Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 159

ตอนที่ 159

บทที่ 159 จะเป็นห่วงเขาไม่ได้แล้ว

“ไม่ว่าผลลัพธ์อะไร ฉันจะยอมรับมัน” เวินจิ้งเอ่ย

ได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงยิ้มเย็น ยืดตัวขึ้น รอบข้างเต็มไปด้วยกลิ่นอายของระยะห่าง

“ในเมื่อคุณนายมู่ยืนยัน งั้นผมจะคิดบัญชีให้ดี เพียงแค่คุณนายมู่จัดการบัญชีระหว่างเราสำเร็จ ผมก็จะปล่อยคุณให้เป็นอิสระ” เขาเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา

เอ่ยจบ หมู่วี่สิงไม่ได้อยู่ต่อ เสียงปิดประตูตามมาดังเข้ามาในหูเวินจิ้ง

เธอค่อยดึงสติกลับมา ห้องที่ว่างเปล่าเหลือเพียงแค่เธอคนเดียว เต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวจะหย่ากับมู่วี่สิงแล้ว เธอก็อยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว

ต่อไปเขาต้องอยู่ที่นี่กับผู้หญิงคนอื่น แค่คิด น้ำตาของเวินจิ้งก็ไหลออกมา

เธอม้วนตัว ความหนาวเหน็บวิ่งเข้ามา หนาวจังเลย………

เสื้อผ้าบนตัวค่อยๆแห้งเอง เธอรู้สึกร้อนมากเลย พลิกตัวไปมาอยู่บนโซฟา พลันรู้สึกเลือนราง

ลงจากตึก มู่วี่สิงนั่งอยู่ในรถ ช่องเก็บของมีซองบุหรี่ เป็นของลี่หนานเฉิง

เดิมทีเขาไม่สูบบุหรี่ แต่เวลานี้ มีเพียงนิโคตินที่จะช่วยให้เขาสงบลง

ภาพเก่าๆโผล่เข้ามาในหัว เขาอดไม่ได้นึกย้อนกลับไป ตอนนั้นเขาพึ่งหกขวบ

เป็นครั้งแรกที่ได้เจอเวินจิ้ง เธอพึ่งจะสามขวบ เธอสวชุดกระโปรงสีขาว เปียผมสองข้าง

“เด็กคนนี้ โตขนาดนี้แล้ว ยังคงร่าเริง ไม่งั้นก็ไม่มีใครรับเลี้ยงเธอแล้ว”

“เธอดูสิ ใครเข้ามาแค่ไม่นานก็มีคนรับไปแล้ว มีเธอที่อยู่นี่มาตั้งหลายปี”

ประธานเอ่บบอกกับเขาอย่างไม่ค่อยพอใจ มู่วี่สิงนั่งอยู่ที่มุมๆหนึ่ง ไม่มีเสียงใดๆ

แม้ว่าเขาจะเติบโตมาหน้าตาดี เพียงแต่เขาไม่พูด ไม่กว่าพูดออกมาไม่ดี ไม่มีใครอยากรับเลี้ยงเขา

ไม่ไกล เวินจิ้งกัดไอศกรีม มองมู่วี่สิงอย่างมึนงง

เธอเดินเข้าไปหา เอ่ยถามเขา “เธอไม่อยากไปจากที่นี่ใช่ไหม?”

มู่วี่สิงเชยตาขึ้น กัดริมฝีปากแน่น พยักหน้า

“แต่ว่า เธอจะอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตไม่ได้ ถ้าถูกรับไปเลี้ยง เธอก็จะได้เรียนหนังสือ เธอไม่อยากเรียนหนังสือหรอ?”

ได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงขมวดคิ้วมุ่น การเฝ้ารอปรากฏขึ้นในแววตา

เขาไม่โกหกเวินจิ้ง พยักหน้า

“งั้น ฉันจะถามพ่อว่ารับเธอไปด้วยได้ไหม แม่ว่าบ้านเราจะไม่ร่ำรวย แต่ว่า รับเลี้ยงเธอก็น่าจะได้”

พูดจบ เวินจิ้งคิดว่าจะพูดกับพ่อ คิดแล้วคิดอีก ก็ยื่นไอศกรีมที่กินไปแล้วครึ่งหนึ่งยื่นให้เขา “ฉันได้ยินว่าพวกเธอไม่มีเงินใช้ ปกติคงจะซื้อแบบี้มากินไม่ได้ใช่ไหม? มาสิ ลองชิมดู”

มองไอศกรีมที่กำลังละลายอยู่ตรงหน้า แถมยังเปื้อนน้ำลายของเวินจิ้ง แต่ในสายตาของมู่วี่สิง กลับดึงดูดใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้กินไอศกรีม เขาไม่ชอบของหวาน แต่กลับไม่รังเกียจไอศกรีมอันนี้

พลันต้องลืมตา มู่วี่สิงดีดบุหรี่ในมือดับ เปิดประตูลงรถ

เดินกลับเข้าไปในบ้าน ภายใต้แสงไปอบอุ่น ภาพที่เข้าสู่สายตาคือร่างผอมบางที่ม้วนตัวอยู่บนโซฟา เธอกำเสื้อตัวเองแน่น เผยให้เห็นผิวขาวผ่อง

เขาขมวดคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเร่งรีบ แตะมือลงบนใบหน้าหนองเวินจิ้ง ร้อนมาก

มู่วี่สิงรีบอุ้มเธอขึ้น เท้าถีบประตูห้องนอนเปิดออก วางเธอลงบนเตียง หาแผ่นแปะและยาลดไข้

เห็นเวินจิ้งดึงรั้งเสื้อเธอเอาไว้ตลอด เขาค่อยๆช่วยเธอเปลี่ยน ผิวของเวิ้นจิ้งขึ้นสีแดง อยู่ในสายตาของเขา เป็นยาปลุกอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

เขาควบคุมอารมณ์รุนแรงนั้น ไม่นานก็ช่วยเธอเปลี่ยนใส่ชุดนอนด้สำเร็จ กอดร่างกายที่โอนอ่อนนั่นไว้ เขากดจูบลงริมฝีปากสวยเบาๆ

ร่างกายร้อนผ่าวทำให้เขาต้องอดใจ เขาหยิบยาบรรเทาอาการหวัดป้อนเธอสองเม็ด แต่เธอปฏิเสธมัน เอ่ยพึมพำ “อื้อ……มู่วี่สิง คุณอย่าแตะต้องฉัน ไม่ให้จูบฉัน….ได้ยินไหม?”

มู่วี่สิงหน้านิ่งขรึม ความโกรธที่เก็บไว้แทบจะระเบิดออกมา เขาเป็นสามีเธอนะ ไม่แตะต้องเธอจะให้แตะต้องใคร?

บีบคางของเธอ มู่วี่สิงผลักยาเข้าไปในปากเธอ ดื่มน้ำเข้าปากตัวเอง จูบปากเวินจิ้งแล้วปล่อยน้ำลงไปให้เธอ

เธอสำลัก แต่ได้กลืนยาลงไปแล้ว แต่เธอสำลักจนหน้าแดง สักพักจึงลืมตาขึ้น

มองใบหน้าหล่อเหลาของมู่วี่สิง ตอนนี้ในสายตาของเธอกลับเป็นเพียงความระยำ

ผู้ชายคนนี้ทำไมจูบเธอได้ไม่เลือกเวลา

“คุณ……..” เธออ้ำอึ้ง มือไร้เรี่ยวแรงอยากจะผลักเขา แต่ราวกับกำลังกอดเขาไว้

มู่วี่สิงรู้สึกเพียงว่ามือเล็กตรงหน้าอกนั้นกระตุ้นเขา เขาจับเอาไว้แน่น ร่างใหย่นอนลงมา ชั่วพริบตาก็กอดเธอไว้ในอ้อมแขน

“ไม่ให้แตะต้องคุณ? ฆืม? คุณนายมู่ บอกผมสิ คุณอยากให้ใครแตะต้อง?” สายตาของเขาเยือกเย็น จับข้อมือเธอเอาไว้แน่น ริมฝีปากคลอเคลียชิดใบหูเล็ก น้ำเสียงทุ้มต่ำอันตราย

การรับรู้ของเวินจิ้งพลันตื่นตัว จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้า เธอเอ่ยอย่างไม่กลัวตาย “ยังไง….ก็ไม่ใช่คุณ”

เอ่ยจบ มือของมู่วี่สิงพลันกำแน่น เวินจิ้งรู้สึกว่าร่างกายของเธอเย็นขึ้นมา ชุดนอนที่พึ่งถูกเปลี่ยนถูกมู่วี่สิงฉีกทึ้งจนขาด

ดวงตาเธอเบิกกว้าง มู่วี่สิงขยับเข้ามาใกล้อีกครั้ง ดวงตาคมหรี่แคบ “ไม่ใช่ผม? งั้นผมจะทำให้คุณรู้ว่า สุดท้ายใช่ไม่ใช่ผม”

เอ่ยจบ การกระทำของเขาเปลี่ยนเป็นเหี้ยมโหด

“ไม่….มู่วี่สิง คุณปล่อยฉันนะ ฉันไม่สบาย…..อื้อ ทรมานจัง….” เวินจิ้งใบหน้าบิดเบี้ยว มู่วี่สิงทำให้อุณหภูมิเธอสูงขึ้นรู้สึกไม่สบายตัวไปทั่วทั้งร่าง

ได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มหยุดชะงัก หยุดมือของตัวเองเอาไว้ แต่ยังกักกดอยู่บนตัวเธอ ไม่ยอมห่างไปไหน

เขาสูดหายใจลึก ขยับพิงพนักเตียง ออกห่างจากเวินจิ้ง

เวินจิ้งผ่อนลมหายใจ อยากหนีไปจากที่นี่ แต่ร่างกายไร้เรี่ยวแรง เพียงลงจากเตียงร่างทั้งร่างก้ดงนเงน

อีกทั้ง ชุดนอนบนตัวเธอก็ถูกฉีกออกจนหมดแล้ว ตอนนี้ร่างที่เปิดเผยสู่สายตาม

วี่สิงนั้น ขาวสะอาด แดงระเรื่อ งดงาม

อารมณ์ที่สะกดกั้นอย่างยากลำบากเมื่อสักครู่ปะทุขึ้นมาอีกรอบ มู่วี่สิงหรี่ตา เดินเข้าไป หยิบชุดนอนชุดใหม่ให้เธอสวม

เวินจิ้งปฏิเสธการเข้าใก้ของเขา แต่มู่วี่สิงแรงเยอะ ไม่ต้องออกแรงก็สามารถสวมจนแล้วเสร็จ สายตาคมเข้มค่อยๆชัดขึ้น

พอเสรฝ้จเรียบร้อย เขาจึงช่วยเธอติดแผ่นแปะลดไข้แผ่นใหม่ จึงเดินเข้าห้องน้ำไป

เวินจิ้งเฉื่อยชา คนบางคนเห็นได้ชัดว่ากำลังโกรธ แต่ก็ยังดูแลเธอแบบนี้ หัวใจพลันอบอุ่นขึ้นมา

แต่พอคิดถึงท่าทางของเขาเมื่อสักครู่ ก็น่านิ่งอีกครั้ง อยากจะดึงชุดนอนที่เขาสวมให้ออกจากตัว

แต่ว่าร่างกายไม่สบายจริงๆ เวินจิ้งก็ไม่อยากทำให้ตัวเองลำบาก หลบอยู่บนเตียง เธอได้ยินเสียงน้ำดังออกมาจากในห้องน้ำ ดุเหมือนมู่วี่สิงจะอาบน้ำนานไปหรือเปล่า?

เธอขมวดคิ้ว สั่งให้ตัวเองห้ามไปเป็นห่วงเขา

ปิดตาลง อาจจะเพราะยาลดไข้ออกฤทธิ์แล้ว ไม่นานเวินจิ้งก็หลับไป

ตอนที่มู่วี่สิงเดินออกมา ภาพแรกที่เข้าสู่สายตาคือเวินจิ้งที่นอนหลับเงียบสงบ เขาเดินเข้าไปจัดผ้าห่มคลุมให้เธอดีๆ กลับได้ยินเสียงพึมพำของเธอ “มู่วี่สิง คุณทำแบบนี้ได้ยังไง…….ฉันไม่รู้จะปฏิเสธคุณยังไงแล้ว……….”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท