Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 172

ตอนที่ 172

บทที่ 172 ที่สำคัญคือ ฉันแต่งงานกับเขาแล้ว

“คุณชายมู่จะมายอมรับผิดแค่นี้คงไม่พอ” ริมฝีปากของเวินจิ้งงุ้มขึ้น

ภาพเมื่อสักครู่ที่เขายืนอยู่ด้วยกันกับลู่หวั่น มันช่างเป็นภาพที่บาดตานัก!

อีกทั้งลู่หวั่นยังเป็นคนจับเธอไปอีก คิดดูแล้วก็คงเป็นเพราะไม่อยากให้เธอได้พบกับมู่วี่สิงอีกใช่ไหม?

“อืม? คุณนายมู่อยากจะลงโทษอะไรผม ผมก็ยอมทั้งนั้น” น้ำเสียงของมู่วี่สิงแทรกไปด้วยความอบอุ่น

แก้มของเวินจิ้งเริ่มแดงระเรื่อ เหตุใดการยอมรับผิดของมู่วี่สิงช่างเหมือนกับว่ากำลังเป็นการหยอกเธอ…

“ตอนนี้ฉันยังคิดไม่ออก แต่ต่อไปฉันไม่อนุญาตให้คุณพาผู้หญิงคนอื่นออกงาน!” เวินจิ้งกล่าวอย่างรู้สึกชอบธรรม

เธอไม่คิดมาก่อนว่า หากเธอปฏิเสธมู่วี่สิงแล้ว เขาจะเลือกให้ลู่หวั่นมาเป็นหญิงข้างกายเขาแทน

เธอเพิ่งรู้ตัวเองว่า จริงแล้วตัวเองไม่สามารถยอมรับสิ่งนั้นได้

ยิ่งกับลู่หวั่นผู้ซึ่งมีความคิดบางอย่างต่อมู่วี่สิงด้วยแล้ว

“ถ้าเช่นนั้น คุณนายมู่ต้องรับปากผม ต่อไปถ้าผมไปไหน คุณต้องไปเป็นเพื่อนผม ว่าไงหล่ะ?” มู่วี่สิงพูดพลางโอบเอวอันเรียวเล็กของเธอไว้ ใบหน้าสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น

ในส่วนพื้นที่ทานอาหารด้านนอกส่วนนี้ไม่รู้ว่าเริ่มปิดตั้งแต่เมื่อไหร่ ผู้คนไม่สามารถเข้ามาได้

แต่ทางหน้าต่างกระจกบานใสที่กั้นอยู่นั้น ก็มีแขกไม่น้อยกำลังมองผ่านเข้ามาทางนี้ ด้วยสีหน้าและสายตาที่รู้สึกอิจฉาปนประหลาดใจ

การแต่งตัวของเวินจิ้งในวันนี้ช่างดูธรรมดานัก แต่กลับทำให้ผู้คนมากมายไม่สามารถละสายตาจากตัวเธอได้

สำหรับมู่วี่สิง ซึ่งเดิมทีก็เป็นจุดสนใจของผู้คนอยู่แล้ว เพราะเขาดีพร้อมไปทุกด้าน ผู้คนต่างก็รู้สึกอิจฉา

เวินจิ้งขมวดคิ้วครุ่นคิด สิ่งที่มู่วี่สิงร้องขอ ดูเหมือนว่าจะเกินไปหน่อยแล้ว

เธอซึ่งไม่ใช่เขาผู้ที่มีสถานะอันสูงส่ง ที่จะทำอะไรอย่างอิสระได้

“แต่ว่า…..” เวินจิ้งกำลังจะเปิดปากพูด นิ้วมืออันเรียวยาวของมู่วี่สิงได้แตะลงที่ริมฝีปากอันบอบบางของเธอไว้

“ไม่มีคำว่าแต่ คุณนายมู่ไม่ชอบให้ข้างกายผมมีคนอื่นอยู่ ถ้าเช่นนั้นก็ต้องให้คุณมาอยู่ข้างกายผมแทน” คำพูดของมู่วี่สิงช่างเอาแต่ใจยิ่งนัก

“ฉันไม่ใช่ไม่ชอบน่ะ” สิ่งที่เวินจิ้งตอบช่างต่างกับที่ใจเธอคิด

“อืม? โกหกผมหน่ะ จบไม่สวยน่ะ” เสียงพูดของมู่วี่สิงทุ้มต่ำลง

เวินจิ้งมองไปยังสายตาของมู่วี่สิง ช่างลึกลับอันตรายไม่อาจเดาใจได้เลย

“จริงอยู่ถึงฉันจะไม่ชอบ แต่ว่า คุณหล่ะใส่ใจความรู้สึกของฉันบ้างไหม?” เวินจิ้งถามเขาอย่างรู้สึกประหม่า

ตอนนี้เธอดูเหมือนว่าจะเคยชินกับการที่มู่วี่สิงร้องขอเธอแล้วให้เธอตอบกลับ เป็นความรู้สึกที่อยากพึ่งพาเขา ในใจของเธอที่รู้สึกถึงความผูกพันแน่นแฟ้น

“อืม ใส่ใจสิ” หลังจากที่มู่วี่สิงพูดออกไป เขาก็บรรจงจูบเวินจิ้น มือประคองไปที่ด้านหลังศีรษะของเธอ เพื่อไม่ให้เธอหันหนี

เวินจิ้งกระพริบตา พร้อมลืมตาขึ้น มองเห็นสายตาหลายคู่ในห้องจัดเลี้ยงตรงมาที่พวกเขา!

แต่เธอก็ไม่อาจดันตัวมู่วี่สิงออกห่างได้ เพราะถูกเขาโอบกอดไว้ ความโรแมนติกในก้นบึ้งหัวใจเริ่มผลิบานแผ่ซ่านออกมาอย่างช้าๆ

งานเลี้ยงครั้งนี้หลักๆจัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณผู้ร่วมให้การสนับสนุนหลักกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมาตลอดหลายปีนี้ บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแต่ก่อนซึ่งไม่มีชื่อเสียงอะไร แต่ตอนนี้กลับโด่งดังมีชื่อเสียง ยิ่งหลังจากที่มู่วี่สิงขึ้นรับตำแหน่ง จากแพทย์ด้านประสาทวิทยาผันตัวมาเป็นประธานบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป นั้นทำให้ผู้คนประหลาดใจแต่ก็ไม่อาจมีข้อกังขาใดๆ

จริงแล้วไม่ว่ามู่วี่สิงจะมีตำแหน่งเป็นอะไร เขาเองก็เป็นคนที่ทรงอิทธิพลอยู่แล้ว

ก่อนที่งานเลี้ยงจะสิ้นสุด มู่วี่สิงจะต้องขึ้นกล่าวคำจบงานบนเวที เวินจิ้งเองก็หามุมอันเงียบสงบ มองอย่างห่างๆเข้าไป มู่วี่สิงกับชุดสูทสีดำคลับ ช่างดูสง่ามีเกียรติสมศักดิ์ศรียิ่งนัก ทั้งยังเป็นคนที่รูปหล่อ ดวงตาอันส่งประกายของเขาบนเวทีนั้นทำให้ผู้คนละสายตาจากเขาไม่ได้เลย

เสน่ห์ของเขา ไม่ว่าจะอยู่แห่งใดก็ไม่อาจมีใครเทียบเคียงได้

สายตาของเวินจิ้งเริ่มก่อเกิดความศรัทธาในตัวเขามากยิ่งขึ้น

“คุณเวิน” ลู่หวั่นผู้ซึ่งเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วลงมา หล่อนตกแต่งใบหน้าด้วยเครื่องสำอางอย่างไม่มีที่ติ

“มีธุระอะไรหรือ?” สีหน้าของเวินจิ้งเจื่อนลง

หล่อนเป็นคนที่ขังเธอไว้ในห้องบันได ส่วนอั้ยเถียนก็ได้ผลักเขาตกลงในสระว่ายน้ำแล้ว เธอรู้สึกคลายความโกรธลง

แต่ว่าผู้หญิงคนนี้ ทำให้เวินจิ้งไม่อยากเข้าใกล้หล่อนอีก

“คุณเวิน เมื่อสักครู่ที่ได้ช่วยฉันไว้ ฉันรู้สึกขอบคุณมากน่ะ” ใบหน้าของลู่หวั่นยังเคลือบด้วยรอยยิ้ม

“คุณลู่ ไม่ต้องเกรงใจไปค่ะ”

“คืนนี้วี่สิงเชิญให้ฉันมาเป็นผู้หญิงข้างกายเขา ฉันเองก็รู้สึกประหลาดใจมาก พวกคุณมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า?” ลู่หวั่นถาม

“เอ๋ ถ้าฉันรู้ว่าการที่ไม่เข้าร่วมในงานเลี้ยงจะเป็นการรบกวนถึงคุณลู่หล่ะก็ ถึงแม้ฉันจะงานยุ่งแค่ไหนก็จะมาให้ได้ค่ะ” สีหน้าของเวินจิ้งยังคงห่างเหิน

รอบกายเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันปฏิเสธและอยากถอยห่างแผ่ซ่านออกไป

รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่หวั่นเริ่มแข็งขึ้น “ตอนนี้ฉันทำงานอยู่ที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป การที่จะแบ่งเบาภาระของประธานมู่ มันคือหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว”

“แต่สถานการณ์นี้ควรจะเป็นเรื่องส่วนตัวของมู่วี่สิงแล้ว แต่ว่าเขาก็เคยพูดว่าคุณคือน้องสาวของเขา ฉันก็เลยไม่ได้ถือสาอะไร”

น้องสาว

ลู่หวั่นขบที่ริมฝีปากของหล่อนอย่างไม่พอใจ มู่วี่สิงรู้สึกต่อเขาเพียงเช่นนั้นหรือ?

“ดูไปแล้วจริงๆคุณเวินก็แคร์เรื่องนี้อยู่ ฉันอยู่ในตระกูลมู่มาตั้งแต่เด็ก วี่สิงดูแลฉันดีมาก ความสัมพันธ์ระหว่างเรา คนอื่นคงจะไม่สามารถเข้าใจได้หรอก”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว คำพูดทุกคำทุกประโยคของลู่หวั่น “คุณเวิน” แสดงให้เห็นได้ชัดว่าหล่อนไม่ยอมรับในความเป็นคุณนายมู่ของเธอเลย

อีกทั้งยังกล่าวอีกว่าความสัมพันธ์ของหล่อนกับมู่วี่สิงนั้นไม่ธรรมดา ชิชะ ใจหล่อนช่างไม่บริสุทธิ์เสียจริง

“อืม ฉันไม่สามารถเข้าใจได้ แล้วก็ไม่ต้องการเข้าใจ ตอนนี้มู่วี่สิงคือสามีของฉัน แค่นี้ก็พอแล้ว ตอนนี้คนที่อยู่ข้างกายเขาคือฉัน แต่ไม่ใช่ผู้หญิงสะเปะสะปะที่ไหน”

ลู่หวั่นเกือบจะแสดงความโกรธออกมา ผู้หญิงสะเปะสะปะงั้นหรือ? จริงแล้วน่าจะเป็นเวินจิ้งซะอีก!

“เวินจิ้ง เธอไม่เหมาะสมกับเขาหรอก” น้ำเสียงของลู่หวั่นเย็นลง

“มันสำคัญด้วยหรือ? ที่สำคัญคือ ฉันแต่งงานกับเขาแล้ว” เวินจิ้งฉีกยิ้มขึ้น

ตาที่กำลังมองเห็นมู่วี่สิงได้ลงมาจากเวทีแล้ว เวินจิ้งหันหลังกลับไป ซึ่งจริงแล้วเธอก็ไม่อยากจะสนทนากับลู่หวั่นอีก

“สามีคะ เดี๋ยวคุณยังมีธุระอะไรอีกไหม?” มู่วี่สิงเดินเข้ามาใกล้ เวินจิ้งเป็นฝ่ายสัมผัสที่ช่วงไหล่ของเขา

นัยน์ตามู่วิ่งสิงอาบด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับส่ายหน้า

“ถ้าอย่างนั้น เรากลับบ้านกันเถอะ”

หลังจากพูดจบ ทั้งสองคนก็เตรียมจะเดินออกไป

ลู่หวั่นตามเข้ามา ยืนอยู่ด้านหน้าของมู่วี่สิงพูดอย่างรู้สึกผิดออกไปว่า “วี่สิง คืนนี้ฉันต้องขอโทษจริงๆ ที่ทำให้คุณต้องเสียหน้า”

“กลับเถอะ พักผ่อนให้มาก” มู่วี่สิงไม่ได้พูดอะไรต่อ น้ำเสียงดูเย็นชา

ลู่หวั่นกัดริมฝีปากกดความโกรธเอาไว้ เธอต่างหากที่ควรจะเป็นผู้หญิงที่โดดเด่นต้องตาคน แต่ไหนมู่วี่สิงกลับไม่แม้แต่มองเธอ

ลี่หนานเฉิงเดินถือถ้วยไวน์แดงเข้ามา มองตามสองคนที่กำลังเดินออกไป จากนั้นก็หันมามองที่ลู่หวั่น

“น้องลู่หวั่น ผมมองว่าพวกเขากำลังอยู่ในห้วงแห่งความรัก ถ้าคุณอยากจะเข้าไปเสียบระหว่างกลาง ท่าจะยากน่ะ” สายตาอันเจ้าชู้ของลี่หนานเฉิงเหล่ไปที่เธอ

คืนนี้เป็นคืนที่ทำให้เขาได้เปิดโลกออก

ปกติแล้วมู่วี่สิงผู้ที่หยิ่งทะนงไม่เข้าใกล้สตรีอย่างเขา แต่ค่ำคืนนี้เขากลับแสดงความรักทั้งหมดออกมาต่อหน้าผู้คนมากมายอย่างไม่รู้สึกผิดเลย?

เป็นเช่นนั้นจริง หรือแค่แสดงละคร?

เขาไม่พลาด มู่เฉิงกำลังมองดูอยู่ทางนี้

“หนานเฉิง ผู้หญิงคนนั้นจริงแล้วคือใครกัน? หากว่าเป็นแค่หญิงธรรมดา มู่วี่สิงก็ไม่น่าจะชอบเธอได้”

แต่ไหนแต่ไรมา ลู่หวั่นมั่นใจตัวเองมาตลอดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยพร้อมเลิศเลอที่สุดที่ยืนอยู่ข้างกายมู่วี่สิง เธอไม่เคยกังวลเลยว่ามู่วี่สิงจะชอบผู้หญิงคนอื่นได้

ซึ่งตอนนี้ ก็เพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง หล่อนถือดียังไงถึงทำให้มู่วี่สิงมีใจให้ได้?

แรกเริ่มเธอก็ได้แต่คิดว่ามู่วี่สิงคงจะแค่เห็นหล่อนเป็นของเล่น แต่งงานตามความต้องการของคุณปู่ หลังจากนั้นก็ค่อยหย่าขาด แต่ไม่คิดเลยว่า ตอนนี้จะไม่ใช่เพียงแค่ละครฉากหนึ่งแล้ว แต่เขากลับมองเวินจิ้งเป็นคุณนายมู่ไปจริงๆ

ไหนเลยที่เธอจะยอมรับได้

“ผมก็กำลังเช็คอยู่ แต่ว่า ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร” ลี่หนานเฉิงขมวดคิ้ว

เครือข่ายข่าวสารของเขานั้นครอบคลุมข้อมูลทั่วโลก เพียงแค่เขาต้องการจะเช็คหา ไม่มีข่าวสารอะไรที่เขาหาไม่เจอ

เพียงแต่ว่าตอนนี้ เขาต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ยากจะเจาะผ่านไป

มีคนจงใจจะปกปิดข้อมูลของเวินจิ้ง สิ่งที่สามารถเช็คได้ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวข้องนัก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท