Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 192

ตอนที่ 192

บทที่ 192 ยากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญได้

คุณนายฉี?

“เขาคิดถึงคุณมากนะ ถ้าคุณไม่ไป แม่ของผมอาจโทรไปหาคุณน้าเจี่ยนอี”

เวินจิ้งหยุดเดินทันที “คุณข่มขู่ฉันหรอ?”

“ไม่กล้าๆ แต่ผมรู้ถึงความจริงใจของแม่ พอรู้ว่าคุณมา เขาถึงกับกำชับมาว่าให้ต้อนรับคุณอย่าง

ดี”

“ฉันแค่มาทำงาน ไม่มีเวลาส่วนตัวหรอก” เวินจิ้งก้มหน้าลง

“วันนี้ดูคุณยังไม่ได้จัดตารางงานสินะ” ฉีเซินเม้มริมฝีปากบางด้วยความเย็นชา

“ฉันต้องการพักผ่อน อยู่เป็นเพื่อนไม่ได้” เห็นแท็กซี่ผ่านมาแล้ว เวินจิ้งก็เดินเข้าไป

ฉีเซินเหล่ตามอง ด้วยสีหน้าใจเย็น

เป็นอย่างที่คิดไว้ เวินจิ้งขึ้นรถได้ไม่นานเดี๋ยวก็ลงมา

คนขับรถปฏิเสธรับ มองไปที่ผู้ชายที่อยู่ไม่ไกล เวินจิ้งเดินอย่างรวดเร็ว

“ฉีเซิน คุณพอได้แล้ว!” เวินจิ้งเดินไปข้างหน้าเขาด้วยความโกรธ

ฉีเซินยังคงเชิญเธอขึ้นรถอย่างสุภาพบุรุษ พร้อมใบหน้าที่ยิ้มอย่างมีมารยาท

“คุณต้องเชื่อว่า ใน B 市ไม่มีเรื่องอะไรที่ผมทำไม่ได้” ฉีเซินพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโส

เวินจิ้งกัดปาก เข้าไปนั่งในรถด้วยความโกรธ

“แค่กินข้าวเป็นเพื่อนคุณนายฉีใช่เปล่า? ” เวินจิ้งปลอบใจตัวเอง ถือว่าเห็นแก่มิตรภาพของคุณ

แม่และคุณนายฉีแล้วกัน คิดว่าเห็นแก่คุณแม่ เธอถึงไป

“แน่นอน ถ้าคุณอยากจะค้างคืน แม่ผมก็ไม่คัดค้านนะ” ฉีเซินผุดรอยยิ้มขึ้นมา

เวินจิ้งจ้องเขาอย่างโมโห “ฝันไปเถอะ!”

สำหรับฉีเซินแล้ว เธอเกลียดเขามาก

“ฉินเฟยทำไมไม่อยู่ข้างๆคุณล่ะ?” เวินจิ้งถามด้วยเสียงเย็นชา

“ผมกับเขายังไม่ได้แต่งงานกัน ปกติก็ไม่ค่อยอยู่ด้วยกัน” ฉีเซินพูดเสียงเบา

“เขารู้ไหมว่าคุณนายฉีเชิญฉันมา?” เวินจิ้งถามต่อ

“ถึงรู้แล้วยังไง?” ฉีเซินพลางขมวดคิ้ว

“อย่างไรก็ตามเขาก็คือคู่หมั้นคุณ คุณเชิญฉันเข้าบ้าน ถึงเวลานั้นเขาก็คงเข้าใจฉันผิด” เวินจิ้งพูด

แบบราบเรียบ

“ถ้าหากเขากล้าหาเรื่องคุณ ตระกูลฉีเราก็ไม่ต้องการสะใภ้ใจแคบแบบนี้หรอก” ฉีเซินพูดด้วยเสียงเย็นชา ไม่สนใจแม้แต่นิด

เวินจิ้งขมวดคิ้ว รู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์ของฉีเซินกับฉินเฟยไม่ค่อยดีนัก ถ้าการแต่งงานพัวพัน

ถึงธุรกิจ เป้าหมายก็แค่ผลประโยชน์

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป มีรถเก๋งขับเข้ามาบ้านพักตากอากาศที่หรูหรา ซ่อนอยู่ในท่ามกลางพืชที่เขียว

ชอุ่ม ราวกับว่าเข้าไปอยู่ในป่า

มีฉีเซินอยู่ข้างกาย เวินจิ้งไม่มีทางได้สงบ

ความคิดคนๆนี้ลึกลับเกินไป ทุกเรื่องที่เขาทำ ทำให้คนต่างก็รู้สึกได้ว่าเหมือนมีแผนการอยู่

ตลอดเวลา

“คุณนายฉี ปกติพักอยู่ที่ เมืองBหรอ?” ลงจากรถ เวินจิ้งมองไปข้างหน้าสถาปัตยกรรมที่

อลังการ ที่นี่เองถึงจะเป็นบ้านเก่าของตระกูลฉี

“อืม แม่ของฉันถ้ามีธุระถึงจะไปเมืองหนานเฉิง ปกติเขาจะอาศัยอยู่ที่นี่”

ไม่นานพ่อบ้านก็ออกมาต้อนรับ เวินจิ้งถูกพาเข้าไปที่ห้องรับแขก แต่ฉีเซินไม่ได้เข้าไปด้วย

หลินเวยลงมารอตั้งนานแล้ว พอเห็นเวินจิ้งก็ยิ้มแย้มแจ่มใส “ครั้งที่แล้วงานหมั้นของฉีเซินไม่ได้

ต้อนรับเธออย่างดี ฉันรู้สึกไม่สบายใจมาตลอด เสี่ยวจิ้งเอ๋ย ไม่ง่ายเลยนะที่เธอจะยอมมา”

เวินจิ้งฝืนยิ้ม ถ้าไม่ใช่ฉีเซินใช้วิธีที่แข็งกร้าว ฉันก็คงไม่มาเด็ดขาด

แต่พอได้เห็นหลินเวย ทันใดนั้นความรู้สึกที่แย่ๆก็หายไปไม่น้อย ความสนิทสนมเป็นมิตรของ

เขาทำให้ไม่รู้สึกเบื่อเลย

“คุณฉี รอฉันอยู่ที่สนามบิน ความรักที่หนักแน่นนั้นยากที่จะปฏิเสธ” เวินจิ้งบ่นพึมพำ

บนใบหน้าของหลินเวยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ฉันยังกลัวว่าเด็กคนนั้นจะทำให้เธอตกใจ

เสี่ยวจิ้งเอ๋ย อยู่ที่นี่ก็คิดเสียว่าเป็นบ้านของตัวเองนะ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลามื้อค่ำ เดี๋ยวฉันพาเธอเดิน

ชมที่นี่ก่อน”

เวินจิ้งมองดูรอบๆ บ้านพักตากอากาศหลังนี้ใช้พื้นที่กว้างมากจริงๆ นอกจากตึกนี้แล้ว ข้างหลัง

สวนดอกไม้ยังแบ่งออกเป็นหลายจุด เกรงว่าฉีเซินก็อยู่หนึ่งในตึกพวกนั้นด้วย

“คุณนายฉี คุณพักผ่อนเถอะค่ะ ฉันอยู่ที่นี่คุยเป็นเพื่อนคุณได้นะคะ” เป็นเพราะเธอไม่อยาก

ออกไปเจอหน้าฉีเซิน เทียบกับการคบหากับเขาแล้ว คุณนายฉีทำให้เธอสบายใจกว่าเยอะ

หลินเวยชะงัก ก่อนจะเอามือตีหน้าผากตัวเองอย่างหัวเสีย “ดูความจำฉันสิ เด็กคนนี้พึ่งลงจาก

เครื่องคงเหนื่อยแย่แล้ว งั้นพวกเราก็นั่งพักตรงนี้ก่อนแล้วกันนะ”

พูดจบ เขาก็สั่งให้คนใช้ชงชากุหลาบแดง

รสชาตินี้ ทำให้เวินจิ้งขมวดคิ้ว ราวกับว่าคุ้นเคยชานี้มานาน

“รสชาติชานี้มีเอกลักษณ์มากค่ะ” เวินจิ้งชิมรสชาติ

รสชาติไม่เหมือนชาดอกไม้ทั่วไปที่เคยดื่ม

“ใช่จ่ะ ดอกกุหลาบนี้ฉันไปเก็บเองถึงที่เขาซีซานเลยนะ อุณหภูมิที่นั่นไม่เหมือนที่นี่ ดอก

กุหลาบที่ปลูกออกมาจะยิ่งหอมหวานมาก”

“ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง”

เขาซีซาน สมัยเด็กๆ เวินจิ้งก็เคยไปที่นั่น มิน่าถึงรู้สึกว่าคุ้นเคยกับรสชาตินี้

สมัยตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ ก็เคยชอบชงชานี้ รสชาติ…..ไม่ต่างกัน

จนถึงเวลามื้อค่ำฉีเซินพึ่งจะมา หลินเวยถึงกับด่าเสียงดังว่า “ลูกคนนี้อยู่แต่ในห้องทำอะไร

เวินจิ้งไม่ได้มาง่ายๆนะ ยังไม่มานั่งคุยเป็นเพื่อนกับพวกเราอีก”

“เกรงว่านางสาวเวินไม่อยากเจอหน้าผม” ฉีเซินหรี่ตามองเหมือนมีอะไรแอบแฝง

“เธอทำให้เวินจิ้งตกใจรึเปล่า?” หลินเวยชักสีหน้า

“นางสาวเวินว่าไงล่ะ?” ฉีเซินมองไปที่เวินจิ้ง

เวินจิ้งถากถางกลับ “แน่นอน วันนี้คุณฉี มารอฉันอยู่ที่สนามบิน ท่าทางที่วางมาดนั้นทำ

เอาฉันตกใจจริงๆ”

ฉีเซินหัวเราะเบาๆ “อย่างไรก็ตามเธอเป็นแขกพิเศษของแม่ฉัน”

หลินเวยฟังที่สองคนนี้เถียงกันตาต่อตาฟันต่อฟันไม่มีใครยอมใคร ขมวดคิ้วแล้วเปลี่ยน

บรรยากาศให้ผ่อนคลายลง “มากินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวให้ฉีเซินไปส่งเวินจิ้งกลับโรงแรม”

“เป็นเกียรติของผมครับ” ฉีเซินเลิกคิ้วใส่เวินจิ้ง

เวินจิ้งแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

บนโต๊ะอาหาร กับข้าวทุกอย่างที่หลินเวยเตรียมไว้ล้วนเป็นอาหารที่เวินจิ้งชอบ เขาชอบกินอาหารภาคใต้ รสชาติไปทางหวานหน่อย สำหรับคืนนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารประเภทนี้เกือบหมด

ฉีเซินพูดแบบไม่พอใจทันที “แม่ ลำเอียงมากไปรึเปล่า?”

“ลำเอียงอะไร เธอไม่ชอบหรอ” หลินเวยมองดูลูกชาย

“ไม่กล้าครับ” ฉีเซินมองไปที่เวินจิ้ง แล้วก้มตาลง

เวินจิ้งขมวดคิ้ว แต่ก็สงสัยทำไมหลินเวยถึงเข้าใจรสชาติของเขาขนาดนี้ แค่เรื่องบังเอิญมั้ง?

“เวินจิ้ง ช่วงนี้กำลังเตรียมสอบปริญญาโทอยู่หรอ” ฉีเซินถามอย่างกระทันหัน

เวินจิ้งลืมตาขึ้น เขารู้ได้ไง?

“เผลอไปมองเห็นคู่มือเตรียมสอบของคุณ” ฉีเซินรู้ทันแววตาของเขา เลยอธิบาย

“อืม” เวินจิ้งพยักหน้า

“สอบปริญญาโทหรอ อยากสอบที่ไหนเอ่ย? เดี๋ยวฉันให้ฉีเซินหาคนแนะนำให้” หลินเวยพูด

เวินจิ้งยิ้ม “คุณนายฉี ไม่รบกวนคุณแล้ว ขอบคุณในความหวังดีนะคะ”

“ไม่ต้องเกรงใจ เรื่องนี้ฉีเซินจำไว้นะ” หลินเวยย้ำลูกชาย

ฉีเซินเม้มปากอันบอบบาง “ผมยินดีที่จะช่วยเวินจิ้งอยู่แล้วครับ”

เวินจิ้งจ้องไปที่ตาเขา เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือของผู้ชายคนนี้หรอก

ทันใดนั้น พ่อบ้านเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ “คุณชาย นางสาวฉิน มาครับ”

“เฟยเฟยมาแล้วหรอ? ช่วงนี้เธออยู่ B 市?” หลินเวยไม่หยุดที่จะถามฉีเซิน

ฉีเซินหรี่ตามอง พร้อมกับลูบคาง ความเย็นชานั้นแวบผ่านสายตา

“คุณน้าฉี” ฉินเฟยเดินเข้ามา พอเห็นเวินจิ้งก็อยู่ด้วย เลยชะงักขึ้นมา แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วย

ความไม่พอใจ

ผู้หญิงคนนี้ทำไมก็อยู่ด้วย?

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท