พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1598 สถานการณ์ล่าสุดของนรเทพ

บทที่ 1598 สถานการณ์ล่าสุดของนรเทพ

ปีศาจหิมะไม่ยินยอมที่จะเห็นตัวเองด้อยกว่าคนอื่น หัวเราะเยาะผลิน : “คุณบอกว่าคุณเป็นแฟนสาวของเขา แต่ฉันมองไม่ออกเลยนะ รพีพงษ์ไม่มีทางชอบผู้หญิงแบบนี้แน่นอน ”

เดิมทีผลินก็ไม่ใช่ผู้หญิงของรพีพงษ์อยู่แล้ว แต่เมื่อได้ยินคำพูดของปีศาจหิมะ เธอก็ไม่เต็มใจอย่างมาก

ปีศาจหิมะเห็นผลินไม่พูดไม่จา คิดไม่ถึงว่าตัวเองก็แค่เดาไปเรื่อยเปื่อย ตัวเองกลับว่าเดาถูกซะงั้น

ผลินมาที่นี่บอกว่าเป็นแฟนของรพีพงษ์ ไม่มีอะไรมากเธอก็แค่อยากกลายมาเป็นผู้หญิงของรพีพงษ์ แต่ว่าตอนนี้ยังคงอยู่ระหว่างการไล่จีบอยู่

มองผลิน ปีศาจหิมะก็มีความรู้สึกสำเร็จอย่างไม่สามารถอธิบายได้ เธอพูดกล่าว : “เธอเป็นแบบนี้ รพีพงษ์ไม่ชอบอยู่แล้ว แต่ว่าหากฉันลงมือเอง รพีพงษ์จะต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน”

ปีศาจหิมะพูดอย่างมั่นใจมาก ขอเพียงแค่เธอตัดสินใจที่จะไปหลอกล่อผู้ชาย ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่หลงกลเขา ก่อนที่รพีพงษ์ก็มีผู้ชายกว่านับไม่ถ้วนแล้ว พวกเขาล้วนแต่พ่ายแพ้อยู่ใต้ชายกระโปรงสตรีเพศของตัวเอง

ข้างในนั้นมีผู้ชายมากมายที่ปากบอกว่ารักเมียของตัวเอง ขอเพียงแค่อยู่กับตัวเอง ไม่ว่าจะภรรยาหรือลูกอะไร ล้วนแต่ทอดทิ้งไปหมด

แม้ว่าตัวเองต้องการให้พวกเขาไปตาย พวกเขาก็จะไปตายอย่างไม่ลังเล เพราะงั้นพวกคนเหล่านั้นที่ตายก่อนหน้านี้ จริงๆแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรมากมายกับปีศาจหิมะ

คนอื่นคิดว่าเธอเป็นผู้ร้าย แต่ปีศาจหิมะกลับคิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะความตัณหาของผู้ชาย ก็ไม่มีทางทำให้พวกเขาเข้าไปสู่นรกได้

การตายของพวกเขาล้วนเป็นความยินยอมสมัครใจ ตัวเองก็แค่มีหน้าตาสะสวย รูปร่างเซ็กซี่ชวนหลงใหล ทั้ง ๆ ที่รู้แต่ก็ยินยอมติดกับดักที่ผู้อื่นวางไว้ เอารัดเอาเปรียบกัน ก็จะต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาของการเอารัดเอาเปรียบกัน

ปัณฑาหมดคำพูดกับผู้หญิงสองคนนี้เลย นี่มันเวลาไหนกันแล้ว พวกเขายังจะมาถกปัญหานี้กันอีก

แต่ว่าปีศาจตัวนี้กลับว่ามีฝีมือจริงๆ ตอนที่สถานการณ์คับขันจริงๆก็ยังสามารถช่วยเหลือรพีพงษ์ได้

ต่างก็ว่ากันว่าคนสวยจะรักวีรบุรุษ ผู้หญิงที่ได้สัมผัสรพีพงษ์มีน้อยมากที่จะไม่รักรพีพงษ์ บางครั้งยอดเยี่ยมมากเกินไปก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี

ระหว่างที่ปีศาจหิมะพูดกล่าว ล้วนแต่เปิดเผยความชื่นชมที่มีต่อรพีพงษ์ออกมา ปัณฑาครุ่นคิด ถ้าหากผู้หญิงที่ชอบรพีพงษ์รวมตัวกันทั้งหมด งั้นก็ต้องดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วแล้ว?

เมื่อในใจคิดถึงเรื่องนี้ สายตาก็จับจ้องไปในกระจกอย่างหนักแน่น เพียงแค่เห็นว่ารพีพงษ์ช้าลงเรื่อยๆ และสัตว์ประหลาดก็เดินขึ้นไปได้ขึ้นทางแล้ว

ปัณฑาพูดกล่าว : “ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้การแน่ รพีพงษ์จะพ่ายแพ้ไม่ได้ ฉันจะต้องไปช่วยเขา”

ปัณฑาพูดแล้วก็ออกเดินไปเลย ปีศาจหิมะที่อยู่ข้างหลังเรียกให้หยุดไว้ : “ที่คุณไปแบบนี้มีวิธีการจัดการแล้วเหรอ ไม่มีใครเข้าใจภูเขาหิมะนี่ไปมากกว่าฉันแล้ว สัตว์ประหลาดหิมะตัวนี้เป็นคนของนรเทพ จริงๆแล้วฉันก็เป็นคนของนรเทพ แต่ว่าฉันไม่ชอบไอ้หมอนั่น แต่ว่าสัตว์ประหลาดหิมะเรียกได้ว่ามีความจงรักภักดีต่อนรเทพมาก ฉันกล้ารับรองว่า ถึงแม้ว่าสุดท้ายสัตว์ประหลาดหิมะจะพ่ายแพ้แล้วก็ตาม สัตว์ประหลาดนั่นก็ไม่มีทางมอบต้นคงจิตให้กับรพีพงษ์อย่างแน่นอน”

ปัณฑายิ้ม ในใจคิดหาวิธีได้แล้ว ถามปีศาจหิมะ : “พวกคุณยังไม่รู้ว่าตอนนี้นรเทพได้ตกอยู่ในกำมือของรพีพงษ์แล้วงั้นเหรอ?หากวันนี้ล่วงเกินรพีพงษ์เข้า นี่แหละถึงจะไม่มีชีวิตอยู่รอดที่แท้จริง”

ปีศาจหิมะอยู่ที่นี่ ไม่รู้เรื่องของโลกภายนอกเลย บางครั้งก็จะมีคนมาตามหาสิ่งของที่นี่ แต่ก็ไม่มีข่าวคราวที่ร้อนแรงอย่างนี้

เธอตกใจอย่างมาก พูดกล่าว : “รพีพงษ์เนี่ยนะ เขาสามารถควบคุมนรเทพได้?”

ปัณฑาดูถูก : “นรเทพสุดยอดอะไรกันเชียว มีแค่ความกล้าแต่ไม่มีกลยุทธ์ ขอแค่เขามีความฉลาดนิดหน่อย รพีพงษ์ไม่มีทางควบคุมเขาได้แน่นอน แต่ว่าด้านกลยุทธ์เขาแพ้หนึ่งระดับแล้ว ”

ปัณฑาพูดแล้ว ปีศาจหิมะก็ยังคงไม่เข้าใจ แต่ดูปัณฑาแล้วก็ไม่เหมือนคนที่พูดโกหก

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดการได้ง่ายแล้ว ถ้าหากสัตว์ประหลาดหิมะรู้ว่านรเทพอยู่กำมือของรพีพงษ์ พฤติกรรมของเขาจะทำลายชีวิตของนรเทพ จะไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอน

เมื่อคิดแบบนี้ขึ้นได้ ปัณฑาต้องการที่จะไปเธอก็ไม่ขัดขวางแล้ว เธอคิดว่าตัวเองสามารถควบคุมรพีพงษ์ได้ แต่เมื่อได้ยินคำที่ปัณฑาพูด รู้สึกว่าตัวเองคิดเพ้อฝันเลย

เมื่อกี้รพีพงษ์ยอมอ่อนให้ตัวเองเลยทั้งหมดเหรอ?

คำพูดของปัณฑา ทำให้เธอต้องคิดมาก ขอเพียงแค่นรเทพตาย ตัวเองก็ไม่ต้องเกรงกลัวแม้แต่น้อย ที่อยู่ที่นี่ไม่มีอะไรมากไปกว่าการให้คำมั่นสัญญากับนรเทพในตอนนั้น ตอนนี้นรเทพก็ถูกคนเขาควบคุมอยู่ในกำมือแล้ว จะอยู่หรือตายก็ยากที่จะคาดเดาได้ ทำไมตัวเองจะต้องสนใจกับคำมั่นสัญญาเหล่านั้นด้วยล่ะ?

ถูกนรเทพควบคุมมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะหลุดพ้นแล้ว อารมณ์ของปีศาจหิมะก็ดีขึ้นมาอย่างไม่สามารถอธิบายได้

ปัณฑาออกไป ก็เหลือเพียงแค่ผลินและปีศาจหิมะสองคนที่ยังอยู่ที่เดิม ปีศาจหิมะยังคงไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ : “นรเทพถูกพวกคุณควบคุมไว้ในกำมือแล้วจริงๆเหรอ?”

“ไม่มีอะไรให้น่าแปลกนะ พวกคุณเป็นลูกสมุนของนรเทพ มันแน่นอนอยู่แล้วที่จะไม่เชื่อกัน แต่ว่าอีกไม่นานคุณก็จะได้ทราบข่าวคราวนี้”

ผลินพูดอย่างไม่สนใจใยดี พูดถึงรพีพงษ์ก็ยิ่งจะภาคภูมิใจ ราวกับว่ากำลังพูดถึงผู้ชายของเธอ รู้สึกว่าต่อหน้าของปีศาจหิมะ จู่ๆก็ยกระดับสูงขึ้นมากทันที

ปีศาจหิมะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทหารกว่าครึ่งกองทัพที่ประจำการอยู่ที่ภูเขาหิมะได้ออกเดินทางไปแล้ว หรือว่าจะไปช่วยนรเทพงั้นเหรอ?

ถ้าหากเหมือนอย่างที่พวกผลินพูดกันแบบนี้จริงๆ งั้นเรื่องนั้นก็น่าจะเป็นเรื่องจริงแล้ว พวกผลินก็ไม่จำเป็นต้องมาพูดโกหก

เธอหายใจเข้าลึกๆ ยิ้มเบาๆ พูดว่า : “ก็แค่ต้องการต้นคงจิตนั่นไม่ใช่เหรอ?ฉันสามารถช่วยพวกคุณเอากลับมาได้นะ แต่ว่าพวกคุณต้องรับปากฉัน อยู่ที่ภูเขาหิมะแห่งนี้อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ฉันต้องการไปจากที่นี่พร้อมกับพวกคุณ ”

เมื่อผลินได้ยินคำนี้แล้ว คิดว่าปีศาจหิมะพูดล้อเล่น แต่เห็นสีหน้าที่จริงจังของปีศาจหิมะแล้ว ไม่เหมือนพูดเล่นเลย

อยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?ตัวตนของเธอทำให้คนนับหมื่นต่างก็หวาดกลัว แต่ว่าไปจากที่นี่ เธอจะไม่มีความสามารถที่พิเศษอย่างนี้แล้ว

“แต่ว่าอยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ตอนที่เพิ่งมาอยู่ฉันก็คิดว่าดีนะ แต่เมื่ออยู่มานับพันนับหมื่นปีแล้ว งั้นก็ไม่เหมือนกันแล้ว ผ่านไปกว่าหลายร้อยปีก็ไม่มีใครมาถามสักคำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะหาคนพูดคุยเพื่อแก้เหงาเลย”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ปีศาจหิมะก็สุขุม สายตามองไปยังกระจกอีกครั้ง เห็นปัณฑาถึงที่นั่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โล่งอก ร่ายมนตร์ข้ามผ่านกระจกไปเลย สัตว์ประหลาดนั่น เห็นเพียงแค่ว่าใกล้จะถึงยอดเขาแล้ว กลิ้งหิมะขาวกดทับไปยังศีรษะของเขาลงมาเลย

ตอนที่กำลังหลบหลีกหิมะ ก็ลื่นลงไปเลย สัตว์ประหลาดหิมะก็ไม่ได้โง่ เขารู้ว่ามีคนกำลังวางกลอุบาย มองไปทางนั้นที่ปีศาจหิมะอยู่

เยาะเย้ย : “ยัยหิมะ แกต้องการร่วมมือกับคนนอกเพื่อจัดการคนกันเองงั้นเหรอ ?”

ยัยหิมะไม่ได้เก็บคำพูดของสัตว์ประหลาดมาใส่ใจ เธอไม่สนใจสัตว์ประหลาดหิมะเลย ปกติแล้วก็ใช่ว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีมากอะไร

นรเทพเอาพวกเขาสองคนมาปล่อยไว้ที่นี่ ก็เป็นเพราะว่าพวกเขาทั้งสองฝ่ายไม่มีทางเข้ากันได้ สามารถตั้งเงื่อนไขให้สมดุลซึ่งกันและกัน ตอนนี้นรเทพก็ใกล้จะถูกจัดการแล้ว ไร้ซึ่งสัจจะอย่างหน้าด้านๆ อย่างมากที่สุดก็เป็นการสู้รบกัน

“คุณยังยึดมั่นถือมั่นทุ่มเททุกอย่างเพื่อนรเทพ แต่กลับไม่รู้เลยว่าชีวิตของเขาถูกควบคุมอยู่ในกำมือของรพีพงษ์แล้ว ถ้าหากวันนี้คุณล่วงเกินรพีพงษ์ เจ้านายที่คุณจงรักภักดีอยู่ตลอดนั่น ก็เกรงว่าจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”

สัตว์ประหลาดหิมะมองไปยังรพีพงษ์อย่างดูถูกแวบหนึ่ง ตัวเองรู้สึกว่าน่าขำมาก รพีพงษ์ที่มีพละกำลังอย่างนี้จะสามารถควบคุมเจ้านายของตัวเองได้งั้นเหรอ?

หากพูดออกไปทำให้คนทั้งโลกหัวเราะเยาะเอาได้จริงๆ สัตว์ประหลาดหิมะคิดว่าปีศาจหิมะเกลือเป็นหนอนคิดทรยศพวกเดียวกัน ตัวเองไม่สามารถเป็นเหมือนเธอได้……

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท