Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 132

ตอนที่ 132

บทที่ 132 คุ้มค่าไหมที่ได้ทำเพื่อเธอ

“ในเมื่อคุณไม่ได้ทำผิดพลาด แล้วคุณจะร้อนรนทำไมล่ะ” มู่วี่สิงยิ้มอย่างเย็นชา

“แกใส่ร้ายฉัน! มู่วี่สิง ฉันทำแบบนี้ทุกครั้งในการผ่าตัดเสมอ และมันก็ไม่เคยเกิดปัญหาอะไรขึ้น!” หลี่เหยนโต้แย้ง

“เนื่องจากคุณทำการผ่าตัดในแต่ละกรณีเหมือนกันทุกครั้ง ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่คือข้อห้ามสำคัญที่สุดของคนที่เป็นแพทย์ คุณหมอหลี่ ผมแนะนำให้คุณอย่าทำร้ายคนอื่นไปมากกว่านี้เลยครับ” เมื่อพูดจบ มู่วี่สิงก็หันหลังและเดินจากไป

หลี่เหยนวิ่งเข้าไปในห้องของผู้อำนวยการโรงพยาบาล “พ่อ…… ผมจะไม่ยอมให้มู่วี่สิงมาทำลายผมได้หรอกนะ!”

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลถอนหายใจ “ตอนนั้นฉันไม่น่าตกลงให้พวกแกลงมือผ่าตัดด้วยกันเลย หลี่เหยน บางทีฉันควรจะส่งแกไปเมืองนอกเพื่อพัฒนาฝีมืออีกครั้งนะ”

“แต่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด!” หลี่เหยนโกรธจัด

“แกก็ดูเอาเองสิ!” ผู้อำนวยการโยนรายงานไปไว้ตรงหน้าหลี่เหยน

เขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้น สีหน้าของเขาซีดเผือดขึ้นทีละน้อย

มู่วี่สิงกลับมาถึงยังห้องทำงาน หลี่ซานเดินเข้าประตูมา “คุณหมอมู่ ฉันส่งรายงานไปที่กระทรวงสาธารณสุขแล้วค่ะ”

“อืม อาการผู้ป่วยเป็นอย่างไรบ้าง”

“วันนี้อาการของเขาดีขึ้นมากแล้วล่ะค่ะ แต่ว่ายาที่คุณหมอหลี่สั่งจ่ายให้ ก็ควรที่จะต้องเปลี่ยนด้วยไหมคะ”

“คุณช่วยเอาไปให้ห้องจ่ายยาดูที” มู่วี่สิงบีบนวดคิ้วของเขา

เขากดโทรศัพท์มือถือ ตอนนี้ก็บ่ายกว่าแล้ว เวินจิ้งจะทำอะไรอยู่นะ

ไม่มีทั้งโทรศัพท์และข้อความมาหาเขา มู่วี่สิงมีสีหน้าเคร่งเครียด เขากดต่อสายโทรศัพท์หาเวินจิ้ง

ปลายสายกลับเป็นเสียงต้อนรับเข้าสู่บริการรับฝากข้อความ เขาหรี่ตาลง และรีบเดินออกไปในทันที

หลี่ซานเดินเข้ามาประจันหน้ากับเขาพอดี “คุณหมอมู่ รายการยา……”

มู่วี่สิงชะงักไปครู่หนึ่ง “รายการยาพวกนั้นยังสามารถใช้ได้เหมือนเดิม ให้อานจิ้งคอยสังเกตอาการของผู้ป่วยเอาไว้ ผมจะกลับไปหนานเฉิงพรุ่งนี้”

“แล้วฉันล่ะคะ” หลี่ซานมองเขาในทันที

เมื่อมู่วี่สิงกลับไปยังหนานเฉิง ในไม่ช้าเขาก็จะต้องออกจากงาน เธอทำงานเคียงข้างมู่วี่สิงมาโดยตลอด และเธอไม่ต้องการทำงานกับแพทย์คนอื่นคนไหนอีก

“รอให้อาการทั้งหมดของผู้ป่วยนิ่งก่อน แล้วคุณกับอานจิ้งค่อยกลับไป” มู่วี่สิงพูดอย่างนิ่งเรียบ

“คุณหมอมู่ ฉันหมายถึงหลังจากที่คุณลาออกต่างหากค่ะ” หลี่ซานมองดูเขาด้วยความคาดหวัง

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เขามองดูหลี่ซานจับชายเสื้อของเขาเอาไว้ ความรู้สึกไม่พอใจปรากฏขึ้นภายในแววตาของเขา

“ทางโรงพยาบาลจะเป็นคนจัดการเอง”

“มันคุ้มไหมคะที่ได้ทำเธอ” ร่างกายของหลี่ซานสั่นเทิ้ม แววตาของเธอกลายเป็นสีแดงก่ำ

“คุ้มมากครับ” มู่วี่สิงตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล

หลี่ซานรู้สึกแค่เพียงว่าพละกำลังทั้งหมดในร่างกายของเธอถูกสูบออกไปจนหมด เวินจิ้ง เธอเป็นใครกันแน่……

ในขณะเดียวกัน ณ เขาซีซาน

ทางลงเขามีเพียงแค่ทางเดียว ไม่มียานพาหนะอื่นใด ๆ ผ่านไปมา แต่ถนนบนเขานั้นลาดชันมาก และยิ่งไปกว่านั้นฝนก็กำลังจะตกลงมาในไม่ช้าด้วย สภาพอากาศเย็นมากขึ้นและถนนก็ลื่นมากขึ้น เวินจิ้งรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

ที่นี่ไม่มีที่พักหลบฝนที่ไหนอีก ทันใดนั้น เมื่อเสียงฟ้าร้องดังขึ้นมา ฝนห่าใหญ่ก็ตกหนักลงมาในทันที

นอกจากนั้น ยังมีดินถล่มอยู่ไม่ไกลนัก ทำให้ทางลงเขาทั้งเส้นถูกปิดกั้นเอาไว้โดยสมบูรณ์

ถ้าหากต้องการที่จะข้ามไป เธอก็จำต้องปีนข้ามดินถล่มนี้ไปให้ได้

ตอนนี้ฝนตกหนักมาก ทั้งร่างกายของเวินจิ้งนั้นเปียกปอนไปหมด ร่างกายของเธอรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมา และไม่มีกำลังเหลืออยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

ในตอนนั้น เสียงเบรกเอี๊ยดดังขึ้นที่ด้านหลังของเธอ ฉีเซินลงจากรถ และแทบจะรีบดึงตัวเวินจิ้งเอาไว้ในทันที

เธอเงยหน้าขึ้น และผลักเขาออกไปโดยไม่รู้ตัว

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาแล้ว ตอนนี้เธอก็คงไม่ต้องมาถูกขังอยู่ที่นี่

“เวินจิ้ง คุณช่วยเชื่อฟังผมสักหน่อยได้ไหม” ฉีเซินพูดอย่างกระหืดกระหอบ เขาคาดไม่ถึงว่าเวินจิ้งจะเดินลงมาจากเขาจริง ๆ !

ถ้าหากว่าไม่เกิดดินถล่มขึ้น เธอก็ตัดสินใจจะเดินตามถนนไปเรื่อย ๆ อย่างนั้นเหรอ

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก และนิ่งเงียบไม่พูดอะไรเหมือนเช่นเดิม

ฉีเซินถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกและส่งให้เธอ เธอไม่รับ ร่างกายของเธอรู้สึกไม่สบายตัวอย่างรุนแรง เธอขดตัวลง และมีสีหน้าซีดเผือดจนดูน่ากลัว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท