Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 157

ตอนที่ 157

บทที่ 157 คุ้นเคยกับทุกอย่างของเขา

ได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงเงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่เคยอ่อนโยนตอนนี้เย็นชา

“ทำไม เข้ามาหาเรื่อง?” มู่วี่สิงพิงพนักเก้าอี้ คิ้วคมบิดเบี้ยว ใบหน้าผ่อนคลายลงบ้างแล้ว

“ไม่ได้อยากหาเรื่อง” ลี่หนานเฉิงเอ่ยอย่างเป็นมิตร เห็นลู่หวั่นเข้ามา เขาจึงเอ่ย “น้องลู่หวั่นมีธุระก็พูดก่อนเลย”

ลู่หวั่นขมวดคิ้ว เธอแค่ได้ยินว่าวันนี้มู่วี่สิงอารมณ์ไม่ดีเลยขึ้นมาดู แต่ว่าลี่หนานเฉิงอยู่ด้วย เธอจึงไม่ได้ถามอะไรมาก

“ฉันพึ่งเข้ามาทำงาน ประธานมู่ คุณมีงานอะไรจะสั่งไหมคะ?” ลู่หวั่นเอ่ยถาม

มู่วี่สิงเงยหน้าขึ้น ให้เกาเชียนเข้ามาดูแลลู่หวั่น เธอจึงรีบออกไป

ลี่หนานเฉิงหรี่ตาคมเข้มลง มองลู่หวั่นเดินออกไป จึงหันมาหามู่วี่สิง

“ผมไปเจอภรรยาของคุณแล้ว บอกตามตรง เธอไม่เหมาะ” ลี่หนานเฉิงเอ่ยตรงๆ

ประโยคนี้ เสี้ยงหงก็เคยบอก พวกเขาโตมากับมู่วี่สิง เข้าใจตระกูลมู่เป็นอย่างดี นายหญิงของตระกูลมู่คนต่อไป จะต้องเป็นคนที่สวย ฉลาดและเป็นหนึ่งในล้าน

“ถ้าคุณจะมาโน้มน้าวผม ก็ไสหัวไปเถอะ” มู่วี่สิงเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ

ลี่หนานเฉิงลูบปลายคาง มองใบหน้าเกรี้ยวกราดของมู่วี่สิง อดไม่ได้เอ่ยถาม “วันนี้คุณทะเลาะกับเธอหรอ?”

“เกี่ยวอะไรกับคุณ?” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

“พี่ชาย แต่ว่าเวินจิ้งบุคลิกอ่อนโยน ที่แท้คุณก็ชอบแบบนี้….” ลี่หนานเฉิงนึกย้อนไปถึงท่าทางไม่ยินดียินร้ายของเวินจิ้ง แต่รู้สึกว่า บนตัวผู้หญิงคนนี้มีหนาม

หนามนี้ ไม่รู้เมื่อไหร่จะแทงมายังมู่วี่สิง

“คุณลี่ ดูเหมือนว่าช่วงนี้คุณจะว่างมาก ช่วงนี้แอฟริกาใต้มีโครงการหนึ่ง คุณไปดู…..”

“อย่า………ไม่ได้ไม่ได้ ผมจะไปทำงานตอนนี้เลย ผมไม่ไปไหน ตอนนี้ผมจะไปจากหนานเฉิงไม่ได้” ลี่หนานเฉิงเอ่ยอย่างขันแข็ง

มองลี่หนานเฉิงจากไป มู่วี่สิงค่อยๆหลับตา ปลายนิ้วกดแน่น

ชั่วครู่ เขาเรียกเกาเชียนเข้ามาพบ “อาทิตย์หน้าเตรียมเรียกประชุม คุณปู่จะมาร่วมด้วย คุณวางแผนดีๆ”

“ครับ ท่านประธาน”

ตอนนั้นเอง ลู่หวั่นเคาะประตูเดินเข้ามา “ท่านประธาน กาแฟนของคุณค่ะ น้ำตาลหนึ่งส่วน”

มู่วี่สิงพยักหน้า ไม่ได้มองเธออีก

ลู่หวั่นไม่เป็นธรรมชาติ ยังไม่ออกไป ราวกับมีอะไรจะพูด

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว แต่ลู่หวั่นเดินมาหยุดอยู่ข้างๆเขา ระยะห่างของทั้งคู่นั้นใกล้มาก

“วี่สิง ฉันรู้ว่าพวกคุณเตรียมจะวิจัยยาตัวใหม่ ฉันมีประสบการณ์ ฉันอยากขอรับผิดชอบโครงการนี้” ลู่หวั่นเอ่ยปาก

มู่วี่สิงมองเธอ โครงการนี้ตอนนี้กำลังเลือกคนรับผิดชอบ แต่ลู่หวั่นพึ่งจะเข้ามาทำงาน ดังนั้นไม่ได้อยู่ในขอบข่ายพิจารณา

แต่จากความสามารถของเธอ คงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดในตอนนี้

“อืม งั้นคุณก็ดูแล”

“วี่สิง ขอบคุณนะ”

“ลู่หวั่น คุณอยู่โรงพยาบาลก็ดีแล้ว ผมอยากจะเตือนคุณ หากไม่จำเป็นไม่ต้องมาที่มู่วื่อกรุ๊ป” มู่วี่สิงเอ่ยเสียงเข้ม

ลู่หวั่นที่งานที่ปรเทศ c มานานหลายปี การพัฒนาที่นั่นไม่เลว ถ้าเป็นเพราะลี่หนานเฉิงรบเร้าให้มา คงจะลำบากเปล่าๆ

แม้ว่าเธอจะยังคงได้ทำงานในด้านการแพทย์ แต่ว่า นี่คงเปลี่ยนเส้นทางอาชีพของลู่หวั่นไปเลย

“เป็นฉันที่อยากมาเอง วี่สิง ฉันจะไม่เปลี่ยนใจ” ลู่หวั่นบอกอย่างมั่นคง แววตามุ่งมั่น

เพียงแต่มู่วี่สิงไม่เคยสังเกตเห็น

ตอนเย็น ถึงเวลาเลิกงาน

หายากมากที่เวินจิ้งจะสามารถอยู่บริษัทจนถึงเวลาเลิกงาน อั้ยเถียนเดินเข้ามาผลักเธอ “ฉันจำได้ว่าฉันไม่ได้ให้งานเธอเยอะขนาดนั้นนะ”

“ฉันเต็มใจทำงานล่วงเวลา” เวินจิ้งยิ้ม

“ฉันว่าคุณคงรอคุณหมอมู่มารับมากกว่า” อั้ยเถียนท่าทางรู้ทัน

ได้ยิน “คุณหมอมู่” สามคำนี้ ใบหน้าของเวินจิ้งก็นิ่งลง คีย์บอร์ดถูกเธอกดเสียงดังจนอั้ยเถียนตกใจ

“จิ้งจิ้ง หรือว่าพวกคุณทะเลาะกันหรอ?” สีหน้าอั้ยเถียนเป็นห่วงเป็นใย

เวินจิ้งไม่ได้เอ่ยอะไร พยายามบังคับตัวเองให้ใส่ใจกับงาน

อั้ยเถียนถามไม่ออก แต่ก็ยังเป็นห่วงเวินจิ้ง จึงอยู่เป็นเพื่อนเธอ

จนถึงเวลาสามทุ่ม โทรศัพท์ของอั้ยเถียนดังขึ้นหลายครั้ง เธอไม่ได้รับ สุดท้ายจึงปิดเครื่องไป

ไม่นาน ร่างสูงใหญ่ก็เดินเข้ามา อั้ยเถียนตกใจรีบหาที่ซ่อน

ตอนเสี้ยงหงเดินเข้ามาจึงเห็นเพียงเวินจิ้ง ขมวดคิ้วอย่างไม่มั่นใจ เขาตรวจสอบแล้วว่าอั้ยเถียนยังไม่ลงชื่อ ดังนั้นเธอยังอยู่ที่บริษัท

“เวินจิ้ง คุณเห็นอั้ยเถียนไหม?” น้ำเสียงเสี้ยงหงติดร้อนรน

เวินจิ้งนิ่งไปพักหนึ่ง มองไปรอบๆ เมื่อกี้ก็เห็นอยู่ว่าอั้ยเถียนอยู่ข้างๆเธอ

เธอขมวดคิ้ว พลันนึกขึ้นได้ว่าอั้ยเถียนคงหลบเสี้ยงหงอีกแล้ว เธอส่ายหน้า “เหมือนเธอจะเลิกงานไปตั้งนานแล้วนะ”

“อืม” เสี้ยงหงตอบรับ หมุนตัวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว สายตากลับมองไปยังมุมหนึ่ง ดวงตาคมค่อยๆหรี่แคบ

เห็นเสี้ยงหงเดินออกไปแล้ว อั้ยเถียนรีบเดินออกมาจากห้องเก็บของ ผ่อนลมหายใจ “โชคดีโชคดี”

“คุณกับเสี้ยงหงช่วงนี้เป็นยังไง?” เวินจิ้งเอ่ยถามอย่างห่วงใย

แต่เดิมเสี้ยงหงกับอั้ยเถียนนั้นสนิทสนม ปกติบริษัทก็ไม่ได้เอ่ยถึงข่ายไม่ดีของทั้งคู่ เพียงแต่ทุกคนไม่ได้สังเกตก็เท่านั้น

แต่เวินจิ้งกับอั้ยเถียนเป็นเพื่อนกันมานาน จึงเป็นห่วงว่าอั้ยเถียนจะเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์

“ไม่ยังไง ยังไงซะ ปล่อยไปตามธรรมชาติเถอะ” อั้ยเถียนเอ่ยอย่างหงอยเหงา

เธอไม่ได้คาดหวังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ เพียงแค่เสี้ยงหงเข้าหาเธอ เธอก็ยอมจำนนแล้ว ยังไงก็ต่อด้านเขาไม่ไหว

“ดังนั้นเธอจึงยอมเล่นกับเขา?” น้ำเสียงของเวินจิ้งโกรธบ้าง

อั้ยเถียนนิ่งเงียบ

ตอนนั้นเอง ไม่คิดว่าเสี้ยงหงที่เดินออกไปแล้วจะวกกลับมา ความโศกเศร้าเสียใจของอั้ยเถียนยังไม่ทันได้ซ่อนจนมิด เสี้ยงหงก็คว้าข้อมือของเธอไว้”

“คุณเสี้ยง ให้เกียรติกันด้วย” อั้ยเถียนผลักไสเขา

เสี้ยงหงตอบรับในลำคอ ไม่ได้ใส่ใจกับการปฏิเสธของอั้ยเถียน “อั้ยเถียน ผมไม่อนุญาตให้คุณหลบหน้าผม”

“ฉันเปล่า ฉันจะทำงาน ไม่เห็นหรอว่าฉันยุ่งอยู่” อั้ยเถียนชี้ไปที่กองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ

เสี้ยงหงไม่หันไปมองด้วยซ้ำ คว้าเธอไว้จะพาเธอกลับไป เวินจิ้งใบหน้าเข้มขึ้น ขวางหน้าเสี้ยงหงเอาไว้ “คุณไม่เห็นว่าอั้ยเถียนกำลังยุ่งอยู่หรอ?”

“เธอจะยุ่งไม่ยุ่งมันเป็นคำสั่งของผม” ใบหน้าของเขาเย็นเยือก

“คุณเสี้ยง คุณปล่อยอั้ยเถียนก่อน เธอไม่ยินยอมไปกับคุณ”

“ใช่หรอ?” เสี้ยงหงมุมปากยกยิ้มหยอกล้อ ก้มลงมองอั้ยจิ้งที่พยายามผลักเขาออกด้วยแรงเล็กน้อย มือของเขากำแน่นขึ้น “อั้ยเถียน คุณมั่นใจว่าจะไม่กลับไปกับผม?”

อั้ยเถียนสบตากับดวงตาคมเข้ม ในใจนั้นขลาดกลัว สุดท้ายจึงยอม

“จิ้งจิ้ง คุณรีบกลับไปเถอะ ฉันมีธุระกับคุณเสี้ยงนิดหน่อย”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว แต่เป็นการตัดสินใจของอั้ยเถียน เธอจึงไม่ขวางทั้งคู่ไว้

เธอนั่งลง ไม่รู้ตัวเวลาก็ล่วงเลยไปจนเที่ยงคืนแล้ว เธอกดดูโทรศัพท์ ไม่มีสายจากมู่วี่สิง

ถ้าเป็นปกติ เขาคงเป็นฝ่ายโทรหาเธอ และมารับเธอตรงเวลา

แต่ตอนนี้ ไม่มีอะไรเลย

เธอเคยชินกับทุกอย่างที่เขาทำให้ ถึงขั้นหนักมากจริงๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท