Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 193

ตอนที่ 193

บทที่193 เป็นผู้ชายของเขา

“เวินจิ้งก็อยู่หรอ” ฉินเฟยยิ้มเกร็ง​ๆ

“พวกเธอรู้จักกัน?” หลินเวยถามอย่างคาดไม่ถึง

“แต่ก่อนพวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน” ฉินเฟยลงไปนั่งข้างๆ ฉีเซิน มองเขาด้วยสายตาค่อนข้าง

เศร้าโศก “ทำไมถึงไม่เรียกฉันมาเช้ากว่านี้ล่ะคะ”

“คุณมาแล้ว ก็ไม่บอกผม” ฉีเซินเลิกคิ้ว พูดเสียงเย็นชา

“ฉันแค่อยากใ​ห้คุณ​เซอร์​ไพรส์​ แต่ฉันออกเดินทางช่วงไม่กี่วันนี้ คุณก็รู้นี่” เสียงของฉินเฟยไม่

ค่อยพอใจ

เห็นชัดว่าฉีเซินไม่ได้ใส่ใจเรื่องของเขาเลย

“โอเค ไม่ต้องพูดแล้ว เฟยเฟยคืนนี้ก็พักอยู่ที่นี่เลย ฉีเซินเธอควรอยู่เป็นเพื่อนคู่หมั้นตัวเองเยอะๆ

นะ” หลินเวยหยุดไม่ได้ที่จะขุ่นเคืองเล็กน้อย

ฉีเซินขมวดคิ้ว ไม่ได้ตอบโต้

โต๊ะกินข้าวเพิ่มมาอีกคน ฉินเฟยหยุดไม่ได้ที่จะมองเวินจิ้ง “เวินจิ้งก็ออกมาทำงานหรอ?”

” อืม” เวินจิ้งตอบแบบนิ่งๆ​

“​ช่วงนี้เธอกับฉีเซินดูสนิทกันนะ” ฉินเฟยถามแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็แสดงความไม่พอใจ

ออกมาด้วย

“​ฉันเป็นคนเชิญเวินจิ้งมาเอง” หลินเวยทำหน้านิ่ง สายตาที่ขุ่นเคืองมองไปที่ฉินเฟย

ฉินเฟยก้มหน้าก้มตา ไม่กล้าออกเสียงทันที

เขาคีบสเต็กชิ้นเล็กให้ฉีเซิน “ที่คุณชอบกิน”

แต่ฉีเซินคีบไปใส่ไว้อีกถ้วย โดยที่ไม่กินมันเลย

หลินเวยหน้านิ่วคิ้วขมวด บนโต๊ะกินข้าวต่างฝ่ายต่างมีความในใจ

กินมื้อค่ำเสร็จ เวินจิ้งไม่ได้อยู่ต่อ ฉีเซินจะไปส่งเขา แต่ฉินเฟยมาขวางเอาไว้

“ตระกูลฉีมีคนขับรถไปส่ง คุณยังจะไปส่งเวินจิ้งถึงห้องอีกหรอ?” ฉินเฟยยิ้มอย่างเยือกเย็น

ถึงแม้เขากับฉีเซินไม่มีความสัมพันธ์​อะไรกัน แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นคู่หมั้นเธอ เป็นผู้ชายของเธอ

“ฉันไม่ไว้ใจ” ฉีเซินค่อยๆผลักเขาออกไป

แต่เวินจิ้งเรียกรถเองแล้ว “รถของฉันมาถึงละ ไม่รบกวนพวกคุณ​แล้ว”

พูดจบ เธอก็รีบขึ้นรถอย่างเร็ว

ฉีเซินอยากจะตามเขาไป แต่ฉินเฟยดึงมือเขาไว้ตลอด

“ไม่เห็นหรอแม้แต่มองเขายังไม่มองคุณเลย อย่างไรก็ตาม คุณก็คือกรรมการผู้จัดการ​ใหญ่​ของ

บริษัทฉีชื่อกรุ๊ปนะ ไปชอบผู้หญิงที่เขาไม่ชอบคุณ เสียฟอร์มจริงๆ”

เวินจิ้งมีเสน่ห์ตรงไหนกัน คิดไม่ถึงว่าหลินเวยก็ยังต้อนรับเขาด้วยตัวเอง

เขารู้ว่าหลินเวยเป็นคนที่เก็บตัว หลายปีมานี้ก็เข้าสังคมน้อยลงเยอะ แต่ดันมาเมตตาเวินจิ้งซะงั้น

” เกินไปมั้ย? ฉินเฟย คุณคู่ควรที่จะพูดถึงผมหรอ? ผมว่าคุณลืมสถานะตัวเองแล้ว ขอเพียงแค่ผม

พูดออกมาคำเดียว คุณก็ไม่ใช่คู่หมั้นผมอีกต่อไป” ฉีเซินจับคางฉินเฟยอย่างเยือกเย็น ดันเธอเข้า

กำแพง ทันใดนั้นความโหดของเขาทำให้ฉินเฟยสั่นไปทั้งตัว

“ฉีเซิน ฉันแค่อยากเตือนคุณ​เท่านั้นเอง เวินจิ้งเขาแต่งงานแล้วนะ” ฉินเฟยขมวดคิ้ว

เขาก็ไม่สามารถให้ใจเวินจิ้งไปมากกว่านี้ได้

เธอไม่รู้สึกเลยว่า ตัวเองสู้เวินจิ้งไม่ได้

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรจะสนใจ กลับไปซะ” ฉีเซินหรี่ตา แล้วออกคำสั่งอย่างเยือกเย็น

ฉินเฟยรั้งแขนของเขาไว้อย่างแน่น มองดูเวินจิ้งนั่งรถออกไป ในตาของเธอสมหวังเล็กน้อย

“ตอนนี้คุณ​ก็ตามเขาไม่ทันแล้ว”

“ปล่อยมือ!” ฉีเซินหรี่ตามองอย่างดุร้าย

ฉินเฟยชะงัก​ ปล่อยมืออย่างช้าๆ

ฉีเซินเดินออกไป ที่ไหนได้ยังมองเห็นรถที่เวินจิ้งนั่งออกไปคันนั้น

ณ เวลานี้เอง มีรถเก๋งออกไปจากบ้านพักตากอากาศ​ โรงแรมที่เวินจิ้งเรียกไว้อยู่ในเมือง แต่ดู

เหมือนรถคันนี้ขับออกไปชานเมืองที่เปลี่ยวๆ

เธอชักสีหน้าลง แล้วพูดกับคนขับรถว่า “คุณไปผิดทางแล้ว”

เธอดูเครื่องนําทาง ยิ่งมายิ่งไกลออกจากจุดหมาย

คนขับรถไม่ตอบอะไร พอเหยียบคันเร่ง รถเก๋งก็แล่นไปด้วยความเร็วสูง

เวินจิ้งวิตกกังวลไปหมด รีบค้นหามือถือทันที แต่ว่าไม่เจอมือถือในกระเป๋า

หรือว่าทำหล่นไว้ที่บ้านตระกูลฉี?

“คุณเป็นใคร? ใครใช้คุณ​มา?” เวินจิ้งถามด้วยความโมโห

แต่ยังคงไม่ตอบอะไรกลับมา

มองไปรอบๆ ยิ่งมายิ่งเวิ้งว้าง ไหล่ทั้งสองข้างของเธอหยุดสั่นไม่ได้

“มู่วี่สิง” เธอพูดเสียงพึมพำ ควบคุมตัวเองไม่ได้ที่จะเอ่ยชื่อนี้ออกมา

มองเห็นแต่กลางป่ากลางเขา หรือว่าจะถูกโยนทิ้งแล้ว?

เธอได้ทำผิดกับใครไว้รึเปล่า?

เวินจิ้งพยายามคิด แต่หลายปีที่มานี้เป็นแค่พนักงานออฟฟิศ​เล็กๆน้อยๆ ที่ทํางานก็ไม่ได้เป็นศัตรู​

กับใครเลย หรือว่าจะเป็น….ฉืออี้เหิง?

ลึกๆแล้วเขาเกลียดเธอมาตลอด คิดถึงตรงนี้ เวินจิ้งก็เงยหัวขึ้นมา “ฉืออี้เหิงใช้คุณ​มาใช่มั้ย?”

คนขับรถคงยังไม่ตอบอะไร รถขับขึ้นไปบนภูเขา ไม่มีไฟทางเลย ทุกที่ล้วนเป็นที่รกร้าง

ณ ชานเมืองเมืองB。

เกาเชียนกำลังขับรถ มู่วี่สิงมองตำแหน่งในมือถือ เขาติดตั้งระบบตำแหน่งไว้ในมือถือเวินจิ้งนาน

แล้ว เขาเช็คได้ทุกเมื่อ

แต่ตอนนี้ตำแหน่งนั้นหยุดอยู่ที่บ้านตระกูลฉีนานแล้ว แต่ครึ่งชั่วโมงก่อนเวินจิ้งเรียกรถออกมา

จากบ้านตระกูลฉีแล้ว “ประธานมู่พบรถที่น่าสงสัยขับขึ้นไปบนเขาครับ” เกาเชียนตอบอย่างหนัก

แน่น

มู่วี่สิงรีบหาวิดีโอนำทางไปภูเขาเปยต้ายนัยน์ตาสีดำที่เยือกเย็นหรี่ตาลง เขารีบโทรศัพท์หาเวินจิ้ง

ขณะนั้นเอง ฉินเฟยเห็นไฟกะพริบสายเรียกเข้า เธอตกใจ รีบปิดเครื่องแล้วเอาไปซ่อนไว้ทันที

ฉีเซินออกมาจากห้องอาบน้ำ ก็เห็นท่าทีของฉินเฟยนานแล้ว เขาเดินไปอย่างเร็ว อยากจะไป

พลิกมือถือ ฉินเฟยรีบวิ่งไปขวางไว้ เขาพูดอย่างเย็นชา “ทางที่ดีคุณควรพูดมาตรงๆเลยดีกว่า

มือถือของเวินจิ้งทำไมถึงอยู่ที่มือคุณ?” ฉินเฟยกัดริมฝีปาก ตอบอย่างใจเย็นว่า “เธอเผลอทำ

หล่นไว้ ฉันคิดไว้ว่าจะคืนให้เขาพรุ่งนี้”

“คุณคืนเขาเป็นด้วย?” ฉีเซินยิ้มอย่างดูแคลน แสดงให้เห็นว่าไม่เชื่อ

ฉินเฟยขมวดคิ้ว เอาตัวมาขวางหน้าฉีเซิน แต่ยังไงก็ไม่ยอมส่งมือถือมา

โดนดันมาถึงระเบียงแล้ว เธอยกมือขึ้น “ถ้าคุณเข้ามาอีกล่ะก็ ฉันจะโยนมือถือทิ้ง!”

ฉีเซินสีหน้าเย็นชา “ฉินเฟย คุณกล้าหรอ?”

“ฉันมีอะไรที่ไม่กล้า” พูดจบ ก็โยนลงไปตรงสระว่ายน้ำ เสียง“ตุ๋ม” ไม่มีการเคลื่อนไหวอีก

ฉีเซินจ้องมองเขาอย่างเยือกเย็น สายตาที่มองลงไปเหมือนกับจะเชือดฉินเฟยเป็นชิ้นๆ

เธอกัดปากแน่น สีหน้าขาวซีด

“ทำแบบนี้ทำไม? เอามือถือเวินจิ้งมาทำไม? ” ฉีเซินเข้าใกล้ ถามอย่างเคร่งขรึม

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหยิบมือถือเขามา” ฉินเฟยปฏิเสธ

ฉีเซินเชยคางเขาขึ้น และบีบคอฉินเฟยทันที เธอเจ็บจนแม้แต่เสียงก็ร้องออกมาไม่ได้

ฉินเฟยไม่พูดสักคำ

เขาก้มหน้า มองไปไม่ไกล มีอะไรบางอย่างแวบผ่านสมอง รีบปล่อยฉินเฟยทันที “ถ้าหากเกิด

เรื่องอะไรกับเขาขึ้นมา ผมจะฝังคุณไปกับเขา!” น้ำเสียงที่เย็นชาชัดเจนเด็ดขาด ฉินเฟยไม่สงสัย

เลยสักนิด ฉีเซินพูดแล้วทำจริงแน่นอน!

เขาหันกลับอย่างดุร้าย เดินไปโทรไป “ผมจะตามรถคันนั้น”

ยอดเขาเปยต้ายลมที่หนาวเย็นพัดมาเบาๆ

พอรถจอด เวินจิ้งก็ไปผลักประตูรถออกทันที คนขับรถหันกลับมา เผยหน้าที่มีแผลเป็นน่ากลัว

หนึ่งเส้น เวินจิ้งตกใจทันที เขามองตาเธอ มุทะลุดุดันที่จะฆ่า

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท