Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 153

ตอนที่ 153

บทที่ 153 ผมทำไม่ได้

“หยุดหรอ ไม่ทันแล้วล่ะ” ฉืออี้เหิงขาดสติไปแล้ว มือออกแรงมากขึ้น เวินจิ้งแม้แต่เสียงก็เปล่งออกมาไม่ได้แล้ว

ฉีเซินกำหมัดแน่น มองฉืออี้เหิงสีหน้าเรียบนิ่ง

“ข้อเสนอ? คุณมีสิทธิ์อะไรมายื่นข้อเสนอให้ผม”

“คุณไม่ได้ชอบเธอไม่ใช่หรอ? แล้วถ้าผมฆ่าเธอล่ะ!” ดวงตาของฉีเซินเข้มขึ้น

เวินจิ้งกัดริมฝีปากแน่น ตอนนี้ร่างกายเธอไร้เรี่ยวแรง แม้จะยืนยังยืนจะไม่อยู่

“คุณจะให้ผมทำอะไร?” ฉีเซินถาม

“ผมรู้ว่าตระกูลฉีของคุณเล่นการเมืองมานาน ตอนนี้บริษัทเหิงอวี่ถูกสั่งย้ายไปอยู่แอฟริกาทั้งหมด คุณแค่ช่วยพูดกับด้านบนให้ ยกเลิกคำสั่งนี้ ผมก็จะปล่อยเวินจิ้ง”

ฉีเซินหรี่ตาแคบ ฉืออี้เหิงสืบเรื่องตระกูลฉีมามากจริงๆ

แม้ว่าภายนอกตระกูลฉีดูเป็นตระกูลนักธุรกิจ แต่เบื้องหลังนั้นมีอิทธิพลยิ่งใหญ่

เวินจิ้งพยายามเปิดตาขึ้น ส่ายหน้าให้ฉีเซิน เขาจะยอมตกลงไม่ได้ จะให้แผนชั่วของฉืออี้เหิงสำเร็จไม่ได้……….

แต่ตอนนี้ ฉีเซินคล้ายกับเริ่มลังเล มองใบหน้าซีดขาวของเวินจิ้ง เขากัดปากแน่น เอ่ยอย่างหนักแน่น “ผมช่วยคุณได้”

ฉืออี้เหิงแปลกใจ ไม่คิดว่าจะมาถูกทาง เพียงแค่ยืนยันอีกนิด “คุณคงไม่ได้กำลังโกหกใช่ไหม?”

“คุณปล่อยเวินจิ้งก่อน ผมจะโทรคุยให้ตอนนี้” ฉืออี้เหิงขมวดคิ้วสงสัย ค่อยๆลดแรงลง

เวินจิ้งสำลักทันที เกือบจะล้มลงไปแล้ว เธอจ้องฉืออี้เหิงอย่างโกรธเกรี้ยว “คุณมันเลว นอกจากหลอกใช้ผู้หญิงแล้วคุณก็ทำอะไรไม่เป็นแล้ว”

นึกถึงเธอถูกเขาลักพาตัวตั้งสามครั้ง ตอนนี้เธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

อาศัยจังหวะที่เขาไม่ทันระวังตัว เธอกระทืบลงที่เท้าของเขาอย่างแรง มือออกแรงผลัก ตอนวิ่งออกไป ฉีเซินรวบเธอเข้ามาในอ้อมแขน

ความกลัวปรากฏขึ้นในแววตาของฉืออี้เหิงชั่วขณะ อยากจะจับเวินจิ้งอีกครั้ง แต่ตอนนี้ก็ทำไม่ได้แล้ว ฉีเซินถีบเขาออกในคราวเดียว นำเวินจิ้งซ่อนไว้ด้านหลัง

“ฉีเซิน คุณโทรศัพท์เดี๋ยวนี้ คุณตกลงกับผมแล้วนะ” ฉืออี้เหิงรีบร้อน

ฉีเซินยิ้มเย็น “ใช่หรอ? เมื่อสักครู่ผมพูดอะไร?ผมลืมไปแล้ว”

“แก….ฉีเซิน แกมันกลับกลอก แกเชื่อไหมว่าฉันจะเปิดเผยความสัมพันธ์ของแกกับเวินจิ้ง” ฉืออี้เหิงชี้หน้าฉีเซินตัวสั่น

“ความสัมพันธ์ของผมกับเวินจิ้ง? คุณก็ไปเปิดเผยสิ” ฉีเซินไม่สนใจเขา โอบประคองเวินจิ้งเดินออกไป

เวินจิ้งอยากผลักเขาออก แต่แรงของฉีเซินเยอะเหลือเกิน เธอต่อต้านไม่ไหว

ด้านนอก นอกจากการ์ดของฉีเซินแล้วยังมีฉินเฟย

มองความใกล้ชิดของฉีเซินกับเวินจิ้ง เธอแอบกำมือแน่น ใบหน้ากลับมาเรียบนิ่ง เดินเข้ามาคง้าแขนของฉีเซินเอาไว้ “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ฉีเซินส่ายหน้า สั่งการ์ดจับฉืออี้เหิงเอาไว้

“เซิน คุณปล่อยเถอะ” เวินจิ้งยู่หัวคิ้ว

ฉีเซินยกยิ้ม คล้ายกับไม่สนใจฉินเฟยที่อยู่ด้านข้าง ตรงกันข้ามยิ่งขยับเข้าใกล้ใบหน้าสวยของเวินจิ้ง “เวินจิ้ง ผมช่วยคุณอีกแล้วนะ คุณว่า คุณจะตอบแทนผมยังไงดี?”

เวินจิ้งกระตุกมุมปาก เอ่ยเสียงต่ำ “จริงๆคุณไม่จำเป็นต้องยื่นมือเข้ามาช่วยก็ได้”

สิ่งที่เธอไม่ต้องการที่สุดคือเป็นหนี้บุญคุณฉีเซิน เมื่อสักครู่จึงไม่ต้องการให้เขาเข้ามายุ่ง

“ผมทำไม่ได้” ฉีเซินเชยปลายคางเธอขึ้น น้ำเสียงอบอุ่น

สายตาหนาวเหน็บของฉินเฟยถูกส่งมา เวินจิ้งตีหน้าขรึม ยกเข่าขึ้น ทำให้ฉีเซินจำเป็นต้องปล่อยมือ

“ฉีเซิน วันนี้เป็นวันนี้เป็นพิธีหมั้นของเรา” ฉินเฟยเอ่ยเตือน ควงแขนฉีเซิน น้ำเสียงนุ่มนวล

“อืม” ความรำคาญแวบผ่านเข้ามาในดวงตา ก่อนจะหมุนตัวกลับ สายตาจับจ้องที่ร่างเล็กของเวินจิ้ง

ใบหน้าเธอเรียบนิ่ง ไม่หันกลับไปมองเขาอีก

เดินออกมาจากตึก เวินจิ้งเจอคุณนายฉีหลินเวย ผมของเธอเกล้าม้วนงดงาม ชุดกี่เพ้าสีขาวขับให้เธอดูสง่างามยิ่งขึ้น แม้อายุจะเกินวัยกลางคนแต่ยังดูสุขภาพดี ท่าทางคล่องแคล่ว

“คุณนายฉี สวัสดีค่ะ ฉันคือเวินจิ้ง” เวินจิ้งเดินเข้าไปทัก

หลินเวยหันกลับมา มองเห็นเวินจิ้ง ส่งยิ้มอ่อนโยนให้ “เธอเป็นลูกสาวของอีอีใช่ไหม? รีบมานั่งข้างๆฉันเร็ว วันนี้ดูแลบกพร่องแล้ว”

“คุณนายคะ นี่เป็นของขวัญงานหมั้นของคุณชายที่แม่ฝากมาให้ค่ะ คุณได้โปรดรับไว้” เวินจิ้งยื่นกล่องของขวัญให้

หลินเวยยื่นส่งให้สาวใช้ ถามไถ่เวินจิ้ง “ผ่านไปแป๊บเดียวเธอก็โตขนาดนี้แล้ว ฉันยังจำได้ตอนเด็กยังไม่เต็มเดือนด้วยซ้ำ ตอนนั้นแม่เธอร้อนใจเชียว”

เวินจิ้งชะงัก ไม่คิดว่าเรื่องตอนนั้นหลินเวยจะรู้ ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์กับแม่มากทีเดียว

“ตอนแรกฉันกับอีอีอยากแนะนำเธอกับฉีเซินเจ้าเด็กคนนั้นให้รู้จัก ไม่คิดว่าเธอจะแต่งงานแล้ว เฮ้อ ฉันช้าไปแล้ว” จะว่าไป หลินเวยก็ชอบเวินจิ้งมาก

เวินจิ้งยิ้ม “คุณชายฉีก็มีความสุขของเขาเหมือนกันค่ะ”

หลินเวยถอนหายใจอย่างเสียดาย “เขากับฉินเฟยผูกพันกันด้วยผลประโยชน์ ฉันดูออกว่าเขาไม่เต็มใจ แต่สุดท้ายก็ยอมตอบตกลง ขนาดฉันยังแปลกใจ”

ตระกูลฉีไม่จำเป็นต้องใช้การสมรสมาเพิ่มอิทธิพลให้ตระกูลด้วยซ้ำ เพียงแต่อยากซื้อบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ตระกูลฉินจึงหยิบยกเรื่องการสมรสขึ้นมา ฉีเซินยังไม่แต่งงาน จึงยอมตอบตกลง

เวินจิ้งแปลกใจ นึกถึงคำพูดคลุมเครือของฉีเซินเมื่อสักครู่ ใบหน้าเคร่งขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

งานหมั้นใกล้จะเริ่มแล้ว ฉีเซินและฉินเฟยกำลังแลกแหวนหมั้น ประกาศวันแต่งจริงในปีหน้า

ฉินเฟยใบหน้าเอียงอายอยู่ในอ้อมกอดของฉีเซิน เขย่งปลายเท้า แต่ฉีเซินไม่ได้จูบเธอ พอจบงานเขาก็รีบออกไป

หลินเวยรีบเข้ามายี้ฉีเซินไว้ เธอโมโหเล็กน้อย “เดี๋ยวมีพิธียกเหล้า แกจะไปไหน”

“ยังมีเรื่องต้องจัดการ แม่ แม่ช่วยดูแลเวินจิ้งแทนผมหน่อย” สายตาฉีเซินมองไปยังเวินจิ้ง

เวินจิ้งหลบสายตา ใบหน้าเย็นชา

หลินเวยมองทั้งคู่สลับไปมา รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้น…ไม่ธรรมดา

นิสัยของฉีเซินเธอรู้ดีที่สุด แม้ภายนอกจะดูเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ความจริงยากนักที่เขาจะมองผู้หญิงคนอื่น แต่ตอนนี้เขาคอยจ้องมองเวินจิ้งตลอด

แม้กระทั่งระหว่างพิธีหมั้น ฉีเซินก็เอาแต่มองมาทางเธอ และด้านข้างของเธอก็คือเวินจิ้ง

“เวินจิ้ง หลังจากที่รู้จักฉีเซินแล้ว ได้ติดต่อกันบ้างไหม?” หลินเวยอดไม่ได้เอ่ยถาม

เวินจิ้งชะงัก สารภาพ “คุณฉีช่วยฉันจากอันตรายอยู่สองครั้งค่ะ ฉันรู้สึกขอบคุณเขามาก เท่านั้นเอง”

หลินเวยยิ้ม น้ำเสียงยังมีความสงสัยอยู่บ้าง “เด็กคนนี้ช่างมีน้ำใจจริงๆ”

ในตอนนั้นเอง ด้านนอกคฤหาสน์ รถยนต์สีดำคันใหญ่ค่อยๆหยุดลง

มู่วี่สิงนั่งอยู่ที่นั่งด้านหลัง เกาเชียนนั่งอยู่ด้านหนังกำลังรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

“ฉืออี้เหิงตอนนี้อยู่ในมือฉีเซินครับ”

มู่วี่สิ่งหรี่ตาลงอย่างมาดร้าย บรรยากาศรอบข้างเย็นยะเยือก

“เขาต้องการความช่วยเหลือจากฉีเซิน นอกจากว่าในมือจะมีแต้มต่อ แต่ว่า ฉีเซินแต่ไหนแต่ไรเป็นศัตรูผมมาตลอด แต่เขาไม่น่าพลาดที่จะยื่นมีเข้ามาช่วยฉืออี้เหิง”

“คุณมู่ครับ ในนี้มีประกาศใหม่ บริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปย้ายไปแอฟริกาจะสำเร็จแล้ว แต่หากตระกูลฉียื่นมือเข้ามาช่วย เกรงว่า…………”

โลกการเมือง สุดท้ายก็อยู่ภายใต้ตระกูลฉี

“หากฉีเซินทำไปโดยพลการ ผมไม่ถือสาให้เขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวดในคราวนั้น” มู่วี่สิงมุมปากยกขึ้น เพียงแค่เหน็บหนาวเป็นที่สุด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท