Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 155

ตอนที่ 155

บทที่ 155 ยังมีบ้ากว่านี้อีก

“ผมไม่กล้าทำให้คุณชายลี่ต้องเสียเวลาหรอก ถึงยังไง คุณก็เป็นห่วงผมขนาดนี้ ผมคงไม่บีบคั้นคุณ หืม?” มู่วี่สิงยักคิ้ว ปากสวยยกยิ้ม

“หึ ถ้าคุณไม่ให้ผมอยู่ต่อ ผมก็จะไปบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป” ลี่หนานเฉิงตั้งใจเอ่ย

มู่วี่สิงคุ้นเคยกับเขามานาน รู้ว่าไม่ได้จริงจัง ตอนแรกลี่หนานเฉืงตั้งใจมาที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เหตุผลแรกคือมู่วี่สิง อีกเหตุผลคือพวกเขามีศัตรูคนเดียวกัน

“บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปตอนนี้ซื้อบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไปแล้ว ถือว่าร่วมมือกันเข้มแข็งมากขึ้น อำนาจของฉินเจิ้งในเมืองหนานเฉิงหลายปีมานี้ก็ถือว่าไม่น้อย ก้าวนี้ของฉีเซินถือว่ามั่นคง” พูดถึงเรื่องงาน มู่วี่สิงขมวดคิ้วอย่างหนาวเหน็บ

ในความคิดของเขา ฉืออี้เหิงอย่างน้อยคงไม่ล้มง่ายขนาดนั้น

“ถึงจะร่วมมือกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ก็ยังเทียบกับอำนาจของเราไม่ติด วี่สิง หลายปีแล้ว ผมทนไม่ไหวแล้ว” ลี่หนานเฉิงหรี่ตาลง

ทั้งสองคุยเรื่องงานกันอยู่สักพัก ลี่หนานเฉิงพึ่งจะกลับเมืองหนานเฉิงมาไม่นาน คืนนั้นนัดเพื่อนไปเที่ยวที่ร้านเหล้าต่ะ

“วี่สิง พาภรรยาของคุณไปด้วยกันไหม ผมอยากรู้รักเธอมาก” ลี่หนานเฉิงยกแก้วไวน์ หรี่ตาลงอย่างอดไม่ได้

ในเมื่อมู่วี่สิงแทบจะไม่เข้าใกล้ผู้หญิงด้วยซ้ำ ตอนนี้กลับแต่งงานสายฟ้าแลบ เขาจึงยังสงสัย

“เธอทำงานที่บริษัทการผลิตยาเทียนอี ถ้าอยากเจอ พรุ่งนี้ก็มาเข้าประชุม” ตอนนั้นเอง เสี้ยงหงก็เดินเข้ามา

“แล้ว เธอเป็นใคร?” เห็นว่ามู่วี่สิงไม่ได้เอ่ยอะไร ลี่หนานเฉิงจึงหันไปถามเสี้ยงหง

เสี้ยงหงเหลือบตามองมู่วี่สิง ยักคิ้ว “ไม่ได้อยู่ในวงก๊วนของเราหรอก”

“แล้วคุณปู่ก็ยอมรับแล้ว?” ลี่หนานเฉิงถาม

“คุณปู่ยอมรับ เขาพอใจมาก” มู่วี่สิงตอบ

“เสี้ยงหง งั้นพรุ่งนี้ฉันจะมาประชุม” ลี่หนานเฉิงยกแก้วไปทางเขา

มู่วี่สิงขมวดคิ้วหน้านิ่ง เปิดโทรศัพท์ขึ้นมา นี่ก็เกินเที่ยงคืนแล้ว

เธอคงจะนอนแล้ว

ตอนนั้นเองที่เกาเชียนเดินเข้ามา ก้มลงเอ่ยกระซิบมู่วี่สิง “ฉีเซินยื่นคำร้องต่อเบื้องบน ตอนนี้เทียนอวี่กรุ๊ปตอนนี้ไม่จำเป็นต้องย้ายไปแอฟริกาแล้ว”

มู่วี่สิงนิ่งสงบ ไม่ได้เปิดเผยอารมณ์ออกมามากนัก

แกว่งแก้วเหล้าไปมา น้ำสีแดงฉานราวกับสะท้อนดวงตาของเขา ความเยือกเย็นราวกับจะไหลทะลักออกมา

“เรื่องวันนี้สืบได้อะไรบ้าง?”

“ความจริงวันนี้ฉืออี้เหิงใช้คุณผู้หญิงมาข่มขู่ฉีเซินครับ หลังจากนั้นฉีเซินก็คุยกับฉืออี้เหิงอยู่สักพัก”

“ฉีเซินเกี่ยวข้องกับภรรยาของคุณด้วยหรอ?” ลี่หนานเฉิงเอ่ยเสียงเย็น

มู่วี่สิงใบหน้าเรียบนิ่งอยู่ตลอด ความโกรธแผ่ออกมาอย่างน่ากลัว

แก้วเหล้าในมือแทบแหลกละเอียดคามือ เขาเอ่ยอย่างเย็นชา “เวินจิ้งใสซื่อเกินไป ฉีเซินเข้าหาเธอ เธอคงไม่สังเกต”

“ผมสืบมาว่าความสัมพันธ์แม่ของเวินจิ้งกับคุณนายฉีก็ไม่ธรรมดา วี่สิง คุณระวังหน่อยก็ดี” เสี้ยงหงเอ่ยเตือน

ถ้าหากเวินจิ้งอยู่ฝั่งฉีเซิน งั้นเกรงว่ามู่วี่สิงก็ต้องระวังตัวมากยิ่งขึ้น

“เธอคือภรรยาของผม ผมเชื่อใจเธอ” มู่วี่สิงเอ่ยเสียงเข้ม

อยู่ต่ออีกไม่นาน มู่วี่สิงรีบกลับไป

ลี่หนานเฉิงขมวดคิ้ว เอ่ยอย่างไม่พอใจ “วี่สิง ผมพึ่งจะกลับมา คุณกลับมาเดี๋ยวนี้นะ พวกเราไม่เมาไม่กลับ”

มู่วี่สิงยังก้าวต่อไป แต่เพียงเดินออกมานอกห้องวีไอพี ลู่หวั่นก็เดินเข้ามา

เห็นว่ามู่วี่สิงกำลังจะไป ใบหน้าเธอแสดงออกถึงความน้อยใจ “วี่สิง ฉันพึ่งจะมา คุณอย่าพึ่งกลับเร็วแบบนี้สิ”

ใบหน้าของมู่วี่สิงไร้ความรู้สึก “ลู่หวั่น ภรรยาผมรอผมอยู่ที่บ้าน”

เอ่ยจบจึงสาวเท้ายาวก้าวเดินออกไป

ความผิดหวังก่อเกิดขึ้นในหัวใจลู่หวั่น เห็นเธอยืนอยู่หน้าประตู ลี่หนานเฉิงจึงเชิญเธอเข้ามา

“เรื่องการแต่งงานของเขาคุณรู้มานานแล้วหรอ?” ลี่หนานเฉิงเอ่ยถาม

ลู่หวั่นพยักหน้า “ไม่กี่เดินก่อนฉันไปทำงานนอกสถานที่ บังเอิญเจอวี่สิง เขากับเวินจิ้งอยู่ด้วยกันแล้ว”

“เขาบ้าไปแล้วจริงๆ มีแค่ผมที่ไม่รู้เรื่อง ดูเหมือนว่าผมจะจัดการผิดซะแล้ว” ลี่หนานเฉิงตบหน้าผากตัวเอง ถ้ารู้ว่ามู่วี่สิงแต่งงานแล้ว เขาคงไม่ให้ลู่หวั่นเข้ามาทำงานที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

หัวใจของลู่หวั่นมีแต่มู่วี่สิง แต่ถ้าตอนนี้จะยกเลิกคำสั่ง คงหักหน้าลู่หวั่นแล้ว

การ์เด้นมู่เจียวาน

เวินจิ้งอาบน้ำและมานอนลงบนเตียงตั้งนานแล้ว แต่พลิกไปพลิกมาก็นอนไม่หลับ

อยากโทรหามู่วี่สิง แต่พอนึกถึงใบหน้าเย็นชาของเขาเมื่อตอนกลางวันแล้ว จึงวางโทรศัพท์ลง

ด้านนอกมีเสียงเท้าที่คุ้นเคยกำลังเดินเข้ามา เวินจิ้งจำได้ เป็นมู่วี่สิง

เธอยกผ้าห่มคลุมหัว หันหลังให้ประตู

ตอนที่มู่วี่สิงกลับเข้ามา กลิ่นเหล้าบนตัวเขาก็ลอยมาด้วย เวินจิ้งขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

เมื่อกี้เขาไปดื่มเหล้า?

ผ้าห่มถูกดึงออกไป มู่วี่สิงเปิดไฟ ภายใต้แสงไปนุ่มนวล คิ้วคมของเขาขมวดขึ้น จ้องมองเวินจิ้งอยู่แบบนั้น ทว่าไม่เอ่ยอะไรออกมา

เวินจิ้งหลับตา แต่ขนตากลับขยับ เผยให้เห็นว่าเธอกำลังแกล้งหลับ

เสียงลมหายใจที่คุ้นเคยใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เวินจิ้งนึกว่ามู่วี่สิงจะจูบเธอ พลันรีบลืมตาขึ้น ใบหน้าระมัดระวัง

“คุณ….อยู่ห่างๆฉันหน่อย” เวินจิ้งยกมือ ผลักไหล่มู่วี่สิงเอาไว้

แต่มือใหญ่ได้รวบมือเล็กของเธอเอาไว้แล้ว การต่อต้านของเวินจิ้งนั้นไม่ได้ผล ถูกมู่วี่สิงกักไว้ใต้ลำตัวหนา

“อยู่ห่างฉันหน่อย? คุณนายมู่ เราต้องนอนด้วยกัน” น้ำเสียงทุ้มต่ำของชายยหนุ่มเอ่ยขึ้น

“คุณโกรธฉันอยู่ไม่ใช่หรอ? งั้นก็อย่าเข้ามาใกล้ฉันสิ” เวินจิ้งเอ่ยอย่างโมโห

เมื่อตอนเย็นเธอตั้งใจเตรียมกับข้าวให้เขาอย่างยากลำบาก แต่เขากลับออกไปดื่มเหล้า

มู่วี่สิงหรี่ตาแคบ จับยึดปลายคางของเวินจิ้งเอาไว้ เธอจะหลบสายตาเขาไม่ได้ “อืม ผมโกรธแล้ว แต่ผมโกรธตัวเอง ตอนที่คุณโดนฉืออี้เหิงทำร้าย คนที่อยู่เคียงข้างคุณกลับไม่ใช่ผม คนที่ช่วยคุณก็ไม่ใช่ผม”

เวินจิ้งนิ่ง ดังนั้น……มู่วี่สิงเลยรู้สึกผิดงั้นหรอ?

แต่เป็นธอที่ปฏิเสธไม่ให้เขาไปด้วย และเป็นเธอที่ไม่อยากออกงานกับเขาอย่างเปิดเผย

นี่…..นี่ไม่โทษเขา

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก มองเห็นสีหน้าเสียใจของมู่วี่สิง หัวใจเธอเจ็บปวด

เขาทำทุกอย่าง มันเกินข้อตกลงของเขากับเธอตั้งแต่แรก

“เวินจิ้ง ต่อไปผมจะกักคุณไว้ข้างๆผม ดีไหม?” ใบหน้าของมู่วี่สิงขยับเข้าใกล้ แนบชิดหน้าผากเวินจิ้ง คำพูดของเขาไหลเข้ามาในหู

มีฤทธิ์ร้ายแรงมากจริงๆ

แต่ว่า เวินจิ้งไม่ได้กีดกัน

ตอนนี้เธอกลับไปทำงานที่บริษัทการผลิตยาเทียนอีได้หนึ่งเดือนแล้ว แต่ไม่มีอะไรเทียบได้กับความคิดถึงในตอนที่มาทำงานกับมู่วี่สิง

ตอนทำงานก็คิดถึงเขา ตอนพักก็คิดถึงเขา เวลาไหนๆก็คิดถึงเขา

เธอ…บ้าไปแล้วจริงๆใช่ไหม

“คุณทำไมบ้าแบบนี้” มองมู่วี่สิง เธอผลักแผ่นออกของเขา แต่ว่า……ไม่ขยับ

ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก เสียงทุ้มต่ำ “อืม ยังมีบ้ากว่านี้อีก คุณนายมู่ ถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไร…..”

เวินจิ้งหัวใจเต้นกระหน่ำ ลมหายใจถูกมู่วี่สิงปล้นชิง เขากดเธอลงบนเตียงอย่างร้ายกาจ แนบชิด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท