Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 179

ตอนที่ 179

บทที่ 179 การวางแผนมานาน

มีคนที่เร็วกว่าฉืออี้เหิงก้าวหนึ่ง เวินจิ้งหันข้างไปก็พบกับคนอันคุ้นเคย พร้อมกับแรงลมที่เดินเข้ามาปะทะ เอวอันเรียวบางของเธอถูกโอบไว้

มือของฉืออี้เหิงถูกกั้นไว้ สายตามองขึ้นอย่างเยือกเย็น สายตาอันแข็งกร้าวของมู่วี่สิงทำให้เขากลัว

“คุณฉือจะทำอะไรภรรยาผม หะ?” น้ำเสียงของมู่วี่สิงพูดออกไปอย่างเย็นชา

ฉืออี้เหิงขมวดคิ้ว ถอยหลังออกไปครึ่งก้าว รู้สึกเกรงกลัวมู่วี่สิงตอนนี้

“ผมไม่ได้จะทำอะไร เพียงแต่ว่าการร่วมธุรกิจของผมกับเวินจิ้งเกิดความไม่เห็นพ้องกันขึ้น คุณมู่อย่าเข้ามาเกี่ยวเลย” ฉืออี้เหิงตอบอย่างเสียงเย็น

“ฉืออี้เหิง สิ่งที่คุณเรียกร้อง ฉันไม่รับปากแน่ ถ้าหากคุณต้องการจะทำลายสัญญา บริษัทการผลิตยาเทียนอีจะติดตามให้รับผิดชอบจนถึงที่สุด” หลังพูดจบ เธอก็เดินออกไป

ออกจากประตูไป เวินจิ้งถึงหยุดฝีเท้าลง มู่วี่สิงโอบตัวเธอตลอด

เธอมองขึ้น “คุณมาได้อย่างไร……”

เมื่อสักครู่เห็นมู่วี่สิง เธอยังรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อ

“คุณนายมู่อยู่ที่นี่ ผมไม่วางใจ” เสียงของมู่วี่สิงอบอุ่นทุ้มต่ำ

เหมือนดั่งเสียงดนตรีที่ทำให้หัวใจของเวินจิ้งเต้นรัวขึ้น

เธอเปล่งเสียงพร้อมกับใจที่เต้น “มีอะไรที่ไม่วางใจคะ……”

“ฉืออี้เหิงหาคนพึ่งพิงได้แล้ว ผมประเมินค่าเขาต่ำไป” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

ช่วงเวลานี้เขาตรวจสอบความเคลื่อนไหวของฉืออี้เหิงไม่เจอมาตลอด คิดไม่ถึงว่าจะอยู่ที่เมืองB

เมืองB เกือบจะอยู่ใต้อำนาจของตระกูลฉี

สายตาของเขาที่ดูมีแผนในใจค่อยๆแผ่ซ่านออกมา

“ช่วงนี้เหม่ยทง ที่มีข่าวยาปลอมกระจายไปทั่วนั้น จะเกี่ยวข้องอะไรกับเขาไหม?” เวินจิ้งถาม

ถึงแม้ว่าเมื่อสักครู่ฉืออี้เหิงจะปฏิเสธ แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน อีกทั้งเมื่อครู่ฉืออี้เหิงก็ได้แสดงออกถึงความเคียดแค้นอันเต็มอกที่มีต่อเธอเช่นนี้ด้วย มีเรื่องอะไรที่เขาจะทำออกมาไม่ได้……

เพียงแต่เรื่องของ เหม่ยทงนั้นมีผลกับบริษัทการผลิตยาเทียนอี อีกทั้งเรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็ทำให้เกิดความเสียหายด้านผลประโยชน์ต่อผู้ค้าปลีกทั้งหมดอย่างมาก ซึ่งฉืออี้เหิงตอนนี้ก็คือบริษัทโป๋ทงกรุ๊ปที่เป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดด้วย

“ไม่ใช่เขาที่เป็นคนปล่อยข่าวออกมาหรอก” มู่วี่สิงส่ายหัว

เวินจิ้งมองเห็นสีหน้าอันเคร่งขรึมของเขา หรือมู่วี่สิงจะสืบเจออะไรเข้าแล้ว?

แต่เมื่อเห็นเขาไม่ได้พูดอะไร เวินจิ้งก็ไม่ได้ถามต่อ

กลับไปถึงโรงแรม เวินจิ้งถึงรู้ว่ามู่วี่สิงมาถึงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว อีกทั้งยังพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกับเธออีกด้วย

ณ ตอนนี้ กระเป๋าเดินทางทั้งหมดของเธอก็ถูกย้ายมาอยู่ในห้องชุดพรีเมี่ยมที่หรูหราที่สุดของมู่วี่สิงตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้แล้ว

เวินจิ้งมองดูห้องชุดที่หรูหราฟู่ฟ่าตรงหน้าเธอ แล้วหันมามองชายข้างกายเธอ นี่เป็น……การวางแผนมานานแล้วใช่ไหม?

เห็นเวินจิ้งอึ้งเงียบไป มู่วี่สิงนวดที่ศีรษะเธอ เขายิ้มพร้อมกับริมฝีปากที่งุ้มขึ้น “อืม?”

“มู่วี่สิง ฉันว่าฉันลงไปพักกับอั้ยเถียนดีกว่านะ ยังไงก็ไม่อาจปล่อยให้เธอพักอยู่คนเดียวได้……”

“แล้วคุณจะปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวหรือ?” มู่วี่สิงโอบกอดพร้อมกับหยอกล้อเธอ

เวินจิ้งแก้มแดงขึ้น ชายหนุ่มคนนี้ทำไมดูเหมือนกำลังออดอ้อนเธออยู่……

“แต่ว่า พวกเราต้องพูดคุยเรื่องงานในบริษัทนะ” เวินจิ้งรู้สึกลำบากใจ

อีกทั้งตอนนี้ เธอดูเหมือนไม่ค่อยอยากอยู่กับมู่วี่สิง……

เป็นความรู้สึกว่า เธออยากจะรักษาระยะห่างกับเขา

“ผมมีพูดว่าไม่อนุญาตให้พวกคุณติดต่อพูดคุยกันหรือ? เพียงแต่ว่าช่วงนี้ คุณจะอยู่ได้แค่ที่นี่เท่านั้น นี่เป็นคำสั่ง” น้ำเสียงอันแข็งกร้าวของมู่วี่สิงไม่ง่ายที่จะปฏิเสธ

เวินจิ้งยังคงลังเล ขณะนั้นเสียงมือถือก็ดังขึ้น แล้วก็เป็นอั้นเถียนที่โทรเข้ามา

“จิ้งจิ้ง เธอถูกมนุษย์ต่างดาวจี้ตัวไปใช่ไหม? น้ำเสียงอันประหลาดใจของอั้ยเถียนถามเข้ามา

พอเธอกลับมา ก็เห็นว่าสิ่งของทั้งหมดของเวินจิ้งไม่อยู่แล้ว แม้แต่เตียงของเขาก็ถูกจัดระเบียบใหม่อย่างสะอาดเรียยร้อย

“ถูกหมูเผด็จการจี้ตัวมาหล่ะ” เวินจิ้งตอบอย่างโมโห

“ปัดโธ่!” อั้ยเถียนหัวเราะออกมา เข้าใจทันที “ประธานมู่มาแล้วหรอ? เขาก็คงจะเป็นห่วงเธอหล่ะสิ”

“ฉันมีอะไรให้น่าเป็นห่วง……” เวินจิ้งอึดอัดใจเล็กน้อย

“สามีเป็นห่วงภรรยาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว” อั้ยเถียนตอบอย่างยิ้มๆ นึกถึงเรื่องวันนี้ จึงถามว่า “วันนี้ฉืออี้เหิงเขาตอบกลับว่าอย่างไรบ้าง?”

“อาจจะยกเลิกสัญญา” เวินจิ้งนั่งลงด้วยสายตาที่รู้สึกหงุดหงิดออกมา

เขาส่งผลกระทบถึงตัวเธอ เมื่อนึกถึงฉืออี้เหิงที่วันนี้ได้ข่มขู่เธอต่างๆนานา สีหน้าของเวินจิ้งก็บึ้งลง

“ยกเลิกสัญญาหรอ อย่างนี้ก็ยุ่งหล่ะสิ เดิมที่ที่เคยเจรจาตกลงกับผู้จัดจำหน่ายรายต่างๆไปไม่น้อย พวกเขาก็มีความคิดจะผิดสัญญาเหมือนกัน ยอมชดเชยค่าเสียหายแต่ก็ไม่ยอมจำหน่ายยาปลอม ตอนนี้ชื่อเสียงของเหม่ยทงรู้สึกว่าจะป่นปี้เป็นแน่ ผลคะแนนการจำหน่ายครั้งนี้ของฉันก็จะต้องล้มเหลวแล้ว” อั้ยเถียนตอบอย่างขมขื่น

หากแม้แต่บริษัทโป๋ทงกรุ๊ปก็จะยกเลิกสัญญาด้วย เกรงว่ายาตัวนี้จะจำหน่ายออกไปได้ยากเป็นแน่แท้แล้ว

เวินจิ้งลดสายตาลง สีหน้าขาวซีด

“มู่วี่สิง ฉันต้องไปปรึกษาเรื่องงานของบริษัทกับอั้ยเถียน ดึกหน่อยฉันจะกลับมานะ” เวินจิ้งยืนขึ้น

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว จากเดิมที่กำลังดูคอมพิวเตอร์ก็ต้องเงยหน้าขึ้น “อืม อีกสักครู่มาทานข้าวเป็นเพื่อนผมนะ”

เวินจิ้งพยักหน้า รีบลงไปที่ห้องก่อนหน้าที่เคยพักอยู่

อั้ยเถียนกำลังหัวหมุน ข้างตัวเธอมีเอกสารกระจัดกระจายเต็มไปหมด อีเมล์ที่ส่งมาอย่างอัดแน่น พอเห็นหน้าเธอก็อดไม่ได้ที่จะแสดงอารมณ์โกรธออกมา

“จิ้งจิ้ง ในเมื่อไอ้สารเลวนั่นมันดูหมิ่นบริษัทการผลิตยาเทียนอี และหากว่าบริษัททั้งหมดยกเลิกสัญญาอีก เสี้ยงหงต้องเอาฉันตายแน่เลย” อั้ยเถียนตอบอย่างกลัดกลุ้ม

หนึ่งสัปดาห์ไม่ง่ายเลยที่เราจะเจรจากับผู้จัดจำหน่ายได้ แต่ก็มาทยอยปฏิเสธที่จะทำธุรกิจร่วมกับบริษัทการผลิตยาเทียนอีอีก ตอนนี้แม้ว่าบริษัทโป๋ทงกรุ๊ปจะไม่ได้ชี้แจงข้อสรุป แต่ก็เห็นได้ชัดว่าผลจะออกมาแย่มากว่าดีเป็นแน่

หากว่ายังคงเกิดสถานการณ์เช่นนี้อยู่อีก เหม่ยทง ยาตัวนี้ก็คงจะจำหน่ายไม่ได้เลย

อนาคตภายใน5ปีนี้ เหม่ยทง คือผลิตภัณฑ์ยาหลักของบริษัทการผลิตยาเทียนอี หากว่าปริมาณการจำหน่ายยาตัวนี้ไม่ดี ก็จะส่งผลกับบริษัทการผลิตยาเทียนอีอย่างไม่น้อยเลย

“บริษัทการผลิตยาเทียนอีช่วงนี้ได้เป็นคู่แข่งกับบริษัทไหนหรือไม่? หรือว่าจะเป็นคู่แข่งฝ่ายตรงข้าม? เวินจิ้งครุ่นคิด

อั้ยเถียนส่ายหน้า “ยาตัวนี้ในตลาดถือว่าได้เปรียบดีเลยทีเดียว ไม่มีบริษัทไหนที่มีผลิตภัณฑ์ยาใกล้เคียงกับตัวนี้ บริษัทการผลิตยาเทียนอีไม่เคยสร้างศัตรูภายนอกมาก่อน ดังนั้นถึงทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจ……”

ถึงแม้ตอนนี้สถานการณ์จะไม่ดี แต่ทั้งสองคนก็ยังคงพยายามติดต่อและพูดคุยกับผู้จัดจำหน่ายแต่ละบริษัท จนถึงตอน22.00น. เวินจิ้งได้ลืมเรื่องที่จะกลับไปทานอาหารกับมู่วี่สิงไปนานแล้ว

เพราะอั้ยเถียนเรียกให้เธอออกไปหาอะไรทาน เวินจิ้งถึงจะนึกออกมาได้

“恬恬 ฉันต้องกลับไปแล้วนะ ฉันจะลองถามมู่วี่สิงดูว่ามีวิธีการอื่นอีกไหม หรือไม่ก็ให้ทางหน่วยงานตรวจสอบด้านยาเขาออกหนังสือรับรองอย่างเป็นทางการ เหม่ยทงเป็นตัวยาที่ผ่านการตรวจสอบตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร” เวินจิ้งตอบเสียงเข้ม

“อืม ฉันก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน หากว่าไม่มีหนทางอื่นแล้ว พวกเราก็คงต้องรีบกลับไปที่เมืองหนานเฉิง ปรึกษาคุณเสี้ยงดูก่อน ไม่งั้นเรามาอยู่ที่นี่ก็เสียเวลาเปล่า” อั้ยเถียนเริ่มใจเย็นลง

เรื่องนี้มีคนต้องการทำลายบริษัทการผลิตยาเทียนอีอย่างไม่มีข้อสงสัย และตอนนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือต้องตรวจสอบหาคนที่ลอบลงมือกระทำเรื่องนี้

ขึ้นไปชั้นบน เวินจิ้งผลักประตูเข้าไป มองเห็นเงาอันสูงใหญ่ของมู่วี่สิงที่ยืนอยู่หน้ากระจกใส นิ้วอันเรียวยาวกำลังกุมมือถือไว้ น้ำเสียงเยือกเย็น

เวินจิ้งหยุดฝีก้าว ไม่ได้ยินเสียงเขาคุยโทรศัพท์ เธอนั่งลงบนโซฟา ด้านหน้าวางเอกสารอยู่จำนวนหนึ่ง เธอมองด้วยความสงสัย ชื่อของฉินเฟยเข้ามาในตาเธอ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท