บทที่ 147 ฉันรักเพียงแค่เขา
อั้ยเถียนลุกลี้ลุกลน “จิ้งจิ้ง อย่าให้คุณเสี้ยงมองเห็นฉัน”
พูดจบ เธอหมุนตัววิ่งไปหลบที่หลังบันได
เวินจิ้งมึนงง สองคนที่เมื่อสองวันที่แล้วยังเป็นตัวติดกันเป็นกาวอยู่เลยไม่ใช่หรอ?
เสี้ยงหงเดินมาหยุดตรงหน้าเวินจิ้ง “อั้ยเถียนหลบหน้าผม?”
เวินจิ้งพยักหน้า มองดูใบหน้าเสี้ยงหงที่ดูเหมือนจะโกรธนิดๆ อดไม่ได้เอ่ยถามออกไป “พวกคุณคบกันหรอ?”
อั้ยเถียนปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเสี้ยงหงมาตลอด แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นใกล้ชิดสนิทสนมกันเกินไป
พอได้ยิน คิ้มเข้มขมวดเข้าหากัน “เธอเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผม”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณอย่ารั้งเถียนเถียนอีกเลย เธอจะเข้าใจผิดได้” เวินจิ้งเอ่ยเสียงเรียบ
“เธอฉลาดมาก” เสี้ยงหงพูดจบก็เดินจากไป
เวินจิ้งขมวดคิ้ว เดินเข้าใกล้บันได อั้ยเถียนยืนชิดประตู คำพูดของเสี้ยงหงเมื่อสักครู่เธอได้ยินทั้งหมด
ที่แท้ก็เป็นได้เพียงคนใต้บังคับบัญชา
เธอหัวเราะเยาะตัวเอง “จิ้งจิ้ง ฉันโง่มากจริงๆว่าไหม”
เวินจิ้งกอดเธอไว้ด้วยความสงสาร “เธอจะต้องได้พบคนๆนั้น บางที อาจไม่ใช่เสี้ยงหง”
“แต่ว่า ฉันรักเพียงแค่เขา”
………………………
มู่เฉิงพึ่งกลับมาจากต่างประเทศวันนี้ รู้ว่ามู่วี่สิงและเวินจิ้งย้ายออกไปแล้ว จึงรีบเรียกทั้งสองกลับมาทันใด
“คุณปู่” เวินจิ้งควงแขนมู่วี่สิงเดินเข้าบ้าน และเอ่ยทักทายอย่างนุ่มนวล
มู่เฉิงยิ้มอ่อนโยน “ฉันคิดถึงหลานสะใภ้ของฉันแล้ว”
เวินจิ้งหัวเราะ ชงชาให้มู่เฉิงอย่างเอาอกเอาใจ มู่เฉิงอารมณ์ดี
“พวกเธอย้ายออกไปแล้ว ที่นี่คงจะเหลือเพียงคนแก่คนเดียวอย่างปู่” มู่เฉิงเอ่ยอย่างน้อยใจ
“คุณปู่จะกลับมาอยู่ถาวรแล้วหรอคะ?” เวินจิ้งถาม
มู่เฉิงพยักหน้า “อยู่ที่นั่นจนเบื่อแล้ว อยู่ที่นี่ดีกว่า ไม่แน่อาจมีเหลนเพิ่มมาอีกคนมาอยู่เป็นเพื่อนปู่!”
รอยยิ้มของเวินจิ้งนิ่งค้าง ญาติๆทั้งสองฝั่งล้วนเร่ง เธอรู้สึกกดดันมาก
การแต่งงานนั้นปลอมได้ แต่มีลูก…..จะปลอมยังไงได้
“คุณปู่ คุณนายมู่ยังวางแผนจะเรียนต่อ ตอนนี้เราไม่วางแผนจะมีลูก” มู่วี่สิงเดินเข้ามาโอบเวินจิ้งเอาไว้
“เด็กคนนี้นี่ อยากเรียนที่ไหนล่ะ ปู่ติดต่อให้ได้นะ”
“ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจเลยค่ะ ยังเตรียมตัวอยู่เลย รบกวนคุณปู่แล้ว”
“ฮ่าๆ มันเป็นเรื่องสมควร ไม่งั้นก็ให้ไอ้หลานคนนี้ของฉันช่วยหาโรงเรียนให้เธอ ตอนแรกฉันอยากให้เขาเรียนธุรกิจ แต่เขาก็ยังไปเรียนหมอ ทำฉันโกรธมากเลย เธอดูตอนนี้สิ ก็ยังต้องรับช่วงต่อบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปหรอกหรอ”
ได้ยินดังนั้น เวินจิ้งมองมู่วี่สิง ถ้าตอนนั้นเขาเรียนธุรกิจจริงๆ กลัวว่าหนานเฉิงคงจะไม่มีคุณหมอมู่แล้ว
เธอดีใจที่เขาเลือกเส้นทางนี้
“คุณปู่ ถ้าไม่มีอะไรแล้วพวกเราจะกลับแล้ว” มู่วี่สิงโอบกอดเวินจิ้ง
“คืนนี้พวกเธออยู่ที่นี่เถอะ ฉันยังมีเรื่องคุยกับแกอีก” มู่เฉิงมองไปยังมู่วี่สิง
ทั้งสองขึ้นไปยังห้องหนังสือ ใบหน้ามู่เฉิงเคร่งเครียดขึ้น
“ฉันได้ยินว่าแกลงทุนกับบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ป?” มู่เฉิงเอ่ยถาม
ถึงแม้ว่ามู่เฉิงจะถอนตัวไปนานแล้ว แต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปและบริษัทลูกอื่นๆเขายังคงใส่ใจฟังรายงานในทุกๆวัน
“ครับ” มู่วี่สิงตอบกลับเสียงเรียบ
“ทำไม? แกรู้รึเปล่าว่าแกกำลังทำอะไรอยู่!” สีหน้ามู่เฉิงนิ่งขรึม
มู่วี่สิงมีพรสวรรค์ในเรื่องการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้มู่เฉิงคอยผลักดันให้มู่วี่สิงรับช่วงต่อบริษัทมู่ซื่อกร๊ป ถึงแม้ว่าเขาเลือกทำอาชีพหมอ ท้ายที่สุดเขาก็ต้องกลับมารับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
“คุณปู่ ในเมื่อปู่ยกบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปให้ผมแล้ว ก็ควรเชื่อมั่นในกลยุทธ์ของผม”
“แต่แกไม่เคยทำเรื่องเหลวไหลแบบนี้!คณะผู้บริหารของบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปล้วนเป็นพวกใจร้อนต้องการเห็นผลประโยชน์ทันที แกไม่เคยตรวจสอบเลยหรอ