Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 270

ตอนที่ 270

ตอนที่ 270 มีใครต้องการท้าทายอีกไหม?
“สี่ดาบแห่งสวรรค์เป็นที่รู้จักกันดีในระดับของผู้เชี่ยวชาญ ครึ่งขั้น
ก่อกำเนิดลมปราณ ที่มาจากจังหวัดเป่ ยเฟิงพวกเขาเคยร่วมมือกันฆ่า
ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณมาแล้ว!”
“อะไรนะพวกนั้นแข็งแกร่งมากขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
“พวกเขาทั้งสี่คนสามารถฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณได้
สิ่งนี้แสดงถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาได้เป็นอย่างดี ภายใต้
สถานการณ์ปกติมันเป็นเรื่องยากเป็นอย่างมาก สำหรับผู้เชี่ยวชาญ
ระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณสิบคนที่จะฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับ
ก่อกำเนิดลมปราณได้สักคนหนึ่ง!”
“ความแข็งแกร่งของพวกเขาช่างน่ากลัวมากจริง ๆ !”
บรรดาชาวยุทธที่อยู่ที่นี่นั้น ต่างอยู่ในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ
พวกเขาจึงรู้ดีเกี่ยวกับระดับความสามารถในระดับของพวกเขา การที่
ชายวัยกลางคนทั้งสี่คนที่มีฉายาว่าสี่ดาบแห่งสวรรค์ สามารถสังหาร
ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณได้ ย่อมแสดงว่าพวกเขาทั้งสี่คน
มีระดับความแข็งแกร่งสูงกว่าพวกเขาเป็นอย่างมาก
ในโลกยุทธภพมีคำพูดที่ว่าการดำรงอยู่ของคนทั่วไปก็เปรียบได้กับ
มดแมลง จนกว่าจะสามารถก้าวเข้าสู่ดินแดนของระดับก่อกำเนิด
ลมปราณแล้วเท่านั้น จึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งได้อย่างแท้จริง
แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ ก็ไม่มีอะไร
เลยเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ
“เมื่อชายสี่คนนี้ใช้เทคนิคดาบสวรรค์ของพวกเขาพร้อม ๆ กัน ระดับ
ความแข็งแกร่งนั้นช่างน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก พวกเขาเป็นที่รู้จัก
อย่างกว้างขวาง แม้แต่กองกำลังระดับชั้น 1 ก็ไม่ต้องการที่จะเป็น
ศัตรูกับพวกเขา” ฝูงชนแอบกระซิบพูดคุยกัน
การแสดงออกของพวกเขานั้นเปลี่ยนไปเมื่อเห็นว่าคนทั้งสี่ ถือดาบ
เดินตรงมาทางพวกเขา
“พวกเจ้ายังไม่ออกไปอีกอย่างนั้นเหรอ! หากว่าพวกเจ้ายังไม่รีบไปก็
อย่าหาว่าพวกข้านั้นโหดร้ายก็แล้วกัน!” หนึ่งในสี่ดาบแห่งสวรรค์
พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
เหล่าชาวยุทธที่อยู่ในลานกว้างต่างรู้สึกถึงแรงกดดันอันมุ่งร้ายที่พุ่ง
ตรงมายังพวกเขา พวกเขามีสีหน้าที่เคร่งเครียดและมองชายวัยกลางคน
ทั้งสี่ ด้วยความหวาดกลัว
การปรากฏตัวของสี่ดาบแห่งสวรรค์ ได้ทำให้โอกาสในการรับภารกิจ
ของพวกเขานั้นลดลงไปเป็นอย่างมาก
“ทุกคนมากันครบแล้วใช่หรือไม่?” เสียงของชายวัยกลางคนคนหนึ่ง
ดังขึ้นมา
เมื่อทุกคนหันไปมอง ก็เห็นว่ามีคนสามคนเดินออกมาจากประตูวิลล่า
หนึ่งในนั้นเป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ 50 ปีและมีหุ่นอวบอ้วน
เล็กน้อย
อีกสองคนเป็น ชายชราและหญิงสาวที่งดงามเดินตามหลังชายวัย
กลางคนมาอย่างใกล้ชิด
ชายชราคนนั้นมีรอยแผลเป็นทั่วทั้งใบหน้าและดูน่าเกรงขามเป็น
อย่างมาก
สำหรับสาวสวยคนนั้นเธอสวมชุดยาวสีขาวและถือกู่ฉิน [พิณจีน]
ขนาดเล็ก 7 สายอยู่ในมือ ผมของเธอยาวแล้วมัดรวบไว้เหมือนกับ
นางเอกในละครจีนยุคโบราณ
สีหน้าและท่าทางการแสดงออกของเธอคล้ายกับนางเซียนอมตะ
ความสวยงามของเธอนั้นมีเสน่ห์มากและหาได้ยากมากในยุคปัจจุบัน
เธอดูเหมือนว่าหลุดออกมาจากภาพวาดในตำนานเลยก็ว่าได้
“หืม?” หวังเสียน มองไปที่หญิงสาวคนนั้น ใบหน้าของเธอดูคุ้นเคย
เป็นอย่างมาก
“ถังหยินซวง!”
เขาเคยเห็นรูปของเธออยู่บนผนังห้องในหอพักชายทางฝั่งหัวเตียง
ของหวังต้าไห่ เขาเคยได้ยินหวังต้าไห่ พูดถึงเธอด้วยความคลั่งไคล้
ถังหยินซวง เป็นนักร้องนักดนตรีที่เชี่ยวชาญในการเล่นกู่ฉิน เธอ
กลายเป็นที่รู้จักและไอดอลชื่อดังของวัยรุ่นในยุคนี้ ชื่อเสียงของเธอ
นั้นโด่งดังอย่างรวดเร็วมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
ถึงแม้ว่าชื่อเสียงของเธอนั้นจะไม่ได้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของประเทศ
แต่หากพูดถึงชื่อของเธอแล้ว วัยรุ่นทุกคนต่างต้องรู้จักเธอเป็นอย่าง
ดี ขนาดตัวหวังเสียนเองที่ไม่เคยสนใจเรื่องเกี่ยวกับดารานักร้อง ตัว
เขาก็ยังคงได้ยินชื่อเธอและเห็นรูปของเธอมาบ้างพอสมควร
ถังหยินซวง ไม่เคยแสดงภาพยนตร์หรือออกรายการวาไรตี้ใด ๆ
เธอได้รับความนิยมหลังจากการออกคอนเสิร์ตร่วมกับปรมาจารย์
เปียโนชื่อดัง ต่อจากนั้นเธอก็ได้ออกอัลบั้มเพลงและได้รับความ
นิยมอย่างแพร่หลาย
ความนิยมของเธอนั้นเทียบเท่าได้กับดารานักร้องเกรดระดับ 2 เลย
ทีเดียว และตัวเธอก็เคยจัดคอนเสิร์ตอยู่หลายครั้งเช่นเดียวกัน
หวังเสียน เคยได้ยินมาจากหวังต้าไห่ ว่าตอนที่เขาเคยเข้าไปร่วมดู
คอนเสิร์ตของเธอ เขารู้สึกประทับใจและซาบซึ้งใจกับบทเพลงของ
เธอจนร้องไห้น้ำตาไหลออกมา เสียงร้องเพลงและการเล่นกู่ฉินของ
เธอ สามารถเข้าไปถึงหัวใจของผู้เข้าร่วมคอนเสิร์ตทุกคนได้เป็น
อย่างดี
หากว่าเธอสามารถทำให้หวังต้าไห่ ที่เคยชอบฟังเพลงร็อคแบบฮาร์ด
คอร์ ร้องไห้ในงานคอนเสิร์ตของเธอได้ บทเพลงของเธอก็น่าจะมี
ปัจจัยอื่น ๆ อยู่ด้วยอย่างแน่นอน
สำนักเสียงสวรรค์ สามารถใช้เครื่องดนตรีเป็นอาวุธในการต่อสู้ได้
คุณสมบัติในการเล่นดนตรีของสาวกในสำนักนี้สามารถครอบงำ
จิตใจของของผู้ฟังได้เป็นอย่างดี
อิทธิพลของเสียงเพลงของพวกเขาสามารถสังหารศัตรูโดยใช้แค่
เสียงเพลงเพียงเท่านั้น
ตามที่เคยมีการบันทึกเอาไว้เมื่อสาวกของสำนักเสียงสวรรค์ เล่น
เครื่องดนตรีประจำตัวของพวกเขาในสนามรบ มันมีความสามารถ
ช่วยเหลือในการยกระดับจิตวิญญาณและปลูกฝังความฮึกเหิมของ
ทหารฝั่งเดียวกันได้ ทำให้พวกเขาลืมความเหนื่อยล้าทางร่างกายและ
ไม่รู้สึกเกรงกลัวต่อความตายที่อยู่ตรงหน้าในระหว่างการรบ
หวังเสียน มองไปยังหญิงสาวคนนั้นและคิดกับตัวเองอยู่อย่างเงียบ ๆ
“คุณถังครับ! ทุกคนที่ได้ลงทะเบียนสมัครร่วมภารกิจเอาไว้อยู่ที่นี่
กันหมดแล้วครับ!” ชายในชุดสูทสีดำพูดกับ ถังจิ่วเฉา
“โอเค! ในเมื่อทุกคนอยู่ที่นี่กันหมดแล้ว ก่อนอื่นผมก็ต้องขอขอบคุณ
พวกคุณทุกคนที่มากันในครั้งนี้เป็นอย่างมาก!” ถังจิ่วเฉา พูดออกมา
ด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ
เขากวาดสายตามองผ่านไปยังเหล่าชาวยุทธ์ที่อยู่ตรงหน้า อย่าง
พิจารณา
“ผมชื่อว่าทุกคนคงรู้ดีกันอยู่แล้วเกี่ยวกับภารกิจที่ผมได้ลงประกาศ
เอาไว้ในเว็บไซต์ของโลกยุทธภพ ผมต้องการบอดี้การ์ดที่มีฝีมือ
เยี่ยมสี่คน ให้กับลูกสาวของผมระยะเวลาทำงานคือสองเดือน ส่วน
รางวัลนั่นก็คือ 500 ล้านหยวนต่อคน!”
“และในตอนนี้ผมนั้นต้องการคัดเลือกคนที่มีฝีมือดีที่สุดสี่คนเพียง
เท่านั้น หวังว่าทุก ๆ ท่านนั้นคงจะเข้าใจและรับกฎการคัดเลือกของ
ผมได้ มีผู้เชี่ยวชาญท่านไหนที่มีข้อคัดค้านเกี่ยวกับการคัดเลือกของ
ผมหรือไม่?”
เหล่าชาวยุทธทุกคนต่างพยักหน้ายอมรับและไม่มีข้อคัดค้านใด ๆ
แต่บางคนก็มีสีหน้าที่มืดมนเป็นอย่างมากหลังจากที่ได้เห็นกลุ่มของ
สี่ดาบแห่งสวรรค์
“ผู้ที่มีความเชื่อว่าตนเองแข็งแกร่งโปรดก้าวออกไปยืนทางด้าน
ขวามือ!” ชายชราที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นพูดออกมาเสียงดังกับเหล่า
ชาวยุทธที่ยืนรวมตัวกันอยู่
“ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ!”
เหล่าชาวยุทธที่รวมตัวกัน ค่อนข้างที่จะตกใจเมื่อมองไปยังชายชรา
คนนั้น
“ฮ่า ๆ ๆ ! ถ้าพวกเจ้ามั่นใจในความแข็งแกร่งก็จงก้าวขาออกมา แต่
ข้าหวังว่าพวกเจ้าคงจะไม่นึกเสียใจทีหลังนะ!”
เสียงหัวเราะดังลั่นมาจากสี่ดาบแห่งสวรรค์ที่ยืนรออยู่ทางฝั่งขวาอยู่
แล้ว
พวกเขาถือดาบของพวกเขาเอาไว้ในมือพร้อมกับกวัดแกว่งไปมา
ดวงตาของพวกเขาแสดงถึงความอำมหิตโหดร้ายออกมาอย่างชัดเจน
“เราคือสี่ดาบแห่งสวรรค์ และพวกเราขอรับภารกิจทั้งสี่ตำแหน่งนี้
เอง!” ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงกลางกลุ่มประกาศออกมา
เหล่าชาวยุทธมองไปยังชายทั้งสี่คน พวกเขาต่างถอนหายใจด้วยสี
หน้าที่หมองคล้ำ พร้อมกับส่ายหัวกันอย่างช้า ๆ
“สี่ดาบแห่งสวรรค์!”
ถังจิ่วเฉา และชายชราที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขามองกลุ่มชายวัยกลางคนทั้งสี่
ด้วยความประหลาดใจ หลังจากนั้นพวกเขาก็เผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา
หญิงสาวที่ชื่อ ถังหยินซวง ก็มองไปที่สี่ดาบแห่งสวรรค์ แล้วพยักหน้า
เล็กน้อยอย่างเห็นชอบด้วย
เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขานั้นเคยได้ยินเกี่ยวกับสี่ดาบแห่งสวรรค์ และ
ชื่อเสียงของพวกเขาก็โด่งดังมากเลยทีเดียว
“ภารกิจนี้ถือความปลอดภัยของนายจ้างเป็นหลัก ต่อให้พวกเจ้าทั้งสี่
คนร่วมมือกันแล้วจะมีความแข็งแกร่งมากก็จริงอยู่ แต่สิ่งสำคัญนั่นก็
คือความปลอดภัยของนายจ้าง ฉะนั้นข้าไม่เชื่อว่าพวกเจ้านั้นจะมี
ความสามารถเพียงพอ!” ชายชราคนหนึ่งในกลุ่มของเหล่าชาวยุทธ
ก้าวออกไปข้างหน้า เขาจ้องมองไปที่สี่ดาบแห่งสวรรค์ อย่างไม่กลัว
เกรงเลยแม้แต่น้อย
“ถูกต้อง! ภารกิจนี้เกี่ยวกับการป้องกันเป็นหลัก การต่อสู้ของพวกเจ้า
ทั้งสี่ ถือว่ามีความแข็งแกร่งมากทางด้านการสังหาร แต่การป้องกัน
และคุ้มครองผู้เป็นนายจ้าง ข้าเองก็ไม่เชื่อว่าพวกเจ้าจะมีความสามารถ
เหนือกว่าพวกข้า!” ชายวัยกลางคน ในกลุ่มสนับสนุนคำพูดของชาย
ชรา
“ใช่! สี่ดาบแห่งสวรรค์อย่างพวกเจ้านั้นอาจจะแข็งแกร่งมากเมื่อ
ร่วมมือกัน แต่ข้าคิดว่าเมื่อแยกกันต่อสู้แล้วฝีมือของพวกเจ้าก็คงจะ
ไม่ต่างจากพวกข้ามากน้อยสักเท่าไหร่หรอก!” กลุ่มชาวยุทธที่เหลือ
ต่างสนับสนุนความคิดเห็นของชายชราและชายวัยกลางคน
“ฮ่า ๆ ๆ ! ต่อให้พวกเราแยกกันต่อสู้แต่พวกเจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ
พวกเราอย่างแน่นอน!” หนึ่งในสี่ดาบแห่งสวรรค์ พูดออกมา
“แต่ก็เอาเถอะข้าจะสู้กับเจ้าเอง!” ชายวัยกลางคนจ้องมองไปที่ชาย
ชรา พร้อมกับใช้ดาบพุ่งตรงเข้าไปโจมตีชายชราในทันที
“ฮึ่มมม!” ชายชราคำรามเสียงต่ำออกมาจากลำคอ
เขากางฝ่ามือที่ใส่ถุงมือโลหะสีเงินออกมาอย่างรวดเร็ว
“ฝ่ามือทลายภูผา!”
ชายชรากระแทกฝ่ามือไปข้างหน้าเพื่อตอบรับการโจมตีจากดาบของ
ชายวัยกลางคน
การต่อสู้ระหว่างครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ ค่อนข้างที่จะทรงพลัง
และมีอาณาเขตการโจมตีค่อนข้างกว้างพอสมควรเลยทีเดียว
หากผู้คนที่อยู่รอบข้างไม่ใช่ระดับผู้เชี่ยวชาญครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ
พวกเขาก็อาจจะได้รับบาดเจ็บจากแรงปะทะของคนทั้งคู่อย่างแน่นอน
“ฮ่า ๆ ๆ ! เพลงดาบพายุสวรรค์!”
ชายวัยกลางคนรู้สึกคึกคักเป็นอย่างมากเขาเหวี่ยงดาบพร้อมกับหมุน
ร่างกายจนเหมือนกับลูกข่าง ความเร็วของดาบนั้นรวดเร็วเป็นอย่าง
มาก การโจมตีก็ต่อเนื่องและสลับซับซ้อนจนมองไม่เห็นวิถีของดาบ
เลยแม้แต่น้อย
เคร้ง ๆ ๆ ๆ !
ในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีดาบได้ปะทะกับถุงมือโลหะของชายชรา
มากกว่าร้อยครั้ง
“อะไรกัน!”
ชายชราค่อนข้างที่จะตกใจเป็นอย่างมาก การโจมตีของฝ่ายตรงข้าม
นั้นรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้ จนเขาต้องกลายเป็นผู้ตั้งรับอยู่เพียง
ฝ่ายเดียว
เคร้งง!
“ไสหัวไป!” ชายวัยกลางคนตะโกนออกมาเสียงดังในขณะที่เขาเพิ่ม
แรงโจมตีในครั้งสุดท้าย ชายชราถูกกระแทกกระเด็นถอยหลังไป
ในทันที
ตูมมม!
ชายชรากระเด็นลอยไปยังบ่อน้ำที่เลี้ยงปลาสวยงามที่อยู่ทางด้านข้าง
ของลานกว้างและตกลงไปอย่างรุนแรง
“เป็นเพลงดาบที่แข็งแกร่งมากจริง ๆ !”
“รวดเร็วและน่ากลัวมาก! การโจมตีในระดับนี้ไม่สามารถหยุดยั้งได้
จริง ๆ หากพวกเขาทั้งสี่คนร่วมมือกัน มันคงจะเหมือนกับเครื่องบด
เนื้อดี ๆ นี่เอง!”
“เพลงดาบที่รุนแรงบวกกับการเคลื่อนไหวที่ว่องไวไม่น่าแปลกใจ
เลยที่พวกเขาสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณลง
ได้!”
เหล่าชาวยุทธในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณทั้งหมดต่างมองไป
ยังสี่ดาบแห่งสวรรค์ ด้วยความหวาดกลัว
บรรยากาศในขณะนี้นั้นดูเหมือนจะถูกแช่แข็งลงไปในทันที ไม่มี
ใครกล้าก้าวเดินออกมาอีกแม้แต่คนเดียว
หลังจากที่หนึ่งในสี่ดาบแห่งสวรรค์ แสดงความแข็งแกร่ง คนทั้งหมด
ที่ร่วมลงทะเบียนสมัครภารกิจเอาไว้ ก็ไม่มีใครกล้าท้าทายพวกเขา
“ฮ่า ๆ ๆ ! มีใครต้องการที่จะสู้กับพวกข้าอีกไหม?” กลุ่มสี่ดาบแห่ง
สวรรค์มองไปยังเหล่าผู้เชี่ยวชาญครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ พร้อม
กับยิ้มและเอ่ยคำท้าทายออกมาอย่างภาคภูมิใจ
ทั้งสี่คนปล่อยออร่าของพวกเขาในเวลาเดียวกันและปกคลุมทุกคนที่
อยู่ที่นี่พร้อม ๆ กัน
แรงกดดันของพวกเขานั้นทรงพลังมากพอ ๆ กับผู้เชี่ยวชาญระดับ
ก่อกำเนิดลมปราณเลยทีเดียว
เป็นอีกครั้งที่พวกเขาสามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าชาว
ยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบ
“ฮึ! แล้วถ้าพวกข้าทั้งสามคนไม่เห็นด้วยล่ะ!”
“เพราะว่าตำแหน่งบอดี้การ์ดทั้งสามตำแหน่งต้องเป็นของพวกเรา
ทั้งสามคนเท่านั้น!”
เสียงที่ไร้อารมณ์และเย็นชาดังขึ้นมาทำลายความเงียบสงบลงในทันที!

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท