Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 195

ตอนที่ 195

บทที่ 195 ความสัมพันธ์ของเราจบสิ้นกันเพียงเท่านี้

“เรื่องเมื่อคืนนี้ คุณเป็นคนทำใช่มั้ย” ฉีเซินเข้าใกล้ บีบคางฉินเฟยภายใต้สายตาที่เย็นชา

ฉินเฟยชะงัก แสดงสีหน้าบริสุทธิ์ “ฉันทำอะไร?”

“เมื่อคืนเวินจิ้งเจอเหตุการณ์อันตราย” ฉีเซินจ้องตามองฉินเฟย

ฉินเฟยขมวดคิ้ว ผลักฉีเซินออก “ถึงแม้ปกติฉันจะไม่ชอบเธอ แต่ก็ไม่เคยคิดร้ายกับเธอนะ”

ฉีเซินล็อกไหล่ของเธอไว้ จนฉินเฟยไม่สามารถขยับตัวได้

นิ้วมือของฉีเซินจับแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธอเจ็บจนสีหน้าเปลี่ยน

“ฉีเซิน ในเมื่อคุณไม่เชื่อฉัน แล้วมาถามฉันทำไม?” ฉินเฟยตอบกลับอย่างโมโห

ฉีเซินยิ้มแบบดูแคลน “ผมกำลังตรวจสอบอยู่ ถ้าหากว่าเป็นคุณจริงๆล่ะก็ ความสัมพันธ์ระหว่าง

เราเป็นอันจบสิ้น”

“ไม่ได้!” ฉินเฟยรีบปฏิเสธทันที “ ฉีเซิน ครอบครัวเราทั้งสองฝ่ายร่วมงานกันมานานนะ คุณจะ

ทิ้งกันอย่างงี้หรอ!”

“เรื่องที่ฉันอยากทำ ไม่มีใครที่จะมาขัดขวางได้ ฉีเฟยเธอก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่ง อย่าเพ้อฝันว่า

ตัวเองเป็นคนสำคัญ” ฉีเซินพูดอย่างเยือกเย็น หมุนตัวนั่งลงบนโซฟา

สีหน้าที่ลึกลับไม่มีใครสามารถคาดการณ์ออกได้

ฉีเฟยกัดริมฝีปากแน่น สั่นไปทั้งตัว สักพักหนึ่ง เธอเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ ฉีเซิน “ไม่ว่ายังไง ฉัน

ก็จะแต่งงานกับคุณ”

“ตลอดเวลาเธอชอบฉืออี้เหิงไม่ใช่หรอ? ทำไม ตัดใจจากเขาแล้ว? “ ฉีเซินเขย่าไหล่เธอ

ฉินเฟยหัวเราะ “เขาไม่คู่ควรกับฉัน ฉีเซิน มีแต่เราสองคนที่สวรรค์สร้างให้เรามาคู่กัน”

พูดจบ เธอก็พิงเข้ามาใกล้ๆ อยากที่จะจูบผู้ชายที่หล่อเหลาคนนี้ แต่เขากลับผลักเธอให้ออกห่าง

พูดด้วยน้ำเสียงเงียบขรึม “ผู้หญิงที่มีอำนาจอย่างเธอ ฉันก็แค่ยังไม่เบื่อในเวลานี้”

………..

แสงอาทิตย์ตกเย็น ส่องลงมาโอบล้อมเวินจิ้ง

มู่วี่สิง กอดผู้หญิงไว้ในอ้อมแขน นัยน์ตาดำคล้ำจูบที่ระหว่างคิ้วของเธอ พอขยับ เวินจิ้งส่งเสียง

ยิ่งกอดมู่วี่สิงแน่น ผู้ชายค่อยๆ ดึงมือกลับมา และเดินออกจากห้องไป พอดีกับที่เกาเชียนมาถึง

“ตรวจเจออะไรไหม?” มู่วี่สิงนั่งลงบนโซฟา ได้กลิ่นอายที่น่ากลัวจากทั่วทั้งร่างกาย

เกาเชียนก้มหน้าลง พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ผู้ชายชื่อ เฉินเวย เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายก่อน

ตายเขาได้ส่งลูกเมียไปต่างประเทศ ช่วงเวลาครึ่งปีที่อยู่ในโรงพยาบาล เขาไม่ได้คลุกคลีกับใคร

เลย แต่ว่าผมได้สืบประวัติการโทรของเขามาแล้ว ช่วงหลายวันนี้เขาเคยมีการติดต่อ แต่เป็นเบอร์

ต่างประเทศ รายละเอียดของข้อความเวลานี้ยังอยู่ในช่วงตรวจสอบ”

“ผมต้องการแค่บทสรุป” มู่วี่สิงตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณมีเวลาอีกหนึ่งวัน”

เกาเชียนพยักหน้าแล้วเดินออกไป มู่วี่สิงพิงโซฟา ความเย็นค่อยๆ แพร่กระจายไปรอบตัว

เวินจิ้นนอนหลับจนถึงค่ำ หลังจากตื่นขึ้นมามู่วี่สิงรีบส่งอาหารมื้อค่ำที่จัดเตรียมไว้ให้

เวินจิ้งอาบน้ำเสร็จรู้สึกสบายตัวมาก แต่เรื่องเมื่อคืนก็ยังค้างคาใจอยู่

“คนๆนั้น ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ” เวินจิ้งถามถึง

“เธอจำได้ว่าก่อนขึ้นรถเห็นเกาเชียนกำราบเขาได้แล้ว งั้นหลังจากนั้น จะจัดการเขายังไงหรอ?”

“อยู่ที่โรงพัก” มู่วี่สิงชะงัก ไม่ได้บอกเวินจิ้งว่าคนนั้นตายไปแล้ว

“ตรวจสอบได้มั้ยคะ ว่าใครเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง” เวินจิ้งมือสั่น นึกถึงตอนแรกที่ถามผู้ชาย

คนนั้น เขาไม่ได้ปฏิเสธว่าเป็น ฉืออี้เหิงเป็นคนบงการ

“เขาไม่ได้พูดอะไร” มู่วี่สิงตอบอย่างหนักแน่น

“ตอนนั้นฉันคิดว่าเป็นฉืออี้เหิง เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“เธอคิดว่าเป็นเขาหรอ?” มู่วี่สิงเลิกคิ้วถาม

“เขาเคยพูดว่าเขาเกลียดฉัน” เวินจิ้งก้มหน้า ด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

เธอเข้าใจว่าทำไมฉืออี้เหิงถึงเกลียดเธอ แต่ที่เขาเชื่อ มันไม่ได้เป็นความจริงสักนิด

“ฉันจะคอยสังเกตเขา” มู่วี่สิงชักสีหน้า แต่เมื่อมองไปที่เวินจิ้งสายตาก็ค่อยๆ อ่อนโยนลง

“เรื่องนี้ คุณไม่ต้องคิดแล้ว ให้ผมจัดการเอง”

เวินจิ้งยิ้มเบาๆ “ฉันสร้างความลำบากให้คุณอีกแล้วสินะ”

“เพราะผมไม่ได้ปกป้องคุณให้ดีต่างหาก”

เวินจิ้งทำปากจู๋ ความเอาใจใส่ของผู้ชายคนนี้ทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจจัง

“มือถือของฉันรู้สึกว่าจะทำหล่นไว้ที่ตระกูลฉี” เวินจิ้งนึกขึ้นมาได้ พอพูดจบ เสียงเคาะ

ประตูก็ดังขึ้น เป็นฉีเซิน

เวินจิ้งมองมู่วี่สิง แล้วเดินไปเปิดประตู

เห็นเธอยืนขวางประตู ฉีเซินแสดงสีหน้าไม่พอใจ “ทำไมไม่ให้ผมเข้าไปนั่งล่ะ?”

“คุณเห็นมือถือฉันมั้ย?” เวินจิ้งไม่สนใจเขา แต่กลับถามเลย

ฉีเซินเชิดปากขึ้น “ถ้าผมบอกไม่มี คุณก็คงปิดประตูเลยสินะ”

พูดจบ เวินจิ้งก็ปิดประตูทันที

เธอไม่อยากสนใจเขา

แต่ว่ามือของฉีเซินกลับไวกว่าดันประตูไว้ได้ทัน “ไม่มีมือถือแล้ว ผมให้เครื่องใหม่คุณละกัน”

เวินจิ้งขมวดคิ้วอย่างงุนงง

“มือถือของคุณตกน้ำไปแล้ว ซ่อมไม่ได้แล้ว นี่คือเครื่องใหม่ที่ผมชดใช้ให้คุณนะ ซิมการ์ดทำ

ใหม่ให้แล้วด้วย” ฉีเซินยื่นกล่องมาให้หนึ่งกล่อง

เวินจิ้งไม่รับ มู่วี่สิงเดินมาอย่างสง่าจากด้านหลัง

“รบกวนประธานฉีแล้ว โทรศัพท์ของคุณหญิงมู่เดี๋ยวผมซื้อใหม่ให้เธอเอง” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียง

เย็นชา

ฉีเซินยิ้ม “ผมเป็นคนทำให้มือถือเวินจิ้งพัง ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องขอโทษและชดใช้ให้ ถ้าหากคุณ

ไม่รับมือถือเครื่องนี้ไว้ งั้นผมขอเลี้ยงข้าวคุณนะ?”

สายตาของเวินจิ้งมองด้วยความหงุดหงิด “ขอบคุณนะ แต่ฉันไม่ต้องการ” พอพูดจบ “ปัง” ปิด

ประตูใส่

มู่วี่สิงดันเธอไปที่บานประตู ค่อยๆแสดงสายตาที่อันตรายออกมา

“คุณหญิงมู่ไม่ได้บอกผมเลย ไปตระกูลฉีทำไม?” มู่วี่สิงหรี่ตามอง

“คุณนายฉีเป็นคนเชิญฉันเอง” เวินจิ้งก้มลง

เธอไม่ได้บอก ก็เพราะไม่อยากให้มู่วี่สิงเข้าใจผิด

“คุณทำมือถือหล่นได้ไง?”มู่วีสิงถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

เวินจิ้งหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าทำมือถือหล่นตั้งแต่เมื่อไรกัน

มือถือของเธออยู่ในกระเป๋าตลอด แทบจะไม่ได้หยิบออกมาเลย แต่พอเดินเข้าประตูไป ก็มีคนใช้มาเอากระเป๋าไปเก็บแล้ว เธอแทบจะไม่ได้แตะมือถือเลย

ดังนั้น มือถือของเธอจะตกน้ำได้ยังไง?

เมื่อกี้กลับลืมนึกถึงจุดนี้ พอมู่วี่สิงพูดขึ้น เธอถึงได้สติ

“หรือว่าจะเป็นฉีเซิน?”

“ยังมีใครที่ไปตระกูลฉีอีกบ้าง?” มู่วี่สิงถาม

“ฉีเซินมารับฉันจากที่สนามบิน หลังจากนั้นฉันก็นั่งคุยกับหลินเวยตลอด จากนั้น….ฉินเฟยก็มา”

“วันหลังก็ระวังเธอให้มากนะ” มู่วี่สิงแสดงสีหน้าที่อึมครึมมาก

เวินจิ้งพยักหน้าอย่างว่าง่าย เธอไม่เคยมีความรู้สึกดีต่อฉินเฟยเลย

“ดังนั้น ครั้งนี้คุณมาที่นี่เพื่อฉันโดยเฉพาะหรอคะ?” เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น ในดวงตามีแสง

ระยิบระยับ

มู่วี่สิงพยักหน้า แล้วโอบไหล่เธอไว้ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่งั้น ใครจะสามารถทำให้ผม

ทิ้งงานได้ล่ะ” เวินจิ้งแก้มแดง “แต่ว่า ที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปยังมีงานอีกเยอะเลยสิ”

ปกติมู่วี่สิงก็ต้องทำงานล่วงเวลาตลอดเลย เขาอยู่ที่นี่น่าจะจัดการธุระไม่ค่อยสะดวก?

“บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปที่ เมืองB ก็มีสาขาย่อยอยู่ ไม่เสียงานหรอก”

“คุณพูดอะไรก็ตามนั้นแล้วกัน” เวินจิ้งยิ้ม พร้อมเขย่งเท้าขึ้น เป็นฝ่ายจูบปากมู่วี่สิงก่อน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท