Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 149

ตอนที่ 149

บทที่ 149 ถ้าผมบอกว่า….ตลอดชีวิต

ใบหน้าของเวินจิ้งแดงระเรื่อ ได้สติรีบผลักมู่วี่สิงออก

ทว่ามู่วี่สิงกลับขยับเข้าใกล้มากขึ้น เชยปลายคางเวินจิ้งขึ้น คล้ายกับว่าหากเธอไม่ตอบเขาจะไม่ยอมปล่อยหยุด

ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดที่ข้างหู หัวใจของเวินจิ้งเต้นกระหน่ำ “คุณ….คุณเป็นสามีของฉัน”

พอพูดจบ ใบหูของเวินจิ้งก็ขึ้นสีแดง ไม่กล้ามองหน้าเขาด้วยซ้ำ

ริมฝีปากบางของเขายกยิ้ม เชยคางเธอขึ้นมาและมอบจูบดูดดื่มลงไป สำรวจล้ำลึก เวินจิ้งยากที่จะต่อต้าน มีเพียงความรู้สึกลุ่มหลง

เมื่อจบลง เวินจิ้งจำคำพูดของคุณปู่ได้

แต่ว่าเรื่องของธุรกิจเธอไม่เข้าใจ ดังนั้น ทำได้เพียงโน้มน้าวเขา

“ถ้าหากคุณนายมู่อยากให้ผมเปิดเผยฐานะจริงๆ งั้นคุณ ก็จะถูกเปิดเผยเหมือนกัน” มู่วี่สิงมองเธอนิ่ง

เวินจิ้งยกคิ้ว เธอไม่อยากเปิดเผยสถานะระหว่างเธอกับมู่วี่สิง

เธอต้องการเพียงแค่ใช้ชีวิตสงบสุขในแต่ละวันเท่านั้น แต่ตอนนี้ สามีของเธอไม่ได้เป็นเพียงแค่หมอระบบประสาทคนหนึ่ง ยังเป็นประธานบริษัทที่มีคุณค่าประมาณการไม่ได้…….

“มู่วี่สิง คุณเคยต้องลงกับฉันว่าจะปกปิดเรื่องการแต่งงาน” เวินจิ้งขมวดคิ้วมุ่น

“ถึงแม้ต่อไปผมจะไม่เปิดเผย คุณปู่ก็คงไม่ยอม คุณนายมู่ คุณต้องเตรียมตัวดีๆแล้วล่ะ” มู่วี่สิงเชยหน้าเธอขึ้น แววตาจริงจัง

เวินจิ้งยืนนิ่ง เธอรู้สึกกดดัน และไม่รู้จะจัดการยังไง

“มู่วี่สิง ทำไมตอนแรกคุณไม่บอกฉัน ว่าฐานะของคุณไม่ธรรมดาเลย ฉันยังคิดว่าคุณเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง แบบนี้เรียกว่าหลอกแต่งงานนะ” เวินจิ้งเอ่ยด้วยความโกรธ

ถ้าตอนนั้นเธอรู้….เธอคงจะลังเล และล่าถอย

มู่วี่สิงยึดไหล่ของเธอเอาไว้ ไม่ยอมให้เธอหนี “หลอกแต่งงาน? คุณนายมู่ ผมหลอกเอาเงินคุณหรอ หรือว่าหลอกร่างกายคุณ? หืม?”

สมองของเวินจิ้งหมุนติ้ว “ร่างกาย” สองคำนี้เกือบจะหลุดออกมาจากปากของเธอ

เธอทุบแผ่นอกหนาเบาๆ “คุณไม่เคยบอกพื้นเพที่แท้จริงของคุณเลย”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว “ตอนแรกผมไม่เคยคิดจะรับช่วงต่อบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ตามที่คุณพูด ผมเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง”

“แล้วทำไมคุณถึงเปลี่ยนเป้าหมายแล้ว?” เวินจิ้งถาม

มู่วี่สิงไม่ได้ตอบ เขาเพียงขยี้ผมเธออย่างเอ็นดูเบาๆ “คุณรู้เพียงว่า ตอนนั้นที่แต่งงานกับคุณ ผมเปิดเผย”

เวินจิ้งจ้องมองเขานิ่ง เวลานี้ เธอเชื่อเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข

ใช่ เขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องหลอกแต่งงาน บางที่เขาตอนนี้ คงจะมีเหตุผลที่ต้องแต่งงาน

“งั้นคุณเคยคิดหรือเปล่า การแต่งงานของเราครั้งนี้จะอยู่อีกนานแค่ไหน?” คำถามนี้ เวินจิ้งคิดแล้วคิดอีกอยู่หลายรอบ

ในที่สุดเธอก็ถามออกมา

ได้ยินดังนั้น ความเยือกเย็นผ่านเข้ามาในแววตาของมู่วี่สิง “ถ้าผมบอกว่า ..ตลอดชีวิตล่ะ”

มืออบอุ่นของเขาประคองใบหน้าเล็ก น้ำเสียงจริงจังที่ไม่เคยได้เห็น

แต่ว่าเวินจิ้ง ไม่กล้าที่จะเชื่อ

เธอยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะออกมา “มู่วี่สิง คุณล้อเล่นอะไรเนี่ย ไม่แน่อีกไม่กี่ปีข้างหน้าคุณอาจจะเจอคนที่ชอบก็ได้ ไม่ต้องเสียเวลากับฉันหรอก”

มู่วี่สิงสีหน้าเข้มขึ้น ทั่วร่างมีความเย็นแผ่ออกมา เวินจิ้งชะงักนิ่ง

เธอพูดอะไรผิดไปแล้วงั้นหรอ……

เธอรู้สึกมาตลอดว่ารอบตัวของมู่วี่สิงมีคนมากมายที่ทุ่มเทความรักให้เขา เขาจะต้องได้เจอกับคนที่เขารักจริงๆ

“ผมไม่คิดจะหย่า” น้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชา

เวินจิ้งนิ่งงัน ไม่คิดว่ามู่วี่สิงจะพูดแบบนี้

หมายถึง มู่วี่สิงคิดจะอยู่แบบนี้กับเธอไปตลอดชีวิตอย่างงั้นหรอ?

เธออดไม่ได้มุมปากยกยิ้มขึ้น ขยับชิดอยู่ในอ้อมกอดของมู่วี่สิง ถ้าหากเป็นแบบนี้ ก็คงดี

มู่วี่สิงลูบหัวเธอเบาๆ น้ำเสียงแอบน้อยใจ “คุณนายมู่ ต่อไปห้ามพูดเรื่องหย่า รู้ไหม?”

เวินจิ้งเม้มปากแน่น ไม่ได้ตอบ

มู่วี่สิงปิดการหายใจของเธออีกครั้ง กดเธอลงกับเตียง เวินจิ้งตกใจ แต่ร่างกายกลับอ่อนระทวย โอบกอดเขาแน่น……….

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท