็ยังไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร เขาเรียกให้ยัยหิมะออกมากับตัวเอง แต่ดูเหมือนว่ายัยหิมะไม่ค่อยจะยินยอมเท่าไหร่

ระหว่างได้พูดกำชับยัยหิมะ : “ถ้าหากเขาตายแล้ว ลูกสาวของฉันก็ต้องตายด้วย เพราะงั้นแม้ว่าคุณจะเกลียดเขามาแค่ไหนก็ต้องออมมือหน่อยนะ”

“พวกคุณเป็นคนจับตัวมา ไม่ได้รับอนุญาตจากพวกคุณ ฉันไม่มีทางอะไรบุ่มบ่ามแน่นอน รพีพงษ์ ได้ยินคุณพูดถึงลูกสาวของคุณ ทำไมถึงไม่พูดถึงภรรยาเลยล่ะ?”

“เธอ?” รพีพงษ์ค่อนข้างประหลาดใจ พูดต่อ “เธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน สวยมาก การที่ได้เจอเธอเป็นความโชคดีของฉัน แต่ว่าฉันทำผิดต่อเธอแล้ว ทิ้งเธอไว้เพียงคนเดียว ”

ยัยหิมะค่อนข้างเสียใจ พูดถามรพีพงษ์เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม : “งั้นก็ไม่มีทางที่จะชอบพอผู้หญิงคนอื่นแล้วใช่ไหม?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท