Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 169

ตอนที่ 169

บทที่ 169 ผลักเธอให้กับคนอื่น

แม้ภายนอกฉีซานจะดูเหมือนเพลย์บอย ไม่ทำอะไร แต่เขาเป็นคนควบคุม และดูแลบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป มั่นใจกับสถานการณ์การวางแผนต่างต่าง

ผู้ชายคนนี้ ดูมีอะไรซ่อนไว้เยอะ และไม่สามารถให้คนอื่นคาดเดามากเกินไป กับคนแบบนี้ เวินจิ้งก็จะอยู่ห่างมากขึ้น

“ รำคาญแล้วหรอ รู้สึกอึดอัด ? “ ฉีซานเห็นท่าทางที่เบื่อหน่ายของเธอ แต่เขาหยักยิ้ม และ อารมณ์ดี

เวินจิ้งจ้องเขา ถอยออกมาครึ่งก้าว “ ประธานฉี จะคุยเรื่องงาน ไม่กลัวว่าฉันจะฟังความลับทางการค้าหรอ ? “

ฉีซานดูยิ้มมากขึ้น “ ถ้าเธอฟังรู้เรื่อง ฉันคงจะเสียเงินมากมาย ขุดเธอมาบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป “

เวินจิ้งมองบน ไม่สนใจฉีซานอีก เขาโดนคนอื่นรั้งไว้สนทนาต่อ ไม่ได้ตามมาต่อ

มองไปรอบ ไม่เห็นมู่วี่สิงกับลู่หวั่น มู่เฉิงก็กำลังสนทนากับผู้ถือหุ้นไม่กี่คนของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป คืนนี้เธอก็คิดว่าจะไม่มาอยู่แล้ว ไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับเธอแล้ว เธอก็จะกลับแล้ว

แต่ทางเข้าดูเป็นจุดสนใจมากเกินไป เธอจึงเดินไปประตูที่อยู่อีกฝั่ง

ชั้นสอง ลู่หวั่นเห็นเวินจิ้ง สายตาค่อยค่อยหยี่ขึ้น แก้วไวน์บนมือเธอเหมือนจะโดนเธอบีบให้แตก

เธอเรียกบริกรมา “ ประตูข้างทางนั้นมีบันไดนิรภัย ประตูทั้งหน้าทั้งหลัง ก็ล๊อคให้หมด “

“ ค่ะ คุณลู่ “

คิ้วประณีตของเธอค่อยค่อยขมวดขึ้น หันหลัง มองมู่วี่สิงที่กำลังคุยกับแขก จากไม่ไกล เดินไปหาเขาด้วยความยิ้ม

เวินจิ้งมองบันไดทางออก ไฟที่สว่างก็ไม่ได้ทำให้กลัวนัก รองเท้าแตะเหยียบบนพื้นแล้วไม่มีเสียง เพราะฉะนั้นเธอสามารถได้ยินเสียงประตูหลังเธอที่โดนปิด และเสียงที่ล๊อคประตู

เธอเพิ่มความเร็วในการเดิน แทบจะวิ่งลงไป ประตูบานนั้น ก็ค่อยค่อยโดนล๊อคต่อหน้าเธอแล้ว

สักพัก ไฟก็ค่อยค่อยอ่อนลง สุดท้าย บันไดนี้ก็กลายเป็นความมืดทันที

ใจเวินจิ้งสั่นทันที ใช้แรงเคาะประตู “ มีคนไหม ! เปิดประตูให้ฉัน ….. “

แต่ที่ตอบรับเธอเป็นเพียงเสียงสะท้อนของเธอ

ตั้งแต่ที่เธอเข้ามา ประตูที่อยู่หลังเธอก็รีบโดนล๊อคทันที และตอนลงมา ประตูก็พึ่งล๊อคได้ไม่นาน เพราะฉะนั้น…… มีคนตั้งใจทำแบบนี้ ?

ใคร ?

ในงานเลี้ยงนี้ เธอก็ไม่ได้สูงส่งอยู่แล้ว รู้ว่าเธอมางาน ก็มีแค่คนรู้จักไม่กี่คน อีกอย่างสถานะเธอก็ไม่เคยโดนเปิดเผย มีแค่คนส่วนน้อยที่รู้ว่าเธอคือ คุณนายมู่

คนที่ตั้งใจทำแบบนี้ …… ฉีซาน?

เธอรีบส่ายหัว เขาไม่จำเป็นต้องล๊อคเธอไว้ หรือว่าเพื่อที่จะไม่ให้เธอเจอมู่วี่สิง ?

เวินจิ้งคิด แต่สุดท้ายก็คือการคาดเดา ตอนนี้ที่สำคัญที่สุด คือต้องไปออกจากตรงนี้

ค้นมือถือในกระเป๋า แต่ที่ทำให้เธอผิดหวังคือ มือถือเธอไม่มีแบตเตอรี่ตั้งนานแล้ว

ออกมาจากบริษัทก็ดึกมาก จะกลับบ้านโดยตรง จึงไม่คิดจะชาร์จแบตมือถือ

สีหน้าเวินจิ้งค่อยค่อยซีดลง เธอได้แค่รออยู่ที่บันได

ถ้างานเลี้ยงจบ คนที่อยู่เบื้องหลังคนนั้นก็คงจะปล่อยเธอออกมา

แม้จะคิดแบบนี้ แต่เวินจิ้งก็ไม่มีความหวัง ……

……

งานเลี้ยงนี้ ลุงของลู่หวั่นก็มางานเองโดยตรง ลู่หวั่นเป็นตระกูลขุนนางตั้งนานแล้วที่ ประเทศB ไม่มีที่เปรียบเทียบกับตระกูลมู่ แต่หลายปีนี้ไม่มีใครที่มีความสามารถพอที่จะดูแลควบคุม อำนาจจึงค่อยค่อยลดลง

ที่ลู่เจ๋อพึ่งพาได้ตอนนี้ ก็มีแค่ลู่หวั่น ลู่หวั่นไม่สนิทกับเขา อีกอย่างเธอสนิทกับตระกูลมู่มากกว่า ลู่เจ๋อก็มีความคิดที่อยากให้เธอได้สมรสกับคนในตระกูลมู่อยู่แล้ว คืนนี้ ก็จะตัดสินใจ และจะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จ

เห็นลู่เจ๋อก็มาแล้ว ลู่หวั่นยังคงกลัว ไม่หยุดที่จะดึงแขนมู่วี่สิงอย่างแน่น

“ วี่สิง ลุงฉัน …. “

สีหน้ามู่วี่สืงดูเฉยชา จะเดินไป ลู่หวั่นรีบดึงเขาไว้ “ วี่สิง อย่าไป …… เขาเป็นโรคจิต …… “

“ ไว้ใจเถอะ อยู่ที่นี่เขาไม่กล้าทำอะไรหรอก เธออยากจะกำจัดเขาออกจากชีวิตเธอไม่ใช่หรอ ? คืนนี้ฉันจะช่วยเธอ “ ริมฝีปากมู่วี่สิงมีความเย็นชาสุดขีด

ได้ยินแล้ว สายตาลู่หวั่นก็มีความดีใจขึ้นมา ถ้าให้เขาออกจากเธอได้จริง เธอก็จะไม่ต้องกลัวอีกต่อไป

“ประธานมู่ ยินดีกับคุณได้เข้าตำแหน่งประธานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ยัยเด็กนี่ ฉันยังคิดว่าคุณจะเข้ามาแพทย์ตลอด แต่กลับคิดไม่ถึง ไม่นานก็กลายเป็นผู้ดูแลบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไปแล้ว “ ลู่เจ๋อ พูดอย่างเชิงแขก สายตากลับจ้องไปที่ลู่หวั่นตลอด

เธอก้มหัวลง อยู่ข้างมู่วี่สิงอย่างเชื่อฟังและสงบ

สายตาลู่เจ๋อ มีความโกรธในพริบตาเดียว

“ เรื่องมันคาดการณ์ไม่ได้ แต่คุณลู่ มาเองกับตัว ดูท่าแล้ว มีเรื่องสำคัญอะไร ? “ มู่วี่สิงหยี่ตาขึ้น ก็มองใจลู่เจ๋อ ออกแล้ว

ตระกูล่ลู่ตอนนี้คนน้อยมากขึ้น ตั้งแต่ที่พ่อของลู่หวั่นจากไปลู่เจ๋อก็ขึ้นตำแหน่งประธานบริษัทลู่ซื่อ แต่แค่เขาไม่ถนัดจัดการ แล้วชอบพนันติดเป็นนิสัย บริษัทลู่ซื่อ ตอนนี้ก็กลายเป็นความยุ่งเหยิงหมด

“ เรื่องของฉันตอนนี้ ก็คงเป็นหวั่นหวั่น เด็กนี้แล้ว เธออาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลมู่มาตั้งแต่เด็ก มีความสัมพันธ์ดีกับคุณ ประธานมู่ คุณจะแต่งงานกับหวั่นหวั่นได้เมื่อไหร่ ? “ เสียงลู่เจ๋อไม่ดัง แต่แขกที่อยู่รอบก็ได้ยินแล้ว สายตาที่หยุดอยู่กับลู่หวั่นมีความลึกซึ้งเล็กน้อย

ตอนนี้ข้างนอกก็ลือกันแล้วว่ามู่วี่สิงแต่งงานแล้ว แต่แค่คุณนายมู่คนนั้น คืนนี้จนถึงตอนนี้ก็ไม่เห็นหน้า ข่าวลือนี้จึงคิดว่าเป็นข่าวปลอมหมด

แต่ตอนนี้ คนในตระกูลลู่ก็เสนอข้อตกลงแบบนี้ออกมา หรือว่าลู่หวั่นคือคุณนายมู่ ในอนาคต?

แต่ลู่หวั่นกลับคิดไม่ถึง ลู่เจ๋ออยู่ดีดีก็เสนอข้อตกลงแบบนี้มา ไม่เหมาะกับนิสัยปกติของเขาเลย

ที่ผ่านมาลู่เจ๋อ ก็โลภลู่หวั่นมาตลอด และไม่อยากให้เธอได้แต่งงาน

แต่เพราะความลำบากของ บริษัทลู่ซื่อ ตอนนี้ ลู่หวั่นก็เข้าใจขึ้นมาทันที

สีหน้ามู่วี่สิงไม่เปลี่ยน พูดด้วยเสียงเย็นชา “ คุณลู่ คงจะไม่รู้ ครึ่งปีก่อนฉันก็แต่งงานแล้ว จะแต่งงานกับลู่หวั่นคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน แต่ฉันจำได้ ตระกูลลู่เคยตัดสิน และจัดการสัญญาหมั้นให้ลู่หวั่นตอนอายุ5ขวบ อีกฝ่ายคือ หัวหน้า อานฉิง ของ ประเทศB งานเลี้ยงวันนี้ ฉันก็เชิญเขามาแล้ว “

สีหน้าของลู่หวั่นซีดลงมา มู่วี่สิงพูดแบบนี้แปลว่าอะไร ?

เพราะฉะนั้น เขาจะผลักเธอให้กับคนอื่น ?

ตอนเด็กเธอเคยมีสัญญาหมั้นจริง แต่หลังจากพ่อแม่จากไป ทั้งสองตระกูลก็ไม่เคยติดต่อกันแล้ว ตอนนี้ …..

ลู่หวั่นยกสายตา ไม่นานอานฉิง ก็เดินออกมาจากกลุ่มคน มือลู่หวั่นยังคงจับมู่วี่สิงไว้ จับไว้แน่นไม่ปล่อย

สีหน้าลู่เจ๋อก็ดูไม่ดี เรื่องที่มู่วี่สิงแต่งงานไม่เคยเปิดเผยมาก่อน เขาจึงไม่รู้อยู่แล้ว

ส่วนอานฉิง คนนี้ อำนาจในB国 เขาเองก็รู้ดี แต่เทียบกับมู่วี่สิงในตอนนี้ ยังคงมีความห่างไกล

“ ท่านนี้คือ คุณลู่ ? ปีนั้น ตระกูลลู่ก็ย้ายถิ่นตลอด พ่อแม่ฉันก็ไม่ได้ติดต่อกับเธอ ไม่คิดว่าวันนี้ ได้เจอแล้ว “ อานฉิงหยี่ตาขึ้นมอง อยู่ที่กองทหารมาหลายปี ทำให้เสน่ห์บนตัวเขาดูเย็นชามาก

แม้สีผิวของเขาจะค่อนไปทางดำ แต่ความสมบูรณ์ของใบหน้ากลับหล่อ และดูดี เป็นจุดสนใจของงานนี้เหมือนกัน

แต่แค่ ในสายตาลู่หวั่นมีแค่มู่วี่สิงคนเดียว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท