Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 158

ตอนที่ 158

บทที่ 158 เราหย่ากันเถอะ

บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

มู่วี่สิงออกจากห้องทำงาน ด้านนอก ลู่หวั่นยังมากลับ

เห็นมู่วี่สิงเดินออกมา เธอเดินเข้าไปหา “ท่านประธาน ข้างนอกฝนตกหนัก คุณจะรอให้ฝนหยุดก่อนไปค่อยออกไป เมื่อสักครู่ฉันสั่งอาหารรอบดึกให้คุณแล้ว”

เอ่ยจบ เคาท์เตอร์ก็เอาข้าวยกเข้ามา

มู่วี่สิงหยุดเท้าลง เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ส่ายหัว “ไม่ล่ะ ผมจะกลับบ้าน คุณก็รีบกลับไปเถอะ”

ความผิดหวังผ่านเข้ามาในสายตาของลู่หวั่น ไม่นาน เธอจึงเอ่ยเบาๆ “วันนี้ฉันไม่ได้เอาร่มมา ไม่ได้เอารถมาด้วย คงยังกลับไม่ได้”

“เดี๋ยวผมไปส่งคุณก่อน” มู่วี่สิงบอกเสียงเรียบ

ลู่หวั่นรีบเดินตามไป กำลังจะเข้าไปนั่งข้างคนขับ ทว่าโดนมู่วี่สิงปฏิเสธ

“ตรงนี้เป็นที่ของคุณนายมู่”

“วี่สิง คุณนับวันยิ่งแบ่งแยกฐานะกับฉันแล้วหรอ” ลู่หวั่นอารมณ์ขุ่นมัว

เธอรู้จักมู่วี่สิงมานานหลายปี แม้ว่าแต่ก่อนจะไม่ได้สนิทสนมกับเขา แต่ก็ไม่มีระยะห่างแบบนี้

“ลู่หวั่น คุณเป็นเพื่อนร่วมชั้นของผม และเป็นคนที่ผมชื่นชม แต่มัน ก็เพียงเท่านั้น” น้ำเสียงของเขาเย็นชา

ลู่หวั่นมองออกไปนอกหน้าต่าง ม่านหมอกในตาหนาขึ้นเรื่อยๆ ไม่นาน เธอก็มองเห็นบริษัทการผลิตยาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

เวินจิ้งพึ่งจะเดินออกมา กำลังจะเรียกรถกลับไป แต่รถในวันที่ฝนตกนั้นน้อยมาก เธอยืนตัวเปียกอยู่ริมถนน ก็ยังไม่ได้ขึ้นรถ

รถยนต์ไมบัคสีดำจอดลงด้านข้างช้าๆ เวินจิ้งตกใจ มองออกทันใดว่าเป็นรถของมู่วี่สิง

เขามาได้ยังไง?

เธอนึกว่าเขากลับบ้านไปนานแล้ว

เวินจิ้งยืนอยู่ข้างถนน ก้าวถอยหลังไปกี่ก้าวไม่ได้ขึ้นรถ

กั้นไว้เพียงหน้าต่างรถ ดวงตาคมเย็นเยือก บีบแตรรถ

เวินจิ้งยังคงไม่ขยับ มองไปยังด้านหลังว่ามีรถมาหรือไม่

แต่เสียงแตรรถดังขึ้นข้างหู เวินจิ้งจ้องเขม็งไปที่มู่วี่สิงอย่างโกรธจัด เขากดกระจกลง น้ำเสียงเย็นชา “ขึ้นรถ”

น้ำเสียงเย็นชาออกคำสั่งทำให้เวินจิ้งไม่พอใจ แต่ร่างกายที่เปียกปอนก็ไม่สบายตัว เธอไม่ทำให้ตัวเองลำบากจะดีกว่า

เธอไม่ได้นั่งข้างคนขับแต่กลับเปิดประตูด้านหลัง

มองเห็นลู่หวั่น ชะงักนิ่งอีกครั้ง

เธอไม่แสดงท่าทีใดๆ เพียงนั่งลงไปมู่วี่สิงก็โยนผ้ามาให้เธอหนึ่งผืน “เช็ดให้แห้ง”

เวินจิ้งตีหน้าขรึม มองออกไปนอกหน้าต่างเงียบๆ

ลู่หวั่นเห็นทั้งคู่ไม่คุยกันแม้แต่ประโยคเดียว มุมปากค่อยๆยกยิ้ม เธอเอ่ยถามเวินจิ้ง “คุณนายมู่ปกติงานยุ่งหรอคะ?”

เวินจิ้งค่อยหันหน้ากลับมา “ไม่เท่าไหร่ ไม่ค่อยทำงานล่วงเวลา”

“งั้นก็ดีค่ะ ช่วงนี้วี่สิงงานเยอะ คุณต้องดูแลเขามากๆ” ลู่หวั่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความเผด็จการ

เวินจิ้งนั้นฟังออก มองใบหน้าสวยของลู่หวั่น เธอแต่งหน้าเก่ง มีเสน่ห์ ดูมีสกุล

คงจะเติบโตจากตระกูลร่ำรวยสินะ

เธอขมวดคิ้ว “ฉันคิดว่าข้างกายท่านประธานคงไม่ขาดคนดูแล”

ได้ยินดังนั้น รถยนต์คันหรูพลันต้องเบรคกระทันหัน หญิงสาวสองคนด้านหลังไม่ทันระวังตัวจึงตกใจ มู่วี่สิงจึงเอ่ยบอกเสียงเรียบ “ขอโทษด้วย พอดีไม่ทันมองไฟแดง”

เวินจิ้ง………

เธอจ้องมู่วี่สิงเขม็ง ผู้ชายคนนี้ตั้งใจใช่ไหม

ลู่หวั่นก็ตกใจจนใบหน้าซีดขาว ขยับพิงประตู ไม่กล้าเอ่ยอะไรอีก

ไม่นานลู่หวั่นก็ลงรถ แต่กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆของเธอยังกระจายทั่วรถ เวิ้นจิ้งขมวดคิ้วไม่พอใจ จนกระทั่งกลับไปถึงการ์เด้นมู่เจียวานก็ตีหน้านิ่งมาตลอดทาง

ลงจากรถ ความเงียบครอบคลุม เวินจิ้งอดไม่ได้จามออกมา

เสื้อผ้าบนตัวเปียกชื้น แถมยังใส่เสื้อสีขาว ตอนนี้สามารถมองเห็นสีดำด้านในอย่างชัดเจน ยั่วยวนได้เป็นอย่างดี

เวินจิ้งตั้งใจยกสองแขนขึ้นมาปิดบัง แต่ตอนที่มู่วี่สิงเดินเข้ามา อยู่ในมุมที่สูง ไม่มีอะไรชัดได้มากกว่านี้แล้ว

เขาหรี่ตาลง มุมปากยกยิ้มขึ้น “อยากปกปิดแต่ยิ่งเปิดเผย?”

เวินจิ้งหน้าแดงก่ำ เขาเห็นหน้าอกเธอตลอด

เธอโกรธเดินนำหน้าเขา แต่มู่วี่สิงขายาว ไม่นานก็ตามมาทัน

แขนยาวโอบมา พาร่างเธอเข้าสู่อ้อมกอดของเขา ไม่นานก็อุ่นขึ้นมาเยอะทีเดียว

นึกถึงเมื่อสักครู่ที่ลู่หวั่นนั่งอยู่ในรถ เธออดไม่ได้เอ่ยถาม “เมื่อตอนเย็นคุณอยู่กับคุณลู่หรอ?”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว “คุณสนใจด้วยหรอ?”

สนใจไหม?

เวินจิ้งไม่ตอบ แน่นอนว่าสนใจ สนใจตายเลย!

แต่เธอไม่มีทางยอมรับต่อหน้ามู่วี่สิงแน่นอน “ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน”

เธอเอ่ยจบ ปลายคางก้ถูกมู่วี่สิงจับยึดไว้แน่น เขาเกือบจะบังคับขู่เข็ญเวินจิ้งเข้ากับลิฟท์ ดวงตาคมอันตราย “คุณนายมู่ สนใจไหม?”

เขาถามใหม่อีกครั้ง คล้ายกับถ้าไม่ได้คำตอบที่ต้องการเขาจะไม่ยอมปล่อย

เวินจิ้งถูกความเยือกเย็นของเขาทำให้ตกใจกลัว เธอสั่นระริก ยังคงส่ายหน้า

มู่วี่สิงจูบเธอด้วยแรงอารมณ์ เวินจิ้งเบิกตากว้าง ไม่มีทางหลบเลี่ยง

เธอทุบแผ่นอกหนาของมู่วี่สิง ไม่ก็ไร้ประโยชน์ จูบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอเบิกตากว้างขึ้นทันที กัดเขาแรงๆ

เลือดกระจายไปทั่ว มู่วี่สิงหรี่ตาแคบ บีบหน้าเล็กของเธอ สายตาต่อต้านของเธอชัดเจน

หายใจเข้าลึก เขากดอารมณ์โกรธของตัวเอง

เวินจิ้งผลักเขาออกทันใด ในตอนที่ประตูลิฟท์เปิดออก จึงรับวิ่งออกไป

เมื่อสักครู่ เธอตัดสินใจชัดเจนแล้วหนึ่งเรื่อง

มู่วี่สิงเดินเข้าประตูมาก็เห็นเธอกำลังถอดแหวนแต่งงานออก เธอยืนอยู่ตรงหน้าเขา สูดหายใจเข้าลึก “มู่วี่สิง เราหย่ากันเถอะเ”

เราหย่ากันเถอะ

เดิมทีใบหน้าของมู่วี่สิงก็เยือกเย็นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กลับทะมึนทึงขึ้น แผ่กระจายไอร้ายกาจออกมาทั่วตัว เวินจิ้งรีบก้าวถอยหลัง

ใบหน้าของเขาน่ากลัว ดวงตาสีดำเต็มไปด้วยความโกรธ ก้าวเข้ามาหาเธอช้าๆ สุดท้าย ร่างของเวินจิ้งก็ต้องล้มลงบนโซฟา

มู่วี่สิงขยับเข้าใกล้เรื่อยๆ ลำตัวแนบชิด

“เวินจิ้ง คุณอยากหย่าหรอ? หืม?” น้ำเสียงของเขาสงบอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับแทงลึกเข้ากระดูก

เวินจิ้งถูกมู่วี่สิงในโมดนี้ทำให้ตกใจกลัว แม้บางครั้งเวลาเขาโกรธเขาจะดูน่ากลัว แต่ก็ไม่เคยน่ากลัวมากเท่าครั้งนี้ ทำให้เธอรู้สึกว่าอีกสักพักเขาคงจะฆ่าเธอให้ตาย

เธอกลัวมู่วี่สิงที่เป็นแบบนี้ แต่เธอตัดสินใจแล้ว เธอไม่อยากถลำลึกไปมากกว่านี้

“ใช่ มู่วี่สิง ตอนแรกเราก็คุยกันแล้ว การแต่งงานครั้งนี้จะยกเลิกเมื่อไม่ต้องการแล้ว ตอนนี้ ฉันไม่ต้องการคุณแล้ว” เวินจิ้งน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว

เอ่ยจบประโยค หัวใจเธอก็แตกละเอียด

ดวงตาปิดไม่มิดถึงหมอกขาวปกคลุม เธอสูดหายใจเข้าลึก หักห้ามน้ำตาต่อหน้ามู่วี่สิง

เธอไม่กล้ามองเขา

ทว่ามู่วี่สิงไม่ยอมปล่อยสายตาจากใบหน้าสวย มุมปากยกยิ้มเย้ยหยัน “คุณอยากหย่า คุณมั่นใจว่าคุณจะรับผลที่ตามได้? หืม?”

เวินจิ้งนิ่ง ผลลัพธ์?

เธออดไม่ได้เงยหน้าขึ้น ใบหน้าของมู่วี่สิงเยือกเย็น ไร้ความรู้สึก

ต่อหน้าเธอเขาอบอุ่นอ่อนโยนมาตลอด เขาตอนนี้ ทำให้เวินจิ้งรู้สึกกลัว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท