Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 176

ตอนที่ 176

บทที่ 176 ทำไมคุณถึงชอบเธอ

กลับมาถึงในออฟฟิศ ฉืออี้เหิงขึ้นมารายงานเรื่องราวต่างๆของสัปดาห์นี้ให้ฉีเซินทราบ

“เซ็นต์สัญญากับบริษัทการผลิตยาเทียนอีแล้วหรือ?” ฉีเซินถาม

ฉืออี้เหิงพยักหน้า “เหม่ยทง ยาตัวใหม่ชุดนี้มีโอกาสไม่เลวเลย อนาคตจะต้องสร้างเงินที่น่าพอใจให้กับบริษัทโป๋ทงกรุ๊ปเป็นแน่ครับ”

“นั่นเป็นผลิตภัณฑ์ที่วิจัยพัฒนาของบริษัทการผลิตยาเทียนอี เป็นเพราะว่าเวินจิ้งมาเจรจา คุณก็เลยตกลงเซ็นต์ใช่ไหม?” น้ำเสียงของฉีเซินดูเย็นชา

สีหน้าของฉืออี้เหิงเจื่อนลง “ไม่เกี่ยวกับเวินจิ้งครับ”

“จริงหรือ? ถ้าผมไม่เห็นด้วยหล่ะ?” ฉีเซินลูบที่คางไปมา สายตาที่ยิ้มอย่างมีเลห์

“ท่านคือประธานใหญ่ ก็ต้องฟังท่านเป็นหลัก” ฉืออี้เหิงก้มหน้าลงต่ำ

ฉีเซินเตะเก้าอีกออกเดินเข้ามาใกล้ ยืนที่หน้าฉืออี้เหิง มองดูสีหน้าอันไม่แสดงอารมณ์ใดๆของเขา พูดอย่างเล่นลิ้น “ก็อย่าให้สาวงามมาปั่นหัวเอาแล้วกัน ในเมื่อคุณเซ็นต์แล้วก็เซ็นต์ไป แต่หากว่าเกิดเรื่องขึ้น คุณต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ”

……

พอถึงกลางวันเขาสองคนก็หาร้านหม้อไฟทานอาหารกัน อั้ยเถียนอดไม่ไหวต้องถามออกมา “ฉีเซินชอบเธอใช่ไหม?”

เขาแม้จะอยู่ด้านข้าง แต่ก็ดูออกชัดเจนว่าฉีเซินมองดูเวินจิ้ง แบบต่างกับคนอื่น

เวินจิ้ง

เวินจิ้งสำลักออกมา “เขามีคู่หมั้นแล้ว”

“ฉินเฟยแต่งงานกับเขาก็เพื่อช่วยบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ให้ฉันเดาฉีเซินก็ไม่น่าชอบคนแบบนั้นหรอก” อั้ยเถียนวิเคราะห์

“ถึงแม้ว่าเขาจะชอบฉัน แต่ฉันก็แต่งงานแล้ว” เวินจิ้งตอบอย่างเรียบๆ

เธอเองก็รู้สึกได้ว่าฉีเซินรู้สึกต่อเธอเช่นนั้น แต่เธอก็แสดงการปฏิเสธออกไป

“มันก็ใช่อยู่ แต่ว่าจิ้งจิ้ง ดวงความรักของเธอในปีนี้มันช่างพุ่งแรงจริงๆ ดูสิ คุณหมอมู่กับฉีเซินก็ล้วนแต่ชอบเธอ แต่เมื่อสามปีก่อน ก็ไม่มีคนมาจีบเธอเลยสักคน แถมการนัดดูตัวยังล้มเหลวอีก”

เวินจิ้งแสยะมุมปาก……ฉีเซินน่ะนับว่าเป็น ดอกท้อเน่าๆสิไม่ว่า?

แต่กลับมู่วี่สิง นั้นเป็นสิ่งนอกเหนือความคาดหมายที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต25ปีของเธอ

“มู่วี่สิงไม่ได้ชอบฉัน ดังนั้นจึงไม่นับว่าเป็นดวงความรัก” เมื่อนึกถึงบางสิ่ง สีหน้าของเวินจิ้งก็สลดลง

ถึงแม้ว่าพวกเขาตอนนี้จะใช้ชีวิตราวกับสามีภรรยาทั่วไป แต่จริงแล้วนั้นกลับไม่เหมือนกัน

“พูดถึงเธอ เธอกับคุณเสี้ยงเริ่มมีความสัมพันธ์กันแล้วหล่ะสิ?” เวินจิ้งถามอย่างห่วงใย

ก่อนหน้านี้เสี้ยงหงเคยพาอั้ยเถียนออกงานเลี้ยง ครั้งนี้ผู้หญิงข้างกายเสี้ยงหงนั้นไม่ใช่ดารานางแบบคนไหน แต่เริ่มปฏิบัติกับอั้ยเถียนไม่เหมือนก่อนแล้ว

“นับว่าเพิ่งเริ่มต้นมั้ง แต่ว่า ฉันก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องในอนาคตหรอก ก็รู้แต่ว่าอยู่กับปัจจุบันก็พอ” อั้ยเถียนตอบอย่างเสียงแผ่ว

เธอตอนนี้สามารถทำเพื่อความรักได้ทั้งหมด เธอหวังว่าเสี้ยงหงจะตอบรับเธอเช่นเดียวกัน

แต่ว่า หลังจากที่ใกล้ชิดกับเขา ดูเหมือนว่าจะเป็นเวลาที่รู้สึกแย่ซะมากกว่า

……

บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

สองสามวันนี้ลู่หวั่นกำลังส่งต่องาน แต่ก่อนเขาต้องเข้าร่วมงานวิจัยและพัฒนาตัวยา แต่เนื่องจากว่าเธอต้องจากเมืองBไปแล้ว ก็จะไม่สามารถเข้าร่วมได้อีก

เธอเคาะประตู แล้วเดินเข้าไปในห้องประธานใหญ่

“ประธานมู่ นี้เป็นรายงานยาตัวใหม่ที่แต่ก่อนเคยมีการวิจัยค่ะ ขอให้ท่านส่งข้อมูลต่อให้กับคนที่จะมารับตำแหน่งหน้าที่แทนฉันคนต่อไปก็พอค่ะ” หลินเวยส่งเอกสารให้เขา

มู่วี่สิงพยักหน้า หลังพิงพนักเก้าอี้ มองลู่หวั่นด้วยสายตาอันห่างเหิน

“พรุ่งนี้ฉันก็ต้องไปประเทศBแล้ว เกรงว่าต่อไปคงจะไม่มีโอกาสได้กลับมาอีกแล้วหล่ะ” น้ำเสียงลู่หวั่นเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง

“อานฉิงเป็นคู่ครองที่นับว่าไม่เลว อำนาจทางครอบครัวก็มีเพียงพอที่จะปกป้องคุณได้ตลอดชีวิต ลู่เจ๋อ ก็จะไม่กล้าลงมือกับคุณได้อีก” มู่วี่สิงตอบอย่างเสียงเรียบ

“ก็จริงอยู่ ดังนั้นฉันควรจะขอบคุณคุณใช่ไหม?” ลู่หวั่นยกริมฝีปากกล่าวขึ้นอย่างประชด

เธอรู้สึกเสียใจอย่างมาก มู่วี่สิงจะทำถึงขั้นนี้จริงๆ

“คุณคือน้องสาวผม ไม่จำเป็นต้องพูดขอบคุณหรอก เรื่องนี้คุณปู่รู้ก็จะต้องรู้สึกดีใจมาก ก่อนจะจากไปหากมีเวลาก็กลับไปหาคุณปู่หน่อยนะ เขาคิดถึงคุณอยู่ตลอด”

ลู่หวั่นเม้มปาก พยักหน้า “งั้นก็บ่ายนี้แล้วกัน พวกเรากลับไปด้วยกัน?”

มู่วี่สิงดูตารางเวลาสักพัก ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร

พวกเขาเดินออกจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปพร้อมกัน ลู่หวั่นก็ถือโอกาสเก็บของทั้งหมดของเธอกลับ

ลู่หวั่นกลับมาที่บ้านใหญ่ ครั้งที่แล้วก็เมื่อห้าปีก่อน ตอนนั้นเธอยังไม่ได้ไปเรียนหนังสือที่ต่างประเทศ ความสัมพันธ์กับมู่วี่สิงก็ยังไม่ห่างเหินเช่นนี้

มู่เฉิงกำลังฝึกอักษรอยู่ในห้องหนังสือ เมื่อรู้ว่าลู่หวั่นจะกลับมา ก็รู้สึกดีใจไม่น้อย

“คุณปู่” เธอเดินเข้าไปในห้องหนังสือ ลู่หวั่นดูอักษรของมู่เฉิง ก็ได้แต่ชื่นชมว่า “ตัวหนังสือของคุณปู่ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีพลังนัก”

“เจ้าเด็กคนนี้ก็ได้แต่ยอปู่ ปู่เองก็แก่แล้ว เขียนตัวอักษรก็ไม่ดีเหมือนก่อน” มู่เฉิงวางพู่กันลง หยิบไม้เท้าเดินมานั่งลงที่โซฟา

ลู่หวั่นอมยิ้ม “คุณปู่คมในฝักไม่มีทางแก่อยู่แล้ว ถ้าเช่นนั้นกระดาษอักษรนี้คุณปู่ก็มอบให้หลานนะ หลานเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมาเยี่ยมคุณปู่ได้อีก”

“ถ้าหลานชอบ ปู่ก็ไม่หวงอะไร แต่หลานจะต้องไปแต่งงาน ปู่เองก็ใจไม่อยากจาก” มู่เฉิงลูบที่เครา สายตามองไปที่ลู่วี่สิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง

การแต่งงานของลู่หวั่นถูกหยิบยกขึ้นมาอย่างกะทันหัน แม้ตัวเขาที่เป็นคุณปู่เองก็ยังถูกปิดตาไว้

“คุณปู่ หากมีเวลาหวั่นหวั่นจะต้องกลับมาเยี่ยมคุณปู่แน่ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าวี่สิงจะอนุญาตหรือเปล่า” ลู่หวั่นมองดูมู่วี่สิง น้ำเสียงน้อยใจ

“เธออยากกลับมาก็กลับมาสิ” ประเทศBก็ไม่ไกล นั่งเครื่องบินแค่ไม่กี่ชั่วโมง” มู่วี่สิงตอบด้วยเสียงเรียบ

“ฉันก็กลัวว่าหลังจากที่ฉันแต่งงานแล้ว คุณก็จะไม่อยากเห็นหน้าฉันอีก”

“จะเป็นไปได้อย่างไร! พวกเธอสองคนเติบโตมาด้วยกัน หลานคือคนที่หลานชายตระกูลฉันจะคิดถึงที่สุดอยู่แล้ว ปู่เองก็ตรวจสอบแล้วนะ อานฉิงผู้ชายคนนั้นเขาก็ไม่เลว เบื้องหลังและครอบครัวล้วนแต่คู่ควรกับหลาน การแต่งงานครั้งนี้ปู่เองก็เห็นด้วย” มู่เฉิงตอบอย่างสบายใจ

ลู่หวั่นลดสายตาลง รอยยิ้มเจื่อนจาง “คุณปู่ วี่สิง ขอบคุณพวกคุณที่ดูแลฉันมาตลอดสิบกว่า ปีนี้ หวั่นหวั่นขอขอบคุณอย่างยิ่ง”

พูดไป เบ้าตาของเธอก็เริ่มแดงขึ้น

“อย่าร้องไห้ ถ้าร้องไห้ปู่เองก็จะตกใจ หลาน เจ้าเข้าไปปลอบใจหวั่นหวั่นเขาหน่อยเถอะนะ”

มู่เฉิงยืนขึ้น มองไปที่มู่วี่สิงเตือนเขา “พรุ่งนี้ไปส่งหวั่นหวั่น แทนปู่หน่อยนะ”

“รู้แล้วครับ คุณปู่”

ภายในห้องหนังสือเหลือกันแค่สองคน ลู่หวั่นสะอึกสะอื้น สายตามองที่มู่วี่สิงอย่างเย็นชา

“วี่สิง หลายปีมานี้ คุณมองฉันเป็นแค่น้องสาวมาตลอดจริงไหม?” น้ำเสียงของลู่หวั่นปิดความผิดหวังไว้ไม่มิด

มู่วี่สิงนั่งลงที่ตรงข้ามกับเธอ ยกขาไขว้หากัน สีหน้าอันหยิ่งทะนงและเย็นชา

หลายปีมานี้ ลักษณะของผู้ชายคนนี้ยิ่งนับวันก็เหมือนกับคุณปู่เมื่อสมัยก่อน ดูสูงค่า ไม่มีใครเทียบเคียงได้

ในสายตาของลู่หวั่นที่ชื่นชมเขา เธอชอบเขามาตั้งหลายปี แต่เขากลับเป็นคนส่งเธอให้ไปอยู่ข้างกายชายอื่นด้วยตัวเขาเอง

หลายปีมานี้กับความพยายามของเธอ ก็เพียงเพราะอยากจะยืนอยู่ข้างกายเขา

เพื่อมู่วี่สิง เธอตั้งใจเรียนจนไม่หลับไม่นอน เพื่อจะสอบเข้าให้ได้โรงเรียนเดียวกับเขา สาขาวิชาเดียวกับเขา จะได้คู่ควรเทียบเคียงเขา

แต่เขาหล่ะ กลับไปแต่งงานกับผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง จะให้เธอยอมรับได้อย่างไร!

“อืม คุณเป็นเพียงน้องสาวผม” สีหน้าของมู่วี่สิงเรียบเฉย

“ถ้าอย่างนั้น…….ทำไมถึงต้องเป็นเธอ?” ลู่หวั่นถามอย่างสั่นเทา “ฉันมีอะไรที่เทียบกับเวินจิ้งไม่ได้ ทำไมคุณถึงชอบเธอ และยังแต่งงานกับเธอ……”

หลังถามจบ น้ำตาของลู่หวั่นก็พรั่งพรูออกมา

เธอยอมเสียการควบคุมก็แต่ตอนอยู่ต่อหน้ามู่วี่สิง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท